Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

ทะเลหมอกยะฟู จุดหมายใหม่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่เชียงราย

“ดาวบนดิน ทะเลหมอกยะฟู ดอยบ่อ” การเปิดประตูสู่แหล่งท่องเที่ยวใหม่แห่งเชียงราย

เมื่อวันพุธที่ 20 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.30 น. ณ สถานที่ท่องเที่ยวทะเลหมอกยะฟู (จุดชมวิวดอยบ่อ) บ้านห้วยน้ำตก หมู่ที่ 19 ตำบลแม่ยาว อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ได้มีพิธีเปิดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทะเลหมอกยะฟู ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 อย่างเป็นทางการ โดยมีนางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในตำบลแม่ยาว เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง

การส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวทะเลหมอกยะฟู

ทะเลหมอกยะฟู ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านห้วยน้ำตก หมู่ที่ 19 ตำบลแม่ยาว เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความโดดเด่นด้านธรรมชาติ ด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของทะเลหมอกในยามเช้า ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย และความเงียบสงบของป่าเขา การพัฒนาทะเลหมอกยะฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ชนเผ่าในพื้นที่ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาให้เกิดการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน

เป้าหมายและความสำคัญของโครงการ

โครงการนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้ทะเลหมอกยะฟูเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น ดอยบ่อ น้ำตกแม่สาด และชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์ในตำบลแม่ยาว เพื่อสร้างประสบการณ์ท่องเที่ยวที่หลากหลายและมีความเป็นเอกลักษณ์

ส่งเสริมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจชุมชน นอกจากการส่งเสริมการท่องเที่ยว ทะเลหมอกยะฟูยังมุ่งเน้นการอนุรักษ์และสืบสานประเพณีวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ เช่น การจัดแสดงการละเล่นพื้นบ้าน การจัดจำหน่ายสินค้าหัตถกรรมพื้นเมือง และอาหารท้องถิ่น เพื่อสร้างงาน สร้างรายได้ และเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประชาชนในตำบลแม่ยาวอย่างยั่งยืน

การมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน

การจัดงานในครั้งนี้เกิดขึ้นได้จากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายบริหาร ฝ่ายสภา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ทุกฝ่ายมีเป้าหมายร่วมกันที่จะพัฒนาทะเลหมอกยะฟูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวเชียงราย

แหล่งท่องเที่ยวในอนาคต

ทะเลหมอกยะฟูไม่เพียงแต่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการชมวิวทะเลหมอกในยามเช้า แต่ยังมีแผนการพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ยั่งยืน พร้อมกิจกรรมต่างๆ ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตของชุมชนและความงดงามของธรรมชาติ

สรุป

โครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวทะเลหมอกยะฟู เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของจังหวัดเชียงรายในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ ด้วยเป้าหมายที่จะสร้างรายได้ให้กับชุมชน อนุรักษ์วัฒนธรรม และเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลายในตำบลแม่ยาวและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้ทะเลหมอกยะฟูกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สำคัญของนักท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

สืบชะตาเมืองเชียงราย เสริมสิริมงคล ฟื้นใจชุมชนยั่งยืน

งานบุญใหญ่ “สืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้า ฟื้นใจเมือง” เชิญชวนพุทธศาสนิกชนร่วมสร้างบุญเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่เมือง

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2567 เวลา 11.30 น. นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยนายนิรันดร์ ภิระบรรณ์ นายกพุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย นางวันดี ราชชมภู และนายประเวช ราชชมภู กรรมการพุทธสมาคม ผศ.ดร.ปรีดา จันทร์แจ่มศรี เลขาธิการพุทธสมาคม และนางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้เข้าพบนายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อรายงานความคืบหน้าและหารือแนวทางการจัดงาน “สืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้า ฟื้นใจเมือง” ซึ่งจะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 3 ธันวาคม 2567

รายละเอียดกิจกรรมงานบุญ

งานบุญ “สืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้า ฟื้นใจเมือง” มุ่งเน้นการส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามของเมืองเชียงราย พร้อมทั้งสร้างความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเมือง โดยกิจกรรมเริ่มต้นตั้งแต่เวลา 06.30 น. เป็นต้นไป ณ พื้นที่จัดงานสำคัญของจังหวัดเชียงราย โดยมีรายละเอียดดังนี้:

  1. พิธีบวงสรวงพ่อขุนมังรายและอดีตเจ้าเมืองเชียงราย
    พิธีเริ่มต้นด้วยการบวงสรวงสักการะพ่อขุนมังรายและอดีตเจ้าเมืองเชียงราย ณ วัดดอยงำเมือง เพื่อระลึกถึงบุญคุณของผู้สร้างบ้านสร้างเมืองเชียงราย

  2. การทำบุญตักบาตรพระสงฆ์
    พุทธศาสนิกชนสามารถร่วมตักบาตรพระสงฆ์จากบริเวณวัดพระสิงห์ โดยมีเส้นทางตักบาตรผ่านถนนเส้นทางหลังวัดพระสิงห์ และวนกลับมายังลานพิธีบริเวณศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังแรก

  3. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และพิธีสืบชะตาเมือง
    พิธีเจริญพระพุทธมนต์จะจัดขึ้น ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพิธีสืบชะตาเมือง เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่เมืองเชียงรายและประชาชน โดยจะมีการถวายภัตตาหารปิ่นโตแด่พระสงฆ์

การร่วมบุญ

สำหรับผู้ที่มีจิตศรัทธาต้องการร่วมทำบุญ สามารถร่วมเป็นเจ้าภาพได้โดยโอนเงินเข้าบัญชี “สำนักงานเจ้าคณะจังหวัดเชียงราย” ธนาคารกรุงไทย สาขาเชียงราย เลขที่บัญชี 504-3-14749-0

ความสำคัญของงานบุญสืบชะตาเมือง

งานสืบชะตาเมืองเชียงรายเป็นประเพณีที่มีมาอย่างยาวนาน สะท้อนถึงความรักในวัฒนธรรมและศรัทธาในพระพุทธศาสนาของชาวเชียงราย อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูความสามัคคีในชุมชน และแสดงออกถึงความภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมของท้องถิ่น

นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวชื่นชมการจัดงานครั้งนี้ว่า เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมทั้งด้านจิตใจและวัฒนธรรมอันดีงาม พร้อมทั้งเรียกร้องให้ชาวเชียงรายและนักท่องเที่ยวร่วมงานเพื่อสร้างบุญกุศลและร่วมกันฟื้นฟูความเข้มแข็งของชุมชน

เชิญร่วมงานบุญใหญ่

ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตั้งแต่เช้าตรู่ พร้อมทั้งมีโอกาสร่วมพิธีสำคัญเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับตนเอง ครอบครัว และสังคมเชียงราย งานบุญนี้ไม่เพียงเป็นโอกาสดีในการทำบุญ แต่ยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ในชุมชนและฟื้นฟูจิตใจของผู้คนในพื้นที่

ร่วมสร้างบุญใหญ่ในงาน “สืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้า ฟื้นใจเมือง” ในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ วัดดอยงำเมือง และลานพิธีศาลากลางจังหวัดเชียงรายแห่งแรก แล้วพบกันในวันสำคัญนี้!

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนังานวัฒนธรรมเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เปิดอาคารเรียนฟัรดูอีน มัสยิดดอยวาวี เชียงราย เสริมศาสนาและชุมชน

การเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ สร้างความสามัคคีและส่งเสริมการศึกษาในชุมชน

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.30 น. อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีน ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยมีการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชุมชนและบุคคลสำคัญมากมายที่มาร่วมงานในครั้งนี้

ภายในงานยังมีการร่วมพิธีเปิดโดย Mr. ALI k.m.c. chang (อาลี เค.เอ็ม.ซี. ชาง) ประธานคณะกรรมการอิสลามแห่งไต้หวัน พร้อมด้วยอาจารย์ประสาน ศรีเจริญ นายกสมาคมคุรุสัมพันธ์อิสลามแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พลตำรวจตรีสุรินทร์ ปาลาเร่ เลขาธิการกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย รวมถึงผู้แทนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายสมจิต มุณีกร รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดเชียงราย

เป้าหมายของการเปิดอาคารใหม่และการส่งเสริมการศึกษา

อาจารย์อรุณ บุญชม จุฬาราชมนตรี ได้กล่าวในพิธีเปิดว่า การสร้างอาคารละหมาดและอาคารเรียนฟัรดูอีนนี้ มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างความรู้และความเข้าใจในหลักศาสนาอิสลามแก่เยาวชนมุสลิมในพื้นที่ นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดความสามัคคีและการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในชุมชนหลากหลายวัฒนธรรม โดยเฉพาะบนดอยวาวีซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทั้งชาติพันธุ์และศาสนา

จุฬาราชมนตรียังกล่าวชื่นชมการอยู่ร่วมกันของพี่น้องมุสลิมและคนไทยในพื้นที่เชียงราย ซึ่งได้แสดงให้เห็นถึงความเคารพซึ่งกันและกันอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งนี้ถือเป็นแบบอย่างที่ดีในการสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ

การสนับสนุนจากภาครัฐและต่างประเทศ

ในพิธีเปิดครั้งนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวว่า การพัฒนาอาคารใหม่เพื่อการศึกษาและการละหมาดนี้ ได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ องค์กรศาสนา รวมถึงความร่วมมือจากหน่วยงานต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน ที่ได้ให้การสนับสนุนการพัฒนาศาสนาและวัฒนธรรมในประเทศไทย

Mr. ALI k.m.c. chang ได้กล่าวถึงการให้ความสำคัญของประเทศไทยต่อพี่น้องมุสลิม โดยชื่นชมการบริหารจัดการของประเทศไทยที่เปิดโอกาสให้ทุกศาสนาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ซึ่งถือเป็นความโชคดีของชาวมุสลิมไทยที่มีสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนศาสนาและวัฒนธรรมของตนเอง

การเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

นอกจากพิธีเปิดอาคารใหม่แล้ว ยังมีการเสวนาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างคณะกรรมการอิสลามแห่งประเทศไทยและผู้เข้าร่วมงาน เกี่ยวกับแนวทางในการพัฒนาชุมชนมุสลิมในเชียงรายให้ยั่งยืน การพัฒนาด้านการศึกษาและการส่งเสริมกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม ทั้งนี้เพื่อให้ชุมชนมุสลิมในพื้นที่สามารถพัฒนาและเติบโตได้อย่างมั่นคง

สร้างอนาคตที่ดีผ่านการศึกษาและศาสนา

การเปิดอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ และอาคารละหมาดหญิงในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาทักษะให้แก่เยาวชนในพื้นที่ โดยเน้นให้เยาวชนมุสลิมมีโอกาสในการศึกษาและเรียนรู้ศาสนาอิสลาม รวมถึงการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวสรุปในงานว่า การเปิดอาคารใหม่ครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น พร้อมทั้งส่งเสริมการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขในสังคมพหุวัฒนธรรม

การเปิดอาคารละหมาดหญิงและอาคารเรียนฟัรดูอีนฯ ณ มัสยิดอัฏฏออะห์ในครั้งนี้ จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนมุสลิมในเชียงราย ทั้งด้านศาสนา การศึกษา และการพัฒนาที่ยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนังานวัฒนธรรมเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเตรียมจัดงานมาฆบูชารำลึก เสริมสร้างคุณธรรม ปี 2568

เชียงรายเตรียมจัดงาน “มาฆบูชารำลึก” ปี 2568 เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและคุณธรรม

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ณ อาคารวิทยาลัยสงฆ์เชียงราย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (ศาลากลางจังหวัดเชียงรายหลังเก่า ดอยจำปี) ได้มีการประชุมปรึกษาหารือการจัดงาน “มาฆบูชารำลึกจังหวัดเชียงราย ประจำปี 2568” โดยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงรายนำโดย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้ นายสุพจน์ ทนทาน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ เข้าร่วมประชุมพร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

การจัดงานมาฆบูชารำลึกเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและคุณธรรม

การจัดงานมาฆบูชารำลึกในปี 2568 นี้ เป็นการร่วมมือระหว่างสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย คณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย พุทธสมาคมจังหวัดเชียงราย และองค์กรเครือข่ายต่าง ๆ รวมถึงชมรมผู้สูงอายุจังหวัดเชียงราย และสภาวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

งานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 ณ พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชา โดยปีนี้ถือเป็นการครบรอบ 5 ปีของการก่อตั้งสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย

กิจกรรมและไฮไลต์ภายในงาน

ภายในงานจะมีกิจกรรมหลากหลายที่มุ่งเน้นการส่งเสริมพระพุทธศาสนา และเสริมสร้างคุณธรรมในชุมชนเชียงราย อาทิ

  1. พิธีมอบประกาศเกียรติคุณ ให้กับผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อพระพุทธศาสนา เพื่อยกย่องและสนับสนุนให้บุคคลและองค์กรต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการพัฒนาพระพุทธศาสนา
  2. พื้นที่แสดงออกของเด็กและเยาวชน เพื่อให้เยาวชนได้แสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสังคม เช่น การแสดงละครธรรมะ การวาดภาพ การทำสมาธิ และการสนทนาธรรม
  3. กิจกรรมเวียนเทียนรอบพระบรมสารีริกธาตุ และการสวดมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่ผู้เข้าร่วมงาน
  4. นิทรรศการทางพระพุทธศาสนา เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาเรียนรู้เรื่องราวของพระพุทธศาสนา และการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอน

ส่งเสริมเชียงรายเป็นสังคมแห่งคุณธรรม

การจัดงานในครั้งนี้ มุ่งเน้นการสร้างสังคมเชียงรายให้เป็นสังคมแห่งคุณธรรม ส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและดำเนินชีวิตด้วยความสงบสุข การจัดงานมาฆบูชารำลึกยังสอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัดเชียงรายในการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ผลการประชุมและแผนงานในอนาคต

ในการประชุมครั้งนี้ นายปรีชา พัวนุกุลนนท์ ประธานสมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมและเผยแผ่พระพุทธศาสนา พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคำสอน

คำถามที่พบบ่อย (FAQs)

  1. งานมาฆบูชารำลึกเชียงรายจัดขึ้นเมื่อใด?
    งานจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568

  2. สถานที่จัดงานอยู่ที่ไหน?
    ณ พุทธมณฑลสมโภช 750 ปีเมืองเชียงราย ตำบลบัวสลี อำเภอแม่ลาว จังหวัดเชียงราย

  3. ภายในงานมีกิจกรรมอะไรบ้าง?
    มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น พิธีมอบเกียรติคุณ กิจกรรมเวียนเทียน นิทรรศการพระพุทธศาสนา และกิจกรรมแสดงออกของเยาวชน

