AOT เปิดตัวระบบไบโอเมตริกที่ 6 สนามบิน พร้อมรับผู้โดยสารทะลุ 120 ล้านคน

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) เปิดตัวระบบไบโอเมตริกเพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็วให้กับการเดินทางใน 6 สนามบินหลักของไทย โดยมีการติดตั้งเทคโนโลยี Facial Recognition เพื่อยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้กับผู้โดยสารทั้งภายในประเทศและระหว่างประเทศ ซึ่งระบบนี้จะเริ่มให้บริการกับผู้โดยสารภายในประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 และจะเปิดให้บริการแก่ผู้โดยสารระหว่างประเทศในวันที่ 1 ธันวาคม 2567

ภายในท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่งของ AOT ได้แก่
  1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
  2. ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
  3. ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.)
  4. ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (ทชร.)
  5. ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.)
  6. ท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.)

เทคโนโลยีไบโอเมตริกเพื่อการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว

ดร.กีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของ AOT กล่าวว่า ระบบ Biometric ถูกนำมาใช้ในสนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ แม่ฟ้าหลวง เชียงราย ภูเก็ต และหาดใหญ่ เพื่อช่วยลดเวลารอคิวของผู้โดยสารในจุดบริการต่าง ๆ โดยผู้โดยสารสามารถลงทะเบียนไบโอเมตริกได้ง่าย ๆ ที่จุดเช็กอิน โดยมี 2 วิธี ได้แก่ การเช็กอินผ่านเจ้าหน้าที่และการเช็กอินผ่านเครื่องอัตโนมัติ หลังจากลงทะเบียนแล้ว ผู้โดยสารสามารถผ่านด่านตรวจสัมภาระ จุดตรวจค้น และจุดขึ้นเครื่องได้โดยไม่ต้องแสดงเอกสารการเดินทางซ้ำอีก

การเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยและลดปัญหาการแออัดในสนามบิน

การใช้งานระบบ Biometric ช่วยให้การระบุตัวตนทำได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ส่งผลให้การเดินทางราบรื่นและมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น ผู้โดยสารสามารถผ่านขั้นตอนต่าง ๆ ภายในสนามบินได้รวดเร็วขึ้น ลดความแออัดของสนามบิน และสร้างโอกาสให้ผู้โดยสารมีเวลามากขึ้นในการพักผ่อน เลือกซื้อสินค้าปลอดอากร และใช้บริการต่าง ๆ ภายในสนามบิน นอกจากนี้ ระบบยังช่วยให้ผู้โดยสารสามารถเดินทางผ่านด่านต่าง ๆ ได้สะดวกและไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย

การเติบโตของผู้โดยสารและคาดการณ์สำหรับปีงบประมาณ 2568

จากสถิติในปีงบประมาณ 2567 พบว่า ท่าอากาศยานของ AOT มีผู้โดยสารกว่า 119.29 ล้านคน เพิ่มขึ้น 19.22% จากปีก่อนหน้า โดยเฉพาะที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองซึ่งมีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นอย่างมาก ขณะที่จำนวนเที่ยวบินรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 732,690 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 14.5% AOT คาดการณ์ว่าปีงบประมาณ 2568 จะมีผู้โดยสารรวมกว่า 129.97 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.95% และเที่ยวบินรวมประมาณ 808,280 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 10.32%

การขยายขีดความสามารถและการพัฒนาความสะดวกสบายในท่าอากาศยาน

AOT มุ่งพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในท่าอากาศยานให้ทันสมัยและตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการติดตั้งระบบ CUPPS (Common Use Passenger Processing System) เพื่อรองรับการใช้งานร่วมกับระบบ Biometric ให้ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเช็กอินไปจนถึงการขึ้นเครื่อง ซึ่งรวมถึงการใช้งานเครื่อง CUTE (เครื่องตรวจบัตรโดยสาร) เครื่อง CUSS (เครื่องเช็กอินด้วยตนเอง) เครื่องรับสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) ระบบตรวจสอบยืนยันตัวตน (PVS) และระบบประตูขึ้นเครื่อง (SBG) ที่เชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ

ความร่วมมือเพื่ออนาคตของการเดินทางในประเทศไทย

การเปิดตัวระบบ Biometric ในครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาท่าอากาศยานของไทยให้เป็นท่าอากาศยานระดับโลก โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่มีคุณภาพและตอบโจทย์การเดินทางของผู้โดยสารอย่างแท้จริง AOT ตั้งเป้าหมายในการสร้างประสบการณ์การเดินทางที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยให้กับผู้โดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT)

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME