
การประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนการแข่งขัน Spartan Super World Championship (SSWC) ที่สำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2568 เป็นสัญญาณชัดเจนว่า จังหวัดกำลัง “เปลี่ยนโหมด” จากการรับข่าวดีเรื่องสิทธิ์เจ้าภาพ ไปสู่การปฏิบัติจริงด้านโลจิสติกส์ เศรษฐกิจ และการสร้างแบรนด์เมืองในระยะยาว แกนกลางของแผน คือ (1) ความพร้อมของท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง-เชียงราย (CEI) ซึ่งมีแผนขยายขีดความสามารถรองรับผู้โดยสารระยะที่ 1 สู่ 6 ล้านคน/ปี, (2) โครงสร้างรองรับผู้เยี่ยมชมไม่น้อยกว่า 60,000 คน/ปี ในสัปดาห์จัดงาน (ที่พัก ขนส่ง อาสาสมัคร 1,000 คน), และ (3) โมเดลกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นให้เป็น “เทศกาลกีฬา” ทั้งจังหวัด มากกว่าจะกระจุกตัวเฉพาะพื้นที่จัดสนามแข่ง ทั้งหมดนี้ตั้งอยู่บนพื้นฐานว่า SSWC คือรายการชิงแชมป์โลกของระยะ “Super” (10 กิโลเมตร 25 ด่านอุปสรรค) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวครั้งแรกที่ Mammoth Lakes, แคลิฟอร์เนีย ในปี 2025 ก่อนส่งไม้ต่อให้เชียงรายในปี 2026–2028 ทำให้จังหวัดกลายเป็นเจ้าภาพชิงแชมป์โลกประเภทนี้รายแรกของเอเชีย และ 1 ใน 4 เมืองของโลกในวัฏจักรการจัดชิงแชมป์ของ Spartan ระดับโลกในช่วงเวลาดังกล่าว (ข้อมูลการเปิดตัว SSWC 2025 ที่สหรัฐฯ เผยแพร่โดย Spartan Thailand เมื่อ ต.ค. 2567; ส่วนสิทธิ์เชียงราย 2026–2028 มีการสื่อสารต่อเนื่องโดยหน่วยงานจังหวัด)
เชียงราย,6 พฤศจิกายน 2568 – “เปลี่ยนเมืองให้เป็นสนาม” ภารกิจของคณะทำงานคือการ “แปลงสิทธิ์เจ้าภาพ” ให้กลายเป็นแผนปฏิบัติการที่จับต้องได้ ตั้งแต่การบินระหว่างประเทศเข้าสู่ CEI การจัดการรถโดยสารสาธารณะ ไปจนถึงการจัดหาที่พักหลายระดับราคารองรับผู้เข้าแข่งขันและผู้ติดตามจากกว่า 50 ประเทศ รวมแล้วมากกว่า 60,000 คนในสัปดาห์จัดงาน พร้อมเป้าหมายอาสาสมัครท้องถิ่นไม่น้อยกว่า 1,000 คน เพื่อสร้างประสบการณ์ “ล้านนายิ้มสู้” ที่เป็นหัวใจของการสร้างภาพจำบนเวทีโลก (ข้อมูลกรอบการประชุมและเป้าหมายอาสาสมัครอ้างจากบันทึก/ข่าวสารหน่วยงานจังหวัด)
บนโต๊ะ มีปฏิทิน “ธันวาคม” วางเป็นจุดศูนย์กลาง ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะ SSWC ถูกวางให้จัดใน “ฤดูท่องเที่ยวสูงสุด” ของภาคเหนือ อากาศเย็นสบายและทิวเขาสีทองคือฉากหลังสมบูรณ์แบบของสนาม OCR แต่ก็แปลว่า ระบบรองรับต้อง “พร้อมกว่าปกติ” ทั้งสนามบิน ด่านตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร การขนส่งภาคพื้น และที่พักหลากหลายระดับราคาเพื่อกระจายรายได้สู่ชุมชน ไม่ให้รายได้รั่วไหลไปอยู่ในระบบเครือโรงแรมใหญ่เพียงกลุ่มเดียว (แนวนโยบาย “เทศกาลกีฬา” เพื่อกระจายรายได้มีการสื่อสารในสื่อจังหวัดและหน่วยงานท่องเที่ยว)
ทำไม “Super World Championship” จึงเป็นดีลประวัติศาสตร์
ความหมายเชิงกลยุทธ์ การที่เชียงรายถูกวางเป็นเจ้าภาพต่อเนื่อง 3 ปี (2026–2028) เท่ากับ “ยึดปฏิทินโลก” ได้ยาวๆ เมืองจะได้อานิสงส์สื่อระหว่างประเทศอย่างน้อยสามฤดูกาล และสามารถ “ล็อก” การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน บุคลากรอาสาสมัคร ห่วงโซ่อุปทานท่องเที่ยว ให้เกิดการเรียนรู้สะสม (learning curve) สร้างความคล่องตัวและลดต้นทุนจัดงานในปีถัดๆ ไป (แผนและกรอบการสื่อสารจากหน่วยงานจังหวัด)
เศรษฐกิจท้องถิ่น เป้าหมาย 800 ล้านบาท/ปี ทำได้จริงหรือไม่?
โจทย์ตัวเลขที่ถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายคือ รายได้ทางเศรษฐกิจ “ไม่ต่ำกว่า 800 ล้านบาทต่อปี” หรือรวม 3 ปี “2,400 ล้านบาท” จากผู้เข้าร่วมและผู้ติดตามมากกว่า 60,000 คน/ปี หากเทียบกับกรณีศึกษางาน Spartan ระดับภูมิภาคที่จัดในไทยก่อนหน้า ซึ่งดึงผู้ร่วมงานราว 16,000 คนและประเมินรายได้ราว 300 ล้านบาท จะเห็นว่า SSWC มี “ฐานผู้เข้าชมใหญ่กว่า 3–4 เท่า” และมีสัดส่วนชาวต่างชาติสูงกว่า จึงมีค่าใช้จ่ายต่อหัวสูงกว่าโดยธรรมชาติ ทำให้ตัวเลข 800 ล้านบาท/ปีดู “เป็นไปได้” หากระบบรองรับพร้อมและแผนการตลาดเชื่อมการท่องเที่ยวทำงานได้จริง (กรอบอ้างอิงจากสื่อ Spartan/หน่วยงานไทยและบทเรียนงานก่อนหน้า)
สิ่งที่ต้องทำให้ได้ เพื่อไปถึงเป้า
โครงสร้างพื้นฐาน สนามบิน–ขนส่ง–ที่พัก คือ “สามขุมกำลัง”
(1) ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง-เชียงราย (CEI) โครงการพัฒนาระยะที่ 1 โดย ทอท. (AOT) มีการสื่อสารเรื่องเป้า “ขยายขีดความสามารถ” ไปที่ราว 6 ล้านคน/ปี ควบคู่การปรับปรุงอาคารผู้โดยสารเดิม เพิ่มหลุมจอดประชิดอาคาร และระบบสาธารณูปโภค ทั้งหมดนี้สอดคล้องกับโจทย์การรองรับเที่ยวบินระหว่างประเทศในฤดูพีคและสัปดาห์จัดชิงแชมป์โลก (ข้อมูลเผยแพร่โดยแหล่งข่าวด้านอุตสาหกรรมการบิน/ท่องเที่ยวและการสื่อสารภายในเครือ AOT)
สาระสำคัญทางปฏิบัติ คือ “ไทม์ไลน์ก่อสร้าง ทดสอบระบบ เปิดใช้งาน” ต้องเสร็จทันก่อนธันวาคม 2026 โดยเฉพาะช่องทางตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร และจุดเชื่อมต่อภาคพื้น (ground transportation hub) มิฉะนั้น “ประสบการณ์ผู้โดยสาร” อาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์ระดับโลกได้
(2) ระบบขนส่งภาคพื้น จังหวัดวางภาพรวมให้รถโดยสารสาธารณะในพื้นที่ (ทั้งภายใน–ต่างจังหวัด) รับบท “แกนกลาง” เชื่อมจุดพักค้าง สนามแข่งขัน กิจกรรมทั่วเมือง ลดการพึ่งพารถเช่า/รถส่วนตัวซึ่งจะสร้างคอขวดในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนของวันแข่งขัน (แนวทางตามกรอบการประชุมคณะทำงาน)
(3) กำลังที่พัก การหลั่งไหลของผู้เยี่ยมชมระดับ “หลักหมื่น” ในหน้าพีค ต้องแปลงเป็นบัญชีที่พักหลากหลายประเภท ตั้งแต่โรงแรมไฮเอนด์สำหรับสื่อ–นักกีฬาชั้นนำ ไปจนถึงโฮมสเตย์/เกสต์เฮาส์ชุมชน เพื่อ “กระจายรายได้” และสร้างประสบการณ์ “ล้านนาแท้” ซึ่งเป็นเนื้อหาไวรัลชั้นดีตามธรรมชาติ (แนวคิดเทศกาลกระจายทั่วจังหวัด)
สนามแข่งขัน 10 กม. 25 ด่าน ภูมิประเทศคือ “เวทีโชว์แบรนด์เชียงราย”
สนาม Super ต้องการเส้นทางธรรมชาติที่มีทั้งทางเขา ป่า พื้นที่เปิดโล่ง และโลจิสติกส์ภาคสนามสำหรับติดตั้งสิ่งกีดขวางมาตรฐานโลก อาทิ A-Frame Cargo, Atlas/Bucket Carry, Balance Element ฯลฯ หัวใจการออกแบบสนามในยุคสื่อดิจิทัลคือ “ภาพจำ” มุมกล้องที่พาโลกเห็นภูมิประเทศเชียงราย ความงามวัฒนธรรมล้านนา และพลังชุมชนเคียงข้างนักกีฬา ภาพถ่ายทอดสดเหล่านี้คือ “ซอฟต์พาวเวอร์” ที่ตีมูลค่าโฆษณาได้มหาศาล หากทีมโปรดักชันทำงานร่วมกับชุมชนอย่างพอดี (ข้อมูลคุณลักษณะระยะ Super อ้างอิงจากช่องทางทางการของ Spartan/สื่อ OCR)
กำลังคน อาสาสมัคร 1,000 คน = เส้นเลือดใหญ่ของงาน
Spartan คือ “กีฬามวลชน” ที่ประสบการณ์หน้างานตัดสินความประทับใจ อาสาสมัครจึงเป็นเส้นเลือดใหญ่ ทั้งด้านความปลอดภัย จัดคิวหลุมอุปสรรค เส้นทาง น้ำดื่ม การปฐมพยาบาลเบื้องต้น ไปจนถึงการสร้างบรรยากาศเชียร์ โจทย์เชียงรายคือ “คัด เลือก อบรม และดูแล” อาสาสมัครจากโรงเรียน มหาวิทยาลัย ชุมชน ให้พร้อมใช้งานอย่างมืออาชีพ พร้อมสิ่งตอบแทน/สวัสดิการที่เป็นธรรม และการรับรองชั่วโมงจิตอาสา (กรอบเป้าหมายอาสาสมัครจากการประชุมคณะทำงาน)
แผนสร้างแบรนด์และมรดก (Legacy) ให้สามวันของการแข่ง “อยู่ในใจโลก” ไปอีกหลายปี
Brand Moment 1 – พิธีส่งมอบสิทธิ์จากสหรัฐฯ สู่เชียงราย (ปลายปี 2025)
เมื่อ SSWC 2025 ปิดฉากที่ Mammoth Lakes โอกาสทองของเชียงรายคือต้อง “ยึดไมค์โลก” ด้วยพิธีรับธง/ส่งมอบสิทธิ์ ภาพ “ธงไทยโบกไหวกลางจอโลก” คือคอนเทนต์ที่หน่วยงานรัฐ TCEB การท่องเที่ยว ควรร่วมออกแบบร่วมกับ Spartan ให้กลายเป็นพาดหัวสื่อกีฬา ท่องเที่ยวทันทีหนึ่งปีก่อนวันแข่งจริง (จุดตั้งต้นเชิงข้อมูลจากประกาศ SSWC 2025)
Brand Moment 2 – เนื้อหาไวรัลจากนักกีฬา
บทเรียนจากหลายอีเวนต์กีฬาโลกชี้ว่า “เสียงนักกีฬา” ที่ชื่นชมการต้อนรับ วัฒนธรรม อาหารท้องถิ่น มักกลายเป็นไวรัลข้ามประเทศ เชียงรายควรจัดทริปวัฒนธรรม/ธรรมชาติแบบ “เบาแต่ลึก” (soft itinerary) ก่อน หลังวันแข่ง ให้ทีมชาติชั้นนำและสื่อได้สร้างเรื่องเล่าด้วยตัวเอง สิ่งนี้ตีเป็นมูลค่า Earned Media ได้สูงกว่างบซื้อโฆษณาหลายเท่า
Brand Moment 3 – มรดกถาวรหลังปี 2028
ลงทุนสร้าง “ศูนย์ฝึก OCR ถาวร” หรือคงไว้ซึ่งเส้นทาง สิ่งกีดขวางมาตรฐาน เพื่อต่อยอดงานระดับภูมิภาค/APAC และค่ายฝึกซ้อมนานาชาติ รวมถึงห่วงโซ่ธุรกิจกีฬา อุปกรณ์ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ให้โครงสร้างพื้นฐานที่สร้างขึ้นไม่กลายเป็น “สิ่งปลูกสร้างไร้การใช้งาน” หลังจบ 3 ปีแรก
ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy Recommendations)
เสียงจากเวทีประชุม “จากสิทธิ์เจ้าภาพ สู่เมืองกีฬาของเอเชีย”
ผู้แทนจังหวัดสรุปกรอบทำงานว่า เป้าหมายไม่ใช่เพียง “จัดแข่งขันให้สำเร็จ” แต่คือการวางรากฐานระยะยาวให้เชียงรายก้าวสู่ World Sport Tourism Destination ซึ่งต้องการการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ตั้งแต่สายการบิน ผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหาร ชุมชนท่องเที่ยว มหาวิทยาลัย ไปจนถึงเครือข่ายสื่อท้องถิ่น/ระดับชาติ เพื่อเล่า “เรื่องเชียงราย” ให้ไปไกลกว่าผลการแข่งขัน (กรอบสารจากการสื่อสารของหน่วยงานจังหวัด)
เช็คพอยต์ความพร้อมสำคัญ (Key Readiness Checkpoints)
โอกาส 3 ปีที่อาจเปลี่ยนโฉมเมือง
หากวัดเพียงตัวเลขรายได้ 800 ล้านบาท/ปี เป้าหมายของเชียงรายก็ดู “เอื้อมถึง” เมื่อพิจารณาขนาดผู้เข้าร่วมและฤดูกาลท่องเที่ยว แต่ “กำไรที่แท้จริง” ของโครงการน่าจะอยู่ที่ มรดก ทั้งทักษะการจัดอีเวนต์ขนาดโลกของหน่วยงานจังหวัด เครือข่ายอาสาสมัครที่เข้มแข็ง ระบบขนส่ง ที่พักที่เชื่อมเมือง และแบรนด์ “เชียงราย” ในฐานะจุดหมายกีฬามวลชนบนภูมิประเทศที่แตกต่างในเอเชีย หากทุกฟันเฟืองเดินพร้อมกันตั้งแต่สนามบิน CEI ถึงโฮมสเตย์ชุมชน สามวันของการแข่งขัน สามารถ “อยู่ในใจโลก” ได้ สามปี และต่อยอดเป็น สามทศวรรษ ของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ยั่งยืน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.