  4. วัตถุประสงค์ของการจัดงานคืออะไร?
    เพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและเสริมสร้างคุณธรรมในชุมชนเชียงราย

  5. ใครเป็นผู้จัดงาน?
    สมาพันธ์ส่งเสริมและพิทักษ์พระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ร่วมกับคณะสงฆ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายจัดโครงการตามรอยเส้นทางธรรม ส่งเสริมศาสนาและชุมชน

เชียงรายจัดประชุมชี้แจงโครงการ “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา” และ “เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ” เพื่อส่งเสริมศาสนาและชุมชน

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 เวลา 15.00 น. ณ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นายชัยพล เอี่ยมสุข อธิบดีกรมศาสนา เป็นประธานในการประชุมผ่านระบบ Zoom Meeting เพื่อชี้แจงหลักเกณฑ์และแนวทางการดำเนินงานของโครงการ “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา และเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน” ประจำปีงบประมาณ 2568

กิจกรรม “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา” สร้างมิติใหม่ในการท่องเที่ยวเชิงศาสนา

กิจกรรม “ตามรอยเส้นทางธรรมแห่งศรัทธา” จัดขึ้นภายใต้โครงการ จาริกเส้นทางบุญในมิติทางศาสนา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของวัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดเชียงราย ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและศูนย์การเรียนรู้ด้านศาสนา โดยมุ่งเน้นการใช้ Soft Power เพื่อยกระดับอัตลักษณ์ท้องถิ่นและกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชน การดำเนินโครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยสร้างคุณค่าในเชิงศาสนา แต่ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและการพัฒนาชุมชนได้อย่างยั่งยืน

กิจกรรม “เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ” เสริมสร้างศีลธรรมและชุมชนเข้มแข็ง

อีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญในโครงการนี้คือ “เข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเข้าวัดทำบุญตักบาตร รักษาศีล และเจริญภาวนา โดยขยายโอกาสให้พุทธศาสนิกชนได้ทำกิจกรรมทางศาสนานอกเหนือจากวันธรรมสวนะ ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ด้านศาสนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชน

โครงการนี้ยังมุ่งเน้นให้วัดเป็นศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อให้เกิดการพัฒนาทางสังคมและเศรษฐกิจ โดยเชื่อมโยงกับวิถีชีวิตชุมชน นอกจากนี้ยังช่วยส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมและประเพณีที่มีมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งเป็นการรักษามรดกทางวัฒนธรรมให้คงอยู่ต่อไป

การบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่างๆ

ในการประชุมครั้งนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยทีมงานจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้แก่ นางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม นางสาวณพิชญา นันตาดี นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางกัลยา แก้วประสงค์ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นางสุพรรณี เตชะตน นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ นายจิรัฏฐ์ ยุทธ์ธนประวิช นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ และ นางสาวอัมพิกา จิณะเสน นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ เข้าร่วมประชุมและร่วมบูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่

การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและศิลปวัฒนธรรม

โครงการนี้ยังมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา โดยการบูรณาการกับแหล่งเรียนรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของชุมชน เพื่อให้เกิด การสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงเศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นการเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งและความยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจชุมชน

แผนการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2568

กิจกรรมที่วางแผนจะจัดขึ้นในปีงบประมาณ 2568 จะครอบคลุมทั้งการเข้าวัดทำบุญ การฝึกอบรมศีลธรรม และการเจริญภาวนาในวันธรรมสวนะ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าวัดปฏิบัติธรรมบ่อยครั้งขึ้น ส่งเสริมคุณค่าทางศาสนาและจริยธรรม รวมทั้งขยายผลโครงการไปสู่ภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ

สรุปผลการประชุมและแนวทางการพัฒนา

นายชัยพล เอี่ยมสุข อธิบดีกรมศาสนา ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมเพื่อสร้างคุณค่าทางสังคม โดยการดำเนินงานครั้งนี้เป็นการสนับสนุนให้ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจผ่านกิจกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ซึ่งจะเป็นแนวทางที่ช่วยให้ประเทศไทยสามารถพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงศาสนาอย่างเต็มรูปแบบ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายทอดกฐินสามัคคีบูรณะวัดพระธาตุดอยตุง สืบชะตาแบบล้านนา

วัดพระธาตุดอยตุงจัดพิธีทอดกฐินสามัคคีและสืบชะตาแบบล้านนา สร้างบุญบูรณะศาสนสถาน

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา วัดพระธาตุดอยตุง ตำบลห้วยไคร้ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ได้จัด พิธีทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2567 โดยมี นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน เป็นประธานในการทอดกฐินครั้งนี้ ร่วมด้วยพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศที่มาร่วมงานอย่างคับคั่ง พิธีในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการทำบุญตามประเพณีเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการ สมทบทุนเพื่อบูรณะศาสนสถาน ของวัดอีกด้วย

การจัดพิธีที่เต็มไปด้วยบรรยากาศศรัทธาและความสงบ

พิธีทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้ได้รับความเมตตาจาก พระพุทธิวงค์วิวัฒน์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 6 เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ร่วมประกอบพิธีสมโภชองค์กฐิน นอกจากนี้ยังมีการจัด พิธีสืบชะตาแบบล้านนา ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่มีความหมายทางศาสนาและวัฒนธรรมที่ชาวล้านนาสืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

ยอดปัจจัยถวายกฐินสูงถึง 1,999,999.99 บาท

ผลการทอดกฐินในปีนี้ได้รับยอดปัจจัยที่ประชาชนร่วมกันบริจาคจำนวน 1,999,999.99 บาท ซึ่งจะนำไปใช้ในการ บูรณะและปรับปรุงศาสนสถานของวัดพระธาตุดอยตุง ให้คงความงดงามและเป็นแหล่งศูนย์รวมจิตใจของพุทธศาสนิกชนต่อไป

ความสำคัญของการทอดกฐินและการสืบชะตาแบบล้านนา

การทอดกฐินสามัคคีถือเป็นประเพณีสำคัญที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน โดยการทอดกฐินนั้นสามารถทำได้เพียงปีละครั้งเท่านั้นหลังจากวันออกพรรษา พิธีนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำบุญเพื่อเสริมสร้างความสุขและความเจริญให้กับผู้ถวาย แต่ยังเป็นการสืบสานขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของชาวไทยล้านนา

ส่วน พิธีสืบชะตาแบบล้านนา เป็นพิธีที่ชาวล้านนาใช้ในการขจัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายและเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนต้องเผชิญกับความยากลำบากหรือภัยพิบัติ การสืบชะตาจะช่วยเสริมสร้างขวัญกำลังใจและความมั่นคงให้กับชาวบ้าน

การประสานงานและการจัดการที่ราบรื่น

ในพิธีครั้งนี้ นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มอบหมายให้ทีมงานจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด ประกอบด้วย นายพิพัฒน์ สุ่มมาตย์ และ นายวิชชากรณ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ รวมถึง นายณรงค์ ปงลังกา เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธีฯ เข้าร่วมบูรณาการปฏิบัติงาน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่คณะสงฆ์และประชาชนที่มาร่วมงาน

การจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้การดำเนินการทุกขั้นตอนเป็นไปด้วยความราบรื่น ทั้งการจัดเตรียมสถานที่ การอำนวยความสะดวกในการจราจร และการดูแลความปลอดภัยของประชาชน

บทบาทของวัดพระธาตุดอยตุงในชุมชน

วัดพระธาตุดอยตุง เป็นสถานที่สำคัญทางศาสนาและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย เป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุดอยตุงซึ่งเป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองของชาวเชียงราย การบูรณะศาสนสถานให้คงความงดงามและมั่นคงจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้วัดแห่งนี้ยังคงเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดเชียงราย

สรุปการจัดพิธีและความหมายที่ยิ่งใหญ่

การจัดพิธีทอดกฐินสามัคคีและสืบชะตาแบบล้านนาในครั้งนี้ไม่เพียงเป็นการทำบุญที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งเสริมการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมที่มีมาแต่โบราณ การได้รับยอดปัจจัยจำนวนมากสะท้อนถึงความร่วมมือร่วมใจของประชาชนที่มีต่อศาสนาและการพัฒนาชุมชน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

อบจ.เชียงราย จัดพิธีสืบชะตาเมือง ฟื้นฟูใจหลังภัยพิบัติ

เชียงรายเตรียมจัดพิธีสืบชะตาเมือง เบิกฟ้าฟื้นใจ สร้างขวัญกำลังใจให้ประชาชนหลังภัยพิบัติ

เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2567 องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ได้จัดการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัด โครงการพิธีสืบชะตาเมืองเชียงราย เบิกฟ้าฟื้นใจเมือง โดยมี นางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม เป็นผู้ดำเนินการประชุม ทั้งนี้ได้รับมอบหมายจาก นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เพื่อจัดเตรียมแผนงานให้พร้อมสำหรับการจัดงานที่กำหนดจะมีขึ้นในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 ณ วัดดอยงำเมือง วัดพระแก้ว และลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก)

ฟื้นฟูจิตใจและสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวเชียงราย

พิธีสืบชะตาเมืองเชียงรายครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อ สร้างขวัญกำลังใจ ให้กับประชาชนชาวเชียงรายที่ได้รับผลกระทบจาก อุทกภัยและดินโคลนถล่ม ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังมีวัตถุประสงค์เพื่อ อนุรักษ์และส่งเสริมภูมิปัญญาและประเพณีท้องถิ่น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนา โดยการจัดงานในครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างคณะสงฆ์จังหวัดเชียงราย หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่

พิธีบวงสรวงและขอขมาพระบรมอัฐิพญามังรายมหาราช

พิธีในช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 ธันวาคม จะเริ่มต้นด้วย การบวงสรวงสักการะและขอขมาพระบรมอัฐิพญามังรายมหาราช ณ วัดดอยงำเมือง ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงราย โดยพิธีบวงสรวงนี้จัดขึ้นเพื่อขอความเป็นสิริมงคลและปัดเป่าสิ่งอัปมงคลตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวล้านนา

พิธีทำบุญตักบาตรและเจริญพระพุทธมนต์

หลังจากพิธีบวงสรวงเสร็จสิ้น จะมี พิธีทำบุญตักบาตร โดยมีพระสงฆ์จำนวน 62 รูป รับบิณฑบาตเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวเชียงราย จากนั้นจะมีการเจริญพระพุทธมนต์และ พิธีทำบุญสืบชะตาเมืองเชียงราย ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ศาลากลางจังหวัดหลังแรก) เพื่อสร้างความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองให้กับบ้านเมือง

การสืบชะตาเมือง: พิธีกรรมเพื่อความเป็นสิริมงคล

พิธีสืบชะตาเมือง ถือเป็นพิธีกรรมสำคัญที่ชาวล้านนาใช้ในการขจัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายและเสริมสิริมงคลให้กับเมือง เป็นพิธีที่สะท้อนถึงความเชื่อในการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อขอพรให้เมืองเชียงรายปลอดภัยจากภัยพิบัติและวิกฤตต่างๆ การจัดพิธีในครั้งนี้นอกจากจะช่วยฟื้นฟูจิตใจของประชาชนแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงรายอีกด้วย

ความร่วมมือของหน่วยงานและชุมชน

นางปัทมา สมประสงค์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม กล่าวว่า การจัดพิธีสืบชะตาเมืองครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง หน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ทุกภาคส่วน ร่วมมือกันในการเตรียมความพร้อมเพื่อให้พิธีดำเนินไปอย่างราบรื่นและมีความหมาย

นายโสไกร ใจหมั้น ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงราย ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการอนุรักษ์วัฒนธรรมล้านนา และการฟื้นฟูประเพณีอันดีงามที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน

การเตรียมการเพื่อความสำเร็จของพิธี

การประชุมเตรียมความพร้อมในครั้งนี้ยังได้หารือเกี่ยวกับ การจัดการสถานที่และการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ที่จะเข้าร่วมงาน โดยมีการเตรียมแผนการจัดการด้านความปลอดภัย การจราจร และการบริการประชาชน เพื่อให้การจัดงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและราบรื่นที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
CULTURE TRAVEL

ทริปไหว้พระ 9 วัดดัง เชียงราย เสริมสิริมงคลครบในวันเดียว

แจกพิกัดไหว้พระ 9 วัดในเชียงราย สายมูห้ามพลาด! ทริปวันเดียวครบในตัวเมือง

เชียงรายในฤดูหนาวกำลังคึกคัก พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสายบุญและสายมูที่ต้องการเสริมสิริมงคลให้ชีวิต วันนี้เราขอแนะนำทริปไหว้พระ 9 วัดในตัวเมืองเชียงราย วันเดียวไหว้ครบ แถมไม่ต้องเดินทางไกล พิกัดแน่น ๆ แบบ One Day Trip! เริ่มจากจุดสำคัญที่พลาดไม่ได้

เริ่มต้นทริปที่ อนุสาวรีย์พญามังราย

อนุสาวรีย์พญามังราย ตั้งอยู่ที่ห้าแยกพ่อขุน ถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญแห่งเมืองเชียงราย สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติแก่พระปรีชาสามารถของพญามังราย กษัตริย์ล้านนาผู้ก่อตั้งเมืองเชียงราย พระบรมรูปหล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ประดับด้วยเครื่องทรงล้านนาโบราณ ประทับยืนบนฐานสูงประมาณ 3 เมตร พระหัตถ์ซ้ายถือดาบยืนอย่างสง่างาม

หลังจากนั้นเราขอแนะนำเส้นทางไหว้พระ 9 วัด ที่สามารถเดินทางเชื่อมต่อได้ง่าย ๆ ในตัวเมืองเชียงราย ไหว้ครบจบในวันเดียว รับรองทั้งอิ่มใจและอิ่มบุญตามแบบฉบับสายมู ใครมาถึงเชียงรายแล้วห้ามพลาดทริปนี้!

1.วัดศรีบุญเรือง เชียงราย

วัดศรีบุญเรือง เชียงราย

แนะนำวัดศรีบุญเรือง เชียงราย สถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา เริ่มต้นทริปไหว้พระเสริมบุญที่ “วัดศรีบุญเรือง” วัดเก่าแก่ใจกลางเมืองเชียงราย ตั้งอยู่ในตำบลเวียง อำเภอเมือง ซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ. 1982 แม้จะเคยกลายเป็นวัดร้างและเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา แต่ต่อมาได้รับการบูรณะขึ้นใหม่โดยคุ้มเจ้าหลวงและได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี พ.ศ. 2489 ภายในวัดมีทั้งพระอุโบสถ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ หอฉัน หอระฆัง และศาลาพักร้อน โดยทั้งหมดสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้านนาอันงดงามสะท้อนถึงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของล้านนา

ด้านหลังวัดยังมีพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่เปิดให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ประวัติความเป็นมา เรียกได้ว่าเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญที่ไม่ควรพลาดสำหรับคนที่ต้องการซึมซับความเป็นล้านนาแท้ ๆ อีกทั้งใกล้ ๆ วัดยังมีร้านอาหารพื้นเมืองรสชาติเยี่ยมให้ได้ลองชิม บอกได้คำเดียวว่ามาเยือนเชียงรายทั้งที ต้องไม่พลาดแวะมาเที่ยววัดศรีบุญเรือง!

  • Location: หมู่ที่ 3 ถนนสิงหไคล ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://maps.app.goo.gl/kA1zrHRt4sN145x5A
2.วัดเชตวัน(พระนอน) เชียงราย

วัดเชตวัน (พระนอน) เชียงราย วัดเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

อีกหนึ่งวัดที่น่าสนใจในเชียงราย คือ “วัดเชตวัน (พระนอน)” วัดราษฎร์ฝ่ายมหานิกาย ที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “วัดพระนอน” วัดนี้ถูกเชื่อกันว่าสร้างขึ้นในสมัยพ่อขุนเม็งรายมหาราช พร้อมกับการก่อตั้งเมืองเชียงราย โดยชื่อ “เชตวัน” นั้นอาจมีรากศัพท์มาจากคำว่า “ตะวัน” ซึ่งหมายถึงพระอาทิตย์ เพราะวัดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง

ความสำคัญของวัดเชตวันเพิ่มขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2423 เมื่อครูบาหงษ์หรือกาวิโลภิกขุ เดินทางธุดงค์มาจากเชียงใหม่และได้พบบริเวณที่มีเจดีย์ลูกนิมิตและต้นโพธิ์ใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่มีความรกและมีน้ำท่วม เขาจึงตัดสินใจบูรณะพื้นที่นี้ให้เป็นวัด โดยตั้งชื่อว่า “วัดเชตวัน (ป่าแดด)” สื่อถึงฤดูแล้งที่ท้องฟ้าปราศจากเมฆหมอก เห็นแสงแดดเจิดจ้า

ภายในวัดมีพระพุทธไสยาสน์ หรือ “พระนอน” ที่สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2491 นับเป็นจุดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านมักมาเคารพสักการะ นอกจากนี้ วัดเชตวันยังได้รับคัดเลือกให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ชุมชนแห่งแรกของเชียงราย และมีการตั้งชมรมตีกลองปู่จาเพื่ออนุรักษ์ประเพณีการตีกลองอีกด้วย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมกลองปู่จาและสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดได้อย่างใกล้ชิด

  • Location: บ้านหนองบัว ตำบลเวียง ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://maps.app.goo.gl/xDQsQDWCqjdxfe978
3.วัดกลางเวียงเชียงราย

วัดกลางเวียง เชียงราย จุดศูนย์กลางแห่งความศรัทธาในเวียงเชียงราย

หากคุณเป็นสายมูที่เดินทางมาถึงเชียงรายแล้ว วัดกลางเวียง ถือเป็นอีกจุดที่ไม่ควรพลาด วัดนี้เคยถูกเรียกว่า “วัดจันทน์โลก” หรือ “จั๋นต๊ะโลก” ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดกลางเวียง” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นศูนย์กลางของเมืองเชียงรายและมี “สะดือเวียง” หรือเสาหลักเมืองอันศักดิ์สิทธิ์ตั้งอยู่ภายในวัดด้วย

สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1975 วัดนี้ได้รับการเคารพบูชาเป็นที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวบ้านในยุคแรกๆ ชื่อเดิมมาจากต้นจันทน์แดงใหญ่ที่เคยขึ้นอยู่ในบริเวณวัด ก่อนจะโค่นลงตามกาลเวลา เมื่อครั้งสร้างเมืองเชียงรายครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2417 ชาวเมืองได้รังวัดจากทั้ง 4 มุมเมือง และพบว่าวัดนี้อยู่กลางใจเมืองพอดี จึงได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “วัดกลางเวียง”

จุดเด่นของวัดนี้คือเสาหลักเมืองเชียงรายที่ตั้งอยู่ภายในมณฑปทรงฟักทองยอดแหลม ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสครบรอบ 5 รอบพระชนมายุในปี พ.ศ. 2535 บริเวณรอบมณฑปมีรูปปั้นท้าวจตุโลกบาลทำหน้าที่ปกป้องสะดือเวียง สร้างความศักดิ์สิทธิ์และงดงามให้กับพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีเจดีย์และพระอุโบสถในศิลปะล้านนาประยุกต์ที่งดงามสะดุดตา ควรค่าแก่การเยี่ยมชม

4.วัดพระสิงห์ เชียงราย พระอารามหลวง

วัดพระสิงห์ เชียงราย พระอารามหลวง

วัดพระสิงห์ เชียงราย จุดศูนย์กลางแห่งความศรัทธาและศิลปะล้านนา

วัดพระสิงห์ เชียงราย หนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองล้านนาและจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ วัดพระสิงห์เป็นพระอารามหลวงที่มีประวัติยาวนานและความสำคัญทางศิลปะและวัฒนธรรมของจังหวัดเชียงราย

ประวัติความเป็นมา วัดพระสิงห์สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนาธรรมิกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่ โดยสันนิษฐานว่าก่อสร้างในราวปี พุทธศักราช 1928 ระหว่างปี พุทธศักราช 1888 ถึง 1943 คำว่า “พระสิงห์” หมายถึงวัดที่เคยเป็นที่ประดิษฐานพระสิงห์ หรือ พระพุทธสิหิงค์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปสำคัญที่ชาวไทยให้ความเคารพ

พระพุทธรูปสำคัญ ภายในพระอุโบสถของวัดพระสิงห์ มีพระพุทธสิหิงค์สององค์ ได้แก่ พระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์เชียงแสน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปชนิดสำริดปิดทอง ขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 204 เซนติเมตร สูงทั้งฐาน 284 เซนติเมตร ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงราย

สถาปัตยกรรมและการบูรณะ วัดพระสิงห์มีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทยสมัยเชียงแสน โครงสร้างเดิมเป็นไม้เนื้อแข็ง และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นในปี พุทธศักราช 2504 และปี พุทธศักราช 2533 บานประตูหลวงที่ประดับด้วยไม้แกะสลักจิตกรรมอย่างประณีต วิหารและพระเจดีย์ที่ตกแต่งด้วยทองแผ่นทองแดงเพิ่มความงดงามให้กับวัด

เรื่องเล่าและตำนาน ตามตำนาน เจ้ามหาพรหม พระอนุชาของพระเจ้ากือนา ได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาจากเมืองกำแพงเพชรเพื่อหล่อจำลองและประดิษฐานไว้ที่วัดพระสิงห์ เชื่อกันว่าพระพุทธสิหิงค์องค์จริงถูกยืมไปประดิษฐานที่เชียงรายเพื่อเป็นแบบหล่อขึ้นใหม่

กิจกรรมและประเพณี วัดพระสิงห์เป็นที่จัดงานประเพณีและกิจกรรมทางศาสนาต่าง ๆ ตลอดทั้งปี รวมถึงการแสดงศิลปวัฒนธรรมและการแข่งขันตีกลองปู่จา ซึ่งเป็นการสืบสานประเพณีโบราณของล้านนา

