
เชียงราย, 19 กันยายน 2568 — กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เปิดนำข้อมูลสถิติปี 2567 (ที่ผ่านคณะกรรมการสถิติฯ) สรุปรายได้และค่าใช้จ่ายการท่องเที่ยวจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย ปี 2567 ในปีที่การแข่งขันด้านท่องเที่ยวเข้มข้นทั้งภายในประเทศและกับ “เอเชียใกล้บ้าน” เชียงรายยังคง “ยืนระยะ” ด้วยฐานผู้เดินทางรวมทั้งปี 6.28 ล้านคน-ครั้ง ใกล้เคียงปีก่อนแทบทุกมิติ ขณะที่โครงสร้างค้างคืนยังเป็นจุดแข็งสำคัญของจังหวัด แต่ “หุบเขาดีมานด์” ในไตรมาส 3 กลับฉายภาพชัดว่าจังหวัดจำเป็นต้องเร่งยุทธศาสตร์เฉพาะฤดูกาล เพื่ออุดรอยรั่วรายได้และยื้อการใช้เวลาของนักท่องเที่ยวให้อยู่กับพื้นที่นานขึ้น
นิยามศัพท์สำคัญ (อังกฤษ–ไทย) ที่ใช้ในข่าวนี้
สิ่งที่ตัวเลขกำลังบอกเรา
จากหน้าหนาวถึงปลายฝน—และสิ่งที่หายไปกลางปี
ต้นปี เชียงรายรับบท “เมืองโรแมนติกของฤดูหนาว” อย่างเต็มภาคภูมิ เส้นทางยอดฮิตจากเมือง–แม่จัน–แม่สาย–เชียงแสน ครึกครื้นด้วยคาเฟ่กาแฟพิเศษ ไร่ชา และกิจกรรมวัฒนธรรมร่วมสมัย นักเดินทางจำนวนมากเลือกค้างคืนเพื่อ “ตื่นรับหมอกยามเช้า” และเวิร์กช็อปชุมชนช่วงบ่าย—สะท้อนจากอัตราขยายตัวของค้างคืนใน Q1
พอเข้าฤดูร้อนของ Q2 เม็ดเงินไม่ได้วูบ แต่ “สั้นลง” ทริปวันเดียว/หนึ่งคืนมาแรง—อาจเพราะตารางชีวิตคนเมืองกลับสู่โหมดทำงานและเรียน นักท่องเที่ยวเลือกกิจกรรมที่จบในครึ่งวัน–หนึ่งวันมากขึ้น ร้านอาหารท้องถิ่น พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ และตลาดชุมชน จึงเป็น “ปลายทางระยะสั้น” ที่ยังคงคึกคัก
หากมองข้ามไตรมาส 3 ไม่ได้—นี่คือช่วงที่กราฟสั่นแรงที่สุด ค้างคืนลดลงสองหลัก อุปสงค์อ่อนตามฤดูกาลฝน บวกกับ “แรงดูดต่างประเทศ” ที่สะดวกและราคาพอๆ กัน ทำให้ปลายทางในประเทศ (รวมเชียงราย) เสียส่วนแบ่ง “เวลาและงบประมาณ” ของคนไทยไปให้ “เอเชียใกล้บ้าน” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ปลายปีใน Q4 เมืองกลับมามีชีวิตชีวา บรรยากาศเทศกาลและอากาศเย็นดึงคนกลับมาอีกครั้ง แต่ตัวเลขยัง “ต่ำกว่าปีก่อนเล็กน้อย” สะท้อนสองเรื่องพร้อมกัน (1) จังหวัดเหนืออื่นๆ เปิดเกมหนัก และ (2) ผู้บริโภคจำนวนหนึ่ง “ชิมรส” ต่างประเทศจนคุ้นกับความง่าย–ความครบ–บัตรรวมสิทธิ์ (Pass/Bundle) จึงคาดหวังมาตรฐานคล้ายกันเมื่อเที่ยวในไทย
เชียงรายในกระจก “ภาคเหนือ” โตทั้งภูมิภาค แต่สนามแข่งขันหนาแน่น
ภาคเหนือทั้งปี 2567 โตในทุกหมวด (Visitor +2.70%, Tourist +2.57%, Excursionist +2.94%). จังหวะไตรมาสของภูมิภาค “สอดคล้อง” กับเชียงราย: พีกที่ Q1/Q4 และชะลอใน Q3. นี่หมายความว่าปัญหาไม่ได้เป็น “เฉพาะจังหวัด” หากแต่เป็น “วัฏจักรทั้งภูมิภาค” ที่ต้องแก้ด้วย ปฏิทินเทศกาลเหนือที่ไม่ซ้อนกัน และ บัตรผ่านหลายจังหวัด (Cross-Northern Pass) ให้ผู้เดินทาง “อยู่นานขึ้น–ใช้จ่ายมากขึ้น–ไปหลายเมืองขึ้น”
