คลองเกาะทอง” จะไปให้สุดแบบ “คลองแม่ข่า–โอตารุ” ได้อย่างไร แผนพลิกคลองบำบัดน้ำเสีย สู่ถนนศิลปินและแลนด์มาร์กสีเขียวกลางเมืองเชียงราย

เชียงราย, 14 ตุลาคม 2568 — ถ้าสักเช้าวันหนึ่ง เราได้เห็นเงาน้ำเป็นประกายสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ตัดกับแนวไม้ดอกสีสดที่เรียงรายริมตลิ่ง ผู้คนจิบกาแฟ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานเคียงข้างคลอง และวงดนตรีบรรเลงรับลมเหนือ—ภาพฝันแบบ “โอโตรุเบา ๆ” อยู่กลางเมืองเชียงราย จะเป็นไปได้แค่ไหน?
คำตอบกำลังค่อย ๆ เดินหน้าอยู่ที่ คลองบำบัดน้ำเสียชุมชนเกาะทอง”—พื้นที่ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายและ 3 ชุมชนหลัก (เกาะทอง–วังดิน–ร่องปลาค้าว) กำลังร่วมกันปรับภูมิทัศน์จากคลองลำเลียงน้ำเสียให้กลับมาสะอาด เป็นระเบียบ ร่มรื่น พร้อมวางระบบ น้ำหมุนเวียนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อฟื้นระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และตั้งเป้าผลักดันให้เป็น แลนด์มาร์กสีเขียว แห่งใหม่ของเมือง

ในเวลาไล่เลี่ยกัน โซเชียลมีเดียต่างบันทึกความฮอตของ คลองแม่ข่า” เชียงใหม่—พื้นที่ฟื้นฟูที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นเบา ๆ เดินสบายด้วยแนวซีรีนบล็อกริมขอบน้ำ ร้านกาแฟ–ของที่ระลึก–สตูดิโอศิลปินผุดขึ้นรายทาง กลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ที่ชวนให้คนไปสัมผัสบรรยากาศชิล ๆ ได้แทบทุกฤดู ขณะที่ภาพจำต้นแบบระดับโลกอย่าง คลองโอตารุ (Otaru Canal) ในฮอกไกโด—ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือสินค้า แต่วันนี้เป็นย่านพิพิธภัณฑ์–ร้านค้า–งานศิลป์ มีไฟระยิบยามค่ำคืนและเทศกาลฤดูหนาว—ก็ย้ำให้เห็นว่า “คลองในเมือง” สามารถแปลงร่างเป็นหัวใจของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้จริง หากออกแบบ “ประสบการณ์” และ “ระบบจัดการน้ำ” ได้ลงตัว

บทความเชิงข่าว–วิเคราะห์ชิ้นนี้ชวนผู้อ่านเจาะลึกว่า คลองเกาะทองของเชียงราย จะ ก้าวจากโครงสร้างพื้นฐานสิ่งแวดล้อม ไปสู่ โครงสร้างพื้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แบบ “แม่ข่า–โอตารุโมเดล” ได้อย่างไร พร้อมร้อยเรียงข้อเท็จจริง แผนงานที่มีอยู่ กลไกเทคนิค อนาคตเศรษฐกิจชุมชน และ “จุดเปลี่ยน” ที่จะทำให้เส้นทางนี้ไปถึงปลายทางอย่างยั่งยืน

จากคลองลำเลียงน้ำเสีย สู่ “ระเบียงสีเขียว” ของคนทั้งสามชุมชน

บริบทพื้นที่ คลองเกาะทองคือเส้นทางนำน้ำเสียไปยังบ่อบำบัดเดิมในย่านชุมชนหนาแน่นของเมืองเชียงราย ปัญหาที่สะสมมายาวนานคือ น้ำชะงัก–ตะกอน–กลิ่น–ขยะล่องลอย และสภาพภูมิทัศน์ที่ไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์สาธารณะ เทศบาลนครเชียงรายจึงวางแผน ปรับภูมิทัศน์ใหม่ทั้งระบบ—ตั้งแต่งานสะสาง–จัดระเบียบ–ปลูกไม้ดอก (เช่น พุทธรักษา ยี่โถสีม่วง) ตลอดแนวคลอง ไปจนถึงการออกแบบทางเดิน–พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับทุกวัย พร้อม ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Pump) เพื่อเร่งการไหล–เติมน้ำดี–ผลักน้ำเสียไปยังบ่อบำบัดอย่างเป็นระบบ