จุดน่าสนใจภายในวัด

  • พระพุทธสิหิงค์คู่เมือง: พระพุทธรูปปฏิมากรรมที่งดงามและมีขนาดใหญ่
  • บานประตูหลวง: ประดับด้วยไม้แกะสลักจิตกรรมอย่างละเอียดและวิจิตรบรรจง
  • พระเจดีย์เก่าแก่: สถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย มีพระพุทธรูปทองคำและเงินประดิษฐานอยู่ภายใน
  • รอยพระพุทธบาทจำลอง: สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพระเจ้าเม็งรายมหาราช

การเยี่ยมชมวัดพระสิงห์ วัดพระสิงห์เปิดให้เข้าชมทุกวัน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเสริมสิริมงคลหรือสนใจศึกษาประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนา นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมพระพุทธรูป ศาลาการเปรียญ และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ภายในวัดได้อย่างใกล้ชิด

แวะมาทำบุญและเสริมสิริมงคลที่วัดพระสิงห์ ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อทำบุญหรือเพื่อศึกษาความงดงามของสถาปัตยกรรมล้านนา วัดพระสิงห์เชียงรายเป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้คุณได้สัมผัสกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่ลึกซึ้งของเชียงราย

 

  • Location: ถนนท่าหลวง เมืองเชียงราย, เชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/HVuKmg3
5.วัดมิ่งเมืองเชียงราย

วัดมิ่งเมือง เชียงราย วัดเก่าแก่และศูนย์รวมความศรัทธาของชาวไทยใหญ่

เชียงราย – เข้าสู่ช่วงครึ่งทางของทริปไหว้พระ 9 วัด เชียงราย คราวนี้มาถึง “วัดมิ่งเมือง” หนึ่งในวัดสำคัญของเมืองเชียงราย ซึ่งตั้งอยู่บนถนนไตรรัตน์ เป็นวัดเก่าแก่ที่ชาวไทยใหญ่เรียกว่า “วัดเงี้ยว” หรือ “วัดช้างมูบ” และยังถือว่าเป็นแหล่งรวมวัฒนธรรมไทยใหญ่และล้านนาอย่างโดดเด่น

ประวัติความเป็นมา วัดมิ่งเมืองก่อตั้งขึ้นโดยเจ้านางตะละแม่ศรี พระมเหสีของพ่อขุนเม็งรายมหาราช ธิดาของกษัตริย์จากหงสาวดี จึงทำให้วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และเป็นจุดศูนย์รวมความศรัทธาของชุมชนชาวไทยใหญ่ ภายในวัดมีพระธาตุมิ่งเมือง เจดีย์ศิลปะล้านนาประดับฉัตรทองที่ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์อย่างงดงามและเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้มอบเป็นพระราชทานให้กับวัด

สถาปัตยกรรมและสถานที่สำคัญภายในวัด วัดมิ่งเมืองเป็นที่ตั้งของพระวิหารไม้ลายคำ ซึ่งสะท้อนศิลปะผสมผสานระหว่างไทยใหญ่และล้านนา ภายในพระวิหารประดิษฐานพระศรีมิ่งเมือง พระประธานปูนปั้นลงรักปิดทอง ศิลปะแบบเชียงแสนสิงห์ 1 อายุกว่า 400 ปี ด้านหน้าพระวิหารยังมีบ่อน้ำโบราณชื่อ “บ่อน้ำช้างมูบ” พร้อมซุ้มโขงช้างตกแต่งด้วยประติมากรรมที่หายาก

เสน่ห์ของวัดมิ่งเมือง วัดมิ่งเมืองยังคงมีโบราณสถานและโบราณวัตถุต่าง ๆ รวมถึง “ประตูขัวดำ” หรือประตูเมืองเก่า ซึ่งผู้คนเชื่อว่าบ่อน้ำที่นี่เป็นแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ช่วยให้ผู้ที่ดื่มและล้างหน้ามีสิริมงคลก่อนไปท่องเที่ยวหรือเดินทางต่อ นอกจากนี้ หากต้องการเติมพลังแนะนำให้ลองชิม “ก๋วยจั๊บน้ำข้น” ร้านเด็ดหลังวัดที่ขึ้นชื่อในรสชาติ 

วัดมิ่งเมือง จุดแวะที่คุณไม่ควรพลาดในทริปเชียงราย ด้วยบรรยากาศของวัดที่เต็มไปด้วยศิลปะล้านนาและความศรัทธาโบราณ วัดมิ่งเมืองเชียงรายจะทำให้คุณรู้สึกสงบและเสริมสิริมงคลให้กับการเดินทาง

6. วัดพระแก้ว เชียงราย

วัดพระแก้ว เชียงราย จุดหมายสำคัญแห่งพระพุทธศาสนาและประวัติศาสตร์

หลังเติมพลังเสร็จ เราขอพาเข้าสู่ครึ่งหลังของทริปไหว้พระ 9 วัดในเชียงราย โดยมีจุดหมายที่ “วัดพระแก้ว” วัดอารามหลวงชั้นตรีที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมล้านนา วัดนี้เป็นสถานที่ค้นพบพระแก้วมรกตอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ

ประวัติความเป็นมาและการค้นพบพระแก้วมรกต วัดพระแก้วแต่เดิมชื่อว่า “วัดป่าเยียะ” ภายในบริเวณวัดมีไม้เยียะขึ้นอยู่มากมาย แต่ในปี พ.ศ. 1977 ได้เกิดเหตุการณ์เจดีย์ของวัดถล่มลงมา เผยให้เห็นพระพุทธรูปปูนปั้นที่กะเทาะออกจนเห็นเนื้อมรกตภายใน ทำให้ผู้คนขนานนามวัดนี้ใหม่ว่า “วัดพระแก้ว” นับเป็นสถานที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต ก่อนจะย้ายไปกรุงเทพฯ ในปัจจุบัน

สถานที่สำคัญภายในวัด

  • หอพระหยก: อาคารทรงล้านนาที่ประดิษฐาน “พระหยกเชียงราย” ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ครบ 90 พรรษา
  • พระอุโบสถทรงเชียงแสน: พระวิหารที่มีลักษณะหลังคาเตี้ยและลาดต่ำ เป็นที่ประดิษฐานของพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปสำริดปางมารวิชัยขนาดใหญ่ ซึ่งได้รับการยกย่องในความงดงามตามศิลปะแบบล้านนา
  • โฮงหลวงแสงแก้ว: พิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงพระพุทธรูปสำคัญของวัด รวมถึงจัดแสดงศิลปวัฒนธรรมเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา

วัดพระแก้วเชียงรายแห่งนี้เป็นมากกว่าสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะเป็นทั้งจุดท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์พุทธศิลป์ล้านนา ใครที่มาเชียงรายไม่ควรพลาดแวะมาสักการะที่นี่สักครั้ง

มาทำบุญและเยี่ยมชมความงามแห่งล้านนาได้ที่วัดพระแก้ว เชียงราย

7.วัดดอยงำเมือง

วัดดอยงำเมือง เชียงราย จุดหมายสายมู สร้างมิตรภาพและโชคลาภ

วัดดอยงำเมือง หรือวัดงำเมือง เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่ผู้คนสายมูไม่ควรพลาด เพราะเชื่อกันว่าใครที่มาไหว้พระที่นี่จะได้เสริมมิตรภาพและโชคลาภอย่างไม่ขาดสาย วัดแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเชียงราย ตั้งอยู่บนดอยงามเมืองและเป็นสถานที่ประดิษฐานของกู่พญามังรายที่สร้างโดยพญาไชยสงคราม โอรสของพญามังรายมหาราช

