Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

เร่งฟื้นฟูเชียงรายหลังน้ำท่วม ช่วยเหลือประชาชนให้กลับมาใช้ชีวิตปกติ

 

เมื่อวันที่ 28 กันยายน 2567 นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้เร่งดำเนินการฟื้นฟูเมืองเชียงรายหลังจากเกิดเหตุอุทกภัยใหญ่ที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อชุมชนในเขตเทศบาลเมืองเชียงรายหลายแห่ง โดยจัดตั้งแผนฟื้นฟูการจัดเก็บขยะ การกำจัดโคลน และการฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งหนึ่งในภารกิจหลักคือการจัดเก็บขยะและโคลนตะกอนที่สะสมในพื้นที่ต่าง ๆ ของเมือง พร้อมทั้งฟื้นฟูระบบระบายน้ำให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับฝนในอนาคตและฟื้นฟูสุขอนามัยในพื้นที่

 

การดำเนินงานฟื้นฟูในเขตชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ในวันที่ 28 กันยายน 2567 มีการเพิ่มกำลังพลและอุปกรณ์เครื่องจักรต่าง ๆ เช่น รถบรรทุกขยะ รถแมคโคร รถดูดโคลน และรถบรรทุกน้ำ จำนวนมาก เพื่อให้การรวบรวมและกำจัดขยะเป็นไปอย่างรวดเร็ว ครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ ในเขตเทศบาลนครเชียงราย ไม่ว่าจะเป็น ชุมชนน้ำลัด, ชุมชนฝั่งหมิ่น, ริมน้ำกก, สวนสาธารณะเกาะลอย, เกาะทอง, แควหวาย, ถ.ฝั่งหมิ่น, ทวีรัตน์, เกาะทอง, รั้วเหล็กเหนือ, รั้วเหล็กใต้, ป่าแดง, ฮ่องลี่, ป่างิ้ว, ป่าตึงริมกก, บ้านใหม่ และหมู่บ้านธนารักษ์ ซึ่งแต่ละจุดมีการจัดทีมงานพร้อมอุปกรณ์อย่างครบครัน รวมถึงได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานหลายภาคส่วนที่ร่วมลงพื้นที่และสนับสนุนภารกิจฟื้นฟูอย่างต่อเนื่อง

 

การสนับสนุนจากภาคส่วนต่าง ๆ

ในการดำเนินการครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายหน่วยงาน อาทิ กรุงเทพมหานคร (อปท.), บริษัท บีเอ็มเจ็ตเซอร์วิส จังหวัดระยอง, เทศบาลนครนนทบุรี, และเทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งได้ส่งทีมงานและเครื่องจักรเข้ามาช่วยดำเนินการฟื้นฟู โดยเฉพาะรถดูดโคลนเลน จำนวน 4 คัน ที่ได้รับความสนับสนุนจากกรุงเทพมหานคร ทำให้การดำเนินงานในชุมชนป่าแดงสำเร็จลุล่วงไปได้อย่างรวดเร็ว ขณะที่เทศบาลนครนนทบุรี และเทศบาลนครปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ช่วยดำเนินการในชุมชนแควหวาย ซอย 4 ในช่วงเช้า และช่วงบ่ายได้เข้าไปช่วยทำความสะอาดและดูดโคลนในชุมชนเกาะทอง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายมากที่สุดจากน้ำท่วมในครั้งนี้

 

การจัดการขยะและฟื้นฟูระบบระบายน้ำ

นอกจากการจัดเก็บขยะและการกำจัดโคลนในพื้นที่แล้ว ทางเทศบาลนครเชียงรายยังได้ดำเนินการล้างทำความสะอาดท่อระบายน้ำในเขตพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น เครื่องเจาะสูบฉีดน้ำแรงดันสูง และรถดูดโคลน เพื่อป้องกันการอุดตันและช่วยในการระบายน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมในการป้องกันน้ำท่วมและฟื้นฟูสุขอนามัยของชุมชนให้กลับมาเป็นปกติโดยเร็วที่สุด

 

ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเมืองเชียงราย

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ยังได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่เข้ามาช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูเมืองเชียงรายในครั้งนี้ โดยเฉพาะภาคเอกชนและหน่วยงานราชการที่ส่งทีมและเครื่องมือมาช่วยฟื้นฟูอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายต่างมีเป้าหมายเดียวกันคือการทำให้เมืองเชียงรายกลับมามีสภาพแวดล้อมที่ดีอีกครั้ง และสามารถรองรับการดำเนินชีวิตของประชาชนได้อย่างปกติสุข

สำหรับประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อเทศบาลนครเชียงรายได้ที่หมายเลข 053-711333 หรือประสานงานผ่านศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้บ้านของท่านได้ตลอดเวลา โดยเทศบาลจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อให้เมืองเชียงรายกลับมาเป็นเมืองที่น่าอยู่และพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

นายกฯ มอบเงินเยียวยาชาวเชียงราย 5.3 ล้าน พร้อมแผนฟื้นฟูด่วน

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 17.30 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางมามอบเงินเยียวยาและสิ่งของช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดเชียงราย โดยได้ลงพื้นที่หอประชุมโรงเรียนเทศบาล 6 นครเชียงราย เพื่อมอบเงินเยียวยาให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบในหลายอำเภอ ประกอบด้วย อำเภอแม่สายจำนวน 2,653,200 บาท, อำเภอเทิง 297,000 บาท, อำเภอเวียงแก่น 891,000 บาท และอำเภอเมือง 1,485,000 บาท รวมมูลค่าทั้งสิ้น 5,326,200 บาท พร้อมมอบสิ่งของจำเป็น เช่น อุปกรณ์ทำความสะอาด ไม้กวาด ที่ตักขยะ และชุดเครื่องนอน ให้กับผู้ประสบภัยทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ได้กล่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลนครเชียงรายว่า น้ำท่วมในครั้งนี้เกิดจากแม่น้ำกกไหลล้นตลิ่งตั้งแต่วันที่ 10-13 กันยายน 2567 ส่งผลให้มีประชาชนได้รับความเดือดร้อนกว่า 12,000 ครัวเรือน ใน 52 ชุมชนของเขตเทศบาลนครเชียงราย ทางเทศบาลได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นตามขั้นตอนที่กำหนด รวมถึงการฟื้นฟูอย่างเร่งด่วน แต่ยังพบปัญหาหลักคือดินโคลนจำนวนมากที่สะสมอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการทำความสะอาดและฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของประชาชน จึงขอการสนับสนุนจากหลายหน่วยงานเพื่อช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้ประชาชนสามารถกลับเข้าบ้านได้อย่างรวดเร็ว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า “รัฐบาลจะไม่ทิ้งประชาชนไว้เบื้องหลัง และจะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ทุกคนจะได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง วันนี้รัฐบาลเข้ามาเพื่อสร้างความมั่นใจและเป็นกำลังใจให้ทุกคน เราได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน รวมถึงจิตอาสาที่ร่วมกันเข้ามาช่วยเหลือและทำงานในพื้นที่ ขอขอบคุณทุกคนในที่นี้อย่างจริงใจ”

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีบางพื้นที่ที่ยังคงขาดความช่วยเหลือ ทางรัฐบาลจะระดมกำลังจากหน่วยงานและจิตอาสาเข้ามาช่วยฟื้นฟูและทำความสะอาดบ้านเรือนให้เร็วที่สุด เพื่อคืนพื้นที่ให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติได้โดยเร็ว และพร้อมจะนำเสนอแนวทางการช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่จะถึงนี้ เพื่อพิจารณาอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมสำหรับการฟื้นฟูและการช่วยเหลือในทุกพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม

หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีและคณะได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านธนารักษ์ และชุมชนทวีรัตน์ เพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบภัย พร้อมทั้งมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นให้แก่ประชาชนที่ยังต้องการความช่วยเหลือ และตรวจเยี่ยมสภาพบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบ เพื่อประเมินสถานการณ์และเร่งวางแผนการฟื้นฟูให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็วที่สุด

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้สร้างความหวังและกำลังใจให้กับประชาชนในพื้นที่ที่กำลังประสบภัยเป็นอย่างมาก โดยนายกรัฐมนตรีได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “อย่าเพิ่งท้อ ขอให้ทุกคนสู้ต่อไป ทนกันอีกนิดเดียว ความช่วยเหลือจะทยอยเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขอให้มีกำลังใจและช่วยกันส่งความรักให้กันและกัน แล้วเราจะผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ด้วยกัน”

สรุปประเด็นหลัก

  • นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบเงินเยียวยา 5,326,200 บาท ให้ผู้ประสบภัยในจังหวัดเชียงราย
  • ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและมอบสิ่งของให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม
  • นายวันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย รายงานว่าน้ำท่วมกระทบ 52 ชุมชน และ 12,000 ครัวเรือน
  • ปัญหาสำคัญคือดินโคลนสะสมที่ยากต่อการทำความสะอาด ต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากหน่วยงานต่างๆ
  • รัฐบาลเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุม ครม. ในสัปดาห์หน้าเพื่อพิจารณางบประมาณช่วยเหลือเพิ่มเติม

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : เทศบาลนครเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI CULTURE

เชียงรายเดินหน้าเป็นเมืองสร้างสรรค์ยูเนสโก ผลักดันเศรษฐกิจวัฒนธรรมท้องถิ่น

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 เวลา 09.00 น. ณ ห้องประชุมลานนา 2 โรงแรมเฮอริเทจ เชียงราย จังหวัดเชียงราย นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย มอบหมายให้นางอุบลรัตน์ พ่วงภิญโญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธานเปิดการประชุมการขับเคลื่อน “เมืองเชียงราย เมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบของ UNESCO” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงราย (อพท.เชียงราย)

การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภาคส่วน เช่น นายพิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย, นายเสริฐ ไชยยานันตา ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย, นายวีรัตน์ สามุมิตร ศึกษาธิการจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย, ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง, มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาเชียงราย, หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้แทนจากภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวในเชียงราย เข้าร่วมเพื่อแลกเปลี่ยนและนำเสนอแนวคิดการออกแบบเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO สำหรับการพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองที่โดดเด่นทั้งในด้านวัฒนธรรมและการออกแบบอย่างยั่งยืน

ประเด็นสำคัญในการประชุมครั้งนี้ มีดังนี้

  1. ประโยชน์และความเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO
    ดร.คัชพล จั่นเพชร หัวหน้างานพัฒนานวัตกรรมการท่องเที่ยว สำนักพัฒนาขีดความสามารถการท่องเที่ยว (อพท.) ได้อธิบายถึงประโยชน์และบทบาทที่จังหวัดเชียงรายจะได้รับในฐานะสมาชิกเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ การส่งเสริมภาพลักษณ์ของเมือง และการกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น

  2. กิจกรรมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO
    รศ.ดร. พลวัฒ ประพัฒน์ทอง อาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ได้กล่าวถึงความสำคัญของการเข้าร่วมกิจกรรมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ และได้หารือเกี่ยวกับการจัดเตรียมการฉลองครบรอบ 1 ปี การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของ UNESCO ในเชียงราย เพื่อแสดงถึงความก้าวหน้าและผลสำเร็จในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน

  3. แผนการขับเคลื่อนการเป็นเมืองสร้างสรรค์
    รศ.ดร. พลวัฒ ประพัฒน์ทอง และนางพร้อมพร จินดาวงศ์ เนตรหาญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเชียงรายพัฒนาเมือง (CRCD) ได้ร่วมกันนำเสนอแผนการดำเนินงานในการขับเคลื่อนเชียงรายให้ก้าวสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบอย่างสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ของ UNESCO

  4. การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก
    ผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับการส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่นผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น การใช้ความคิดสร้างสรรค์มาช่วยต่อยอดสินค้าและบริการในท้องถิ่น เช่น การพัฒนาสินค้าหัตถกรรม, สินค้าเกษตรแปรรูป, การสร้างกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และการจัดการพื้นที่ทางวัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีเอกลักษณ์

  5. การกระตุ้นการสร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจและสังคม
    การพัฒนาศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่นจะก่อให้เกิดการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวทางด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น พร้อมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจแก่ชุมชนต่างๆ ในจังหวัดเชียงราย

ผลจากการประชุมนี้
การประชุมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชนในการขับเคลื่อนเชียงรายให้เป็นเมืองสร้างสรรค์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมุ่งเน้นการอนุรักษ์วัฒนธรรมท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการออกแบบและพัฒนาเมืองให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนตามเกณฑ์ของ UNESCO

การขับเคลื่อนดังกล่าวจะนำไปสู่การเติบโตของเศรษฐกิจท้องถิ่น เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์และบริการในชุมชน และสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ในการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาบ้านเกิดอย่างสร้างสรรค์และมีคุณค่า

คำแนะนำเพิ่มเติม
ผู้เข้าร่วมประชุมต่างเห็นพ้องว่าการพัฒนาเมืองเชียงรายต้องเป็นไปอย่างสมดุลและมีการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการยอมรับและความร่วมมืออย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมและโครงการต่างๆ ในอนาคตจะเน้นการสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการรับรู้และการเข้าถึงข้อมูลอย่างทั่วถึง

การประชุมครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของจังหวัดเชียงราย
ที่มุ่งมั่นสู่การเป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านการออกแบบที่โดดเด่นในระดับประเทศและระดับสากล สร้างแรงบันดาลใจและความตระหนักรู้ในการอนุรักษ์วัฒนธรรม ควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและยั่งยืน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สนง.วัฒนธรรม เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศบภ.มทบ.37 ลงพื้นที่ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบาง ฟื้นฟูบ้านเรือนในชุมชนแม่สาย

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 กองบัญชาการกองทัพบกที่ 37 (ศบภ.มทบ.37) โดย กองพันทหารราบที่ 17 กรมทหารราบที่ 3 ในพระองค์ฯ (ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ) ได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนของประชาชนในกลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม โดยได้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชุมชนไม้ลุงขน, ชุมชนเกาะทราย และพื้นที่ใกล้เคียง ในเขตอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย การลงพื้นที่ในครั้งนี้ถือเป็นการช่วยเหลือเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนและสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้ประสบภัยให้กลับมามีความหวังอีกครั้ง

ลงพื้นที่ฟื้นฟูบ้านเรือนและโรงเรียนในชุมชนไม้ลุงขน

การปฏิบัติภารกิจครั้งนี้ เริ่มจากการทำความสะอาดโรงเรียนบ้านไม้ลุงขน ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่ ทางเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 ได้ช่วยกันล้างทำความสะอาดพื้น กำแพง รวมถึงจัดเก็บสิ่งของที่ถูกโคลนและเศษซากต่าง ๆ ที่ถูกน้ำพัดมากองทับถมกันหลังน้ำลด เพื่อเตรียมความพร้อมให้โรงเรียนสามารถกลับมาเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติเร็วที่สุด

นอกจากนี้ ศบภ.มทบ.37 ยังได้ลงพื้นที่เพิ่มเติมตามคำร้องขอของผู้ใหญ่บ้านในชุมชน เพื่อเข้าช่วยเหลือทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่บ้านไม้ลุงขน หมู่ที่ 10 ตำบลแม่สาย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย หนึ่งในบ้านที่ได้รับการช่วยเหลือคือ บ้านของนางภัณฑิลา มูลเมืองคำ ซึ่งเป็นบ้านในกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถซ่อมแซมได้เอง เนื่องจากสภาพโครงสร้างที่เสียหายหนักจากโคลนและน้ำท่วม ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ช่วยกันทำความสะอาด กำจัดดินโคลนที่ทับถมอยู่ภายในบ้าน และซ่อมแซมจุดที่เสียหายอย่างเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าของบ้านสามารถกลับเข้าไปอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัยอีกครั้ง

ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานทหารและชุมชน

การดำเนินการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการช่วยเหลือจากภาครัฐเท่านั้น แต่ยังได้รับความร่วมมือจากชุมชนและผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ที่ช่วยประสานงานและนำเสนอข้อมูลการช่วยเหลือที่ต้องการเป็นลำดับแรก เพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและตรงกับความต้องการของประชาชน โดยการสนับสนุนจาก ร.17 พัน.3 ในพระองค์ฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักที่มีความเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูและบรรเทาสาธารณภัย เป็นการแสดงถึงความร่วมมืออย่างเข้มแข็งระหว่างหน่วยงานรัฐและชุมชนท้องถิ่น

สร้างขวัญกำลังใจและคืนความหวังให้ผู้ประสบภัย

หนึ่งในเป้าหมายสำคัญของการช่วยเหลือครั้งนี้ ไม่เพียงแค่การทำความสะอาดและซ่อมแซมบ้านเรือน แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ประสบภัยที่อยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งบางครอบครัวสูญเสียทั้งทรัพย์สินและบ้านเรือน การลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่จาก ศบภ.มทบ.37 นอกจากจะช่วยเหลือด้านแรงงานแล้ว ยังได้พูดคุยและให้คำแนะนำเกี่ยวกับการฟื้นฟูบ้านเรือนและการดูแลสุขอนามัยหลังน้ำลด เพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดโรคที่อาจมาจากสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด

นางภัณฑิลา มูลเมืองคำ หนึ่งในผู้ที่ได้รับการช่วยเหลือกล่าวว่า “รู้สึกซาบซึ้งและดีใจมากที่ได้รับการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ทหารและชุมชน ทุกคนเข้ามาช่วยกันทำความสะอาด ซ่อมแซมบ้าน และให้กำลังใจ ทำให้มีกำลังใจที่จะกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติอีกครั้ง ขอบคุณทุกคนมาก ๆ ค่ะ”

มุ่งมั่นฟื้นฟูและเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคต

นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การซ่อมแซมและฟื้นฟู แต่ยังมีการวางแผนการป้องกันและการเตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในอนาคต ซึ่งถือเป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทาง วสท. จะทำการสำรวจและออกแบบระบบป้องกันน้ำท่วมเพิ่มเติมเพื่อให้ชุมชนสามารถป้องกันและลดผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน

จากความช่วยเหลือครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานราชการ ภาคประชาชน และชุมชนที่เข้ามามีส่วนร่วมในการฟื้นฟูบ้านเรือนและสภาพแวดล้อม นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งและความสามัคคีในชุมชน ทำให้การช่วยเหลือครั้งนี้ไม่เพียงแค่การซ่อมแซมบ้านเรือนเท่านั้น แต่ยังเป็นการฟื้นฟูจิตใจและสร้างความเข้มแข็งให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบอีกด้วย

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TRAVEL

‘อ.เชียงแสน’ เปิดสวนสาธารณะใหม่ ลานกิจกรรมธรรมชาติ-จุดพักผ่อน

 

การอัปเดตข่าวสารเกี่ยวกับสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน ที่กำลังได้รับการพัฒนาให้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และสถานที่ออกกำลังกายของชาวเชียงแสน เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาสาธารณูปโภคที่สำคัญในจังหวัดเชียงราย ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดบอกได้เลยว่าสวยงามมาก สวนสาธารณะแห่งนี้มีทั้งลานกิจกรรม ลานสเก็ต และพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกาย ทำให้เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับคนทุกวัยที่จะมาพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ โดยสวนสาธารณะแห่งนี้ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเชียงแสน ที่มีประวัติศาสตร์และวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม

เชียงแสน อำเภอหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจังหวัด ล้อมรอบด้วยแม่น้ำโขงและภูเขาสูงทั้งทางฝั่งไทยและลาว ซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อทางวัฒนธรรมและการค้าระหว่างไทย ลาว และพม่า โดยเฉพาะบริเวณ “สามเหลี่ยมทองคำ” ที่มีชื่อเสียงมากในการท่องเที่ยวและการขนส่งสินค้าในภาคเหนือของประเทศไทย

 

เชียงแสนยังเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ มีซากโบราณสถานมากมายที่บอกเล่าเรื่องราวความรุ่งเรืองในอดีตของเมืองนี้ และเป็นจุดที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวที่สนใจในประวัติศาสตร์และธรรมชาติ เนื่องจากเมืองนี้เป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์จากแม่น้ำโขงไหลผ่าน ทำให้มีการทำการเกษตรและการค้าขายที่เจริญเติบโตมาตั้งแต่สมัยโบราณ

สวนสาธารณะแห่งใหม่ที่กำลังพัฒนาในเชียงแสนไม่เพียงแค่เป็นพื้นที่สีเขียวสำหรับการออกกำลังกายและพักผ่อน แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้กับเชียงแสน ซึ่งเป็นเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน โดยสถานที่ตั้งของสวนสาธารณะนี้อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญหลายแห่งในเชียงแสน เช่น ซากเมืองโบราณและแม่น้ำโขง ทำให้สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาพักผ่อนและท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงได้ง่ายขึ้น

พื้นที่เชียงแสนมีอาณาเขตที่ติดต่อกับอำเภอแม่สาย รัฐฉานของประเทศพม่า และแขวงบ่อแก้วของประเทศลาว ซึ่งสร้างโอกาสในการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าข้ามชาติ ทำให้เชียงแสนกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศในภาคเหนือของประเทศไทย

 

 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและประวัติศาสตร์ เชียงแสนถือเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด ด้วยวิวทิวทัศน์ที่งดงามและความเป็นมาอันยาวนาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาในปัจจุบันที่ทำให้เชียงแสนมีความทันสมัยมากขึ้น แต่ยังคงรักษาเสน่ห์ของเมืองโบราณไว้อย่างดี

สำหรับการเดินทางมาท่องเที่ยวในเชียงแสน นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้สะดวกทั้งทางรถยนต์ส่วนตัวและรถโดยสารจากตัวเมืองเชียงราย การท่องเที่ยวที่นี่ไม่เพียงแค่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอันงดงาม แต่ยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลายของพื้นที่นี้

สุดท้ายนี้ ขอเชิญชวนทุกท่านที่สนใจมาเที่ยวชมสวนสาธารณะเมืองเชียงแสน และสำรวจเมืองประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติและเสน่ห์ทางวัฒนธรรมไว้อย่างดี

เครดิตข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

ภาพโดย : Kho RachaSit

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

วิศวกรอาสาลงพื้นที่เชียงราย ช่วยเหลือฟื้นฟูบ้านเรือนหลังน้ำท่วมหนัก

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) นำโดย นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข อุปนายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ได้นำทีมวิศวกรอาสาจำนวน 100 คน ลงพื้นที่ชุมชนสายลมจอย อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เพื่อตรวจสอบความเสียหายของอาคารบ้านเรือนและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม

นายสมจิตร เปี่ยมเปรมสุข เปิดเผยว่า วิกฤตการณ์อุทกภัยทางภาคเหนือตอนบน รวมถึงในจังหวัดเชียงราย ได้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่สายที่ได้รับผลกระทบหนักจากน้ำท่วมครั้งนี้ ทีมวิศวกรอาสาจาก วสท. ที่มีจำนวน 100 คน ได้ลงพื้นที่สำรวจและตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนในชุมชน เพื่อประเมินสภาพโครงสร้างอาคาร ระบบไฟฟ้า และความปลอดภัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการฟื้นฟูและการป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้นซ้ำ

“ทีมวิศวกรอาสาจากสภาวิศวกรและ วสท. ซึ่งรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ได้ตระหนักถึงความต้องการความช่วยเหลือด้านวิศวกรรมในพื้นที่นี้ จึงได้จัดตั้งทีมงานเพื่อเข้าตรวจสอบความปลอดภัยของโครงสร้างบ้านเรือนและอาคารในพื้นที่ประสบภัย” นายสมจิตร กล่าวเพิ่มเติม

นอกจากนี้ ทีมวิศวกรยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ในการร่วมกันฟื้นฟูบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหาย โดยเน้นให้ความสำคัญกับการตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างอาคารต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม รวมไปถึงการประเมินสภาพของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อื่นๆ ที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้พักอาศัย

นายสมจิตรกล่าวว่า วสท. และสภาวิศวกร มีพันธกิจตาม พ.ร.บ.วิศวกร พ.ศ. 2542 มาตรา 7 (5) ที่กำหนดให้มีการให้บริการวิชาการและเทคโนโลยีทางวิศวกรรมแก่ประชาชน โดยทีมวิศวกรอาสาจาก วสท. ในครั้งนี้เป็นการตอบสนองตามพันธกิจดังกล่าว โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติให้สามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้อย่างปลอดภัย

ในส่วนของการฟื้นฟูพื้นที่ นายสมจิตรยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่า ในการสำรวจครั้งนี้จะมีการประเมินทั้งสภาพโครงสร้างภายในและภายนอกอาคาร เพื่อให้แน่ใจว่าการซ่อมแซมจะทำให้บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างมีความปลอดภัยและพร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ทาง วสท. ยังมีแผนที่จะร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นและองค์กรภาคประชาสังคมในการฝึกอบรมวิศวกรท้องถิ่น เพื่อให้สามารถช่วยเหลือชุมชนในอนาคตหากเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติขึ้นอีก

การลงพื้นที่ในครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยเฉพาะการช่วยเหลือในด้านอุปกรณ์และเครื่องมือที่จำเป็นในการตรวจสอบสภาพบ้านเรือนและโครงสร้างอาคาร นายสมจิตร กล่าวว่าการฟื้นฟูพื้นที่ในครั้งนี้จะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์หรืออาจจะนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับขอบเขตความเสียหายของแต่ละพื้นที่ แต่การทำงานของทีมวิศวกรจาก วสท. จะมุ่งเน้นไปที่การฟื้นฟูในลักษณะที่ยั่งยืนและปลอดภัยต่อประชาชน

