
เชียงราย, 17 เมษายน 2568 – เทศกาลสงกรานต์เป็นช่วงเวลาที่ชาวไทยเฉลิมฉลองด้วยความสนุกสนาน แต่ก็มาพร้อมความท้าทายด้านความปลอดภัยบนท้องถนน จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในช่วงสงกรานต์ ได้ดำเนินมาตรการเข้มงวดเพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2568 นี้ จังหวัดได้จัดการประชุมเพื่อสรุปผลการดำเนินงานและวิเคราะห์ปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เพื่อนำไปสู่แนวทางการป้องกันที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
การประชุมสรุปผลและขอบคุณทุกฝ่าย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ณ ห้องประชุมอูหลง ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.สิริมล วิสุทธิกุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2568 พ.ต.อ.สิริมลกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุและการเสียชีวิตลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อน พร้อมมอบหมายให้เลขานุการศูนย์ฯ วิเคราะห์สาเหตุและปัจจัยของอุบัติเหตุ เพื่อพัฒนาแนวทางป้องกันในอนาคต
สถิติอุบัติเหตุและผลการดำเนินงาน
จากข้อมูลสะสมช่วงวันที่ 11-16 เมษายน 2568 จังหวัดเชียงรายเกิดอุบัติเหตุรวม 39 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 38 ราย และเสียชีวิต 8 ราย โดยวันที่ 16 เมษายน 2568 เกิดอุบัติเหตุ 1 ครั้ง มีผู้เสียชีวิต 1 ราย สาเหตุหลัก ได้แก่ การไม่สวมหมวกนิรภัย การดื่มแล้วขับ การขับรถเร็วเกินกำหนด และการตัดหน้ากระชั้นชิด โดยยานพาหนะที่เกิดเหตุส่วนใหญ่เป็นรถจักรยานยนต์ ตำรวจภูธรจังหวัดจับกุมผู้กระทำผิด 1,944 ราย ตักเตือน 76 ราย และศาลสั่งคุมประพฤติ 59 คดี
หน่วยงานต่างๆ รายงานผลการปฏิบัติงาน โดยมีการตั้งจุดตรวจหลัก 33 จุด ด่านชุมชน 218 ด่าน และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 1,069 คน สำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจรถโดยสารสาธารณะ 425 คัน และพนักงานขับรถ 459 คน เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสาร จุดตรวจและด่านชุมชนมีบทบาทสำคัญในการสกัดพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะการดื่มแล้วขับ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของอุบัติเหตุ
วิเคราะห์ปัจจัยและแนวทางแก้ไข
การวิเคราะห์สาเหตุพบว่า การขับรถเร็วและการดื่มแล้วขับเป็นปัจจัยหลักที่นำไปสู่อุบัติเหตุรุนแรง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 83.76 ของยานพาหนะที่เกิดเหตุ อายุของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 20-29 ปี แสดงถึงความจำเป็นในการรณรงค์ให้กลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานตระหนักถึงความปลอดภัยมากขึ้น พ.ต.อ.สิริมลเน้นย้ำให้หน่วยงานควบคุมการจำหน่ายและบริโภคแอลกอฮอล์อย่างเข้มงวด และให้ด่านชุมชนปฏิบัติหน้าที่เป็นด่านหน้าสกัดผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงก่อนออกสู่ถนนสายหลัก
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้สำนักงานขนส่งและสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ประชาสัมพันธ์ความสำคัญของประกันภัยตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ รวมถึงให้ควบคุมพื้นที่จุดเสี่ยง เช่น ถนนสายตรงและบริเวณจัดงานเทศกาล เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการหลับในและการขับขี่โดยประมาท
การดำเนินงานต่อเนื่องและการเยียวยา
แม้เทศกาลสงกรานต์จะสิ้นสุดลง แต่จังหวัดเชียงรายยังคงคุมเข้มการเฝ้าระวังและตรวจตรา โดยเฉพาะในช่วงที่ประชาชนบางส่วนยังเดินทางกลับหรือหยุดต่อเนื่อง มีการอำนวยความสะดวกที่จุดบริการประชาชนและจุดพักรถ รวมถึงตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสารสาธารณะและพนักงานขับรถอย่างต่อเนื่อง เพื่อลดความเสี่ยงจากความเหนื่อยล้าและการขับขี่เป็นเวลานาน
