Categories
EDITORIAL

นักวิจัยเตือนฝนตกหนักปลายสัปดาห์เฝ้าระวังกทม.-ปริมณฑลและอยุธยา

 

รศ. ดร.สุจริต คูณธนกุลวงศ์ ผู้อำนวยการแผนงานการนำผลงานวิจัยไปสู่การใช้ประโยชน์ ด้านการบริหารจัดการน้ำ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำและน้ำท่วมในขณะนี้ว่า ภาคเหนือน้ำเริ่มลดแล้วแต่ต้องเฝ้าระวังภาคกลางเพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ระดับน้ำสูงขึ้นไล่มาตั้งแต่จังหวัดกำแพงเพชร พิษณุโลก อุทัยธานี นครสวรรค์ ลงมาถึงพระนครศรีอยุธยา อาจมีน้ำท่วมริมตลิ่งและมีโอกาสล้นคันกั้นน้ำได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระนครศรีอยุธยาระดับน้ำเพิ่มจาก 1,832 ลบ.ม./วินาที เป็น 2,682 ลบ.ม./วินาที ถือว่าใกล้ปริ่มน้ำมาก หากเกิน 3,000 ลบ.ม./วินาที อาจต้องปล่อยน้ำเข้าพื้นที่อำเภอบางบาลและบางไทรซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำ

“การคาดการณ์ฝนในช่วงนี้ ร่องความกดอากาศต่ำจะทำให้ปลายสัปดาห์นี้ มีโอกาสฝนตกหนักในพื้นที่บริเวณภาคกลาง จึงต้องเฝ้าระวังและเตรียมรับมือทั้งพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะบ้านเรือนริมน้ำ ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้กรุงเทพมหานครแล้ว โดยทาง กทม. ได้เตรียมขุดลอกคูคลองและท่อระบายน้ำ แก้ปัญหาพื้นที่ฟันหล่อพร้อมรับมือ กับสถานการณ์น้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นตามแผนรับมือหน้าฝนปี 2567 แล้ว” รศ. ดร.สุจริตระบุ

สำหรับสถานการณ์น้ำ ฝนคาดการณ์ การบริหารเขื่อน และสภาพน้ำท่าท้ายเขื่อน ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ถึง 14 ตุลาคม 2567 จากการวิเคราะห์ข้อมูลของทีมวิจัยจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล และมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน พบว่ามีพื้นที่น้ำท่วมครอบคลุมภาคเหนือตอนบนและภาคกลางในเขตลุ่มน้ำโขงเหนือ น่าน ยม วัง และเจ้าพระยารวม 20 จังหวัด จำนวน 1.347 ล้านไร่ โดยจะยังคงมีปริมาณน้ำฝนสูงในบริเวณพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และเริ่มลงภาคใต้ โดยปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อนภูมิพลอยู่ที่ร้อยละ 61 เขื่อนสิริกิติ์ร้อยละ 91 เขื่อนแควน้อยบำรุงแดนร้อยละ 68 และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ร้อยละ 64

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ผบ.มทบ.37 มอบเงินช่วยเหลือกำลังพลค่ายเม็งรายฯ หลังประสบอุทกภัยครั้งใหญ่

 

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เวลา 10.00 น. พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 (ผบ.มทบ.37) เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือให้แก่กำลังพลและครอบครัวที่ประสบอุทกภัย ทั้งในและนอกค่ายเม็งรายมหาราช จังหวัดเชียงราย รวมจำนวนทั้งสิ้น 385 ครอบครัว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ โดยงบประมาณดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ อดีตผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ที่ได้จัดสรรงบประมาณเพื่อช่วยเหลือกำลังพลที่ประสบภัยในครั้งนี้

สำหรับการมอบเงินช่วยเหลือครั้งนี้ สืบเนื่องจากที่ พลเอก เจริญชัย หินเธาว์ อดีต ผบ.ทบ. ได้เดินทางมาเยี่ยมเยียนกำลังพลที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในช่วงเกิดอุทกภัยก่อนหน้านี้ และได้รับทราบถึงความเดือดร้อนของกำลังพลและครอบครัวหลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม จึงได้จัดสรรงบประมาณส่วนหนึ่งเพื่อนำมาช่วยเหลือและสร้างขวัญกำลังใจให้กับเจ้าหน้าที่ทหารและครอบครัว

