
เชียงราย, 7 ตุลาคม 2568 — พื้นที่เหนือสุดแดนสยาม ลมจากดอยผ่าลงมาช่วยพาไอเย็นแตะผิวน้ำ “หนองน้ำพุ” แหล่งพักผ่อนขนาด 82 ไร่ กลางตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย ชาวบ้านเดิน–วิ่ง–ปั่นจักรยานสลับกันตามลู่วิ่งรอบบึง เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ บนลานกิจกรรมคละเคล้าเสียงนกน้ำ—ภาพที่หลายคนเคยจินตนาการ วันนี้กลายเป็น “ของจริง” หลังโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จเต็มรูปแบบ และกำลัง รอพิธีส่งมอบพื้นที่อย่างเป็นทางการ จากกรมโยธาธิการและผังเมืองสู่ องค์การบริหารส่วนตำบลโป่งผา (อบต.โป่งผา) เพื่อเริ่มต้นบทบาทการบริหารจัดการโดยชุมชนอย่างเป็นระบบ
โครงการนี้ใช้งบประมาณรวม 180 ล้านบาท ภายใต้ความร่วมมือของ สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง จังหวัดเชียงราย สังกัดกระทรวงมหาดไทย ในกรอบ โครงการพัฒนาพื้นที่รอบอุทยานถ้ำหลวง–ขุนน้ำนางนอน (เตรียมการ) ดำเนินการต่อเนื่อง 3 ปี (พ.ศ. 2566–2568) จนเสร็จสมบูรณ์ตามแบบแปลน ทั้งคันบ่อ ระบบภูมิสถาปัตยกรรมทางน้ำ ลู่วิ่ง–ทางจักรยาน ลานอเนกประสงค์ และพื้นที่สีเขียวรองรับกิจกรรมครอบครัว
ดร.ณัชชา กันทะดง นายก อบต.โป่งผา กล่าวขอบคุณหน่วยงานรัฐที่สนับสนุนและผลักดันให้โครงการสำเร็จ พร้อมระบุว่า การส่งมอบพื้นที่จะทำให้ อบต.สามารถจัดระบบดูแล–บำรุงรักษา จัดตารางกิจกรรม และพัฒนาเฟสต่อเนื่องได้อย่างเต็มศักยภาพ “หนองน้ำพุคือพื้นที่สาธารณะของทุกคน และเราจะทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางสุขภาพ–คุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างแท้จริง”
จาก “แนวคิด” สู่ “พื้นที่ที่จับต้องได้” บทเรียนการพัฒนาเชิงระบบ
หนองน้ำพุ ไม่ได้เกิดขึ้นจากการถมดิน–ขุดบ่ออย่างฉับพลัน แต่เป็นผลของการวางผังและลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะอย่างมีขั้นตอน จุดเน้นของโครงการมีสองมิติที่เดินคู่กัน ได้แก่
เมื่อรวมกับเครือข่ายพื้นที่สาธารณะเดิม—วัด โรงเรียน ตลาด และทางเชื่อมสัญจรของหมู่บ้าน—หนองน้ำพุจึงกลายเป็น “หัวใจสีเขียว” ดวงใหม่ของตำบลโป่งผา เชื่อมชีวิตประจำวันของผู้คนกับธรรมชาติอย่างแนบเนียน
ตัวเลขที่เล่าเรื่อง 20,000+ การใช้งาน—สัญญาณ “ถูกจริตชุมชน”
แม้ยังไม่เข้าสู่โหมดบริหารเต็มรูปแบบ อบต.โป่งผา ระบุว่าตลอดช่วงทดสอบพื้นที่และเปิดใช้บางส่วน มีประชาชนมาใช้บริการเพื่อเดิน–วิ่ง–ปั่น–เล่นกีฬา และทำกิจกรรมครอบครัว สะสมมากกว่า 20,000 คน ตัวเลขนี้สะท้อนสองประเด็นสำคัญ
สาระสำคัญ คือ หนองน้ำพุไม่ได้เป็นเพียง “สวนสวย” แต่เป็น “โครงสร้างพื้นฐานสุขภาพเชิงป้องกัน” (preventive health infrastructure) ที่ลดค่าใช้จ่ายระบบสุขภาพระยะยาวในมิติไม่เป็นทางการ
หลังส่งมอบ 4 งานใหญ่ที่ อบต.โป่งผา ต้องทำทันที
เมื่อกรมโยธาธิการฯ ส่งมอบพื้นที่อย่างเป็นทางการ อบต.จะเป็น “แม่บ้านหลัก” ของผืนที่ 82 ไร่นี้ งานเร่งด่วนที่ต้องทำคู่กันมีอย่างน้อย 4 เรื่อง
แก่นคิด คือ พื้นที่สาธารณะจะ “อยู่รอด” ได้ก็ต่อเมื่อกลายเป็น “ของเรา” ของทุกคน—ไม่ใช่เพียงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นฝ่ายเดียว
เชื่อมเศรษฐกิจท้องถิ่น สวนสาธารณะไม่ใช่ “ต้นทุนจม”
แม้โครงการใช้งบ 180 ล้านบาท แต่ผลตอบแทนทางสังคม–เศรษฐกิจที่ “ไม่ติดป้ายราคา” มีมากกว่าที่คิด
เมื่อรวมกับ “อัตลักษณ์ท้องถิ่น” ที่ อบต.ตั้งใจสื่อผ่าน “เสื้อลายผ้าน้ำผุด” ของนายก อบต.และทีมงาน หนองน้ำพุจึงทำหน้าที่เป็น “ห้องรับแขกกลางแจ้ง” ของตำบลโป่งผา—เชื้อเชิญให้คนแปลกหน้าได้รู้จักวัฒนธรรมและวิถีชีวิตกึ่งเมือง กึ่งภูเขาที่งดงามของชายแดนแม่สาย
คำถาม–คำตอบเชิงนโยบาย ทำอย่างไรให้ “หนองน้ำพุ” อยู่ดีมีอนาคตยืนยาว
ถาม: งบ 180 ล้านบาท ควรคาดหวังอะไรใน 3–5 ปีแรก?
