
เชียงราย, 14 ตุลาคม 2568 — ถ้าสักเช้าวันหนึ่ง เราได้เห็นเงาน้ำเป็นประกายสะท้อนแสงอาทิตย์อ่อน ๆ ตัดกับแนวไม้ดอกสีสดที่เรียงรายริมตลิ่ง ผู้คนจิบกาแฟ เดิน วิ่ง ปั่นจักรยานเคียงข้างคลอง และวงดนตรีบรรเลงรับลมเหนือ—ภาพฝันแบบ “โอโตรุเบา ๆ” อยู่กลางเมืองเชียงราย จะเป็นไปได้แค่ไหน?
คำตอบกำลังค่อย ๆ เดินหน้าอยู่ที่ “คลองบำบัดน้ำเสียชุมชนเกาะทอง”—พื้นที่ซึ่งเทศบาลนครเชียงรายและ 3 ชุมชนหลัก (เกาะทอง–วังดิน–ร่องปลาค้าว) กำลังร่วมกันปรับภูมิทัศน์จากคลองลำเลียงน้ำเสียให้กลับมาสะอาด เป็นระเบียบ ร่มรื่น พร้อมวางระบบ น้ำหมุนเวียนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อฟื้นระบบนิเวศอย่างยั่งยืน และตั้งเป้าผลักดันให้เป็น แลนด์มาร์กสีเขียว แห่งใหม่ของเมือง
ในเวลาไล่เลี่ยกัน โซเชียลมีเดียต่างบันทึกความฮอตของ “คลองแม่ข่า” เชียงใหม่—พื้นที่ฟื้นฟูที่มีกลิ่นอายญี่ปุ่นเบา ๆ เดินสบายด้วยแนวซีรีนบล็อกริมขอบน้ำ ร้านกาแฟ–ของที่ระลึก–สตูดิโอศิลปินผุดขึ้นรายทาง กลายเป็นจุดเช็กอินใหม่ที่ชวนให้คนไปสัมผัสบรรยากาศชิล ๆ ได้แทบทุกฤดู ขณะที่ภาพจำต้นแบบระดับโลกอย่าง คลองโอตารุ (Otaru Canal) ในฮอกไกโด—ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นท่าเรือสินค้า แต่วันนี้เป็นย่านพิพิธภัณฑ์–ร้านค้า–งานศิลป์ มีไฟระยิบยามค่ำคืนและเทศกาลฤดูหนาว—ก็ย้ำให้เห็นว่า “คลองในเมือง” สามารถแปลงร่างเป็นหัวใจของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้จริง หากออกแบบ “ประสบการณ์” และ “ระบบจัดการน้ำ” ได้ลงตัว
บทความเชิงข่าว–วิเคราะห์ชิ้นนี้ชวนผู้อ่านเจาะลึกว่า คลองเกาะทองของเชียงราย จะ ก้าวจากโครงสร้างพื้นฐานสิ่งแวดล้อม ไปสู่ โครงสร้างพื้นฐานเพื่อคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แบบ “แม่ข่า–โอตารุโมเดล” ได้อย่างไร พร้อมร้อยเรียงข้อเท็จจริง แผนงานที่มีอยู่ กลไกเทคนิค อนาคตเศรษฐกิจชุมชน และ “จุดเปลี่ยน” ที่จะทำให้เส้นทางนี้ไปถึงปลายทางอย่างยั่งยืน
จากคลองลำเลียงน้ำเสีย สู่ “ระเบียงสีเขียว” ของคนทั้งสามชุมชน
บริบทพื้นที่ คลองเกาะทองคือเส้นทางนำน้ำเสียไปยังบ่อบำบัดเดิมในย่านชุมชนหนาแน่นของเมืองเชียงราย ปัญหาที่สะสมมายาวนานคือ น้ำชะงัก–ตะกอน–กลิ่น–ขยะล่องลอย และสภาพภูมิทัศน์ที่ไม่เอื้อต่อการใช้ประโยชน์สาธารณะ เทศบาลนครเชียงรายจึงวางแผน ปรับภูมิทัศน์ใหม่ทั้งระบบ—ตั้งแต่งานสะสาง–จัดระเบียบ–ปลูกไม้ดอก (เช่น พุทธรักษา ยี่โถสีม่วง) ตลอดแนวคลอง ไปจนถึงการออกแบบทางเดิน–พื้นที่ออกกำลังกายสำหรับทุกวัย พร้อม ระบบสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Pump) เพื่อเร่งการไหล–เติมน้ำดี–ผลักน้ำเสียไปยังบ่อบำบัดอย่างเป็นระบบ
