
เชียงราย, 4 มีนาคม 2568 – รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมคณะ ลงพื้นที่จังหวัดเชียงราย เพื่อหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุข ไทย-เมียนมา โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดน มุ่งส่งเสริมการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข การควบคุมโรคติดต่อ และการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่ชาวเมียนมา พร้อมร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่
หารือแนวทางพัฒนาสาธารณสุขชายแดน
นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ พร้อมด้วย นายจุลวัจน์ นรินทรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีกรมความร่วมมือระหว่างประเทศ และคณะ ได้ลงพื้นที่ จังหวัดเชียงราย เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านการพัฒนาสาธารณสุขระหว่างไทยและเมียนมา โดยได้รับการต้อนรับจาก นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายรุจติศักดิ์ รังษี รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องรับรองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ศาลากลางจังหวัดเชียงราย
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการสนับสนุนความร่วมมือด้านสาธารณสุขแก่เมียนมาตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาความร่วมมือไทย-เมียนมา ที่ดำเนินการระหว่างวันที่ 3-5 มีนาคม 2568 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเน้นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุข การควบคุมโรคติดต่อ และการเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่ชายแดน
แนวทางขับเคลื่อนความร่วมมือ ไทย-เมียนมา
ภายหลังการประชุมหารือ นายไพศาล หรูพาณิชย์กิจ และคณะ ได้ร่วมประชุมกับหัวหน้าหน่วยงานราชการและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมพญาพิภักดิ์ ชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดเชียงราย เพื่อขับเคลื่อนแผนพัฒนาความร่วมมือระหว่างไทยและเมียนมา โดยมีประเด็นหารือสำคัญ ดังนี้
นอกจากนี้ ยังมีการหารือเกี่ยวกับอุปสรรคในการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมถึงแนวทางแก้ไขและข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ลงพื้นที่เยี่ยมชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ภายหลังการประชุมหารือ รองปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และคณะ ได้เดินทางไปยัง อำเภอแม่สาย เพื่อตรวจเยี่ยมและติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสาธารณสุขชายแดน ได้แก่
สถิติที่เกี่ยวข้องกับสาธารณสุขชายแดนไทย-เมียนมา
ความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ
กลุ่มที่สนับสนุนความร่วมมือไทย-เมียนมา
กลุ่มที่กังวลเกี่ยวกับผลกระทบของความร่วมมือ
บทสรุป
การหารือความร่วมมือด้านสาธารณสุขไทย-เมียนมาในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสุขภาพในพื้นที่ชายแดน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโรคติดต่อ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลไทยจำเป็นต้องหาสมดุลระหว่างการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมกับการรักษาทรัพยากรสาธารณสุขให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนในประเทศ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.