ตอบ: (1) ดัชนีกิจกรรมทางกายของชุมชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง, (2) อัตราใช้พื้นที่เฉลี่ยต่อวัน ต่อสัปดาห์ชัดเจนและเติบโต, (3) กิจกรรมสาธารณะคุณภาพสม่ำเสมออย่างน้อยรายเดือน, (4) ระบบ O&M เดินได้จริงโดยมีชุมชนมีส่วนร่วม, (5) คุณภาพน้ำ–ความหลากหลายชีวภาพรอบหนองไม่ถดถอย
ถาม: จะหลีกเลี่ยงปัญหา “สวนสาธารณะสวยเฉพาะวันเปิด” ได้อย่างไร?
ตอบ: สร้าง “ผู้ใช้แกนกลาง” (core users) ตั้งแต่ต้น—กลุ่มวิ่ง–จักรยาน ผู้สูงอายุ เยาวชน ให้มี “สิทธิ–หน้าที่” ร่วมดูแลพื้นที่ ควบคู่สมดุลกิจกรรมฟรีและกิจกรรมหารายได้เพื่อกองทุนบำรุง โดยมีธรรมาภิบาลโปร่งใสตรวจสอบได้
ถาม: ทำไมต้องย้ำ Universal Design?
ตอบ: เพราะประชากรสูงวัยในเชียงรายเพิ่มต่อเนื่อง การออกแบบที่ทุกคนใช้ได้จริงคือ ความเป็นธรรมด้านพื้นที่ และทำให้สวนเป็น “ของจริง” สำหรับคนทั้งตำบล ไม่ใช่เฉพาะคนแข็งแรงหรือวัยทำงาน
ถาม: หนองน้ำพุจะช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อมจริงหรือ?
ตอบ: หากจัดการคันบ่อ พืชน้ำ–ตะกอนตามรอบเวลา และลดสารเคมี–ขยะได้สม่ำเสมอ บึงหนองทำงานเป็น ระบบนิเวศบริการ (ecosystem services) ทั้งบรรเทาน้ำหลาก ลดความร้อน เพิ่มความหลากหลายชีวภาพ และเป็นคลังคาร์บอนขนาดย่อม
เส้นทางข้างหน้า ปฏิทิน “หนองน้ำพุ—สวนของเรา”
เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพการใช้ประโยชน์หลังส่งมอบ อบต.สามารถประกาศปฏิทินกิจกรรมสามชุดหลัก
ทั้งหมดต้องเดินคู่กับ กติกาใช้พื้นที่ ที่ชัดเจน (เสียง–เวลา–ความสะอาด–การใช้จักรยาน–สัตว์เลี้ยง) เพื่อรักษาความสมดุลระหว่าง “ความสนุก” และ “ความสงบ” ของคนรอบหนอง
เสียงจากพื้นที่ความภูมิใจที่ “จับต้องได้”
นอกจากคำขอบคุณของผู้บริหารท้องถิ่น หลายครอบครัวเริ่มมองหนองน้ำพุเป็น “สนามหลังบ้านของตำบล” เด็ก ๆ ได้มีที่วิ่งเล่น คนทำงานมีที่ปลดล็อกร่างกาย ผู้สูงอายุมีที่พบปะเพื่อนฝูง ยิ่งไปกว่านั้น หนองน้ำพุยังกลายเป็น จุดเริ่มต้นบทสนทนา เรื่องสิ่งแวดล้อม–สุขภาพ–วัฒนธรรม ที่ผู้คนมีส่วนร่วม—ไม่ใช่เพียงผู้รับนโยบาย
“หนองน้ำพุคือพื้นที่สาธารณะของทุกคน…เราจะทำให้ที่นี่เป็นศูนย์กลางสุขภาพ–คุณภาพชีวิตของชุมชนอย่างแท้จริง” — ดร.ณัชชา กันทะดง นายก อบต.โป่งผา
“หนองน้ำพุ” คือกรณีศึกษาว่าการลงทุนพื้นที่สาธารณะอย่างมี วิสัยทัศน์–วินัย–วัฒนธรรมการมีส่วนร่วม สามารถแปลงงบประมาณ 180 ล้านบาทให้เป็น “สินทรัพย์สาธารณะ” ที่สร้างผลตอบแทนทางสังคม–เศรษฐกิจระยะยาวได้จริง อำเภอชายแดนอย่างแม่สายจึงไม่ได้มีเพียงภาพการค้าชายแดนคึกคัก แต่ยังมี อุทยานน้ำ–สวนสุขภาพชุมชน ที่เสริมคุณภาพชีวิตผู้คน
เมื่อพิธีส่งมอบเดินหน้า อบต.โป่งผาจะก้าวสู่บทบาท “ผู้จัดการสวน” ที่ท้าทาย—มีทั้งงานบำรุงรักษา การเงินโปร่งใส กิจกรรมที่เข้าถึงทุกวัย และระบบความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ หากทำได้ครบ “หนองน้ำพุ” จะไม่ใช่เพียง แลนด์มาร์กใหม่ 82 ไร่ แต่เป็น สัญญาใจ ว่าพื้นที่สาธารณะคุณภาพดี สามารถเกิดและยืนยาวได้ ด้วยมือของคนในชุมชนเอง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.