
เชียงราย, 17 สิงหาคม 2568 — ประกาศผล “การประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment: ITA) ประจำปีงบประมาณ 2568” ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) ออกมาแล้ว ท่ามกลางสายตาสังคมที่จับจ้องว่าคะแนนชุดนี้สะท้อน “สุขภาวะองค์กรภาครัฐ” ได้มากเพียงใด และจะเป็นเชื้อไฟให้การปฏิรูปธรรมาภิบาลเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมเพียงใด
ในภาพรวมประเทศ ปีนี้มีหน่วยงานเข้าร่วมประเมิน 8,317 หน่วยงาน ได้คะแนนเฉลี่ย 93.82 คะแนน (เพิ่มขึ้น +0.77) ขณะที่สัดส่วนหน่วยงานที่ “ผ่านเกณฑ์” (ได้ ≥ 85 คะแนน) อยู่ที่ 94.17% หรือ 7,832 หน่วยงาน และ “ไม่ผ่านเกณฑ์” 5.83% รวม 485 หน่วยงาน สะท้อนทิศทางบวกต่อเนื่อง แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นที่ 21 (ต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ) ที่ตั้งไว้ “ให้ผ่าน 100%” ในปี 2568
ขณะที่ จังหวัดเชียงราย ภาพรวม “ผ่านเกณฑ์” 97.24% จากหน่วยงานภาครัฐ 145 แห่ง (ผ่าน 141 แห่ง) แต่เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นทั่วประเทศ (76 จังหวัด) เชียงรายยังอยู่ที่ อันดับที่ 45 และในกลุ่ม 9 จังหวัดภาคเหนือ อยู่อันดับ 7 (เหนือกว่าเพียงลำปางและลำพูน) ด้วยคะแนนเฉลี่ย 94.03 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศเพียงเล็กน้อย แต่ต่างชั้นกับ “จังหวัดที่ผ่านคะแนนดีอย่างจังหวัด” เช่น แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ แพร่ พะเยา —คำถามจึงผุดขึ้นว่า “เชียงรายขาดอะไร?” และ “จะเติมเต็มให้ถึง 100% ตามแผนแม่บทชาติได้อย่างไรในปีถัดไป?”
เส้นเรื่องของ ITA จากเครื่องมือวัดสู่เข็มทิศปฏิรูป
การประเมิน ITA มิใช่การจัดอันดับเพื่อรางวัล หากแต่ถูกออกแบบให้เป็น “เครื่องมือตรวจสุขภาพองค์กรภาครัฐ” ประจำปี จุดเริ่มต้นย้อนไปตั้งแต่ พ.ศ. 2552 ในช่วงศึกษาวิจัยและออกแบบเครื่องมือ โดยบูรณาการองค์ความรู้ไทยกับประสบการณ์จากสาธารณรัฐเกาหลี (ACRC) ก่อนเริ่มทดสอบนำร่องในปี 2555 จากนั้นขยายสู่การประเมินภาคบังคับตามมติคณะรัฐมนตรี 5 ม.ค. 2559 ครอบคลุมส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่นทั่วประเทศ
ปี 2561 เป็นหมุดหมายสำคัญ เมื่อกรอบการประเมินปรับสู่ 10 ตัวชี้วัด ครอบคลุมมิติ “โปร่งใส–รับผิด–ปลอดทุจริต–วัฒนธรรมคุณธรรม–การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ” พร้อมยกระดับระบบสารสนเทศ ITAS เพื่อทำงานแบบดิจิทัลทั้งประเทศ และตั้งแต่ 2565 เป็นต้นมา สำนักงาน ป.ป.ช. รับบท “ผู้ดำเนินการประเมินเอง” แทนรูปแบบจ้างที่ปรึกษาเดิม ผลด้านประสิทธิภาพงบประมาณจึงชัดเจน: จากระดับ กว่า 270 ล้านบาท/ปี ในช่วงก่อนหน้า ลดลงเหลือราว 35–36 ล้านบาท/ปี ในช่วง 2566–2568 ขณะยังรักษามาตรฐานการประเมินทั้งเชิงวิชาการและความเที่ยงตรง
เครื่องมือ ITA ปัจจุบันใช้ 3 ชุดหลัก ได้แก่
ทั้งสามเครื่องมือบังคับให้หน่วยงาน “เปิดเผย–อธิบาย–รับผิดชอบ” ต่อข้อเท็จจริง ไม่ใช่แค่ตอบแบบสอบถาม ทำให้คะแนน ITA กลายเป็นสัญญาณเตือนภัยเชิงระบบ (early warning) ว่าองค์กรใดมี “จุดอ่อนเชิงกระบวนการ” ที่ต้องเร่งแก้ไข
ภาพรวมประเทศ 2568 ดีขึ้นแต่ยังไม่ถึงหลักชัย 100%
เมื่อเทียบเป้าหมายแผนแม่บท (ต้องผ่าน 100% ในปี 2568) ความจริงคือ “เราดีกว่าปีก่อน แต่ยังไม่ถึงเส้นชัย” และนั่นหมายความว่าปีถัดไป แรงกดดันต่อผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารท้องถิ่นจะ “มากขึ้น” ในการปิดช่องโหว่ที่ส่งผลต่อคะแนน OIT/IIT/EIT โดยตรง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปิดข้อมูลเชิงรุก การปรับขั้นตอนบริการให้โปร่งใส ตรวจสอบได้ หรือการยกระดับกลไกรับเรื่องร้องเรียน-ผลักดันวัฒนธรรมไม่ยอมรับสินบนในหน่วยงาน
เจาะลึกผลคะแนนเชียงรายในกระจก ITA ระดับผ่านดี 94.83% แต่ทำไมอยู่อันดับ 45 ประเทศ?
จังหวัดเชียงราย ปีนี้มีหน่วยงานเข้าร่วมประเมิน 145 แห่ง ผ่านเกณฑ์ 141 แห่ง คิดเป็น 97.24% ได้คะแนนเฉลี่ย 94.03% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยประเทศเล็กน้อย ผลคือเมื่อจัดอันดับ 76 จังหวัดทั่วประเทศ เชียงรายอยู่ อันดับ 45 แต่ถ้าลองเจาะเข้าไปใน ผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ประเภทจังหวัด (ราชการส่วนภูมิภาค) พบว่าจังหวัดเชียงรายคะแนนหน่วยงานภาครัฐ ITA 2568 อยู่ที่ 94.83% และถ้าเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา +3.22 อยู่ในระดับผลการประเมินผ่านี
และเมื่อเทียบกับ 9 จังหวัดภาคเหนือ พบว่าเชียงรายอยู่ อันดับ 7 ด้านสัดส่วนผ่านเกณฑ์ โดยกลุ่มที่ทำอันดับได้ก่อนหน้า ได้แก่
คำถามชวนคิด:
คำตอบบางส่วนสะท้อนผ่าน “รายละเอียดระดับสถาบัน/ท้องถิ่น” ที่ช่วยบอกทิศทางการแก้ไขเชิงจุด
มหาวิทยาลัยในภาคเหนือ เชียงรายมี “แชมป์ห้องเรียนโปร่งใส”
กลุ่มอุดมศึกษาในภาคเหนือ ผลคะแนนปีนี้ชี้ให้เห็น “ต้นแบบธรรมาภิบาลในรั้วมหาวิทยาลัย” หลายแห่ง โดยเฉพาะในเชียงรายเอง
ข้อมูลนี้บอกเราว่า “ความโปร่งใสทำได้” หากมีภาวะผู้นำที่ย้ำวัฒนธรรมเปิดเผยข้อมูลเชิงรุก และการบริการที่ยึดผู้รับบริการเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนระบบติดตามผลที่จริงจัง
เทศบาลในเชียงราย ใครขึ้น ใครลง—สัญญาณที่ผู้บริหารต้องรับไปทำการบ้าน
10 เทศบาลคะแนนสูงสุด (จาก 74 เทศบาลในจังหวัด) สะท้อน “การยกระดับอย่างต่อเนื่อง” หลายแห่งขยับคะแนนขึ้นแรงและแตะระดับ “ดีเยี่ยม” เช่น
ขณะเดียวกัน 10 เทศบาลที่คะแนน “ลดลงมาก” เมื่อเทียบปีก่อน (ซึ่งควรถูกหยิบเป็น “โจทย์เฉพาะ” ในห้องประชุมบอร์ดธรรมาภิบาล) ได้แก่
ตัวเลข “ติดลบ” ไม่ได้หมายถึงองค์กรทุจริต หากแต่ชี้ตำแหน่ง “ข้อติดขัด” ในระบบ—ตั้งแต่การเปิดข้อมูล (OIT) ที่อาจขาดความครบถ้วน/ทันสมัย ไปจนถึงประสบการณ์ผู้รับบริการ (EIT) ที่สะท้อนความรู้สึกต่อความโปร่งใสและความเป็นธรรมของกระบวนการบริการ
องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เชียงราย ดีเยี่ยมกับเร่งฟื้นฟู—ภาพต่างกันที่เห็นได้ชัด
10 อบต. คะแนนสูงสุด สะท้อนต้นแบบการบริหารโปร่งใสในชนบทอย่างน่าชื่นชม เช่น
10 อบต. ที่ต้อง “เร่งฟื้นฟู” จากคะแนนที่ลดลงหรือยังต่ำเมื่อเทียบมาตรฐาน ได้แก่
ข้อค้นพบเชิงสังคมคือ “ถนนสายธรรมาภิบาล” ไม่ได้ตัดผ่านเฉพาะเมืองใหญ่ หลาย อบต.ในชนบททำผลงานโดดเด่น—แปลว่าถ้าจับ “กระบวนการที่ใช้ได้ผล” จาก อบต.แถวหน้าถ่ายทอดสู่ อบต.ที่ต้องเร่งฟื้นฟู โอกาสยกระดับทั้งจังหวัดจะเกิดขึ้นจริง
ตัวเลขที่ชวนคิด งบ ITA ลดฮวบ แต่คุณภาพประเมินไม่ถอย
ข้อมูลงบประมาณประเมิน ITA เปรียบเทียบช่วงเวลาก่อน–หลังย้ายมาดำเนินการโดยสำนักงาน ป.ป.ช.เอง ชี้ผลเชิงประสิทธิภาพชัดเจน
เมื่อเครื่องมือประเมินพัฒนาและต้นทุนลดลง คำถามต่อไปคือ “เราจะใช้ ITA ให้เป็นมากกว่า ‘คะแนน’ ได้อย่างไร?” เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมและระบบอย่างแท้จริง
โจทย์สำหรับเชียงราย ขยับจาก “ผ่าน” ไปสู่ “นำ”
การสื่อสารของ ป.ป.ช. ITA เป็น “เครื่องมือบวก” ไม่ใช่ “ตัดสินประจาน”
จากเนื้อหาประกาศ สำนักงาน ป.ป.ช. ย้ำชัดว่า ITA เป็น “เครื่องมือเชิงบวก” เพื่อให้หน่วยงานรัฐรู้สถานะจริงของตนเอง เห็นช่องโหว่ และนำผลไปปรับปรุงระบบงาน การให้บริการ และการอำนวยความสะดวกประชาชน—เป้าหมายสูงสุดคือ “ธรรมาภิบาลที่ตรวจสอบได้” ไม่ใช่การแข่งขันล่าอันดับ
ดังนั้น การที่เชียงราย “ผ่านเกณฑ์” 94.03% และมีสถาบันนำร่องจำนวนมาก (เช่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เทศบาลบ้านดู่ อบต.ศรีเมืองชุม ฯลฯ) คือฐานทุนที่ดี คำถามต่อไปคือ “จะยกระดับทั้งระบบ” ให้ไล่ทันกลุ่มคะแนนดี ของภาคเหนืออย่างแม่ฮ่องสอน – เชียงใหม่ – แพร่ – พะเยาได้อย่างไรในหนึ่งปี?
จากคะแนนสู่ความไว้วางใจสาธารณะ
ท้ายที่สุด ITA จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อ “คะแนน” แปรเป็น “ความไว้วางใจ” และ “ความไว้วางใจ” แปรเป็น “บริการภาครัฐที่เท่าเทียม โปร่งใส และรับผิดชอบ”—นั่นคือปลายทางของธรรมาภิบาลที่ประชาชนสัมผัสได้จริง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.