วัดดอยงำเมืองมีสถาปัตยกรรมแบบล้านนาประยุกต์ที่งดงาม โดยเฉพาะพระวิหารที่มีราวบันไดเป็นรูปมกรคายนาคและประดับตกแต่งด้วยลายคำทองอย่างละเอียด อีกทั้งภายในยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะล้านนา ซึ่งแสดงถึงความสง่างามและศรัทธาในพุทธศาสนา

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังวัดพระแก้วเชียงราย โดยสามารถเดินทางผ่านถนนงำเมืองและเข้าไปได้ง่าย ผู้ที่เดินทางมาสามารถขับรถขึ้นเนินเล็กๆ ไปยังวัดได้สะดวก

หากคุณกำลังมองหาสถานที่เสริมสิริมงคลและบรรยากาศสงบเงียบในเชียงราย วัดดอยงำเมืองเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ควรแวะเยือน

  • Location: ถนนอาจอำนวย บ้านฮ่อมดอย (ชุมชนราชเดชดำรง) หมู่ที่1 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/fErJ2Lh

8.วัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง (หรือวัดพระธาตุดอยตอง ตามสำเนียงคนเชียงราย)

วัดพระธาตุดอยจอมทอง วัดเก่าแก่เชียงราย คู่ประวัติศาสตร์เมืองล้านนา

วัดพระธาตุดอยจอมทอง หรือวัดพระธาตุดอยทอง เป็นวัดสำคัญในเชียงรายที่สายมูและนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ควรพลาด วัดนี้มีความเก่าแก่และเป็นที่นับถือในฐานะวัดที่คู่กับการสร้างเมืองเชียงราย ตามตำนานเล่าว่า วัดพระธาตุดอยจอมทองถูกสร้างขึ้นก่อนที่พ่อขุนเม็งรายจะทรงสร้างเมืองเชียงราย โดยภายในวัดมีพระธาตุจอมทองที่เป็นเจดีย์ตามศิลปะแบบล้านนา-พุกาม หุ้มด้วยทองคำอันงดงามและมีชื่อมงคล

ย้อนกลับไปในอดีต เมื่อพระพุทธศาสนามีอายุได้ประมาณ 936 ปี พระเถระเจ้ารูปหนึ่งนามว่าพระพุทะโฆษา ได้นำพระบรมสารีริกธาตุจำนวน 16 องค์มาถวายแก่พระเจ้าพังคราช เจ้าเมืองโยนกนาคพันธุ์ในขณะนั้น พระองค์ได้นำส่วนหนึ่งบรรจุลงในมหาสถูปบนดอยทองและตั้งชื่อว่าพระธาตุดอยจอมทอง ส่วนอีกส่วนนำไปประดิษฐานที่ดอยน้อยหรือวัดพระธาตุจอมกิตติในปัจจุบัน

นอกจากนี้ วัดพระธาตุดอยจอมทองยังมีเสาสะดือเมืองเชียงราย ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2530 เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการรำลึกถึงพ่อขุนเม็งรายและในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งเสานี้ถือเป็นศูนย์กลางจักรวาลตามคติความเชื่อของชาวล้านนา มีการแกะสลักจากหินโดยนายสิงห์คำ สมเครือ ช่างฝีมือชาวพะเยา ปัจจุบันเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของเชียงรายที่นักท่องเที่ยวแวะมาเคารพสักการะ

หากมีโอกาสเยือนเชียงราย อย่าลืมแวะสักการะวัดพระธาตุดอยจอมทองและเสาสะดือเมืองเพื่อความเป็นสิริมงคลและเพื่อสัมผัสบรรยากาศศักดิ์สิทธิ์ของเมืองล้านนา

  • Location: ถนนอาจอำนวย ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://goo.gl/maps/1XaMew7HwEfRtd3H6

9.วัดเจ็ดยอด เชียงราย เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี

วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวงเชียงราย ความงดงามแห่งเมืองล้านนา

ปิดท้ายทริปไหว้พระในเชียงรายด้วยวัดเจ็ดยอด พระอารามหลวงชั้นตรี ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย วัดเจ็ดยอดเป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ล้านนา ถึงแม้จะไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างขึ้นเมื่อใด แต่มีการบูรณะวัดครั้งสำคัญในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ในปี พ.ศ. 2386 โดยพระครูบาคันธะคนฺธวํโส ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสคนแรกของวัด ท่านได้เชิญชวนชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธามาร่วมกันพัฒนาวัด จนพบซากวัดเก่าที่มีพระธาตุเจ็ดองค์ตั้งเรียงกันทั้งใหญ่และเล็ก จึงได้บูรณะใหม่ตามแบบวัดเจ็ดยอดในเมืองเชียงใหม่

พระพุทธรูปประธานในอุโบสถของวัดเจ็ดยอดเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยแบบล้านนา ก่ออิฐถือปูนและปิดทองทั้งองค์ ภายในอุโบสถเงียบสงบ เหมาะแก่การเจริญสติและสมาธิ ฝ้าเพดานด้านหน้าพระอุโบสถประดับด้วยภาพเขียนสีที่งดงามมาก

วัดเจ็ดยอดมีชื่อเสียงจากเหตุการณ์ฟ้าผ่าที่องค์พระธาตุเจ็ดยอดในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2565 ซึ่งทำให้ผิวคอนกรีตด้านนอกแตกกะเทาะออกจนเห็นอิฐด้านใน แต่โครงสร้างหลักไม่ได้รับความเสียหาย และยังคงเป็นจุดสำคัญที่ผู้ศรัทธาแวะเวียนมาทำบุญเพื่อเป็นสิริมงคลอยู่เสมอ

การเดินทางมาวัดเจ็ดยอด
จากแยกหอนาฬิกาเชียงราย ขับรถตามถนนเจ็ดยอดประมาณ 500 เมตร วัดเจ็ดยอดจะอยู่ทางขวามือ

วัดเจ็ดยอดเป็นหนึ่งในพระอารามหลวงที่แฝงด้วยประวัติศาสตร์และศิลปะล้านนาโบราณ ใครมาเชียงรายแล้วไม่ควรพลาดที่จะเยี่ยมชม

 

  • Location: ตำบลเวียง อำเภอเชียงราย จังหวัดเชียงราย
  • Google Map: https://g.co/kgs/PDdpdYA

ทริปไหว้พระ 9 วัดดังในเชียงราย ไหว้ครบได้ในวันเดียว!

และนี่คือทริปไหว้พระ 9 วัดดังในตัวเมืองเชียงรายที่เรานำมาฝากกันค่ะ รับรองว่าเดินทางสะดวก ไม่ว่าจะเป็นสายมูหรือสายบุญก็สามารถไหว้ครบทุกวัดได้ภายในวันเดียว ใครที่อยู่ต่างจังหวัดและอยากตามรอยทริปดี ๆ แบบนี้ ก็จัดกระเป๋าแล้วมุ่งหน้าเชียงรายกันได้เลย บอกเลยว่าทั้งอิ่มบุญและยังได้สัมผัสความงดงามของวัดเก่าแก่ที่มีตำนานยาวนานอีกด้วย!

