บุกรุกป่าสงวน! สร้างโหนสลิงเถื่อน อ.แม่สรวย

เชียงราย, 22 กุมภาพันธ์ 2568 – เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชุดพยัคฆ์ไพรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบกรณีมีการร้องเรียนเรื่องการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เพื่อสร้างกิจการโหนสลิง (Zipline) หลังพบว่ามีการดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาตและอาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายป่าไม้

หน่วยพยัคฆ์ไพรบุกตรวจพื้นที่ต้องสงสัย

สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า โดยส่วนปฏิบัติการพิเศษและหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ (พยัคฆ์ไพร) นำโดยนายชาญชัย กิจศักดาภาพ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษ และหัวหน้าหน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีการก่อสร้างกิจการเกี่ยวกับการผจญภัยประเภทโหนสลิง (Zipline) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย

จากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2568  พบว่าโครงการดังกล่าวตั้งอยู่ในเขตบ้านแสนเจริญ หมู่ที่ 10 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการได้ทำงานร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามที่ 3 (ภาคเหนือ) เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) และตำรวจภูธรแม่สรวย เพื่อตรวจสอบแนวเขตและความถูกต้องของการใช้พื้นที่

พบบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนและสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมาย

จากการตรวจสอบสถานที่ เจ้าหน้าที่พบว่ามีการสร้างหอคอยสำหรับติดตั้งสายสลิงโหนข้ามหุบเขา ระยะทางประมาณ 650 เมตร โดยจุดเริ่มต้นตั้งอยู่บริเวณที่มีสิ่งปลูกสร้าง เช่น ลานกางเต็นท์ ห้องน้ำ และป้ายแสดงชื่อสถานที่ ซึ่งจากการวัดค่าพิกัดพบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย คำนวณเนื้อที่ได้ 1 – 2 – 92 ไร่

เจ้าหน้าที่จากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) ได้ตรวจสอบข้อมูลและยืนยันว่า พื้นที่ดังกล่าวไม่ได้อยู่ในขอบเขตตามมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 30 มิถุนายน 2541 และไม่ใช่พื้นที่ที่ได้รับการอนุญาตภายใต้โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ของรัฐบาล จึงถือเป็นการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและเป็นการใช้ที่ดินโดยไม่ได้รับอนุญาต

ขยายผลพบผู้เกี่ยวข้อง เตรียมดำเนินคดีทางกฎหมาย

การตรวจสอบยังพบว่ากิจการโหนสลิงนี้มีความเชื่อมโยงกับอดีตนักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่ง ซึ่งรับว่าเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งระบบโหนสลิงและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ในพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 มาตรา 14, มาตรา 31 และมาตรา 26/4 รวมถึงพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 54, มาตรา 55 และมาตรา 72 ตรี

นอกจากนี้ ยังมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎกระทรวงว่าด้วยการควบคุมเครื่องเล่น พ.ศ. 2558 ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เนื่องจากการติดตั้งโครงสร้างและสายสลิงของกิจการนี้ไม่ได้ผ่านการตรวจสอบหรืออนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นควรให้พนักงานสอบสวนดำเนินการพิจารณาในส่วนนี้เพิ่มเติม

แนวทางการดำเนินคดีและการจัดระเบียบพื้นที่

เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ประสานงานให้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ชร.7 (ท้าวแก่นจันทร์) รายงานไปยังสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 (เชียงราย) เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของบุคคลที่มีรายชื่อในการสำรวจแปลงที่ดินและโครงการจัดที่ดินทำกิน (คทช.) ที่อาจเกี่ยวข้องกับกิจการนี้

ในส่วนของแนวทางการดำเนินคดี ขณะนี้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรแม่สรวยได้รับเรื่องและอยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินคดีต่อไป โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินคดีเป็นไปตามกฎหมายและไม่มีการใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในการหลีกเลี่ยงความรับผิด

การเตือนภัยและมาตรการป้องกันการบุกรุกป่า

เจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้ย้ำถึงความสำคัญของการเฝ้าระวังและป้องกันการบุกรุกป่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติสำคัญ ซึ่งต้องได้รับการดูแลและอนุรักษ์เพื่อความยั่งยืนของระบบนิเวศ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนและนักลงทุนที่ต้องการดำเนินกิจการใดๆ ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขออนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากพบเห็นการบุกรุกป่าหรือการใช้พื้นที่โดยผิดกฎหมาย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่หน่วยงานป่าไม้ในพื้นที่ หรือแจ้งผ่านช่องทางออนไลน์ของกรมป่าไม้

สรุปสถานการณ์และข้อกังวลในพื้นที่

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติที่ยังคงเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ของประเทศ แม้จะมีการบังคับใช้กฎหมายและมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดก็ตาม การตรวจพบกิจการโหนสลิงที่ไม่ได้รับอนุญาตในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการละเมิดกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการจัดระเบียบพื้นที่ป่าไม้ของไทย ซึ่งภาครัฐต้องดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดกรณีลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ป่าไม้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่าจะติดตามและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอย่างถึงที่สุด เพื่อเป็นตัวอย่างในการป้องปรามการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในอนาคต พร้อมทั้งเร่งรัดมาตรการจัดการที่ดินให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่กำหนดไว้

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : พยัคฆ์ไพร

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME