
มาตรการเข้มงวด ป้องกันการใช้บัญชีนิติบุคคลในอาชญากรรมออนไลน์
ประเทศไทย, 14 มีนาคม 2568 – ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐในการยกระดับมาตรการจัดการ บัญชีม้านิติบุคคล หลังพบแนวโน้มมิจฉาชีพใช้ช่องทางนี้เป็นเครื่องมือก่ออาชญากรรมทางการเงินมากขึ้น โดยมีการบังคับใช้มาตรการเข้มงวด ทั้งการคัดกรองนิติบุคคลที่มีความเสี่ยง การติดตามพฤติกรรมทางการเงิน และการเพิ่มโทษแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า
นางรุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงินของ ธปท. ระบุว่า หน่วยงานกำกับดูแลการเงินได้ดำเนินมาตรการหลายประการ เช่น การพัฒนา Central Fraud Registry (CFR) สำหรับแลกเปลี่ยนเส้นทางเงินและสนับสนุนการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ การออก พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มอำนาจให้สถาบันการเงินสามารถระงับบัญชีม้าได้อย่างรวดเร็ว และการปรับมาตรการตรวจสอบบัญชีม้านิติบุคคลให้เข้มงวดขึ้น
“มาตรการเหล่านี้ช่วยให้การเปิดบัญชีม้าทำได้ยากขึ้น ขณะเดียวกันพบว่ามิจฉาชีพปรับเปลี่ยนไปใช้ บัญชีนิติบุคคล ในการหลอกลวงมากขึ้น จึงต้องมีการบังคับใช้มาตรการที่เข้มงวดกับภาคธุรกิจเช่นเดียวกับที่ทำกับบัญชีบุคคล” นางรุ่งกล่าว
แนวทางป้องกันบัญชีม้านิติบุคคล
การดำเนินคดีและสถิติที่เกี่ยวข้อง
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพมีแนวโน้มใช้ บัญชีนิติบุคคล ในการหลอกลวงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะใน กลุ่มบริษัทที่ตั้งขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือในการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย
จากการสืบสวนพบว่า บัญชีนิติบุคคลสามารถโอนเงินได้ครั้งละจำนวนมาก โดยไม่ต้องใช้การสแกนใบหน้า ทำให้กลายเป็นช่องทางหลักของเครือข่ายมิจฉาชีพ ขณะที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กำลังพิจารณากำหนดนิยามบัญชีม้านิติบุคคล HR-03-1 และ HR-03-2 เพื่อให้การดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
สถิติที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้าและอาชญากรรมทางการเงิน
ข้อคิดเห็นจากนักวิชาการและภาคธุรกิจ
นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง. กล่าวว่าการจัดการบัญชีม้านิติบุคคลต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้สามารถแยกแยะระหว่าง นิติบุคคลที่ทำธุรกิจจริง กับ นิติบุคคลที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อกระทำความผิด เพื่อป้องกันผลกระทบต่อภาคธุรกิจที่สุจริต
นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงกำลังเร่งดำเนินการ ใช้เทคโนโลยี AI ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการเงิน และปรับปรุงกลไกการแลกเปลี่ยนข้อมูลผ่าน ศูนย์ปฏิบัติการ AOC เพื่อให้สามารถป้องกันอาชญากรรมออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
สรุป:
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ธนาคารแห่งประเทศไทย / กรมพัฒนาธุรกิจการค้า / สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน / กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.