สมการเศรษฐกิจท่องเที่ยวเชียงรายจากตัวเลขจริง
ข้อเสนอเชิงปฏิบัติ (ทำได้จริงจากข้อมูลที่มี)
1) “อุโมงค์ฤดูฝน Q3” — ปิดรูรั่วรายไตรมาส
2) “เปลี่ยน Excursionist เป็น Tourist” — จากทริปสั้นสู่ค้างคืน
3) “Route 2–3 คืน เชื่อมอำเภอ” — สร้างเหตุผลให้อยู่ต่อ
4) “One Trip–Two Countries” — ใช้จุดแข็งเมืองชายแดน
5) “Data-led Marketing” — ยิงแคมเปญจากพฤติกรรมจริง
KPI ที่ “ชี้การตัดสินใจ” ได้จริง (มากกว่านับจำนวนคน)
สาระสำคัญเชิงนโยบาย หากเป้าหมายระดับจังหวัดย้ายจาก “ยอดผู้มาเยือนรวม” ไปสู่ “ค้างคืน + ค่าใช้จ่ายต่อหัว–ต่อคืน + สัดส่วนรายได้ที่ลงชุมชน” เมืองจะเติบโตเชิงคุณภาพ ลดแรงกดดันทรัพยากร และมีภูมิคุ้มกันในฤดูกาลอ่อน
จุดหมายยอดนิยม (จัดอันดับตามจำนวนเที่ยวออกเดินทาง) — Top 10 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจ
Roadmap 6 เดือน จากข้อมูล → นโยบาย → ผลลัพธ์
เดือน 1–2
เดือน 3–4
เดือน 5–6
ทางรอดมี—ถ้า “ข้อมูลจริง” นำการตัดสินใจ
บรรทัดชวนคิด “ถ้าเมืองทำให้ หนึ่งชั่วโมง ของนักท่องเที่ยว มีคุณค่า มากพอ เมืองจะได้เพิ่มทั้ง คืนค้าง และ รายได้ที่กระจาย—นานกว่าฤดูกาล และยั่งยืนกว่าพีกชั่วคราว”
เศรษฐกิจจังหวัด จาก “ตัวเลขผู้มาเยือน” สู่ “รายได้กระจาย”
การวิเคราะห์ผลกระทบเศรษฐกิจท้องถิ่นควรขยับจาก “ยอดผู้มาเยือนรวม” ไปสู่ “ความหนาแน่นรายได้ในห่วงโซ่” (Value Density Along the Chain) โดยโฟกัสว่า “เงิน 1 บาทของนักท่องเที่ยว” กระจายไปยังใครบ้าง:
สารหลักเชิงเศรษฐกิจ: ถ้าเมืองขยับ KPI จาก “ยอดคน” ไปสู่ “รายได้ต่อหัว–ต่อคืน และสัดส่วนรายได้ชุมชน” เมืองจะเติบโตเชิงคุณภาพ ลดแรงกดดันทรัพยากร และเพิ่มศักยภาพแข่งขันระยะยาว
เชิงสถิติ (สรุปย้ำตัวเลขสำคัญ)
ปี 2567 ตอกย้ำบทบาทเชียงรายในฐานะ “หัวรถจักรค้างคืนของภาคเหนือ” ด้วยเอกลักษณ์ที่หลายเมืองเลียนแบบยาก—ชายแดน กาแฟ/ชา วัฒนธรรมร่วมสมัย ภูมิประเทศหลากหลาย และชุมชนที่พร้อมเป็นเจ้าบ้าน ตัวเลขบอกชัดว่า จังหวัดยังไปได้ แต่ หุบเขา Q3 คือจุดที่ “เม็ดเงินหล่นหาย” หากไม่เร่งสร้าง สินค้าฤดูฝน–ซิงค์ปฏิทินอีเวนต์เหนือ–และ ทำให้การตัดสินใจเที่ยวเหนือง่ายพอๆ กับไปต่างประเทศ, ปีหน้าความเสี่ยงอาจเพิ่ม และผู้ประกอบการรายย่อยจะรับแรงสั่นสะเทือนก่อนใคร
ทางรอดไม่ได้อยู่ที่ “ใครมีคนเยอะกว่า” แต่อยู่ที่ “ใครทำให้ หนึ่งชั่วโมง ของนักท่องเที่ยว มีคุณค่ามากกว่า” เมืองที่ทำได้ จะยืดฤดูกาล ลดคอขวดในพีก ดึง Excursionist ให้กลายเป็น Tourist และ เพิ่มรายได้ที่ลงสู่ชุมชนอย่างแท้จริง
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.