คอลัมน์โดย : มนรัตน์ ก.บัวเกษร

เครดิตภาพ : กีรติ ชุติชัย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงของจัดงานจุลกฐิน ส่งเสริมท่องเที่ยววัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

เชียงรายจัดงาน “ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อ” ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ฟื้นฟูเศรษฐกิจชุมชน

เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567วัดหาดบ้าย ตำบลริมโขง อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลริมโขง จัดงานภายใต้โครงการ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมบูรณาการพี่น้องท้องถิ่นรวมใจ เพื่อสร้างงานและกระจายรายได้สู่ประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยววิถีวัฒนธรรมพื้นบ้าน โดยมี นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด และ นายประภาศ ไชยประเสริฐ ปลัดกลุ่มงานทะเบียนและบัตร เป็นผู้กล่าวต้อนรับ

เน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูวัฒนธรรมไทลื้อโบราณ

ภายในงานมีการจัดกิจกรรมหลากหลายที่สะท้อนถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวไทลื้อ โดยมี นายเกษม ปันทะยม นายก อบต.ริมโขง เป็นผู้กล่าวรายงาน และ นายจตุพร คงประเวช จากบริษัทมิตรแท้ประกันภัย เป็นประธานเจ้าภาพจุลกฐิน กิจกรรมที่จัดขึ้นประกอบด้วย:

  1. นิทรรศการจุลกฐินถิ่นโบราณ: ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพถ่ายและการสาธิต
  2. กิจกรรมทำบุญบูชาดอกฝ้าย: สืบสานประเพณีพื้นบ้านเพื่อสร้างบุญและความสามัคคี
  3. กาดมั่วคัวลื้อ: สาธิตการทำอาหารไตลื้อและจำหน่ายอาหารพื้นเมือง
  4. การแสดงทอสายบุญจุลกฐิน: แสดงวิถีการทอผ้าแบบดั้งเดิม
  5. การทอผ้าจุลกฐิน: ใช้เครื่องมือและวิธีการโบราณในการผลิตผ้า

การสนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรมเชียงราย

ภายในงานยังได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย โดยมี นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรมและดูแลความเรียบร้อย เพื่อเสริมสร้างการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่นให้คงอยู่ต่อไป

ส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อความยั่งยืน

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวว่า อบจ.เชียงรายมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง ภายใต้แนวคิด “เชียงรายเที่ยวได้ทั้งปี มีดีทุกเดือน” และกิจกรรม “เสน่ห์เชียงราย สถานที่ ชาติพันธุ์ วัฒนธรรมประเพณี” ซึ่งเป็นการเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ รักษาคุณค่าทางวัฒนธรรม และพัฒนาการท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน

ผลักดันเชียงรายสู่ต้นแบบการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม

งาน “ทอสายบุญ จุลกฐิน ถิ่นไทลื้อ” ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนในพื้นที่และผู้มาเยือน นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างการตระหนักรู้ถึงความสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น ทั้งนี้ยังเป็นการสนับสนุนให้จังหวัดเชียงรายเป็นพื้นที่ต้นแบบด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านใน อนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง

บทสรุป

การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยม โดยมีประชาชนและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้ความสนใจเข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก กิจกรรมที่จัดขึ้นไม่เพียงแต่สร้างความสนุกสนานและความรู้แก่ผู้เข้าร่วม แต่ยังส่งผลให้เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยให้จังหวัดเชียงรายมีการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE
Categories
CULTURE

พิธีสมโภชผ้ากฐินพระราชทาน ณ วัดหนองแวง ขอนแก่น

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี 2567 ณ วัดหนองแวง จังหวัดขอนแก่น: ร่วมสืบสานประเพณีและความสามัคคีของชุมชน

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2567 กระทรวงวัฒนธรรมได้จัดพิธี สมโภชผ้าพระกฐินพระราชทาน ประจำปี พ.ศ. 2567 ณ วัดหนองแวง พระอารามหลวง อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อสืบสานประเพณีทางพุทธศาสนาและสร้างความเป็นสิริมงคลให้กับประชาชนในพื้นที่ โดยได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานผ้าพระกฐิน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลกฐินในปีนี้

ผู้นำพิธีทั้งฝ่ายสงฆ์และฆราวาส

พิธีในครั้งนี้มี พระเทพวิสุทธิคุณ เจ้าคณะจังหวัดขอนแก่นและเจ้าอาวาสวัดหนองแวง เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานฝ่ายฆราวาส นอกจากนี้ยังมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงวัฒนธรรมและผู้แทนจากหน่วยงานราชการในจังหวัดขอนแก่น อาทิ นางโชติกา อัครกิจโสภากุล รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม และ นายชัยพล สุขเอี่ยม อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมด้วยประชาชนเข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

กิจกรรมที่จัดขึ้นในพิธี

พิธีสมโภชครั้งนี้เต็มไปด้วยกิจกรรมที่สร้างความประทับใจและความสามัคคีในชุมชน โดยมีการจัดขบวนแห่องค์ผ้าพระกฐินพระราชทานอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งประกอบด้วยกิจกรรมสำคัญดังนี้:

  1. ขบวนแห่องค์ผ้าพระกฐินพระราชทาน: ขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่และเป็นระเบียบเรียบร้อย โดยมีประชาชนจากชุมชนใกล้เคียงเข้าร่วมอย่างคึกคัก
  2. พิธีเปิดการแสดงสมโภช: การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นที่จัดขึ้นเพื่อสมโภชองค์ผ้าพระกฐิน ซึ่งสร้างบรรยากาศแห่งความปลื้มปิติและความเป็นสิริมงคล
  3. การถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์: พิธีถวายความเคารพพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อแสดงความจงรักภักดีและความเคารพต่อพระองค์
  4. พิธีเปิดกรวยกระทงดอกไม้: ถวายความเคารพและรับผ้าพระกฐิน พร้อมทั้งการถวายเครื่องบริวารแด่เจ้าอาวาสวัดหนองแวง

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วน

ในพิธีครั้งนี้ สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย นำโดย นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่และนักวิชาการวัฒนธรรมจากจังหวัดเชียงรายเข้าร่วมเพื่อสนับสนุนการจัดงานให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและสมพระเกียรติ นอกจากนี้ยังมี นางพรทิวา ขันธมาลา นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ และ นายเอกณัฏฐ์ กาศโอสถ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการ ที่ร่วมลงพื้นที่เพื่อช่วยเสริมสร้างความเข้าใจในความสำคัญของประเพณีดังกล่าว

ความสำคัญของพิธีสมโภชผ้าพระกฐิน

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานนี้ เป็นการสืบสานประเพณีทางพุทธศาสนาที่มีมาอย่างยาวนานในประเทศไทย และเป็นโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์และความสามัคคีในชุมชน นอกจากนี้ยังเป็นการถวายบุญเพื่อเป็นสิริมงคลให้แก่ประชาชนและประเทศชาติ ทั้งนี้ การทอดถวายผ้าพระกฐิน ยังถือเป็นการสนับสนุนให้วัดและพระสงฆ์ได้รับการบำรุงรักษาและพัฒนาทางด้านศาสนาอย่างต่อเนื่อง

บทสรุป

พิธีสมโภชผ้าพระกฐินพระราชทานประจำปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สร้างความประทับใจและเสริมสร้างความศรัทธาของประชาชนชาวขอนแก่นและพื้นที่ใกล้เคียง การร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและประชาชนทั่วไป เป็นตัวอย่างของการรักษาและสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานวัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
NEWS UPDATE