![](https://nakornchiangrainews.com/wp-content/uploads/2024/12/photo-web-73.jpg)
กรุงเทพฯ,12 กุมภาพันธ์ 2568 – การลดลงของอัตราการเกิดกลายเป็นปัญหาสำคัญที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ โดยข้อมูลล่าสุดจาก Global Statistics พบว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 3 ของโลก ในด้านอัตราการเกิดที่ลดลง ตั้งแต่ปี 1950 – 2024 รองจากเกาหลีใต้และจีน ซึ่งสถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างประชากรในระยะยาว และอาจสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจและแรงงานในอนาคต
แนวโน้มอัตราการเกิดที่ลดลงทั่วโลก
จากข้อมูลของ Global Statistics พบว่าประเทศที่มีอัตราการเกิดลดลงมากที่สุด ได้แก่
สถานการณ์ประชากรไทยปี 2567
ตัวเลขการเกิดต่ำกว่าครึ่งล้านครั้งแรกในรอบ 75 ปี
จากรายงานของ มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่า ปี 2567 เป็นปีแรกที่จำนวนเด็กเกิดใหม่ในไทยต่ำกว่า 5 แสนคน โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 462,240 คน ซึ่งถือเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องและสวนทางกับนโยบาย “มีลูกเพื่อชาติ” ที่ภาครัฐพยายามผลักดัน
การลดลงของประชากรในอนาคต
ปัจจัยที่ทำให้อัตราการเกิดลดลง
ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจไทย
แนวทางแก้ไขและปรับตัวของประเทศไทย
บทสรุป
อัตราการเกิดที่ลดลงของไทยเป็นปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่เพียงส่งผลต่อจำนวนประชากร แต่ยังกระทบต่อแรงงานและเศรษฐกิจโดยรวม หากไม่มีมาตรการรับมือที่เหมาะสม ประเทศไทยอาจต้องเผชิญกับสังคมสูงวัยที่มีผลกระทบระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากมีนโยบายที่ดีและสามารถสร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจมีบุตรมากขึ้น ก็อาจช่วยพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสได้
คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
ปัจจัยหลักมาจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ค่านิยมทางสังคมที่เปลี่ยนไป และนโยบายสนับสนุนที่ไม่เพียงพอ
ทำให้แรงงานลดลง ส่งผลต่ออุตสาหกรรมและบริการ อีกทั้งภาครัฐต้องแบกรับภาระสวัสดิการผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น
หลายประเทศใช้มาตรการสนับสนุน เช่น เงินอุดหนุนเด็ก นโยบายภาษีที่เอื้อต่อครอบครัว และขยายสวัสดิการเลี้ยงดูเด็ก
ควรเพิ่มสวัสดิการครอบครัว ปรับโครงสร้างตลาดแรงงาน และส่งเสริมแนวคิดเชิงบวกเกี่ยวกับการมีบุตร
ประชากรอาจลดลงอย่างมาก ส่งผลต่อแรงงาน เศรษฐกิจ และการพัฒนาในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : Global Statistics
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.