ทั้งนี้ ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบกท่านปัจจุบัน ได้รับมอบหมายให้ส่งมอบงบประมาณดังกล่าวให้กับ พลตรี บุญญฤทธิ์ เกษตรเวทิน เพื่อดำเนินการแจกจ่ายให้กับกำลังพลที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ค่ายเม็งรายมหาราชและบริเวณใกล้เคียง

การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้จัดขึ้นที่อาคารเสนาบันเทิง มณฑลทหารบกที่ 37 ค่ายเม็งรายมหาราช อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่าง ๆ และกำลังพลเข้าร่วมเป็นสักขีพยาน นอกจากการมอบเงินช่วยเหลือแล้ว พลตรี บุญญฤทธิ์ ยังได้กล่าวให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่และครอบครัว พร้อมย้ำให้ทุกคนมีกำลังใจและความมุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนอย่างต่อเนื่อง

“ท่าน พลเอก เจริญชัย ได้ฝากความห่วงใยและความขอบคุณมายังกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในยามวิกฤติ ขอให้ทุกคนรักษาความดีนี้ไว้ และเดินหน้าทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ” พลตรี บุญญฤทธิ์ กล่าวระหว่างพิธีมอบเงินช่วยเหลือ

นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำถึงบทบาทของทหารในการเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะในยามที่เกิดภัยพิบัติ ทหารเป็นหนึ่งในหน่วยงานสำคัญที่ต้องเข้าไปช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที ทั้งการช่วยอพยพ การจัดหาอาหาร น้ำดื่ม และการฟื้นฟูพื้นที่หลังน้ำลด ซึ่งการช่วยเหลือเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งแรงกายและแรงใจของกำลังพลทุกคน

ในส่วนของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ยังมีหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะในเขตอำเภอแม่สาย อำเภอเชียงแสน และอำเภอเวียงป่าเป้า ที่ระดับน้ำยังคงสูงและมีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมซ้ำอีกในช่วงนี้ ทางมณฑลทหารบกที่ 37 จึงได้จัดกำลังพลพร้อมเครื่องมือและอุปกรณ์ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากการให้ความช่วยเหลือด้านเงินสนับสนุนแล้ว พลตรี บุญญฤทธิ์ ยังได้เน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานในค่ายเม็งรายมหาราช เตรียมความพร้อมด้านแผนการป้องกันน้ำท่วม รวมถึงการเตรียมความพร้อมของกำลังพลในการลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนเมื่อเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีการประสานงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชนในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือสามารถเข้าถึงประชาชนได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว

ทั้งนี้ การมอบเงินช่วยเหลือในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับกำลังพลที่ได้รับผลกระทบ แต่ยังเป็นการแสดงถึงความห่วงใยจากผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่มีต่อกำลังพลทุกนาย และเป็นกำลังใจสำคัญให้กับครอบครัวทหารในการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่หลังจากประสบภัยพิบัติครั้งนี้

ท้ายที่สุด พลตรี บุญญฤทธิ์ ได้ขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือกำลังพลและครอบครัวที่ได้รับผลกระทบ และย้ำว่าจะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อให้จังหวัดเชียงรายและพื้นที่โดยรอบกลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : มณฑลทหารบกที่ 37

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

‘พิสันต์’ รับโล่ประกาศเกียรติคุณ ชุมชนต้นแบบ “เที่ยวชุมชนยลวิถี” 4 ปีติดต่อกัน

 

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 เวลา 09.30 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานมอบนโยบายการขับเคลื่อน “เศรษฐกิจวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน” ภายใต้โครงการ “22 ปี กระทรวงวัฒนธรรม นำคุณค่า พัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน” ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจในแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจวัฒนธรรมให้กับบุคลากรในหน่วยงานด้านวัฒนธรรมทั่วประเทศ พร้อมยกระดับการขับเคลื่อนวัฒนธรรมไปสู่การพัฒนาชุมชนและประเทศชาติอย่างยั่งยืน โดยมีผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม หัวหน้าส่วนราชการ และองค์การมหาชนในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม รวมถึงวัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัด และสภาวัฒนธรรมแห่งประเทศไทย เข้าร่วมรับฟังอย่างพร้อมเพรียง