ด้านการเยียวยา มีการประสานงานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุอย่างทันท่วงที โดยศูนย์ฯ ได้จัดชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อให้ความช่วยเหลือฉุกเฉิน และประสานกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อดูแลผู้บาดเจ็บอย่างใกล้ชิด การดำเนินงานเหล่านี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจังหวัดในการลดความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด
สถิติระดับประเทศและบทเรียน
จากรายงานของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568 สถิติสะสมทั่วประเทศระหว่างวันที่ 11-16 เมษายน 2568 เกิดอุบัติเหตุ 1,377 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 1,362 คน และเสียชีวิต 200 ราย สาเหตุหลักคือการขับรถเร็ว (ร้อยละ 39.35) การตัดหน้ากระชั้นชิด (ร้อยละ 19.35) และทัศนวิสัยไม่ดี (ร้อยละ 18.06) โดยรถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะที่เกิดเหตุสูงสุด (ร้อยละ 83.32) ช่วงเวลาที่เกิดเหตุมากที่สุดคือ 15.01-18.00 น. และถนนสายตรงเป็นจุดเสี่ยงหลัก (ร้อยละ 82.58)
จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุดคือกรุงเทพมหานคร (16 ราย) ขณะที่ 15 จังหวัดไม่มีผู้เสียชีวิต ตัวเลขเหล่านี้แสดงถึงความสำเร็จในบางพื้นที่ แต่ยังคงต้องพัฒนาการป้องกันในจังหวัดที่มีความเสี่ยงสูง นายขจร ศรีชวโนทัย ประธานแถลงผล ระบุว่า การบังคับใช้กฎหมายและการประชาสัมพันธ์เรื่องหมวกนิรภัยและพฤติกรรมเสี่ยง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการลดอุบัติเหตุในอนาคต
สถิติและแหล่งอ้างอิง
มุมมอง
ฝ่ายสนับสนุนมาตรการเข้มงวด การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด เช่น การตั้งด่านชุมชนและควบคุมแอลกอฮอล์ ได้พิสูจน์แล้วว่าช่วยลดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตได้จริง โดยเฉพาะในจังหวัดที่มีการจัดการอย่างเป็นระบบ สถิติที่ลดลงในเชียงรายเมื่อเทียบกับปีก่อนแสดงถึงความสำเร็จของแนวทางนี้ การรณรงค์เรื่องหมวกนิรภัยและประกันภัยยังช่วยลดความรุนแรงของผลกระทบจากอุบัติเหตุ
มุมมองว่ามาตรการอาจจำกัดความสนุก บางส่วนมองว่าการตั้งด่านตรวจและควบคุมแอลกอฮอล์ที่เข้มงวดอาจทำให้ประชาชนรู้สึกถูกจำกัดในช่วงเทศกาลที่ควรเป็นเวลาแห่งความสนุกสนาน โดยเฉพาะในชุมชนที่การเฉลิมฉลองเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรม การบังคับใช้กฎหมายที่มากเกินไปอาจสร้างความไม่สะดวก โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่มีการเดินทางด้วยรถจักรยานยนต์เป็นหลัก
มุมมองการลดอุบัติเหตุ การลดอุบัติเหตุเป็นเป้าหมายสำคัญที่ทุกฝ่ายเห็นพ้อง แต่การบังคับใช้กฎหมายต้องสมดุลกับการรักษาบรรยากาศเทศกาล การประชาสัมพันธ์ที่เน้นการสร้างจิตสำนึกมากกว่าการลงโทษ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างถนนและจุดเสี่ยง จะช่วยให้มาตรการมีประสิทธิภาพโดยไม่กระทบต่อความสุขของประชาชน การถอดบทเรียนจากสงกรานต์ 2568 จะเป็นก้าวสำคัญสู่ความปลอดภัยที่ยั่งยืน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศปภ.) www.disaster.go.th
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน www.roadsafetythai.org
กรมการขนส่งทางบก www.dlt.go.th
กรมควบคุมโรค www.ddc.moph.go.th
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ www.royalthaipolice.go.th
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.