
เชียงราย, 8 ธันวาคม 2568 – ท่ามกลางอากาศเย็นสบาย ปลายปีที่หลายครอบครัวมองหาจังหวะหลีกหนีความแออัดจากเมืองหลวง เส้นทาง กรุงเทพฯ–เชียงราย กำลังกลายเป็นหนึ่งใน “สมรภูมิการเดินทาง” ที่ดุเดือดที่สุดของฤดูท่องเที่ยวปีใหม่ 2568–2569 ทั้งในเชิง ราคา ที่นั่ง และรูปแบบการเดินทาง
รายงานพิเศษฉบับนี้ของทีมข่าวเศรษฐกิจ ลงพื้นที่เก็บข้อมูลและรวบรวมตัวเลขเชิงวิเคราะห์ เพื่อถอดรหัสว่าทำไมการเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าสู่เชียงราย ในช่วง ธันวาคม 2568 – มกราคม 2569 จึงกลายเป็น “เกมวางแผน” ระหว่าง เครื่องบิน–รถทัวร์–รถส่วนตัว และอะไรคือปัจจัยเชิงโครงสร้างที่ผลักดันให้ราคาตั๋วเครื่องบินพุ่งสูงกว่าปกติหลายเท่าตัว
เมื่อการเดินทางกลายเป็น “สมการแลกเปลี่ยน” เวลา–งบประมาณ–ความยืดหยุ่น
หากมองแบบผิวเผิน การเลือกเดินทางไปเชียงรายมีเพียงสามคำถามพื้นฐาน – บินไปดีไหม, นั่งรถทัวร์ประหยัดกว่าไหม, หรือ ขับรถไปเองคุ้มไหม – แต่เมื่อขยายภาพให้ลึกขึ้น จะพบว่าทั้งสามทางเลือกต่างผูกพันอยู่กับ “ไตรลักษณ์แห่งการเดินทาง” คือ
ตารางเปรียบเทียบชี้ชัดว่า แม้จุดหมายปลายทางคือเชียงรายเหมือนกัน แต่ “ประสบการณ์การเดินทาง” ต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ
ในมุมของผู้โดยสารเชิงลึก ทางเลือกทั้งสามจึงไม่ได้ตอบคำถามเพียงว่า “ไปถึงหรือไม่” แต่ตอบคำถามว่า จะยอมจ่ายด้วยอะไร – เวลา เงิน หรือความเหนื่อยล้า
ไฮซีซันปีใหม่ เมื่อราคาไม่ใช่ตัวเลขลอย ๆ แต่เป็น “ผลลัพธ์ของระบบ”
ช่วง 30 ธันวาคม 2568 – 4 มกราคม 2569 คือหน้าต่างเวลาที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินทางมองตรงกันว่า “แรงกดดันสูงสุด” ทั้งในมิติของราคาและที่นั่ง โดยเฉพาะตั๋วเครื่องบินและตั๋วรถทัวร์
เครื่องบิน จากหลักร้อยสู่หลักพันกลาง–ปลาย
ข้อมูลอ้างอิงจากการวิเคราะห์ตลาดระบุว่า
ราคาที่พุ่งขึ้นกว่าเดิม 2–3 เท่านี้ ไม่ได้เกิดจาก “ความโลภในชั่วข้ามคืน” แต่สะท้อนการทำงานของกลไก Yield Management (YM) หรือระบบบริหารรายได้ ที่ถือเป็น “สมองกลด้านราคา” ของสายการบินทั่วโลก
ระบบดังกล่าวจะจัดสรรที่นั่งออกเป็นหลายระดับราคา (Fare Class) ตั๋วราคาถูกสุดมีจำนวนจำกัด และจะถูกซื้อไปอย่างรวดเร็ว เมื่อใกล้วันเดินทางหรือเมื่อความต้องการสูง ระบบจะ “ปิด” กลุ่มราคาต่ำ แล้วเหลือให้จองเฉพาะกลุ่มราคาสูงขึ้นโดยอัตโนมัติ
การจองล่วงหน้าอย่างน้อย 5 สัปดาห์ จึงอาจช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 29% เมื่อเทียบกับการจองใกล้วันเดินทาง ซึ่งถือเป็น “ค่าปรับโดยพฤตินัย” สำหรับผู้ที่ต้องซื้อแบบเร่งด่วน
รถทัวร์ ราคาคงที่ แต่ที่นั่งหายไปก่อนใคร
ในอีกด้านหนึ่ง รถทัวร์ ยังคงเป็น “เส้นเลือดเศรษฐกิจของคนงบจำกัด”