หมุดหมายและแรงขับ วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ผู้บริหารเทศบาลลงพื้นที่ร่วมปลูกต้นไม้และจัดระเบียบทางกายภาพ—เป็นสัญญาณว่าช่วง “ก่อรูป” เริ่มปรากฏให้เห็นจริงบนพื้นดิน ไม่ใช่แค่แผนบนกระดาษ เป้าประสงค์ชัดเจนสองชั้น (1) แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลน้ำเสียแบบยั่งยืนด้วยโซลูชันพลังงานสะอาด และ (2) เปลี่ยนพื้นที่ริมคลองให้เป็น สาธารณูปการเพื่อสุขภาวะ—เดิน–วิ่ง–ปั่นได้ ปลอดภัย สวยงาม ใช้งานได้ทุกวัน

ทุนสังคมที่พร้อม ความร่วมมือของ 3 ชุมชน (เกาะทอง–วังดิน–ร่องปลาค้าว) เป็น “แรงขับนุ่ม” ที่สำคัญ เพราะพื้นที่นี้เคยเผชิญข้อจำกัดด้านน้ำและอุทกภัยร่วมกัน การรวมพลังดูแล “คลองบ้านเรา” จึงไม่ใช่กิจกรรมสวยงามชั่วคราว แต่เป็น ผลประโยชน์ร่วม ของคนในละแวกโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ชุมชนเกาะทองเองเคยได้รับการยอมรับเป็น แหล่งเรียนรู้ต้นแบบ จากการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง—ทุนทางสังคมแบบนี้เป็น “เงื่อนไขสำเร็จ” ของงานพัฒนาเมืองที่ใช้เวลานาน

ถอดบทเรียน “คลองแม่ข่า–เชียงใหม่” ทำไมฟีลญี่ปุ่นจึงเวิร์ก และเราจะยกมาปรับใช้ที่เชียงรายอย่างไร

บรรยากาศและการออกแบบ คลองแม่ข่าในสายตาผู้มาเยือนคือแถวทางเดินที่ สะอาด–เป็นระเบียบ–เรียบง่าย เสริมด้วย ซีรีนบล็อกคอนกรีต รับเส้นสายตลิ่งที่ชัด และเปิดมุมมองให้เห็นสายน้ำอย่างปลอดโปร่ง ร้านกาแฟ–ของที่ระลึก–งานคราฟต์เรียงตัวพองามโดยไม่บีบพื้นที่สาธารณะ ผลรวมทั้งหมดส่ง “กลิ่นอายญี่ปุ่นเบา ๆ” ที่คุ้นตาในงานออกแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่—น้อยแต่พอดี เน้นผิวสัมผัสวัสดุและสัดส่วนที่เดินสบาย

กิจกรรมคือหัวใจ แม่ข่าประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้มีแค่ “พื้นที่” แต่มี กิจกรรมที่ไหล—ศิลปินข้างคลอง ตลาดน้อย ๆ ช่วงบ่าย–เย็น มุมดนตรีสด งานแสดงชั่วคราว และคาแรกเตอร์ร้านที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้คนมีเหตุผลกลับมาอีกบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปครั้งเดียวแล้วจบ

บทเรียนสู่เชียงราย

  • 1. มาตรฐานน้ำและความสะอาด ความสวยงามอยู่ไม่ได้ถ้าน้ำมีกลิ่นหรือขยะลอย นี่คือ “ชั้นฐาน” ที่ต้องทำให้เสถียรก่อน—ซึ่งแผนโซลาร์ปั๊มของเชียงรายตอบโจทย์นี้ตรงจุด
  • 2. ผังใช้ประโยชน์พื้นที่ (Zoning) จัดสรรแนว Walkway–Green–Water Edge ให้เดินต่อเนื่อง ไม่เบียดล้ำทางน้ำ ร้านค้าควรตั้งถอยหลังพอสมควรเพื่อคง “ขอบน้ำ” ให้โปร่งและเป็นของส่วนรวม
  • 3. คัดสรร–คัดคุณภาพกิจกรรม แทนการเปิดเสรีทุกอย่าง ควรตั้ง เกณฑ์คุณภาพ และเลือกกิจกรรม–ร้านค้าที่สอดคล้องอัตลักษณ์เชียงราย (งานศิลป์–ช่างฝีมือ–กาแฟ–อาหารพื้นถิ่น) เพื่อหลีกเลี่ยง สตรีทของก๊อบปี้”
  • 4. ดูแลตลอดชั่วโมงใช้งาน ทีม Operation & Maintenance (O&M) ต้องทำงานเงียบ ๆ แต่เข้มข้น—ล้างทาง–เก็บขยะ–ตรวจน้ำ–ดูไฟ—เพราะความประทับใจของเมืองอยู่ที่ “จุดเล็ก ๆ” ที่ไม่สะดุด
Hokkaido: Otaru Canal Cruise and Seal Engraving Experience

แบบฝันที่จับต้องได้ “โอตารุโมเดล” กับถนนศิลปินริมคลองเกาะทอง

แรงบันดาลใจจากโอตารุ โอตารุเคยเป็น คลองขนส่งสินค้า ก่อนปรับบทบาทเป็น พิพิธภัณฑ์–ร้านค้า–ร้านอาหาร ย่านเดียวกันในตอนกลางวันจะมี ศิลปิน–นักวาด–นักดนตรี สลับคิว โคมไฟสไตล์วิกตอเรียนและการประดับไฟยามค่ำทำให้ภาพรวม “โรแมนติก” และ เทศกาล Otaru Snow Story ช่วงกลาง พ.ย.–ต้น ก.พ. ก็ช่วยยืดฤดูกาลท่องเที่ยว

พิมพ์เขียวที่เข้ากับเชียงราย

  • คอนเซ็ปต์ “ถนนศิลปินกลางเมือง” เชียงรายเป็นเมืองศิลป์โดยสายเลือด—จากงานจิตรกรรม–ประติมากรรม–คราฟต์พื้นถิ่นสู่ศิลปะร่วมสมัย ริมคลองเกาะทองสามารถกำหนดแนวยาว “Artist Strip” ที่มีซุ้มงานวาด/งานปั้น/เป่าแก้ว/สกรีนพิมพ์—เชื่อมกับสตูดิโอขนาดเล็กและแกลเลอรีในระยะเดินถึง
  • คืนชีวิตให้ “น้ำ” ยามค่ำ ใช้ แสง–เงา–ไฟ เป็นภาษาของพื้นที่ เช่น โคมไฟย้อนยุคเรียงช่วง–งาน Projection Mapping บางเทศกาลบนผนังที่จัดทำเฉพาะกิจ—ทำให้ “คืนเชียงราย” ชวนเดินปลอดภัยและน่าจดจำ
  • เทศกาลตามวาระ วางปฏิทิน คลองศิลป์เชียงราย” ฤดูหนาว–ฤดูร้อน–ฤดูฝน แต่ละวาระมีธีมกิจกรรมต่างกัน (ตลาดงานพิมพ์, ดนตรีฟังสบาย, ศิลปะกับเด็ก, งานอาหารพื้นถิ่นในคืนลมหนาว) เพื่อกระจายคนและยืดการใช้งานทั้งปี
  • เชื่อมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เปิดพื้นที่ Pop-up ให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่และ วิสาหกิจชุมชน เข้าถึงหน้าเช่าราคายุติธรรม แลกกับการรักษามาตรฐานและร่วมดูแลพื้นที่ร่วมกัน

