เมื่อวันจันทร์ที่ 23 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย พบปะเด็กและเยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพยุว อสม.ต้านภัยบุหรี่ไฟฟ้า (ANTI-ELECTRIC CIGARETTED) และโครงการส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรม “Safe Sex Safe Me” ณ โรงแรมลักษวรรณ รีสอร์ท อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย โดยได้รับความร่วมมือจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทยและองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย

เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในโทษและพิษภัยของบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมีอิทธิพลต่อวัยรุ่นในปัจจุบันและเพื่อลดสถิติการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงรายที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต จากสถานการณ์การสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนไทยที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ ปี 2564 สำรวจคนไทยอายุ 15 ปี ขึ้นไป จำนวน 57 ล้านคน พบว่ามีการสูบบุหรี่ไฟฟ้าถึง 80,000 คน ในจำนวนนี้ มีมากกว่าครึ่งเป็นเด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 15-24 ปี สอดคล้องกับข้อมูลผลการสำรวจภาวะสุขภาพนักเรียนในไทย ปี 2564 
 
โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) พบว่านักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ใช้บุหรี่ไฟฟ้า แล้ว 13.6% ซึ่งการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั้นส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในหลายด้าน เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือดและสมอง ศูนย์เยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายภายใต้ อบจ.เชียงราย ได้เล็งเห็นปัญหาการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของเด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงรายที่มีเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยการลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ใกล้เคียงสถานศึกษา ศูนย์เยาวชนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย จึงได้จัดโครงการพัฒนาศักยภาพยุว อสม.ต้านภัยบุหรี่ไฟฟ้า (ANTI-ELECTRIC CIGARETTED) ขึ้น
 
และโครงการส่งเสริมความรู้และพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชนจังหวัดเชียงราย กิจกรรม “Safe Sex Safe Me” จากข้อมูลผลสำรวจจากกองสุขศึกษา กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ในการเฝ้าระวัง พฤติกรรมการใช้ถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชน ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 1– 31 ม.ค. 2567 จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 15,425 คน เป็น ชาย 6,685 คน หญิง 7,926 คน และผู้มีความหลากหลายทางเพศ 814 คน พบว่าเด็กและเยาวชนมีประสบการณ์เกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเฉลี่ย 16.5 ปี และอายุต่ำสุดที่มีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุ 12 ปี พบกลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่ง เคยมีเพศสัมพันธ์ 7,847 คน ในจำนวนนี้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง ร้อยละ 43 ใช้บางครั้งและเกือบทุกครั้ง ร้อยละ 33 และไม่ใช้เลย ร้อยละ 24 จังหวัดเชียงรายตั้งเป้าหมายเป็นจังหวัดยุติเอดส์ในปี 2573 จังหวัดเชียงรายได้กำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนปัญหาเอดส์จังหวัดเชียงราย ดังนี้ 
 
1.ลดการติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ รณรงค์ สร้างความเข้าใจให้ประชาชนทั่วไปในเรื่องเอชไอวี พร้อมจัดบริการที่เป็นมิตร ให้การปรึกษาและตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี ส่งเสริมสถานศึกษาให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เรื่องเพศศึกษา ทักษะชีวิตอนามัยการเจริญพันธุ์ 
 
2.ลดการเสียชีวิตในผู้ติดเชื้อเอชไอวี รักษาผู้ติดเชื้อทุกคนด้วยยาต้านไวรัสเอชไอวี โดยเริ่มยาให้เร็วและตรวจวินิจฉัยติดตามทารกที่คลอดจากแม่ติดเชื้อ สนับสนุนให้ผู้ติดเชื้อกินยาสม่ำเสมอตลอดชีวิต ลดการเลือกปฏิบัติอันเกี่ยวเนื่องจากเอชไอวีและเพศสภาวะ 
 
โดยไม่มีการบังคับตรวจหาเชื้อเอชไอวี และต้องไม่เอามาเป็นเงื่อนไขในการรับสมัครหรือให้ออก เพื่อคัดเลือกบุคคลเข้าทำงานหรือเข้าเรียน หรือประกอบการเลื่อนตำแหน่ง เพื่อให้บุคคลเข้ารับการอุปสมบทได้ โดยไม่ต้องใช้ผลตรวจเอชไอวี และส่งเสริมให้ลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติต่อผู้ติดเชื้อเอชไอวีในชุมชน 
 
จึงได้จัดโครงการสร้างแกนนำเยาวชนนักรณรงค์บุหรี่ไฟฟ้าในสถานศึกษา ขึ้น เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการให้บริการถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชน สร้างความตระหนักรู้ความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัย ผลักดันให้เกิดนโยบายและแผนการดำเนินงานส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยในระดับจังหวัด ซึ่งนำไปสู่การสร้างสภาพแวดล้อมที่เด็กและเยาวชนสามารถพก ใช้ และซื้อถุงยางอนามัยได้อย่างไร้ความกังวล
 
เพื่อส่งเสริมการเข้าถึงการให้บริการถุงยางอนามัยของเด็กและเยาวชน สร้างความตระหนักรู้ความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัย ผลักดันให้เกิดนโยบายและแผนการดำเนินงานส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยในระดับจังหวัดทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงการให้บริการถุงยางอนามัยมากขึ้นเด็กและเยาวชนตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการใช้ถุงยางอนามัย เกิดนโยบายและแผนการดำเนินงานส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัย
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : อบจ.เชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME