เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดเผยผลประกอบการประจำปีงบประมาณ 2567 (ตุลาคม 2566 – กันยายน 2567) โดย AOT มีกำไรสุทธิ 19,182.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 118.21% จากปีก่อนหน้า คิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 10,391.52 ล้านบาท
ในรอบปีที่ผ่านมา AOT มีรายได้รวม 67,827.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.01% เมื่อเทียบกับปีงบประมาณก่อนหน้า แบ่งเป็นรายได้จากกิจการการบิน 31,000.47 ล้านบาท และรายได้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการบิน 36,120.83 ล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากการกลับมาของการเดินทางระหว่างประเทศ
ปริมาณผู้โดยสารฟื้นตัวใกล้ระดับก่อนโควิด-19
ปริมาณผู้โดยสารรวมที่ใช้บริการในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (BKK) ดอนเมือง (DMK) เชียงใหม่ (CNX) แม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI) ภูเก็ต (HKT) และหาดใหญ่ (HDY) มีจำนวนรวมกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 72.67 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 46.62 ล้านคน
สำหรับปีงบประมาณ 2568 AOT คาดว่าปริมาณผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้นเป็น 129.97 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 8.95% และจำนวนเที่ยวบินจะเพิ่มเป็น 808,280 เที่ยวบิน
การเตรียมความพร้อมช่วงเทศกาลปีใหม่
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม 2567 ถึง 4 มกราคม 2568 คาดว่าจะมีผู้โดยสารรวม 2.86 ล้านคน แบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 1.83 ล้านคน และผู้โดยสารภายในประเทศ 1.03 ล้านคน พร้อมเที่ยวบินรวม 17,410 เที่ยวบิน
AOT ยังจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการเพิ่มเติม เช่น การติดตั้งระบบ Biometric สำหรับการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลที่สมบูรณ์แบบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเช็กอิน โหลดสัมภาระ และขึ้นเครื่องโดยไม่ต้องแสดงหนังสือเดินทาง
จัดอัตรากำลังพลให้เพียงพอเพื่อดูแลผู้โดยสารตลอด 24 ชั่วโมง
บริการจอดรถฟรีรับเทศกาลปีใหม่
AOT เปิดให้บริการจอดรถฟรีใน 4 ท่าอากาศยาน ได้แก่
การฟื้นตัวทางการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเชิงบวก ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย
น.ต.ดร.สมชนก เทียมเทียบรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ผชร.) ให้สัมภาษณ์กับทางทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์ว่า ตลอดเดือนตุลาคม 2567 ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงมีเที่ยวบินรวมทั้งสิ้น 1,135 เที่ยวบิน สะท้อนถึงการเพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน เป็นสัญญาณของการฟื้นตัวทางการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มเชิงบวกอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีผู้โดยสารเดินทางผ่านท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงถึง 161,142 คน ซึ่งเพิ่มขึ้น 1% ท่ามกลางสถานการณ์โลกที่ยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้แม้ว่าจำนวนเที่ยวบินประจำจะคงที่ แต่มีคาดการณ์ว่าจะมีการเพิ่มขึ้นของเที่ยวบิน private jet เนื่องจากเชียงรายเป็นจุดหมายที่นิยมสำหรับการพักผ่อนและฉลองในช่วงเวลาพิเศษของปี ท่าอากาศยานยังกำหนดเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ต่างๆ โดยมีการประเมินและเตรียมการอย่างใกล้ชิดเพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวได้อย่างดีที่สุด.
โดยรวมแล้วท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงเชียงรายได้สร้างศักยภาพในการเป็นตัวเชื่อมโยงหลักของการท่องเที่ยว, การค้า, และการลงทุนในจังหวัดเชียงรายและภาคเหนือ นอกจากนี้ยังได้เป็นแกนนำในการทุกภาคส่วนร่วมในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน, กีฬา, และวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวในฤดูการท่องเที่ยวปลายปี การทำงานร่วมกับผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวและธุรกิจสายการบินยังเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักที่จะช่วยยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวและสร้าง เศรษฐกิจสู่เส้นทางที่ยั่งยืน น.ต.ดร.สมชนก กล่าวทิ้งท้าย
การพัฒนาและบริการในอนาคต
AOT วางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการจราจรทั้งทางบกและอากาศ พร้อมเพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่และบริการต่างๆ เพื่อรองรับการเดินทางในช่วงชั่วโมงเร่งด่วน (Peak Hour)
และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ถือเป็นหนึ่งในประตูสู่ภาคเหนือของไทยที่มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมโยงภูมิภาคและส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับประเทศและนานาชาติ ท่าอากาศยานนี้ได้แสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ในการรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยวและการคมนาคมทางอากาศได้อย่างต่อเนื่อง
ดร.กีรติ กล่าวในตอนท้ายว่า AOT ในฐานะรัฐวิสาหกิจผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานท่าอากาศยานที่สำคัญของประเทศไทยและภูมิภาค พร้อมที่จะส่งมอบประสบการณ์การเดินทางอันน่าประทับใจ และไม่หยุดยั้งที่จะเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการอย่างต่อเนื่อง ตามวิสัยทัศน์ขององค์กร “AOT เป็นผู้ดำเนินการและจัดการท่าอากาศยานที่ดีระดับโลก : มุ่งเน้นคุณภาพการให้บริการ โดยคำนึงถึงความปลอดภัย และสร้างรายได้อย่างสมดุล”
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : AOT / ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.