โครงสร้างเทคนิค–การบริหารน้ำ หัวใจที่มองไม่เห็น แต่ทำให้ทุกอย่าง “อยู่ได้”

ทำไม “น้ำหมุนเวียน” สำคัญ คลองบำบัดน้ำเสียจะมีกลิ่นและเกิดตะกอนหากน้ำ นิ่ง การวางระบบ Solar Pump เพื่อจ่าย “น้ำดี” เข้า—ให้เกิด Flow ต่อเนื่อง—ช่วยสองเรื่องพร้อมกัน (1) ไล่น้ำเสีย ลงสู่ระบบบำบัด และ (2) เติมออกซิเจน ฟื้นระบบนิเวศทางน้ำ เมื่อหน้าร้อนยาวหรือหน้าแล้งมา น้ำยัง เคลื่อน จึงลดโอกาสเกิดกลิ่นได้มาก

ข้อควรระวัง

  • วาง เกณฑ์คุณภาพน้ำเป้าหมาย รายเดือน (เช่น ค่าความขุ่น–กลิ่น–การเกิดตะกอนริมตลิ่ง) และเผยแพร่เป็น Dashboard สาธารณะ ให้ชุมชนตรวจสอบได้
  • นอกจากปั๊ม ควรมี กระบวนการกรองหยาบ–ตะแกรงขยะ ที่เข้าถึงง่าย เพื่อให้ทีมชุมชนช่วยยก–เก็บได้ในกิจกรรมประจำสัปดาห์
  • ผนวก พลังงานแสงอาทิตย์ เข้ากับ แบตเตอรี่สำรอง ในจุดสำคัญ เพื่อรักษาการไหลยามฟ้าปิด–ฝนต่อเนื่อง
  • ทำ คู่มือ O&M ที่ชัดเจน ตารางตรวจ–จุดทดสอบน้ำ–การแจ้งเหตุซ่อม–เวลาแก้ปัญหามาตรฐาน (SLA) ระหว่างเทศบาล–ชุมชน–ผู้รับจ้างบำรุงรักษา

ทั้งหมดนี้คือ “เครื่องจักรเงียบ” ที่ทำให้หน้าบ้าน (ทางเดิน–ร้าน–ศิลปะ) สวยและไม่สะดุด—ถ้าใจกลางระบบน้ำทำงานไม่ล้ม ความน่าเชื่อถือของแลนด์มาร์กก็ยืนระยะ

คลองแม่ข่า จ.เชียงใหม่ ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fontip Dam-iam
คลองแม่ข่า จ.เชียงใหม่ ภาพจาก เฟซบุ๊ก Fontip Dam-iam

เศรษฐกิจย่านและผลประโยชน์สังคม ตัวเลขที่ควรมองและผลลัพธ์ที่จับต้องได้

ผลต่อคุณภาพชีวิต

  • พื้นที่สีเขียวและทางเดิน–วิ่ง–ปั่น ช่วยเพิ่ม กิจกรรมทางกาย ของคนเมืองแบบ “เดินได้ทุกวัน”
  • ความปลอดภัย ดีขึ้นจากระบบไฟ–กล้อง–การออกแบบพื้นที่เปิดโล่ง ลด “มุมอับ”
  • ทุนสังคม แข็งแรงขึ้นเมื่อชุมชนมี “งานกลางแจ้งร่วมกัน” อย่างสม่ำเสมอ

ผลต่อเศรษฐกิจในรัศมีเดินเท้า

  • โอกาสของ SMEs/วิสาหกิจชุมชน คาเฟ่–ของที่ระลึก–สตูดิโอเวิร์กช็อป–เช่าจักรยาน—รายได้กระจายสู่คนในพื้นที่โดยตรง
  • ผลทวีคูณ (Multiplier) เมื่อย่านมีเหตุผลให้มาเยือน ทั้งเช้า–บ่าย–ค่ำ ร้านค้าในตรอกใกล้เคียงจะได้ลูกค้าต่อเนื่อง เกิด เศรษฐกิจย่อยรายรอบคลอง
  • การตลาดเมือง (City Branding) ภาพ “คลองสวย–สะอาด–ศิลปะ” เสริมแบรนด์ “นครแห่งความสุข” ของเชียงราย เชื่อมกับสินทรัพย์ท่องเที่ยวหลักของเมือง (วัด–พิพิธภัณฑ์–ย่านเก่า–คาเฟ่) และ ปั่นต่อ ไปยังแลนด์มาร์กใหม่ ๆ ได้ในแนวทาง เที่ยวระยะสั้น–หลายจุด

