FAQs

  1. ปะการังขนาดยักษ์นี้ค้นพบที่ไหน?
    ค้นพบในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ใกล้หมู่เกาะโซโลมอน

  2. ปะการังนี้มีอายุเท่าไหร่?
    มีอายุมากกว่า 300 ปี และสามารถมองเห็นได้จากอวกาศ

  3. ทำไมการค้นพบนี้ถึงสำคัญ?
    เพราะแสดงให้เห็นว่าปะการังยังคงสามารถเติบโตได้ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม แม้จะมีภาวะโลกร้อน

  4. การค้นพบนี้จะช่วยส่งเสริมการอนุรักษ์อย่างไร?
    อาจดึงดูดนักวิจัยและนักท่องเที่ยว เพิ่มทุนในการอนุรักษ์และการปกป้องสิ่งแวดล้อม

  5. ปะการังมีความสำคัญต่อมนุษย์อย่างไร?
    เป็นแหล่งอาหารสำคัญและช่วยปกป้องชายฝั่งจากพายุและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล

ค้นพบปะการังใหญ่ที่สุดในโลกในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ เห็นได้จากอวกาศ

เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ทีมนักวิทยาศาสตร์ประกาศการค้นพบครั้งใหญ่ในโลกใต้ท้องทะเล เมื่อพวกเขาค้นพบ ปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกใต้ ใกล้กับหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึงกว่า 100 ฟุต และมีอายุมากกว่า 300 ปี ที่น่าทึ่งคือปะการังขนาดใหญ่นี้สามารถมองเห็นได้จากอวกาศ ซึ่งนับเป็นการค้นพบที่หายากและสร้างความตื่นเต้นให้กับวงการวิทยาศาสตร์ทะเล

ค้นพบครั้งสำคัญในการสำรวจของ National Geographic Pristine Seas

ปะการังขนาดยักษ์นี้ถูกค้นพบในระหว่างการสำรวจทางวิทยาศาสตร์ที่นำโดยโครงการ National Geographic Pristine Seas ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อศึกษาสุขภาพของมหาสมุทรในบริเวณหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ “Coral Triangle” พื้นที่ที่ถือว่ามีความหลากหลายทางชีวภาพสูงที่สุดแห่งหนึ่งในโลก

ปะการังที่ค้นพบนี้มีขนาด ใหญ่กว่าสถิติปะการังเดิมที่เคยค้นพบในอเมริกันซามัวถึงสามเท่า และมีความยาวมากกว่าสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างปลาวาฬสีน้ำเงิน

ปะการังเดี่ยวที่เติบโตต่อเนื่องมานานหลายศตวรรษ

ต่างจากแนวปะการังทั่วไปที่ประกอบด้วยหลายโคโลนี ปะการังที่ค้นพบนี้เป็นปะการังเดี่ยวขนาดใหญ่ที่เติบโตต่อเนื่องมายาวนานกว่า 300 ปี โดยประกอบไปด้วย โพลิปนับพันล้านตัว ที่รวมตัวกันเป็นปะการังยักษ์ที่มีชีวิตชีวา จากมุมมองด้านบน ปะการังนี้ดูคล้ายกับหินขนาดใหญ่สีน้ำตาล ซึ่งทำให้ผู้สำรวจบางคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นซากเรืออับปาง

การค้นพบที่สร้างความหวังให้กับการอนุรักษ์ปะการัง

การค้นพบครั้งนี้นับว่าเป็นข่าวดีในช่วงเวลาที่แนวปะการังทั่วโลกกำลังเผชิญกับปัญหา การฟอกขาว และความเสียหายจากภาวะโลกร้อน ดร.เอมิลี่ ดาร์ลิ่ง ผู้อำนวยการด้านปะการังของ Wildlife Conservation Society กล่าวว่าการค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าปะการังยังสามารถเติบโตและมีชีวิตได้ดีในสภาวะที่เหมาะสม แม้จะอยู่ท่ามกลางวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ความสำคัญของปะการังต่อมนุษย์และสิ่งแวดล้อม

ปะการังไม่เพียงแต่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศทางทะเล แต่ยังเป็นแหล่งอาหารสำคัญที่สนับสนุนการประมงและวิถีชีวิตของผู้คนกว่าพันล้านคนทั่วโลก นอกจากนี้ แนวปะการังยังทำหน้าที่เป็นกำแพงธรรมชาติที่ช่วยปกป้องชายฝั่งจากพายุและการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล

อย่างไรก็ตาม การค้นพบครั้งนี้ยังเป็นการเตือนให้เห็นถึงภัยคุกคามที่ยังคงมีอยู่ ปะการังแม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกลแต่ยังคงเผชิญกับความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อนและกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การทำประมงเกินขนาด มลพิษจากอุตสาหกรรม และการทิ้งของเสียลงสู่ทะเล

ผลกระทบของการค้นพบต่อหมู่เกาะโซโลมอน

นายเดนนิส มาริตา ผู้อำนวยการด้านวัฒนธรรมของกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของหมู่เกาะโซโลมอนกล่าวว่าการค้นพบปะการังขนาดยักษ์นี้อาจนำไปสู่การดึงดูดนักวิจัยและนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มทุนในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมเศรษฐกิจของชุมชน

ภัยคุกคามจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

ถึงแม้ว่าปะการังขนาดใหญ่นี้จะอยู่ในสภาพที่ดี แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงจากภาวะโลกร้อนที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รายงานจาก องค์การบริหารมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (NOAA) ระบุว่าการฟอกขาวของแนวปะการังทั่วโลกในปีนี้เป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดที่เคยมีการบันทึกไว้ และกว่า 40% ของปะการังที่สร้างแนวปะการังในน่านน้ำอุ่นกำลังเผชิญกับการสูญพันธุ์

ความหวังจากการค้นพบครั้งนี้

แม้ว่าแนวปะการังทั่วโลกจะอยู่ในสภาวะที่เปราะบาง การค้นพบปะการังขนาดใหญ่นี้ยังคงเป็นสัญญาณแห่งความหวัง ดร.ดีเร็ค แมนเซลโล จาก NOAA กล่าวว่า การที่ปะการังนี้สามารถดำรงชีวิตได้นานถึงหลายร้อยปีแสดงให้เห็นว่า ยังมีสภาพแวดล้อมที่สามารถสนับสนุนการเติบโตของปะการังได้ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากภาวะโลกร้อน

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : cnn

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
FOLLOW ME
MOST POPULAR