นางสาวสุดาวรรณ กล่าวในพิธีเปิดว่า การขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจวัฒนธรรมเป็นก้าวสำคัญที่จะนำคุณค่าของศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรมมาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชนและภาคเอกชน รวมถึงการสานต่อโครงการต่าง ๆ ที่กระทรวงวัฒนธรรมได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

ในงานดังกล่าว นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้บรรยายในหัวข้อ “การขับเคลื่อนวัฒนธรรมสู่พลังแห่งอนาคต” ซึ่งเน้นย้ำถึงบทบาทของวัฒนธรรมในฐานะเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งการสร้างความตระหนักรู้ในคุณค่าของวัฒนธรรมในชุมชน เพื่อให้เกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคประชาชนอย่างเป็นระบบ

นอกจากนี้ หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ได้แก่ กรมการศาสนา กรมศิลปากร กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) และกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ได้ร่วมบรรยาย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

“กรมชลประทาน” ถอดบทเรียนน้ำท่วม ให้ทุกคนเรียนรู้ที่จะอยู่กับน้ำ

 

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากวิกฤตน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือที่ผ่านมา จะเห็นว่ามีความรุนแรงมากขึ้น และยังส่งผลกระทบออกเป็นวงกว้าง เพื่อทำความเข้าใจถึงปัญหาอุทกภัยและหาแนวทางในการรับมือ กรมชลประทานได้ออกมาให้ความรู้กับพี่น้องประชาชน เพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักถึงภัยธรรมชาติ

ครั้งนี้ “นายเดช เล็กวิชัย” รองอธิบดีกรมชลประทาน แสดงความคิดเห็นถึงเหตุการณ์น้ำท่วมจังหวัดเชียงรายและเสนอแนวทางแก้ปัญหา “เหตุการณ์น้ำท่วมเชียงรายถือว่าหนักสุดในรอบหลายปีที่ผ่านมา การแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคเหนือ คือต้องฟื้นฟูระบบคลองต่างๆ ที่ใช้เป็นเหมือนเส้นเลือดย่อยๆ ในการช่วยระบายน้ำ สิ่งกีดขวางทางน้ำต่างๆ จัดการให้หมด โดยเฉพาะน้ำท่วมในเขตเมืองเพราะผังเมืองบางทีไม่ได้รองรับฝนที่ตกเกินกว่ากำหนด น้ำควรจะมีทางไป หรือฟลัดเวย์สำหรับการจัดการมวลน้ำในภาคเหนือ มองว่าตอนนี้โครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในเขตจังหวัดเชียงรายหรือจังหวัดเชียงใหม่เอง ตัวของอาคารบังคับน้ำ โครงสร้างพื้นฐานยังมีไม่มากนัก เรื่องอนาคตเป็นเรื่องของการศึกษาโดยเฉพาะจังหวัดเชียงราย ในการที่จะปรับปรุงลำน้ำ หรือทางผันน้ำจากแม่น้ำกกลงอ้อมเมืองลงสู่แม่น้ำโขงให้เร็วที่สุด”
 
“เนื่องจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าจะหมดสิ้นฤดูฝนของภาคเหนือ ภาคกลาง หลังสิ้นเดือนตุลาคม เรามีระยะเวลาการดำเนินงานที่ต้องติดตามพื้นที่เสี่ยงอีกประมาณหนึ่งเดือน ฉะนั้นการจัดการจะมีภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนบน ตรงนี้ต้องจัดการในเรื่องของเขื่อน เพื่อให้กักเก็บน้ำได้มากที่สุด แล้วไม่ระบายน้ำมากระทบกับชาวบ้าน ในเรื่องของการระบายน้ำเรามีพร่องน้ำรอในระบบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคลอง ลำน้ำธรรมชาติ 
 
เพื่อรองรับฝนที่จะตกในพื้นที่ ส่วนการบริหารจัดการทุ่งต่างๆ กรมชลประทานดำเนินการในเรื่องของการจัดระบบการเพาะปลูก ซึ่งจะเก็บเกี่ยวภายในเดือนนี้แล้วเสร็จทั้งหมดในพื้นที่ประมาณหนึ่งล้านไร่ เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรในพื้นที่ลุ่มต่ำไม่เกิดความเสียหาย”
 
นอกจากนี้สภาพดินฟ้าอากาศของเพื่อนบ้าน ก็เป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าติดตาม “ต้องมีการแชร์ข้อมูลกันว่าสภาพอากาศในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างไร มีการบริหารจัดการน้ำเขื่อนในประเทศอย่างไร ต้องรู้ว่าเค้าจัดการยังไง เพื่อที่เราเองจะได้รู้ว่าต้องจัดการบ้านเรายังไง”
 
ทั้งนี้ “รองฯ เดช” ยังกล่าวปิดท้ายอีกว่า ทุกๆ บทเรียนของอุทกภัยที่ผ่านมา กรมชลประทานได้ถอดบทเรียน เพื่อนำมาสู่ประสิทธิภาพของการบริหารจัดการน้ำ “จากกระบวนการที่ผ่านมา เราเอาเคสวิกฤตมาถอดบทเรียน มองว่าประสิทธิภาพในการจัดการน้ำของกรมชลประทานดีขึ้นเรื่อยๆ เราต้องจัดการน้ำให้น้ำมีที่อยู่และมีที่ไป ถ้าน้ำไม่มีที่อยู่ไม่มีที่ไป มันก็อั้น พออั้นปุ๊บก็กลายเป็นไปไหนไม่ได้ ระเบิดเป็นโดมิโน่ เราต้องทยอยให้น้ำมีที่อยู่ มีที่ไปที่เหมาะสม ผลกระทบมันก็จะน้อย”
 
สุดท้ายนี้คนไทยทุกคนต้องปรับตัวและอยู่คู่กับน้ำให้ได้ “เราต้องให้คนเรียนรู้อยู่กับน้ำได้ เพราะเมืองไทยฝนเยอะ เราสามารถกักเก็บน้ำตอนฝนตกได้แค่หนึ่งในสามจากฝนที่ตกทั้งประเทศ ฉะนั้นส่วนที่เหลือ น้ำก็ต้องมีที่ไป แต่จะไปไหนได้สุดท้ายก็ไหลมาหาพวกเรา ฉะนั้นทุกประเทศเหมือนกัน ต้องปรับตัวให้อยู่กับน้ำ จะต้องมีการกำหนดพื้นที่ที่ระบุว่าเป็นพื้นที่เก็บน้ำ ทางน้ำผ่าน ต้องระบุชัดเจน ทุกประเทศเป็นเหมือนกัน 
 
ตอนสุดท้ายต้องมาดูเรื่องความเสียหาย มาตรการช่วยเหลือเยียวยามีความจำเป็น อย่างเรื่องน้ำท่วมเชียงราย คงต้องมีการศึกษาเรื่องการผันน้ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ส่วนเรื่องระบบชลประทาน จะบริหารจัดการ ระบาย และกักเก็บน้ำให้ได้มากที่สุดในฤดูฝน เรามีทีมควบคุมการระบายน้ำ การทดน้ำ ใช้สิ่งที่มีอยู่ให้เต็มศักยภาพ โดยใช้ผลคาดการณ์ที่มีการยืนยันในเรื่องของการจัดการภายใต้สภาวะของระบบที่มีอยู่”
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมชลประทาน

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
NEWS UPDATE

‘พะเยา’ เร่งจัดการถนน ต.แม่กา – อ.งาว หลังเกิดการทรุดตัวกว่า 100 เมตร

 

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพะเยาว่า นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา พร้อมด้วย นายยศกร สุขสอาด หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพะเยา และนายพูนศักดิ์ เมาะราษี ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงพะเยา ได้ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัวบริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ช่วงกิโลเมตรที่ 815 + 800 ถึงกิโลเมตรที่ 815 + 900 เมตร (ขาขึ้น) ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างบ้านนาไร่เดียว ตำบลแม่กา อำเภอเมืองพะเยา จังหวัดพะเยา และบ้านชนแดน อำเภองาว จังหวัดลำปาง

