
เชียงราย,13 พฤศจิกายน 2568 – การปิดไตรมาส 3/2568 ด้วยนักท่องเที่ยวรวม 1,195,635 คน สร้างรายได้ 9,763.48 ล้านบาท แต่รายได้ 84% มาจากคนไทย ขณะที่ต่างชาติคิดเป็นเพียง 16% สะท้อนโครงสร้างที่ “ยังเปราะบาง” ต่อดีมานด์ในประเทศ ททท.ประเมินไฮซีซันยังสดใสแม้ “ตลาดระยะใกล้” สะดุด ชี้ยุโรป–อเมริกามีแนวโน้มชดเชย ส่วนฝั่งการบิน CAAT รับข้อเสนอสมาคมสายการบินฯ ให้ “ชะลอขึ้นค่าธรรมเนียม–ลดภาษีน้ำมันอากาศยาน” เพื่อเร่งเครื่องเที่ยวบินในประเทศ คำถามสำคัญคือ เชียงรายจะใช้ “จุดแข็ง Medical Tourism และ Soft Power เมืองเหนือ” อย่างไร เพื่อขยับสัดส่วนรายได้ต่างชาติให้พ้น 16% ในรอบต่อไป
เมืองเหนือที่วิ่งด้วยแรงคนไทย
ยามบ่ายปลายฝนต้นหนาว ริมแม่น้ำกกยังเย็นสบาย ร้านกาแฟบนเนินเขาแน่นไปด้วยครอบครัว นักปั่น และนักเดินทางจากจังหวัดใกล้เคียง ภาพนี้อธิบาย “พลังตลาดในประเทศ” ของเชียงรายได้อย่างชัดเจน ตัวเลขจาก ศูนย์วิจัยและพัฒนาการท่องเที่ยว (CTRD) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่อ้างข้อมูล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในไตรมาส 3/2568 (ก.ค.–ก.ย.) เชียงรายรับนักท่องเที่ยวรวม 1.196 ล้านคน รายได้รวม 9,763.48 ล้านบาท โดยคนไทยคิดเป็น 87.2% ของจำนวนนักท่องเที่ยว และ 84% ของรายได้ ขณะที่ต่างชาติคิดเป็น 12.8% ของจำนวนคน และ 16% ของรายได้ นั่นแปลว่า “กระดูกสันหลัง” ของเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชียงรายในช่วงโลว์ซีซันยังเป็นคนไทยอย่างแท้จริง
ความจริงข้อนี้มีทั้งด้านบวกและด้านเปราะบาง ด้านบวกคือฐานลูกค้าภายในประเทศแข็งแรง สามารถพยุงธุรกิจในช่วงที่เที่ยวบินระหว่างประเทศยังไม่เต็มศักยภาพ แต่ด้านเปราะบางคือ หากเศรษฐกิจครัวเรือนไทยชะลอ ตัวเลขทั้งระบบของเชียงรายก็จะสะเทือนทันที การยกระดับ “สัดส่วนต่างชาติ” จึงไม่ใช่เพียงเรื่องภาพลักษณ์ แต่คือ “เกราะกันกระแทก” ทางเศรษฐกิจ
ภาพรวมไตรมาส สิงหาคมพีคสุดทั้งคนและรายได้
เมื่อลงลึกเป็นรายเดือน ภาพรวม กรกฎาคม–กันยายน สะท้อนจังหวะ “ค่อยๆ เร่งก่อนเข้าสู่ไฮซีซัน”
ตัวเลขนี้ตอกย้ำว่า “แรงซื้อไทย” คือหัวรถจักรหลักในช่วงโลว์ซีซัน ส่วนต่างชาติชะลอตัวตามบริบทตลาดเอเชียที่ยังไม่ฟื้นเต็มอัตรา โดยเฉพาะจีน ตลาดคู่ค้าที่เคยหนุนภาคเหนืออย่างมีนัยสำคัญ
ททท.อ่านเกมไฮซีซัน ตลาดไกลชดเชยตลาดใกล้
นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. ประเมินแนวโน้มไฮซีซันปีนี้ว่า “ยังสดใส” จากแรงส่งแคมเปญระดับประเทศ (เช่น งานวิจิตรเจ้าพระยา 2568 และเทศกาลลอยกระทงที่ก่อเม็ดเงินสะพัดกว่า 6.5 พันล้านบาท) และกิจกรรมส่งท้ายปีที่จะยกระดับไทยสู่หมุดหมายเคานต์ดาวน์ในสายตานานาชาติ อย่างไรก็ดี ททท.ก็ชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงที่ต้องระวัง ตลาดระยะใกล้ บางส่วน “ซบเซา” โดยเฉพาะ จีนลดลง ~35% และ เกาหลีใต้/สิงคโปร์ ยังชะลอ ขณะที่ รัสเซีย อังกฤษ สหรัฐ เยอรมนี ออสเตรเลีย มีสัญญาณบวกและถูกวางบทบาทให้ “ชดเชยเชิงโครงสร้าง” ในปีหน้า
สำหรับ ปี 2569 ททท.ตั้งเป้านักท่องเที่ยวต่างชาติ 34.9 ล้านคน รายได้รวม 2.79 ล้านล้านบาท โดยเปลี่ยน “เกมปริมาณ” สู่ “เกมคุณภาพ” ผ่าน 3 แกนยุทธศาสตร์
หากเชื่อมโยงกับโจทย์เชียงราย ข้อ 1 และ 2 มีน้ำหนักเป็นพิเศษ เมืองมีฐานบริการสุขภาพที่น่าเชื่อถือ มหาวิทยาลัยชั้นนำ และธรรมชาติที่เอื้อต่อการพักฟื้น ขณะที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงกำลังถูกผลักดันให้รองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในระยะถัดไป การ “เสียบปลั๊ก” เข้ากับแผนประเทศจึงมีความเป็นไปได้สูง
นโยบายการบิน ค่าธรรมเนียม–ภาษีน้ำมัน คือคันเร่งเที่ยวบิน
ฝั่ง สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (CAAT) รายงานการรับฟังข้อเสนอจาก สมาคมสายการบินประเทศไทย ณ กระทรวงคมนาคม (12 พ.ย. 2568) โดยมีแกนสำคัญคือ “ทำให้ต้นทุนสายการบินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ” เพื่อเร่งเครื่องความถี่เที่ยวบินและบัตรโดยสารที่จับต้องได้ ซึ่งจะกระตุ้นการเดินทางภายในประเทศและกระจายรายได้สู่ภูมิภาค
ข้อเสนอหลักประกอบด้วย
ในแง่เชียงราย ข้อเสนอเหล่านี้ หากรัฐบาลอนุมัติ จะ “เปลี่ยนเกมความถี่” ภายในประเทศทันที โดยเฉพาะไฟลต์เชื่อม กรุงเทพฯ–เชียงราย และไฟลต์เชื่อมระหว่างเมืองเหนือ–อีสาน/ใต้ ซึ่งเป็นฐานนักท่องเที่ยวคุณภาพดีและเดินทางซ้ำบ่อย นอกจากนี้ หากแคมเปญ “บินข้ามประเทศ–แถมตั๋วในประเทศ” เกิดขึ้นจริง เชียงรายในฐานะ เมืองรองที่พร้อมเรื่องความปลอดภัย–ธรรมชาติ–วัฒนธรรม ย่อมมีโอกาส “ติดทริป” ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่บินลงกรุงเทพฯ/เชียงใหม่ ได้มากขึ้น
โจทย์ของเชียงราย จะขยับ “สัดส่วนต่างชาติ” อย่างไร
เมื่อรู้ข้อเท็จจริงว่า รายได้ 84% ยังมาจากคนไทย และ ต่างชาติ 16% เป็น “เสาหลักที่ยังเตี้ย” แนวทางต่อไปของเชียงรายจึงควรอยู่บนกรอบคิด “คม–ครบ–เร็ว” ดังนี้
1) เน้น “Medical Wellness & Recovery” ที่จับต้องได้
2) เติมเที่ยวบิน–เส้นทางบินรองรับดีมานด์
3) สร้างประสบการณ์ Soft Power ที่ต่างชาติรัก
4) ขยายพาร์ตเนอร์ B2B ต่างประเทศ
5) จัดการ “ประสบการณ์เดินทาง” ให้ราบรื่นที่สุด
มุมมองความเสี่ยง หากยังพึ่งคนไทยเป็นหลัก
หากไม่ขยับ “เสาต่างชาติ” ให้สูงขึ้น ความเสี่ยงคือ วงจรขึ้นกับเศรษฐกิจไทย มากเกินไป เมื่อใดที่กำลังซื้อหด เมืองก็หดตาม อีกทั้งการแข่งขันในตลาดในประเทศดุเดือด เมืองท่องเที่ยวจำนวนมากแย่งงบและความสนใจจากนักเดินทางกลุ่มเดียวกัน การมี “พอร์ตต่างชาติ” ที่มั่นคงขึ้นจะทำให้เชียงราย ปรับสมดุลรายได้ และ ยืดหยุ่นต่อความผันผวน ดีกว่าเดิม
นโยบายประเทศช่วยเมืองรองได้อย่างไร
ข้อมูลจาก ททท. และเวทีของ CAAT ชี้ให้เห็น “การประสานระดับชาติ” ที่จะส่งผลถึงเมืองรองอย่างเชียงรายใน 3 ชั้น
หากนโยบายทั้งสามชั้นเดินพร้อมกัน เชียงรายจะ “เก็บเกี่ยวผล” ได้รวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อเมืองมีทรัพยากรเด่นด้านธรรมชาติ–วัฒนธรรม–ความปลอดภัย และมีต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานท่องเที่ยวที่พร้อมต่อยอด
สรุปเชิงนโยบายสำหรับจังหวัด/เอกชนในเชียงราย (ทำได้ทันที)
จาก 16% ไปสู่สมดุลที่ยั่งยืน
เชียงรายปิดไตรมาส 3/2568 ด้วย “ภาพสวยครึ่งหนึ่ง” รายได้รวมเกือบ 1 หมื่นล้านบาท แต่อาศัยแรงซื้อในประเทศถึง 84% เมื่อไฮซีซันมาเยือน โอกาสในการดึงต่างชาติอยู่ “ตรงหน้า” ทั้งจากแคมเปญของ ททท., สัญญาณตลาดไกลที่ฟื้นตัว และนโยบายการบินที่กำลังคลายล็อกต้นทุน หากจังหวัด–เอกชน–ชุมชน จับมือกันเดินเกม Medical Wellness ที่เชื่อมสนามบิน–เมือง–บริการสุขภาพ อย่างตั้งใจ เชียงรายไม่เพียงเพิ่ม สัดส่วนรายได้ต่างชาติ แต่จะยกระดับ คุณภาพรายได้ ของทั้งระบบ ให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น “อยู่ได้อย่างมั่นคง” และพลเมือง “อยู่ดีอย่างยั่งยืน”
สถิติสำคัญ (Q3/2568)
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.