
เชียงราย, 19 สิงหาคม 2568 — เสียงหัวเราะและทำนองเพลงเบา ๆ ดังสอดรับกับจังหวะยืดเหยียดของแขนขาในศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงวัย “ข่วงวัฒนธรรมเวียงเทิง” อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย เก้าอี้ถูกจัดวางเป็นวงกว้าง เปิดพื้นที่ให้ผู้สูงวัยกว่าเต็มศาลาได้ขยับร่างกายและใจไปพร้อมกัน บรรยากาศอบอุ่นยิ่งขึ้นเมื่อ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) เดินทักทาย จับมือไต่ถามสารทุกข์สุกดิบ พร้อม นายสุชัด เสนคำ สมาชิกสภา อบจ.เชียงราย อ.เทิง เขต 2 และ นายชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายก อบจ.เชียงราย ขณะ นายสิงห์ทอง หนุนนำสิริสวัสดิ์ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงเทิง เจ้าภาพงาน ยืนเคียงข้างทีมงานท้องถิ่นที่เตรียมกิจกรรมอย่างประณีต
กิจกรรม “วันแม่กับผู้สูงวัยเวียงเทิง” เป็นมากกว่า “งานรื่นเริง” — มันคือจุดนัดพบระหว่าง น้ำใจในชุมชน กับ นโยบายดูแลผู้สูงอายุ ที่กำลังเดินหน้าอย่างจริงจังในจังหวัดเชียงราย ผ่านรูปธรรมง่าย ๆ แต่ทรงพลัง: การละเล่นเพื่อสุขภาพ การร้องเพลงร่วมกัน เวิร์กช็อปงานประดิษฐ์ และวงสนทนาสั้น ๆ ว่าด้วยการดูแลตนเองในชีวิตประจำวัน
“การจัดกิจกรรมวันแม่ไม่เพียงเป็นการระลึกถึงพระคุณแม่ หากยังเป็นเวทีสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน โดยเฉพาะการดูแลเอาใจใส่ผู้สูงอายุให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ อบจ.เชียงราย ที่มุ่งสร้าง ‘สังคมผู้สูงอายุที่มีความสุข’” — นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย กล่าวระหว่างพบปะผู้สูงวัย
“ข่วงวัฒนธรรมเวียงเทิง” จากพื้นที่ประชุม สู่แพลตฟอร์มเรียนรู้ตลอดชีวิต
ศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงวัย “ข่วงวัฒนธรรมเวียงเทิง” ตั้งอยู่ภายในสำนักงานเทศบาลตำบลเวียงเทิง อ.เทิง จ.เชียงราย โครงการนี้เริ่มต้นเมื่อปี 2557 ด้วยการสนับสนุนจาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จุดตั้งต้นไม่ใช่ “ทำกิจกรรมให้ครบ” แต่คือ “ออกแบบพื้นที่เรียนรู้” ตามความต้องการจริงของผู้สูงอายุในชุมชน เน้นการพัฒนา 4 มิติ—ร่างกาย อารมณ์ จิตใจ และสังคม
ในช่วงเริ่มต้นปี 2558 ศูนย์ฯ ทดลองเปิดการเรียนรู้ เดือนละ 1 ครั้ง ต่อมามีเสียงเรียกร้องจากผู้สูงวัยให้เพิ่มความถี่ จึงค่อย ๆ ขยับมาเป็นกิจกรรมประจำสัปดาห์ โดยเฉพาะ ทุกวันพุธ ซึ่งกลายเป็น “วันนัดพบของเพื่อนร่วมรุ่น” ที่ไม่ใช่แค่มาออกกำลังกายหรือทำงานประดิษฐ์ แต่เป็นพื้นที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ชีวิต เชื่อมโยงไปถึงกิจกรรมระหว่างรุ่นกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนเทศบาล—ให้ “วัยเด็ก” ได้เห็น “ภูมิปัญญา” และให้ “วัยเกษียณ” ได้เห็น “พลังสดใหม่” ในชุมชนเดียวกัน