ชวนคิด แม่ข่าพิสูจน์แล้วว่า “บรรยากาศดี + เดินง่าย + ร้านมีเอกลักษณ์” = คนอยากกลับมาอีก ส่วนโอตารุสอนว่า “เทศกาล + แสงยามค่ำ” = ยืดเวลาการใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น หากคลองเกาะทองเดินตามนี้อย่างมีวินัย ตัวเลขผู้มาเยือนและรายได้ชุมชนจะ “ไหล” ตามสายน้ำที่หมุนเวียนไม่หยุด

ธรรมาภิบาล–กติกาย่าน–การมีส่วนร่วม ทำให้ย่าน “สวยและเป็นธรรม” พร้อมเติบโต

ตั้งกติกาให้ชัดตั้งแต่ต้น

  • Zoning & Design Code ความกว้างทางเดิน–ระยะร่นอาคาร–ความสูง–วัสดุริมตลิ่ง–สีและป้าย—เพื่อให้ภาพรวมเรียบ งาม และเดินสบาย
  • Vendor & Activity Curation ระบบคัดสรรผู้ค้า/ศิลปินที่คุมคุณภาพสินค้า–บริการ และร้อยกับอัตลักษณ์เชียงราย ลดโอกาส “สตรีทซ้ำแบบทุกเมือง”
  • เสียงของชุมชน เวทีรับฟังความเห็นสม่ำเสมอ (รายไตรมาส) เพื่อปรับแผนกิจกรรม–เวลาเปิด–ระบบดูแลพื้นที่ ไม่ให้ย่าน “เหนื่อยล้า” จากความนิยม
  • ค่าตอบแทนเป็นธรรม อัตราหน้าร้าน/การใช้พื้นที่สาธารณะควรมี Rate พิเศษ สำหรับชุมชนรอบคลอง–ผู้ประกอบการรุ่นใหม่–ผู้พิการ/ผู้สูงอายุ–กิจกรรมสาธารณะ เพื่อให้ เศรษฐกิจย่านเติบโตแบบไม่ทิ้งกัน

โครงสร้างบริหารร่วม (Joint Operations)
สร้างกลไก คณะกรรมการคลองเกาะทอง” มีตัวแทนเทศบาล–สามชุมชน–ผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อม–ตำรวจ–นักท่องเที่ยว–ภาคธุรกิจในรัศมี เดินงานร่วมกัน 3 วงหลัก

  1. น้ำและสิ่งแวดล้อม (วัดคุณภาพน้ำ–ดูแลปั๊ม–เก็บขยะ–ความสะอาด)
  2. กิจกรรมและย่าน (ปฏิทินเทศกาล–คัดสรรผู้ค้า–มาตรฐานร้าน–ความปลอดภัยยามค่ำ)
  3. การสื่อสารและการตลาดเมือง (แบรนด์คลอง–สื่อสารภาพเดียว–ข้อมูลผู้มาเยือน–สำรวจความพึงพอใจ)

แผนเดินหน้า 12–18 เดือน จาก “งานกายภาพ” สู่ “ย่านที่มีชีวิต”

เฟส 1: งานฐานราก (0–6 เดือน)

  • เดินเครื่อง Solar Pump และระบบกรองหยาบ/ตะแกรงขยะ
  • ปรับขอบคลอง–ปรับผิว–วาง Walkway ต่อเนื่อง–เพิ่มไฟส่องสว่าง–จุดนั่งพัก
  • ปลูกไม้ดอก–ไม้พุ่ม–เพิ่มร่มเงาบางช่วง—เลือกชนิดดูแลง่าย ทนสภาพอากาศเหนือ
  • ทดลอง กิจกรรมความถี่ต่ำ (เสาร์–อาทิตย์/รายเดือน) เพื่อเทสต์การจัดการฝูงชน–จุดขาย–จุดเสี่ยง

เฟส 2: กติกาและคัดสรร (6–12 เดือน)

  • ออก Design Code–Vendor Code พร้อมประกาศใช้อย่างเป็นทางการ
  • เปิดรับผู้ค้า/ศิลปินรอบแรก—คละประเภท เพื่อสร้างประสบการณ์หลากหลาย
  • ตั้งทีม O&M ประจำคลอง (เทศบาล + อาสาชุมชน + ผู้รับจ้าง) พร้อม SLA ชัดเจน

เฟส 3: เทศกาลและแสงเมือง (12–18 เดือน)

  • เปิดตัวเทศกาล คลองศิลป์เชียงราย” ครั้งที่ 1 (ธีมฤดูหนาว) พร้อมงานไฟ–ดนตรี–เวิร์กช็อปเด็ก
  • เชื่อมเส้นทางจักรยาน/เดินต่อไปย่านใกล้เคียง—ทำ Map เมืองเดินได้
  • เริ่มเก็บข้อมูลผู้มาเยือน–การใช้จ่าย–ความพึงพอใจ (แบบสอบถาม/นับคน) เพื่อปรับแผนปีถัดไปอย่างมีข้อมูล

ความเสี่ยงและทางกันคลื่น เมืองที่งามอย่างยั่งยืนต้อง “เอาชนะความเคยชิน”

  • เสน่ห์หายเพราะล้น ถ้ากิจกรรม–ร้าน–คนแน่นเกินไปจนเดินไม่สบาย–ขยะสะสม–เสียงดัง–จราจรรอบย่านตึง ภาพจำจะเปลี่ยนเร็ว ต้องใช้ เพดานการใช้พื้นที่ (Carrying Capacity) ที่ประเมินจากความกว้างทางเดิน–จำนวนจุดนั่ง–ทางหนีไฟ และหมุนเวียนกิจกรรมไม่ให้หนาแน่นเกินไป
  • ราคาที่ดิน–ค่าเช่าไหลแรง ตั้ง โควต้า/เพดานค่าเช่าพื้นที่สาธารณะ ฝั่งชุมชน เพื่อคง สมดุลสังคม ไม่ให้คนดั้งเดิมถูกเบียดออก
  • ระบบน้ำสะดุด = ความเชื่อมั่นหาย กำหนด ทีมฉุกเฉิน ซ่อมบำรุงภายในเวลามาตรฐาน พร้อม สื่อสารโปร่งใส กรณีเกิดเหตุ—รักษาความเชื่อใจของสาธารณะ
  • ความสับสนภาพลักษณ์ วาง แบรนด์คลองเกาะทอง ให้ชัด (โลโก้–โทนสี–ป้าย–ภาษาภาพ) และสร้าง คู่มือใช้แบรนด์ สำหรับผู้ค้า/กิจกรรม เพื่อให้ภาพรวม “พูดภาษาเดียวกัน”

มองไกล “โครงสร้างพื้นฐานของความสุข” ที่พาคนทั้งเมืองเดินไปด้วยกัน

“คลองในเมือง” ไม่ควรเป็นเพียง แนวระบายน้ำ แต่เป็น ที่ว่างของความสุขร่วมกัน คลองเกาะทองกำลังเดินหน้าในทางนี้ด้วยชุดเครื่องมือครบมือ—ระบบน้ำหมุนเวียนสะอาด + ทางสาธารณะเดินสบาย + ชุมชนเข้มแข็ง + วิสัยทัศน์เมืองแห่งความสุข หากเรียนรู้จากแม่ข่าและดึงแรงบันดาลใจบางส่วนจากโอตารุ (ในแบบที่เป็นเชียงรายเอง) การเกิดขึ้นของ ถนนศิลปินริมคลองเกาะทอง” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว

และเมื่อทุกอย่างเข้าที่—ตั้งแต่กลิ่นน้ำที่หายไปจนถึงไฟยามค่ำที่อบอุ่น—ชื่อของคลองเกาะทองจะค่อย ๆ ถูกเรียกขานด้วยคำใหม่ หมุดหมายใหม่ของเชียงราย” ที่คนอยากกลับมาซ้ำ เพียงเพราะที่นั่น เดินแล้วสบายใจ

ข้อเสนอฉบับย่อ “คลองเกาะทองสไตล์เชียงราย”

  • หัวใจเทคนิค เดินเครื่อง Solar Pump + ระบบกรองหยาบ + Dashboard คุณภาพน้ำสาธารณะ
  • หัวใจพื้นที่ Walkway ต่อเนื่อง–ไฟทาง–ที่นั่ง–ไม้ดอก–ร่มเงา–ขอบน้ำโปร่ง
  • หัวใจกิจกรรม ถนนศิลปิน–ตลาดงานคราฟต์–ดนตรีรับลม–เทศกาลไฟฤดูหนาว
  • หัวใจธรรมาภิบาล Zoning & Design Code + Vendor Code + เพดานใช้พื้นที่ + ส่วนร่วมชุมชน
  • หัวใจยั่งยืน ทีม O&M เฉพาะ–SLA ซ่อมไว–เผยแพร่ข้อมูลโปร่งใส–แบบสำรวจผู้ใช้พื้นที่สม่ำเสมอ

 

ทำไม “คลองเกาะทองเวอร์ชันญี่ปุ่นเบา ๆ” จึงคุ้มค่าเมือง

  1. สุขภาวะประชาชน เพิ่มขึ้นจากกิจกรรมกายภาพประจำวัน—เมืองสุขภาพดี “ลดค่ารักษา” ในระยะยาว
  2. ศักยภาพเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เพิ่มขึ้น—รายได้จ่อเข้าคนท้องถิ่น–ผู้ประกอบการรายเล็ก
  3. แบรนด์เมือง แข็งแรง—เชียงรายไม่ได้มีดีแค่แลนด์มาร์กดังเดิม แต่มี “คลองสีเขียวสายใหม่” ใจกลางเมือง
  4. การเรียนรู้ของเมือง—ชุมชนได้ทักษะดูแลพื้นที่สาธารณะและระบบเทคนิค (น้ำ–ไฟ–ความปลอดภัย) อย่างแท้จริง

สิ่งที่เชียงรายทำอยู่ไม่ใช่เพียง “ปรับภูมิทัศน์” แต่คือการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานของความสุข ให้คนเมือง—และถ้าหัวใจเทคนิค–การจัดการ–กิจกรรม–ธรรมาภิบาล วิ่งไปพร้อมกัน คลองเกาะทองจะไม่ใช่แค่ “ที่สวย” แต่จะเป็น “ที่ที่อยากอยู่และอยากกลับมา” เหมือนที่แม่ข่าทำได้ และโอตารุเล่าเรื่องมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ

จาก “คลองบำบัดน้ำเสีย” สู่ “ถนนศิลปินริมคลอง”—เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อเรียก แต่คือ การสร้างระบบ ให้คน เดิน–ดู–ดื่มด่ำ–และดูแลร่วมกัน เมื่อระบบน้ำไหลอย่างมีชีวิต ทางเดินต่อเนื่องอย่างพอดี ร้านค้า–งานศิลป์มีตัวตนของเชียงราย และกติกาย่านทำให้เติบโตอย่างเป็นธรรม วันนั้น “คลองเกาะทอง” จะไม่ใช่เพียงทางผ่านของน้ำ แต่เป็น ทางผ่านของความสุข ที่คนทั้งเมืองภูมิใจ และนักเดินทางอยากแวะซ้ำ—เหมือนที่เราเคยเห็นที่แม่ข่า และตกหลุมรักที่โอตารุมาแล้ว.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News