เหตุการณ์ถนนทรุดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยพื้นที่ถนนเกิดการทรุดตัวลึกจนทำให้การจราจรบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบ ระยะความเสียหายยาวประมาณ 100 เมตร ส่งผลให้เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพะเยาต้องดำเนินการปิดช่องทางจราจรบางส่วนเพื่อความปลอดภัย และให้รถยนต์ใช้เส้นทางผ่านได้เพียงช่องจราจรเดียวเท่านั้น

นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหายด้วยตนเอง และได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งออกคำสั่งให้ดำเนินมาตรการดังนี้

1. เร่งซ่อมแซมถนนที่ทรุดตัวให้กลับมาใช้งานได้โดยเร็ว
ผู้ว่าฯ ได้มอบหมายให้แขวงทางหลวงพะเยาเร่งรัดการซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อให้การจราจรสามารถกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายโดยเร็วที่สุด

2. เปิดทางน้ำและแก้ไขปัญหาการระบายน้ำ
ผู้ว่าฯ สั่งการให้เทศบาลตำบลแม่กา และหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องนำรถขุดตักขนาดเล็กเข้าพื้นที่เพื่อเปิดทางน้ำและระบายน้ำที่ขังอยู่บริเวณใกล้เคียงจุดถนนทรุดตัว พร้อมทั้งช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

3. ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจร
มอบหมายให้ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรแม่กาลงพื้นที่เพื่อดูแลความปลอดภัยในทรัพย์สินของประชาชนและทรัพย์สินของทางราชการ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับผู้ใช้เส้นทาง โดยให้ความสำคัญกับการลดความแออัดและป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างที่มีการซ่อมแซม

ขณะนี้ เจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงพะเยาได้เริ่มดำเนินการซ่อมแซมถนนที่ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งจัดเตรียมอุปกรณ์และทำทางเบี่ยงชั่วคราว เพื่อให้ผู้ใช้รถสามารถสัญจรได้สะดวกยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีการจำกัดช่องทางการจราจร ทางหน่วยงานก็ได้ติดตั้งป้ายเตือนและไฟสัญญาณเพื่อให้ผู้ขับขี่ใช้ความระมัดระวังในการสัญจร

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดพะเยา ได้เน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาถนนทรุดตัวจะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ถนนกลับมาใช้งานได้อย่างปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของประชาชนและการขนส่งสินค้าในพื้นที่ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวติดตามประกาศจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด และให้หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางนี้ในช่วงที่มีการซ่อมแซม

หากมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทางหรือมีความคืบหน้าเพิ่มเติม ทางจังหวัดพะเยาจะรีบแจ้งให้ประชาชนทราบทันที ผ่านช่องทางสื่อสารต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสามารถวางแผนการเดินทางได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยมากที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เทศบาลนครเชียงรายจัด Big Cleaning ฟื้นฟูเมืองหลังน้ำท่วม คืนความสุขชุมชน

 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 เทศบาลนครเชียงรายได้จัดกิจกรรม “Big Cleaning” เพื่อฟื้นฟูเมืองเชียงรายและคืนความสุขให้กับประชาชน หลังประสบปัญหาน้ำท่วมและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ของตัวเมือง โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้การนำของ นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ซึ่งมอบหมายให้ ดร.ปรีชา อนุรักษ์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครเชียงราย เข้าร่วมปฏิบัติการทำความสะอาดครั้งใหญ่ ร่วมกับพระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดใหม่ศรีร่มเย็น ตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย และจิตอาสาชาวเชียงรายจำนวนมาก

กิจกรรมครั้งนี้เริ่มต้นจากบริเวณสี่แยกสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงราย ยาวไปจนถึงขัวพญามังราย ซึ่งเป็นเส้นทางสำคัญของตัวเมือง โดยมีการแบ่งหน้าที่การทำความสะอาดในแต่ละจุด เพื่อให้ทุกพื้นที่ได้รับการปรับปรุงและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมอย่างทั่วถึง ทั้งนี้ ทีมงานและจิตอาสาได้ช่วยกันเก็บกวาดขยะ ฉีดล้างทำความสะอาดพื้นถนน ตัดแต่งกิ่งไม้ รวมถึงจัดการสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ทำให้สภาพถนนและพื้นที่สาธารณะกลับมาสะอาดและน่าใช้งานอีกครั้ง

พระอาจารย์เอกชัย สิริญาโณ ซึ่งได้ร่วมลงพื้นที่ทำความสะอาดด้วยตนเอง ได้กล่าวให้กำลังใจผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคน พร้อมทั้งย้ำถึงความสำคัญของการมีจิตสาธารณะและการร่วมมือร่วมใจของคนในชุมชนเพื่อฟื้นฟูเมืองให้กลับมาสวยงามเช่นเดิม พระอาจารย์ยังได้กล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานที่ทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อให้ชุมชนกลับมาเป็นระเบียบเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว

ดร.ปรีชา อนุรักษ์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย เปิดเผยว่า หลังจากเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่เมืองเชียงราย หลายพื้นที่ได้รับความเสียหาย ทั้งถนน ตรอกซอกซอย และพื้นที่สาธารณะต่าง ๆ การจัดกิจกรรม “Big Cleaning” ในครั้งนี้ จึงมีเป้าหมายหลักเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอย่างรวดเร็วที่สุด โดยนอกจากการทำความสะอาดถนนและสถานที่สาธารณะแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ตระหนักถึงความสำคัญของการดูแลชุมชนและร่วมกันรักษาความสะอาดของพื้นที่สาธารณะอย่างต่อเนื่อง

ในระหว่างการดำเนินกิจกรรม เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บกวาดขยะ เศษดิน โคลน และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ตกค้างจากการเกิดน้ำท่วม พร้อมทั้งมีการติดตั้งป้ายแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับจุดเสี่ยงน้ำท่วมในพื้นที่ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์น้ำท่วมในอนาคต กิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งครั้งนี้ยังได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการจัดหารถฉีดน้ำแรงดันสูง เครื่องมือทำความสะอาด และอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและครบถ้วน

ดร.ปรีชา อนุรักษ์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เทศบาลนครเชียงรายมีความตั้งใจที่จะทำให้เมืองเชียงรายกลับมามีสภาพแวดล้อมที่ดีเหมือนเดิม และขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ถือเป็นการแสดงพลังความสามัคคีที่ดีของชุมชนเชียงราย เพราะนอกจากจะเป็นการทำความสะอาดและฟื้นฟูพื้นที่แล้ว ยังเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบให้สามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน”

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาจังหวัดเชียงรายเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมในหลายอำเภอ เนื่องจากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้น้ำในแม่น้ำสายหลักและคลองย่อยเพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดน้ำเอ่อท่วมบ้านเรือน พื้นที่เกษตรกรรม และโครงสร้างพื้นฐานในหลายจุด ก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทางเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในวงกว้าง การฟื้นฟูสภาพแวดล้อมจึงมีความสำคัญอย่างมาก เพื่อให้ชุมชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

กิจกรรม “Big Cleaning” ในครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญของเทศบาลนครเชียงรายที่มุ่งเน้นการสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะอาดและปลอดภัยให้กับชุมชน โดยทางเทศบาลได้วางแผนจัดกิจกรรมทำความสะอาดและฟื้นฟูในพื้นที่อื่น ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ในตัวเมืองเชียงราย แต่รวมถึงเขตชุมชนใกล้เคียงด้วย

เทศบาลยังได้ประกาศเชิญชวนประชาชนทุกคนให้เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาพื้นที่สาธารณะในชุมชนของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เมืองเชียงรายมีสภาพแวดล้อมที่ดีขึ้น โดยขอให้ติดตามประกาศกิจกรรมครั้งต่อไปจากทางเทศบาลนครเชียงรายผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีให้กับเมืองเชียงรายร่วมกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

โครงการน้องหมูเด้งปันน้ำใจ มอบที่นอนช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมเชียงราย

 

เมื่อวันอังคารที่ 1 ตุลาคม 2567 เวลา 11.30 น. องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำโดยนายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางมายังจังหวัดจังหวัดเชียงราย เพื่อมอบที่นอนแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ตามวัตถุประสงค์ของโครงการ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์” ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ให้ผู้ประสบภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภาคเหนือ นำที่นอนมามอบให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ครั้งที่ 1 จำนวน 220  ชุด โดยมีรองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงราย นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล เป็นผู้รับมอบแทนนายกเทศมนตรีนครเชียงรายและคณะครูและนักเรียน ในพื้นที่ประสบภัย จำนวน 8 โรงเรียน เป็นผู้รับมอบ

ในพิธีมอบสิ่งของ นายณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล รองนายกเทศมนตรีนครเชียงราย พร้อมด้วยคณะผู้บริหารโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย ได้เข้าร่วมเป็นตัวแทนในการรับมอบที่นอนทั้ง 220 ชุด จากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เพื่อนำไปแจกจ่ายต่อให้แก่นักเรียน ผู้ปกครอง และประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ โดยการช่วยเหลือครั้งนี้มุ่งหวังที่จะบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับครอบครัวที่สูญเสียทรัพย์สินและที่อยู่อาศัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัดเชียงราย

นายณรงค์ศักดิ์ ได้กล่าวในพิธีรับมอบว่า การสนับสนุนที่นอนจากองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ ในครั้งนี้มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากชาวบ้านจำนวนมากในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยสูญเสียที่อยู่อาศัยและทรัพย์สิน รวมถึงที่นอนซึ่งจำเป็นสำหรับการพักผ่อนในแต่ละวัน การช่วยเหลือในครั้งนี้จึงไม่เพียงแต่ช่วยบรรเทาความลำบากทางด้านร่างกาย แต่ยังเป็นการส่งต่อกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยในการฟื้นตัวจากวิกฤตครั้งนี้อีกด้วย

นอกจากนี้ นายณรงค์ศักดิ์ยังได้กล่าวถึงความสำคัญของโครงการ “น้องหมูเด้ง ปันน้ำใจ” ว่า เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของหลายภาคส่วนที่ต้องการเข้ามาช่วยเหลือผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งนักเรียนและครอบครัวในชุมชนที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด การส่งมอบที่นอนในครั้งนี้จะช่วยให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองมีพื้นที่สำหรับการพักผ่อนที่ปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

นายอรรถพร ศรีเหรัญ ผู้อำนวยการองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย เผยว่า ได้เปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจทั้งภาครัฐและเอกชน และทุกภาคส่วนเข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้ชื่อโครงการ “หมูเด้ง” ชวนช่วยผู้ประสบอุทกภัยและดูแลสวัสดิภาพเพื่อนสัตว์” กิจกรรมนี้ ไม่ได้เพียงแต่จะนำรายได้ไปช่วยเหลือสัตว์ในความดูแลขององค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ เท่านั้น ยังเป็นเชิญร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ทำมีผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวเป็นจำนวนมาก องค์การสวนสัตว์ จะทยอยประกาศชื่อผู้ร่วมกิจกรรมเป็นระยะ

นายอรรถพรฯ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ พร้อมปฎิบัติตามแนวทาง ของ รมว ทส ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้นโยบายไว้ว่า “ข้าราชการ…ขับเคลื่อน ประชาชน…มีส่วนร่วม สื่อมวลชน…ช่วยกระจายข่าว สนุกกับทุกงานที่ทำ”

และมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนสังคมไทยทั้งในด้านการดูแลสัตว์และการช่วยเหลือประชาชนในยามเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบกลับมามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยเร็ว ตามแนวนโยบาย การเป็นรัฐวิสาหกิจเพื่อสังคม

สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดเชียงรายในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือน พื้นที่การเกษตร และโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ถูกทำลายอย่างหนัก รวมถึงโรงเรียนและชุมชนในเขตอำเภอเมืองและอำเภอแม่จัน ซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากน้ำป่าไหลหลากและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง การช่วยเหลือและสนับสนุนจากภาคเอกชนและหน่วยงานต่าง ๆ จึงมีบทบาทสำคัญในการฟื้นฟูชุมชนและช่วยให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

สุดท้ายนี้ นายณรงค์ศักดิ์ได้กล่าวขอบคุณองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทยฯ และผู้ที่มีส่วนร่วมทุกคนที่เข้ามาช่วยเหลือในครั้งนี้ พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ประชาชนทั่วไปและภาคธุรกิจอื่น ๆ ร่วมกันสนับสนุนและช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อื่น ๆ ของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้ชาวบ้านสามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขและผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้ไปได้โดยเร็วที่สุด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย / องค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ – ZPOT

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI NEWS UPDATE

กระทรวงมหาดไทยปรับทัพ จ.เชียงราย แต่งตั้งข้าราชการใหม่ 4 ตำแหน่งฟื้นฟูเมือง

 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 กระทรวงมหาดไทยได้ออกคำสั่งแต่งตั้งและโยกย้ายข้าราชการระดับสูงเพื่อปรับปรุงการบริหารงานและสนับสนุนการปฏิบัติราชการของกระทรวงมหาดไทยให้มีประสิทธิภาพ โดยมีการแต่งตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายคนใหม่ และมีการปรับย้ายข้าราชการระดับบริหารจำนวน 6 ตำแหน่ง ตามคำสั่งที่ 3067/2567 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป

ในคำสั่งดังกล่าว นายโชตินรินทร์ เกิดสม ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาการผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย พร้อมกันนี้ นายดำรงค์ศักดิ์ ยอดทองดี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวงมหาดไทย ถูกแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และนายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ เดิมเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้รับการโยกย้ายให้มาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายอีกตำแหน่ง นอกจากนี้ นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ ก็ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเช่นกัน

ในขณะเดียวกัน ว่าที่ร้อยตรี ศราวุธ จันทวงศ์ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ถูกโยกย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์แทน โดยการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการปฏิบัติราชการระดับภูมิภาคให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล และรองรับการดำเนินงานต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทยอย่างเต็มที่

ในวันเดียวกัน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เป็นประธานในการประชุมผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยที่ห้องประชุมราชสีห์ ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมีผู้บริหารระดับกรมและผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศเข้าร่วมประชุมผ่านระบบประชุมทางไกล (VCS) ซึ่งในที่ประชุม นายอนุทินได้กล่าวแสดงความยินดีกับ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ซึ่งเพิ่งเข้ารับตำแหน่งปลัดกระทรวงมหาดไทยคนใหม่เป็นครั้งแรก โดยเน้นย้ำความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างฝ่ายบริหารและฝ่ายปฏิบัติ เพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนโยบายและภารกิจต่าง ๆ ของกระทรวงมหาดไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาล

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า การปรับเปลี่ยนตำแหน่งในครั้งนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับทีมบริหารของกระทรวงมหาดไทย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในเรื่องของการให้บริการและการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในพื้นที่ ทั้งนี้ เขายังได้ขอความร่วมมือจากผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคนให้ทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่มีการ “เกียร์ว่าง” เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาของประชาชนได้อย่างทันท่วงที

สำหรับเหตุการณ์ความวุ่นวายในจังหวัดเชียงรายที่ผ่านมา นายอนุทินกล่าวว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวได้ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่มีการตั้งกรรมการสอบสวนเพิ่มเติม เนื่องจากทุกฝ่ายเข้าใจสถานการณ์และไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาของประชาชนและเดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาจังหวัดต่อไป

สุดท้าย นายอนุทินย้ำว่า การปรับเปลี่ยนตำแหน่งในกระทรวงมหาดไทยครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการทำงานของหน่วยงานรัฐและผู้ว่าราชการจังหวัดในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงรายที่ได้รับการแต่งตั้งผู้ว่าฯ และรองผู้ว่าฯ คนใหม่ เพื่อมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสในทุกขั้นตอน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News