แต่ข้อจำกัดกลับไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ “จำนวนที่นั่ง” เพราะเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาล ตั๋วมักถูกจองเต็มอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเที่ยวรถกลางคืน ซึ่งช่วยประหยัดค่าที่พักได้ 1 คืน
รถส่วนตัว ทางเลือกของครอบครัวและกลุ่มเพื่อน
หากมองในมุม “ต้นทุนต่อคัน”
เมื่อนำมาหารจำนวนผู้โดยสาร 3–4 คน ต้นทุนต่อหัวจะ “ต่ำลงอย่างมาก” จนใกล้เคียงหรือถูกกว่ารถทัวร์ในบางกรณี ขณะเดียวกันยังได้ ความยืดหยุ่น และมีรถใช้เที่ยวต่อในเชียงราย
แต่ราคาที่ไม่ระบุในตารางคือ “ต้นทุนความเหนื่อยล้า” ของคนขับ และความเสี่ยงบนท้องถนน ในช่วงที่สภาพการจราจรหนาแน่นและการขับทางไกลต่อเนื่องหลายชั่วโมง
เมื่ออุปทานหด 25% แต่ดีมานด์ฟื้นเต็ม โครงสร้างที่ดันราคาทั้งระบบ
สิ่งที่ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ โดยเฉพาะเส้นทางยอดนิยมอย่างเชียงราย อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง ไม่ได้มีเพียงปัจจัยฤดูกาลและการจองกระชั้นชิดเท่านั้น แต่ยังมี “สาเหตุเชิงโครงสร้าง” สำคัญ คือ
จำนวนเครื่องบินที่กลับมาให้บริการในตลาด ยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด ราว 25%
สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท. หรือ CAAT) เคยชี้ให้เห็นปรากฏการณ์นี้อย่างชัดเจนในรายงานเชิงวิเคราะห์ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ว่า อุปสงค์เดินทางกลับมาพร้อมเต็มเกือบ 100% แต่ อุปทานยังฟื้นไม่ทัน
ในทางเศรษฐศาสตร์ เมื่ออุปทาน “ตึงตัว” และเพิ่มขึ้นได้อย่างจำกัด ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นเร็วและกระจุกตัวในช่วงเวลาเดียวกัน ผลลัพธ์ที่แทบหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ ราคาเฉลี่ยของทั้งระบบสูงขึ้น แม้จะไม่เกินเพดานที่รัฐกำหนดก็ตาม
บทบาทของรัฐ CAAT “คุมเพดาน–เพิ่มเที่ยว–กันประชาชนไม่ให้ถูกเอาเปรียบ”
ท่ามกลางเสียงสะท้อนเรื่องตั๋วแพงและตั๋วเต็ม สำนักงานการบินพลเรือนฯ กลายเป็นหน่วยงานสำคัญที่ถูกจับตามองมากที่สุดหน่วยงานหนึ่ง
คุมราคาไม่ให้เกินเพดานตามกฎหมาย
ในเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ CAAT NEWS 30/2568 เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2568 กพท. ระบุชัดว่า
กพท. ยังเตือนว่า การซื้อตั๋วผ่านแพลตฟอร์มหรือตัวแทนต่างประเทศ (OTA) บางรายอยู่นอกเหนือการกำกับโดยตรงของหน่วยงานไทย ทำให้ราคาที่ผู้บริโภคเห็นอาจสูงกว่าระดับที่ควบคุมไว้
จึงเน้นย้ำให้ประชาชน ซื้อบัตรโดยสารโดยตรงกับสายการบิน เป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจว่าอยู่ในกรอบเพดานราคา และสามารถตรวจสอบได้หากเกิดปัญหา
เพิ่มเที่ยวบิน–เพิ่มที่นั่ง ลดแรงดันในช่วงวันหยุด
ในมิตินโยบาย กพท. และรัฐบาลเคยใช้มาตรการ “เพิ่มอุปทานชั่วคราว” เพื่อบรรเทาความตึงตัวของตลาด โดยประสานงานกับสายการบิน 6 แห่ง