ทางด้านผู้บริหารจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการป้องกันภัยพิบัติในอนาคต โดยการวางแผนเชิงโครงสร้างในระยะยาว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบนี้ซ้ำอีกในอนาคต นอกจากนี้ยังได้เสนอให้มีการพัฒนาระบบเตือนภัยที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อให้ประชาชนได้รับการเตือนภัยล่วงหน้าและมีเวลาในการเตรียมพร้อม

นายสมจิตรปิดท้ายว่า “ความเสียหายจากน้ำท่วมครั้งนี้สร้างความยากลำบากให้กับประชาชนในพื้นที่แม่สายเป็นอย่างมาก แต่การร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ เอกชน หรือภาคประชาสังคม ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้การฟื้นฟูในครั้งนี้เป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรามุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือประชาชนให้กลับมามีชีวิตที่ปลอดภัยและมั่นคงโดยเร็วที่สุด”

การลงพื้นที่สำรวจและให้ความช่วยเหลือครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ทั้งในด้านความปลอดภัยและการฟื้นฟูชีวิตความเป็นอยู่ ซึ่งทาง วสท. และสภาวิศวกรยังคงยืนยันที่จะให้ความช่วยเหลือและร่วมมือกับทุกภาคส่วนต่อไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI TOP STORIES

ขยะน้ำท่วม ‘เชียงราย-แม่สาย’ ตกค้าง 5.5 หมื่นตัน ขอเอกชนฝังกลบ

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 นายสุรินทร์ วรกิจธำรง รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และรองโฆษก คพ. เปิดเผยว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้สั่งการ คพ. ติดตามสำรวจขยะมูลฝอย ประสานหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งภาคเอกชน ให้ความช่วยเหลือเร่งการจัดเก็บขนขยะมูลฝอยหลังน้ำลดให้แก่ประชาชนในจังหวัดเชียงรายเร่งด่วน..

นายสุรินทร์กล่าวว่า คพ.ได้ประสานขอความร่วมมือ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด (SCG ลำปาง) และสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า พร้อมลงพื้นที่เพื่อสรุปการทำงานร่วมกันในการการคัดแยกขยะในพื้นที่ประสบอุทกภัยไปใช้ประโยชน์ โดย SCG ลำปาง ยินดีรับขยะไปเผาเป็นพลังงาน ซึ่งต้องมีการรื้อร่อนขยะเอาดินออก ขยะที่สามารถนำไปใช้ได้ ได้แก่ พลาสติก และไม้บางส่วน คาดว่าจะมีประมาณ ร้อยละ 40 ของปริมาณขยะทั้งหมด และจะเป็นผู้จัดหารถเพื่อขนขยะที่รื้อร่อนแล้วส่งไปยังโรงงาน SCG ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ ในส่วนสมาคมซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่ายินดีให้การสนับสนุนเครื่องจักรในการรื้อร่อน และอยู่ระหว่างประสานกับเทศบาลนครเชียงรายเพื่อหาจุดที่ตั้งที่เหมาะสมต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็น ณ บริเวณศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยของเทศบาลนครเชียงราย ซึ่งใกล้บ่อฝังกลบ ส่วนดินโคลนที่เหลือจากการรื้อร่อน สมาคมจะช่วยหาแนวทางในการนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป

นายสุรินทร์กล่าวต่อว่า รายงานการกำจัดขยะมูลฝอยพื้นที่น้ำท่วม ณ วันที่ 25 กันยายน 2567 เทศบาลตำบลแม่สาย มีปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 18,000 ตัน ปริมาณขยะที่เก็บขนได้ 3,721 ตัน นำไปฝังกลบ ณ ศูนย์กำจัดขยะมูลฝอยเทศบาลตำบลแม่สาย พื้นที่ตำบลเวียงพางคำ คงเหลือขยะตกค้าง 14,279 ตัน เทศบาลนครเชียงราย มีปริมาณขยะที่เกิดขึ้น 50,000 ตัน ปริมาณขยะที่เก็บขนได้ 9,000 ตัน นำไป ณ จุดพักขยะชั่วคราว ดอยสะเก็น และหลังเดอะมูน คงเหลือขยะตกค้าง 41,000 ตัน ปัญหาอุปสรรค ทั้งสองพื้นที่มีจุดพักขยะไม่เพียงพอทำให้มีกองขยะสูงเริ่มส่งกลิ่นเหม็น เครื่องจักรและแรงงานไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องจัดหาจุดพักขยะ เครื่องจักร และแรงงานเพิ่มเติม พร้อมจัดระเบียบการขนย้ายระหว่างจุดพักขยะและบ่อฝังกลบให้สมดุลกัน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กรมควบคุมมลพิษ (คพ.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI SOCIETY & POLITICS

ศปช. เคาะแผนเยียวยาเชียงรายรวบรัดให้เร็ว เพื่อเงินถึงมือประชาชน

 

เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานว่า จากการตั้งข้อสังเกตปริมาณฝนที่เกิดขึ้นไม่ได้มากกว่าที่ผ่านแต่เป็นการตกเฉพาะที่แบบซ้ำซาก ซึ่งน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศ (Climate Change) จึงมอบหมายให้กรมอุตุนิยมวิทยาไปศึกษาให้ถ่องแท้ ซึ่งถือว่าเป็นภารกิจหลักที่ต้องชี้แจงและเตือนภัย เพื่อป้องกันเหตุที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย เป็น 2 ลักษณะผสมของฝนและดินโคลน ซึ่งสถานการณ์ตรงนี้แตกต่างจากที่อื่น เพราะเป็นน้ำผสมดินโคลน ดังนั้น เป็นน้ำที่อันตรายกว่าน้ำท่วมปกติ คล้ายกับภูเขาไฟระเบิดที่เป็นลาวาผสมน้ำไหลลงมา และเชื่อว่าอาจจะเกิดขึ้นได้อีก โดยมอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีไปศึกษาให้ครบถ้วน

การที่น้ำผสมโคลนที่ตกค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้การกำจัดและกู้ภัยเป็นไปได้ยาก ถือเป็นเรื่องใหม่ที่ประเทศไทยพบเจอ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จะต้องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดการกับเรื่องนี้ ส่วนฝ่ายกองทัพก็ต้องเข้ามาศึกษาตั้งแต่เบื้องต้นรวมทั้งจะแก้ปัญหาในอนาคตอย่างไร รวมถึงการจัดหาเครื่องมือที่เหมาะสมเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย

โดยที่ประชุมเห็นชอบแผนการดำเนินงานการช่วยเหลือ/ฟื้นฟู เพื่อแก้ไขปัญหาดินโคลนถล่มในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย ในพื้นที่อำเภอเมือง และในอำเภอแม่สาย ดังนี้

  • พื้นที่อำเภอเมือง แบ่งเขตการดำเนินงานในเขตเทศบาลนครเชียงราย จำนวน 745 หลัง และนอกเขตเทศบาล จำนวน 6,614 หลัง กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 29 กันยายน 2567
  • พื้นที่อำเภอแม่สาย แบ่งการดำเนินการเป็น 5 โซน กำหนดดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 30 วัน หรือประมาณวันที่ 20 ตุลาคม 2567

ส่วนปัญหาการเยียวยาที่มีกฎระเบียบและดำเนินการในภาวะปกติเป็นอุปสรรคนั้น นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ดูแลว่าจะทำอย่างไรให้กระบวนการตรงนี้ให้ถูกกฎหมาย แต่รวบรัดให้เร็วที่สุด เพื่อให้เงินถึงมือประชาชน ให้ประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้ง ซึ่งลักษณะน้ำท่วมแบบพิเศษนี้จะต้องมีการกำหนดค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้จัดตั้งคณะที่ปรึกษาผู้มีความเชี่ยวชาญ โดยมีนายปลอดประสพ สุรัสวดี เป็นที่ปรึกษาคณะทำงาน และตน เป็นโฆษกประจำศูนย์ฯ เพื่อทำหน้าที่ชี้แจงสถานการณ์รายวันได้อย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ได้สั่งการให้นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ว่าที่ปลัดกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เชียงรายเพื่อกำกับดูและสถานการณ์ เนื่องจากนายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายป่วย และใกล้เกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย.นี้ นอกจากนี้ได้มอบหมายรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ไปรักษาราชการแทนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ในวันพรุ่งนี้ (27 ก.ย.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางลงพื้นที่ไปจังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามการช่วยเหลือประชาชน พร้อมประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น ผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่ เพื่อกำหนดทิศทาง และหาข้อสรุป เพื่อใช้เป็นแผนยุทธศาสตร์รับมือกับการเกิดอุทกภัย และวาตภัยของประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : คณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FOOD

Triple C คาเฟ่ริมน้ำกกเชียงราย พร้อมสู้ครั้งใหม่ หลังน้ำท่วมใหญ่

 

คาเฟ่ใต้ต้นฉำฉายักษ์ ริมแม่น้ำกก กับ Triple C Campsite & Cafe ฟื้นตัวหลังน้ำท่วมหนัก

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ได้ลงพื้นที่สำรวจร้าน Triple C Campsite & Cafe (ทริปเปิ้ล ซี แคมป์ไซต์ แอนด์ คาเฟ่) คาเฟ่บรรยากาศดี ริมแม่น้ำกกในตัวเมืองเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567

คาเฟ่แห่งนี้ตั้งอยู่ในทำเลที่แสนสงบร่มรื่น มีสนามเด็กเล่น บ่อทรายขนาดเล็ก และพื้นที่กว้างขวางที่เหมาะกับครอบครัวและเด็กๆ นอกจากนี้ยังมีวิวแม่น้ำกกที่สวยงามและบรรยากาศสดชื่น แต่ด้วยสถานการณ์น้ำกกล้นตลิ่งจากฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน ส่งผลให้ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมพื้นที่คาเฟ่

 

ทางทีมข่าวได้พูดคุยกับ คุณฟ้า เจ้าของร้าน Triple C Campsite & Cafe เธอเล่าให้ฟังว่า “น้ำเริ่มเข้ามาตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน คืนนั้นเทศบาลมีการเปิดไซเรนเตือนภัย แต่ตอนนั้นระดับน้ำยังดูไม่น่ากลัวมากนัก วันนั้นเป็นวันหยุดของร้านพอดีเลยไม่มีพนักงานช่วยขนของ ฉันเองก็ท้องแก่ เลยทำอะไรไม่ค่อยได้ ทำได้แค่พาแมว 9 ตัว กับกระต่าย 2 ตัวออกมาเท่านั้น”

คุณฟ้าเล่าต่อว่า ระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในคืนนั้น น้ำบนถนนหน้าร้านท่วมถึงอก ส่วนในร้านน้ำสูงประมาณต้นขา แม้ว่าร้านจะยกพื้นสูงกว่าถนน แต่ก็ยังไม่พ้นที่จะได้รับความเสียหาย เครื่องใช้ไฟฟ้าเกือบทั้งหมดในร้านเสียหาย รวมถึงเปียโนอายุกว่า 100 ปี และรถคลาสสิคอย่าง Land Rover และ Ford Transit ก็จมไปครึ่งคัน มูลค่าความเสียหายโดยประมาณอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท

 

หลังน้ำลดลง ร้านก็เริ่มทำการฟื้นฟูพื้นที่และสวนทันที คุณฟ้าเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า “วันนี้ (25 กันยายน 2567) เราเริ่มลงสวนใหม่แล้วค่ะ เพราะอยากเปิดร้านให้เร็วที่สุด เราคาดว่าวันที่ 27 กันยายน 2567 จะทดลองเปิดขายเฉพาะเครื่องดื่ม และเปิดให้นั่งได้ในโซนภายในอาคาร ส่วนโซนนอกอาคารและสวนจะต้องใช้เวลาอีกนิด แต่เราหวังว่าจะพร้อมให้บริการเต็มรูปแบบในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 โดยจะมีทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เค้ก และเบเกอรี่เหมือนเดิม”

นอกจากการฟื้นฟูร้าน Triple C Campsite & Cafe ยังได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือชุมชนที่ประสบภัยด้วยการบริจาคอุปกรณ์ทำความสะอาดให้กับชาวบ้าน คุณฟ้ากล่าวว่า “ครั้งนี้หนักมากค่ะ หลายๆ ร้านในเชียงรายก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน หวังว่าช่วงหน้าไฮซีซั่นที่กำลังจะมาถึงจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและค้าขายในพื้นที่ได้บ้าง”

 

ร้าน Triple C Campsite & Cafe เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 09:00-17:00 น. โดยจะหยุดทุกวันพุธ ยกเว้นวันพุธที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ ร้านตั้งอยู่ใกล้สะพานขัวพญามังราย หากเดินทางจากแยก สภ.เมืองเชียงราย มุ่งหน้าสู่ตลาดบ้านใหม่ ให้ลงสะพานขัวพญามังรายแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบ้านใหม่ ซอย 21 ขับเข้ามาตามป้ายร้าน

คุณฟ้าทิ้งท้ายด้วยความหวังว่า “ตอนนี้กังวลเรื่องค่าใช้จ่ายและสภาพเศรษฐกิจหลังจากนี้ค่ะ เพราะก่อนน้ำท่วมหลายร้านในเชียงรายก็เงียบอยู่แล้ว หวังว่าการฟื้นตัวของร้านจะกลับมาได้ไวๆ และขอเชิญชวนลูกค้าทุกท่านแวะมาพักผ่อนที่ร้านของเรา เมื่อเรากลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งค่ะ”

 

การเดินทางมายังร้าน Triple C Campsite & Cafe

  • ร้านใกล้สะพานขัวพญามังราย, ซอยบ้านใหม่ 21, เชียงราย
  • พิกัด : https://g.co/kgs/4vPhzZT 
  • เปิดบริการ: ทุกวัน 09:00-17:00 น. (หยุดวันพุธ)
  • เบอร์โทรศัพท์: 091-594-6669

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
Categories
AROUND CHIANG RAI FEATURED NEWS

เซ็นทรัลพัฒนา ส่งมอบของช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมแม่สาย เชียงราย

 

เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นำโดยนายสายัณห์ นักบุญ ผู้อำนวยการ พร้อมด้วยทีมผู้บริหารและอาสาสมัครจากศูนย์การค้าเซ็นทรัล เชียงราย ได้ร่วมกันมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคที่จำเป็นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย สิ่งของที่มอบประกอบไปด้วย ข้าวสาร อาหารแห้ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป น้ำดื่ม นมสำหรับเด็ก ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ผ้าอนามัย ผงซักฟอก สบู่ แชมพู ยาสีฟัน และของใช้จำเป็นอื่นๆ รวมมูลค่ากว่า 30,000 บาท

การมอบสิ่งของครั้งนี้มี พล.ต. อนุมาศ พินิจชอบ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองทัพไทย และ พ.อ.ณัฐวุฒิ ดวงจรัส เสนาธิการกองบัญชาการโรงเรียนช่างฝีมือทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ เป็นผู้รับมอบ เพื่อส่งต่อสิ่งของเหล่านี้ไปยังประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ดังกล่าว

การสนับสนุนในครั้งนี้ถือเป็นการแสดงออกถึงความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทเซ็นทรัลพัฒนา ซึ่งได้ร่วมมือกับกองทัพไทยในการช่วยเหลือและฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News