หมุดหมายและแรงขับ วันที่ 10 ตุลาคม 2568 ผู้บริหารเทศบาลลงพื้นที่ร่วมปลูกต้นไม้และจัดระเบียบทางกายภาพ—เป็นสัญญาณว่าช่วง “ก่อรูป” เริ่มปรากฏให้เห็นจริงบนพื้นดิน ไม่ใช่แค่แผนบนกระดาษ เป้าประสงค์ชัดเจนสองชั้น (1) แก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาลน้ำเสียแบบยั่งยืนด้วยโซลูชันพลังงานสะอาด และ (2) เปลี่ยนพื้นที่ริมคลองให้เป็น สาธารณูปการเพื่อสุขภาวะ—เดิน–วิ่ง–ปั่นได้ ปลอดภัย สวยงาม ใช้งานได้ทุกวัน
ทุนสังคมที่พร้อม ความร่วมมือของ 3 ชุมชน (เกาะทอง–วังดิน–ร่องปลาค้าว) เป็น “แรงขับนุ่ม” ที่สำคัญ เพราะพื้นที่นี้เคยเผชิญข้อจำกัดด้านน้ำและอุทกภัยร่วมกัน การรวมพลังดูแล “คลองบ้านเรา” จึงไม่ใช่กิจกรรมสวยงามชั่วคราว แต่เป็น ผลประโยชน์ร่วม ของคนในละแวกโดยตรง ยิ่งไปกว่านั้น ชุมชนเกาะทองเองเคยได้รับการยอมรับเป็น แหล่งเรียนรู้ต้นแบบ จากการขับเคลื่อนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง—ทุนทางสังคมแบบนี้เป็น “เงื่อนไขสำเร็จ” ของงานพัฒนาเมืองที่ใช้เวลานาน
ถอดบทเรียน “คลองแม่ข่า–เชียงใหม่” ทำไมฟีลญี่ปุ่นจึงเวิร์ก และเราจะยกมาปรับใช้ที่เชียงรายอย่างไร
บรรยากาศและการออกแบบ คลองแม่ข่าในสายตาผู้มาเยือนคือแถวทางเดินที่ สะอาด–เป็นระเบียบ–เรียบง่าย เสริมด้วย ซีรีนบล็อกคอนกรีต รับเส้นสายตลิ่งที่ชัด และเปิดมุมมองให้เห็นสายน้ำอย่างปลอดโปร่ง ร้านกาแฟ–ของที่ระลึก–งานคราฟต์เรียงตัวพองามโดยไม่บีบพื้นที่สาธารณะ ผลรวมทั้งหมดส่ง “กลิ่นอายญี่ปุ่นเบา ๆ” ที่คุ้นตาในงานออกแบบญี่ปุ่นสมัยใหม่—น้อยแต่พอดี เน้นผิวสัมผัสวัสดุและสัดส่วนที่เดินสบาย
กิจกรรมคือหัวใจ แม่ข่าประสบความสำเร็จเพราะไม่ได้มีแค่ “พื้นที่” แต่มี กิจกรรมที่ไหล—ศิลปินข้างคลอง ตลาดน้อย ๆ ช่วงบ่าย–เย็น มุมดนตรีสด งานแสดงชั่วคราว และคาแรกเตอร์ร้านที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ผู้คนมีเหตุผลกลับมาอีกบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่ถ่ายรูปครั้งเดียวแล้วจบ
บทเรียนสู่เชียงราย
แบบฝันที่จับต้องได้ “โอตารุโมเดล” กับถนนศิลปินริมคลองเกาะทอง
แรงบันดาลใจจากโอตารุ โอตารุเคยเป็น คลองขนส่งสินค้า ก่อนปรับบทบาทเป็น พิพิธภัณฑ์–ร้านค้า–ร้านอาหาร ย่านเดียวกันในตอนกลางวันจะมี ศิลปิน–นักวาด–นักดนตรี สลับคิว โคมไฟสไตล์วิกตอเรียนและการประดับไฟยามค่ำทำให้ภาพรวม “โรแมนติก” และ เทศกาล Otaru Snow Story ช่วงกลาง พ.ย.–ต้น ก.พ. ก็ช่วยยืดฤดูกาลท่องเที่ยว
พิมพ์เขียวที่เข้ากับเชียงราย
โครงสร้างเทคนิค–การบริหารน้ำ หัวใจที่มองไม่เห็น แต่ทำให้ทุกอย่าง “อยู่ได้”
ทำไม “น้ำหมุนเวียน” สำคัญ คลองบำบัดน้ำเสียจะมีกลิ่นและเกิดตะกอนหากน้ำ นิ่ง การวางระบบ Solar Pump เพื่อจ่าย “น้ำดี” เข้า—ให้เกิด Flow ต่อเนื่อง—ช่วยสองเรื่องพร้อมกัน (1) ไล่น้ำเสีย ลงสู่ระบบบำบัด และ (2) เติมออกซิเจน ฟื้นระบบนิเวศทางน้ำ เมื่อหน้าร้อนยาวหรือหน้าแล้งมา น้ำยัง เคลื่อน จึงลดโอกาสเกิดกลิ่นได้มาก
ข้อควรระวัง
ทั้งหมดนี้คือ “เครื่องจักรเงียบ” ที่ทำให้หน้าบ้าน (ทางเดิน–ร้าน–ศิลปะ) สวยและไม่สะดุด—ถ้าใจกลางระบบน้ำทำงานไม่ล้ม ความน่าเชื่อถือของแลนด์มาร์กก็ยืนระยะ
เศรษฐกิจย่านและผลประโยชน์สังคม ตัวเลขที่ควรมองและผลลัพธ์ที่จับต้องได้
ผลต่อคุณภาพชีวิต
ผลต่อเศรษฐกิจในรัศมีเดินเท้า
ชวนคิด แม่ข่าพิสูจน์แล้วว่า “บรรยากาศดี + เดินง่าย + ร้านมีเอกลักษณ์” = คนอยากกลับมาอีก ส่วนโอตารุสอนว่า “เทศกาล + แสงยามค่ำ” = ยืดเวลาการใช้งานพื้นที่ให้คุ้มค่ายิ่งขึ้น หากคลองเกาะทองเดินตามนี้อย่างมีวินัย ตัวเลขผู้มาเยือนและรายได้ชุมชนจะ “ไหล” ตามสายน้ำที่หมุนเวียนไม่หยุด
ธรรมาภิบาล–กติกาย่าน–การมีส่วนร่วม ทำให้ย่าน “สวยและเป็นธรรม” พร้อมเติบโต
ตั้งกติกาให้ชัดตั้งแต่ต้น
โครงสร้างบริหารร่วม (Joint Operations)
สร้างกลไก “คณะกรรมการคลองเกาะทอง” มีตัวแทนเทศบาล–สามชุมชน–ผู้เชี่ยวชาญสิ่งแวดล้อม–ตำรวจ–นักท่องเที่ยว–ภาคธุรกิจในรัศมี เดินงานร่วมกัน 3 วงหลัก
แผนเดินหน้า 12–18 เดือน จาก “งานกายภาพ” สู่ “ย่านที่มีชีวิต”
เฟส 1: งานฐานราก (0–6 เดือน)
เฟส 2: กติกาและคัดสรร (6–12 เดือน)
เฟส 3: เทศกาลและแสงเมือง (12–18 เดือน)
ความเสี่ยงและทางกันคลื่น เมืองที่งามอย่างยั่งยืนต้อง “เอาชนะความเคยชิน”
มองไกล “โครงสร้างพื้นฐานของความสุข” ที่พาคนทั้งเมืองเดินไปด้วยกัน
“คลองในเมือง” ไม่ควรเป็นเพียง แนวระบายน้ำ แต่เป็น ที่ว่างของความสุขร่วมกัน คลองเกาะทองกำลังเดินหน้าในทางนี้ด้วยชุดเครื่องมือครบมือ—ระบบน้ำหมุนเวียนสะอาด + ทางสาธารณะเดินสบาย + ชุมชนเข้มแข็ง + วิสัยทัศน์เมืองแห่งความสุข หากเรียนรู้จากแม่ข่าและดึงแรงบันดาลใจบางส่วนจากโอตารุ (ในแบบที่เป็นเชียงรายเอง) การเกิดขึ้นของ “ถนนศิลปินริมคลองเกาะทอง” ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
และเมื่อทุกอย่างเข้าที่—ตั้งแต่กลิ่นน้ำที่หายไปจนถึงไฟยามค่ำที่อบอุ่น—ชื่อของคลองเกาะทองจะค่อย ๆ ถูกเรียกขานด้วยคำใหม่ “หมุดหมายใหม่ของเชียงราย” ที่คนอยากกลับมาซ้ำ เพียงเพราะที่นั่น เดินแล้วสบายใจ
ข้อเสนอฉบับย่อ “คลองเกาะทองสไตล์เชียงราย”
ทำไม “คลองเกาะทองเวอร์ชันญี่ปุ่นเบา ๆ” จึงคุ้มค่าเมือง
สิ่งที่เชียงรายทำอยู่ไม่ใช่เพียง “ปรับภูมิทัศน์” แต่คือการสร้าง โครงสร้างพื้นฐานของความสุข ให้คนเมือง—และถ้าหัวใจเทคนิค–การจัดการ–กิจกรรม–ธรรมาภิบาล วิ่งไปพร้อมกัน คลองเกาะทองจะไม่ใช่แค่ “ที่สวย” แต่จะเป็น “ที่ที่อยากอยู่และอยากกลับมา” เหมือนที่แม่ข่าทำได้ และโอตารุเล่าเรื่องมาแล้วกว่าครึ่งศตวรรษ
จาก “คลองบำบัดน้ำเสีย” สู่ “ถนนศิลปินริมคลอง”—เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อเรียก แต่คือ การสร้างระบบ ให้คน เดิน–ดู–ดื่มด่ำ–และดูแลร่วมกัน เมื่อระบบน้ำไหลอย่างมีชีวิต ทางเดินต่อเนื่องอย่างพอดี ร้านค้า–งานศิลป์มีตัวตนของเชียงราย และกติกาย่านทำให้เติบโตอย่างเป็นธรรม วันนั้น “คลองเกาะทอง” จะไม่ใช่เพียงทางผ่านของน้ำ แต่เป็น ทางผ่านของความสุข ที่คนทั้งเมืองภูมิใจ และนักเดินทางอยากแวะซ้ำ—เหมือนที่เราเคยเห็นที่แม่ข่า และตกหลุมรักที่โอตารุมาแล้ว.
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.