มาตรการลักษณะนี้แม้ไม่อาจแก้ปัญหาโครงสร้างทั้งระบบได้ทั้งหมด แต่ช่วย “เปิดช่องทางหายใจ” ให้ผู้โดยสารกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อราคามากที่สุด และส่งสัญญาณว่ารัฐ “เห็นและกำลังพยายามจัดสมดุล” ระหว่างกลไกตลาดกับความเป็นธรรมต่อผู้บริโภค
CEI–BKK เส้นทางใหม่–สนามบินขยายตัว โครงสร้างกำลังเปลี่ยนไปทีละขั้น
ในระยะกลาง–ยาว โครงสร้างการเดินทางสู่เชียงรายกำลังถูกปรับใหม่ทั้งจากฝั่งสายการบินและฝั่งสนามบิน
เมื่อเส้นทางบินเพิ่มขึ้น ความถี่มากขึ้น และสนามบินมีศักยภาพรองรับเที่ยวบินมากกว่าเดิม ความหวังคือแรงกดดันเชิงโครงสร้างด้านอุปทานจะ “คลายลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป” ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า
เสียงเตือนจาก CAAT 4 ปัจจัยที่ทำให้ “ตั๋วแพง” – บางอย่างเลี่ยงได้ บางอย่างเลี่ยงไม่ได้
กพท. สรุปปัจจัยหลักที่ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินสูงในช่วงพีคไว้ 4 ประการ ได้แก่
ข้อเท็จจริงชุดนี้สะท้อนว่า ผู้โดยสารไม่สามารถควบคุมโครงสร้างตลาดได้ทั้งหมด แต่ยังมี “ตัวแปรบางอย่าง” ที่สามารถจัดการได้เอง เช่น การจองล่วงหน้า การหลีกเลี่ยงช่วงวันพีค และการเปรียบเทียบราคาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ
มุมมองเชิงกลยุทธ์สำหรับผู้เดินทาง เลือก “จ่ายด้วยอะไร” ในสมรภูมิกรุงเทพฯ–เชียงราย
จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมด สามารถสรุปเป็นข้อเสนอเชิงกลยุทธ์สำหรับนักเดินทางเชิงลึกในช่วง ธันวาคม 2568 – มกราคม 2569 ได้ดังนี้
การเดินทางไม่ใช่แค่ “ค่าโดยสาร” แต่คือ “ระบบ” ที่ประชาชนควรรู้เท่าทัน
สมรภูมิการเดินทางจากกรุงเทพฯ สู่เชียงราย ในช่วงไฮซีซันปลายปี 2568–ต้นปี 2569 สะท้อนภาพ “สามชั้น” ที่ซ้อนทับกันคือ
ในระยะสั้น ผู้เดินทางอาจรู้สึกว่าตนเองยืนอยู่ปลายทางของห่วงโซ่ ต้องเผชิญ “ราคาที่ตั้งมาแล้ว” และ “ที่นั่งที่เหลืออยู่” แต่เมื่อพิจารณาจากข้อมูลทั้งหมด จะเห็นว่าการรู้เท่าทันกลไก Yield Management, Supply Constraint, มาตรการของ CAAT และโครงสร้างต้นทุน ทำให้ประชาชนสามารถ “วางแผนได้ดีขึ้น” แม้จะไม่สามารถควบคุมทุกอย่างได้ก็ตาม
ในระยะยาว การเดินหน้าขยายสนามบิน เพิ่มเส้นทางบิน และยกระดับระบบขนส่งสาธารณะทางถนนและราง จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้การเดินทางสู่จังหวัดปลายทางยอดนิยมอย่างเชียงราย ไม่ใช่ “ศึกชิงตั๋วแพง” ทุกปลายปี แต่กลายเป็นการเดินทางที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ในราคาที่เป็นธรรมมากขึ้น
จนกว่าวันนั้นจะมาถึง การวางแผนล่วงหน้า การตรวจสอบราคาอย่างถี่ถ้วน และการรู้สิทธิของตนเองในฐานะผู้โดยสาร ยังคงเป็น “เครื่องมือสำคัญที่สุด” ที่ประชาชนมีในมือบนเส้นทางกรุงเทพฯ–เชียงรายในช่วงไฮซีซันนี้
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by Nakorn Chiang Rai News Limited Partnership (L.P.). All Rights Reserved.