เหนือกว่านั้น ศูนย์ฯ ยังทำหน้าที่ “ศูนย์ต้นแบบ” ให้หน่วยงานรัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากพื้นที่อื่นเข้ามาศึกษาดูงาน ถ่ายทอดวิธีคิด วิธีทำ และวิธีประเมินผล นับเป็นการขยายผลเชิงนโยบายที่จับต้องได้ โดยศูนย์ฯ เป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญของโครงการนวัตกรรมพื้นที่สาธารณะ “ข่วงเวียงเทิงสร้างสุข” ซึ่งวางกรอบพัฒนาท้องถิ่นระยะ 5 ปี อย่างเป็นระบบ เชื่อมกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ในมิติสุขภาวะและการเรียนรู้ตลอดชีวิต
เมื่อเสียงเพลงกลายเป็น “ดัชนีความสุข”
ในกิจกรรมวันนี้ ช่วงที่ทำให้หลายคนยิ้มกว้างที่สุด คือวินาทีที่เพลงลูกกรุงยุคคลาสสิกดังขึ้น ผู้สูงวัยจับคู่รำวงเบา ๆ มีเสียงเชียร์จากเพื่อนโต๊ะข้าง ๆ กลายเป็นภาพ “ฟื้นวัย” ที่งดงาม การละเล่นเพื่อสุขภาพ—ยืดเส้นยืดสาย ชวนหัวเราะ—ทำให้อุณหภูมิของงานอุ่นขึ้นอย่างทันทีทันใด
สำหรับผู้จัด งานแบบนี้คือ “ดัชนีความสุข” ที่อ่านค่าจากแววตาและรอยยิ้ม ไม่ใช่ตัวเลขบนกระดาษ แต่ในมุมของนโยบายสาธารณะ เม็ดเหงื่อบนหน้าผากและเสียงหัวเราะคือ “กลไกป้องกันโรค” ที่จะลดความโดดเดี่ยว ซึมเศร้า และภาวะถดถอยทางกาย—สิ่งที่มักคืบคลานเข้าหาผู้สูงวัยอย่างเงียบ ๆ
โจทย์ใหญ่ของเชียงรายสังคมสูงวัยที่ “มาเร็วกว่าค่าเฉลี่ยประเทศ”
ข้อมูลด้านประชากรสะท้อนภาพใหญ่ที่ท้องถิ่นหลีกเลี่ยงไม่ได้—เชียงรายมีสัดส่วนผู้สูงอายุ สูงกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ อย่างต่อเนื่อง ปี 2566 จังหวัดมีประชากรผู้สูงวัย (60 ปีขึ้นไป) ราว 290,547 คน คิดเป็น 22.4% ของทั้งจังหวัด ขณะที่ค่าเฉลี่ยทั้งประเทศในปี 2567 อยู่ที่ราว 20% ประเทศไทยโดยรวมเข้าสู่ “สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์” แล้ว และหลายจังหวัดภาคเหนือ—รวมถึงเชียงราย—กำลังก้าวเร็วสู่ “สังคมสูงวัยระดับสุดยอด” ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า
การเพิ่มขึ้นของผู้สูงวัยไม่ได้สะท้อนแค่ “อายุขัยที่ยืนยาวขึ้น” แต่ยังหมายถึง อัตราส่วนพึ่งพิง ของวัยแรงงานที่สูงขึ้น—ตั้งคำถามเชิงนโยบายทันทีว่าเราจะจัดระบบ สุขภาพ–สวัสดิการ–การเรียนรู้ตลอดชีวิต–และโอกาสการทำงาน ให้คนรุ่นพ่อแม่และปู่ย่าได้อย่างไร
นั่นทำให้กิจกรรมเชิงสังคมอย่างวันนี้ ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย เพราะมันขยับ “ปลายเหตุ” ในระดับพฤติกรรมสุขภาพ ขณะที่หน่วยงานท้องถิ่นและส่วนกลางขยับ “ต้นเหตุ” ผ่านงบประมาณ การจัดบริการสุขภาพ การส่งเสริมอาชีพเสริม และหลักสูตรดิจิทัลรู้เท่าทันสื่อเพื่อกันภัยหลอกลวงที่พุ่งเป้าไปยังผู้สูงวัย
จากกิจกรรมสู่ระบบ 3 วงล้อ “ผู้สูงวัยคุณภาพ”
เพื่อให้การดูแลผู้สูงวัยยั่งยืนและไม่ถูกจำกัดอยู่ที่ “งานครั้งคราว” ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้สูงอายุในจังหวัดเสนอกรอบทำงาน 3 วงล้อ ที่ต้องหมุนไปพร้อมกัน
ศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงวัยเวียงเทิงทำหน้าที่ “จุดรวมแรง” ของทั้งสามวงล้อนี้—เป็นทั้งสถานที่ กำลังคน วิธีการ และชุมชนปฏิบัติ (community of practice) ที่ขับเคลื่อนโดยเทศบาลตำบลเวียงเทิง สนับสนุนโดยเครือข่ายจังหวัดและหน่วยงานระดับชาติ
ทำไม “การลงทุนกับผู้สูงวัย” คุ้มค่ากว่า “ค่ารักษา”
คำถามชวนคิด หากกิจกรรมเชิงรุกอย่างวันนี้สามารถลดการเข้ารพ.จากโรคไม่ติดต่อได้แม้เพียง 5–10% ต่อปี เม็ดเงินค่ารักษาที่ลดลงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของผู้สูงวัย คุ้มค่ากับการลงทุนใน “พื้นที่เรียนรู้” มากเพียงใด?
บทบาท อบจ.–เทศบาล จากโมเดลเวียงเทิงสู่การขยายผลทั้งจังหวัด
งานวันนี้สะท้อน “รูปธรรม–นโยบาย–เครือข่าย” ที่เดินไปด้วยกัน—นายก อบจ.เชียงราย มองบทบาทท้องถิ่นว่าไม่ใช่เพียง “จัดงบ–จัดงาน” แต่ต้องเป็น ผู้อำนวยความสะดวก ให้ภาคีทั้งสาธารณสุข การศึกษา ภาคเอกชน และชุมชน ร้อยเรียงเป็น “ระบบบริการชุมชนผู้สูงวัย” ที่ใช้งานได้จริง
เทศบาลตำบลเวียงเทิง ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ชูจุดเด่นการปรับกิจกรรม “ตามคนจริง ๆ” ไม่ใช่ตามแบบฟอร์ม—ตั้งแต่การออกกำลังกายเบา ๆ กิจกรรมงานฝีมือ ไปจนถึงเวิร์กช็อปพื้นฐานดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัย ขณะที่ อบจ.เชียงราย พร้อมหนุนการยกระดับบทเรียนจากเวียงเทิงไปยังพื้นที่อื่นในจังหวัด ผ่านเครือข่าย โรงเรียนผู้สูงอายุ และ ศูนย์การเรียนรู้ผู้สูงวัย ของ อปท. ต่าง ๆ
เสียงสะท้อนและข้อเสนอแนะจากภาคสนาม
“ยิ้มวันนี้—แผนพรุ่งนี้” คลี่คลายปมสังคมสูงวัยด้วยชุมชนเป็นฐาน
ภาพผู้สูงวัยรำวงคู่กับนายก อบจ.เชียงรายในเช้าวันนี้ อาจดูเรียบง่าย แต่มันคือ “คำตอบนโยบาย” ที่จับต้องได้—เพราะชี้ให้เห็นว่า หากชุมชนมีพื้นที่ มีคน มีงานที่ออกแบบตามความต้องการจริง ให้ผู้สูงวัย ได้ออกจากบ้าน–ได้พบปะ–ได้เรียนรู้–ได้สร้างคุณค่า วงจรสุขภาพ–เศรษฐกิจ–สังคมจะหมุนไปในทิศทางที่ดีขึ้นโดยไม่ต้องรอคำสั่งใหญ่จากส่วนกลาง
สุดท้าย การขับเคลื่อนสังคมสูงวัยในเชียงรายไม่ได้ขึ้นกับ “งานใหญ่ปีละครั้ง” แต่เกิดจาก งานเล็กทุกสัปดาห์ ที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง—และนั่นคือบทเรียนจากเวียงเทิงที่ควรส่งต่อ
กล่องข้อมูล “ข่วงวัฒนธรรมเวียงเทิง” คืออะไร
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.