
เชียงราย, 7 พฤศจิกายน 2568 — หลังวิกฤตน้ำท่วมปี 2567 ได้กัดเซาะโครงสร้างพื้นฐานของสถาบันการศึกษาในหลายอำเภอของจังหวัดเชียงรายตั้งแต่ห้องเรียนไปจนถึง “ห้องน้ำ” ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สุดของสุขภาวะนักเรียน เครือข่ายท้องถิ่นและเอกชนหลายแห่งได้ร่วมกันฟื้นฟูเพื่อคืนความปกติของสถานที่ต่าง ๆ ให้กลับมาอย่างเป็นรูปธรรม
ล่าสุด สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ได้ประสานความร่วมมือไปยังบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในการขับเคลื่อน โครงการ “ห้องน้ำเพื่อน้อง” เพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับ โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม ตำบลป่าตาล อำเภอขุนตาล จังหวัดเชียงราย โดยได้ปรับปรุงห้องน้ำให้ “สะอาด ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานของนักเรียน” พร้อมจัดกิจกรรมมอบขนมและของว่าง เพื่อสร้างกำลังใจให้กับเยาวชน
การลงพื้นที่ครั้งนี้มีผู้แทนผู้จัดการเขต ชัชวาล นวลยิ่ง และ ปัญชิกา บุรีจันทร์ จากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) พร้อมภาคีภาครัฐในจังหวัด อาทิ พิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ข้าราชการสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ชัยสิทธิ์ ชัยเนตร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ตลอดจนผู้นำท้องถิ่น โดยมีผู้นำท้องถิ่นที่ให้ความสำคัญและร่วมเป็นสักขีพยานในการส่งมอบครั้งนี้ 3 ตำบล 1.ตำบลต้า คุณเสถียร กาวีวน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้า ,คุณกัมปนาท เรือนสิทธิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลบ้านต้า 2.ตำบลยางฮอม คุณอรุณ ใจจักร รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลยางฮอม ,คุณชานนท์ หลวงจินา เลขานุการ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลยางฮอม และ 3.ตำบลป่าตาลซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงเรียน คุณธนวิทย์ วรรณสอน รองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าตาล ,คุณธนาวุฒิ วรรณสอน กำนันตำบลป่าตาล และคุณวริยา ทองเอก ผู้ใหญ่บ้าน บ้านเจดีย์ใหม่หมู่ที่ 11 ที่ได้สะท้อนปัญหาในพื้นที่เพื่อร่วมกันหาทางแก้ไข รวมไปถึงเครือข่ายภาคเอกชน เซเว่น อีเลฟเว่นและเซเว่น เดลิเวอรี่และทรู เข้าร่วม เพื่อส่งมอบ “ห้องน้ำที่สะอาดได้มาตรฐานและปลอดภัย” ให้กับเด็กนักเรียนและเยาวชนโรงเรียนขุนตาลวิทยาคม ซึ่งบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ยึดมั่นและให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องผ่าน “บุญนิธิแสตมป์เซเว่น” ที่ระดมแสตมป์จากลูกค้าเพื่อแปรเปลี่ยนเป็นงบปรับปรุงสุขาภิบาลในโรงเรียนที่ห่างไกล
น้ำท่วมปี 2567 เปิดแผลกายภาพสุขาภิบาลในโรงเรียน
แม้จังหวัดเหนือสุดของไทยจะเผชิญน้ำหลากเป็นวัฏจักร แต่ ปี 2567 คือบททดสอบหนัก—ระลอกฝนจากพายุและมรสุมทำให้หลายอำเภอเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินสไลด์ และถนนขาด สื่อสาธารณะระดับชาติรายงานสถานการณ์ “เชียงราย–เชียงใหม่” เข้าขั้นน่ากังวลตั้งแต่ต้นฤดูฝน โดยข้อมูลระบุชัดว่าบ้านเรือนและถนนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้างตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 เป็นต้นมา ขณะที่สื่อกระแสหลักรายงานคำเตือนของ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ให้เฝ้าระวังอุทกภัยในหลายจังหวัดภาคเหนือรวมถึงเชียงรายอย่างใกล้ชิดในช่วงเดียวกัน ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มฝนเหนือค่าเฉลี่ยในลุ่มน้ำโขง–แม่น้ำกก–แม่น้ำสาขาในไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น
ผลกระทบไม่ได้จบแค่การเดินทางขัดข้องหรือบ้านเรือนเสียหาย แต่ โครงสร้างสุขาภิบาลของโรงเรียน ตั้งแต่ถังบำบัด ระบบน้ำใช้ ไปจนถึงพื้น ผนังห้องน้ำ ถูกน้ำกัดกร่อนจนใช้การไม่ได้ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะโรงเรียนบนพื้นที่สูง เชิงเขา “ห้องน้ำเสียหาย = สุขภาพเด็กเสี่ยง” คือสมการที่หน่วยงานสาธารณสุขและการศึกษาย้ำตลอดทุกวิกฤตน้ำท่วม เพราะความชื้นสิ่งปฏิกูลที่ระบายไม่ได้ และแหล่งน้ำขัง คือปัจจัยเสี่ยงของโรคระบบทางเดินอาหารและยุงลาย ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุขระดับจังหวัดและสื่อวิชาการสาธารณสุขไทยก็เตือนซ้ำในช่วงหลังน้ำลด.
โครงการ “ห้องน้ำเพื่อน้อง” จากแสตมป์ 7-Eleven สู่สุขาภิบาลที่จับต้องได้
ซีพี ออลล์ ขับเคลื่อนงาน “เพื่อสังคม” ผ่านหลายแพลตฟอร์ม หนึ่งในนั้นคือ โครงการ “ห้องน้ำเพื่อน้อง” ที่นำ แสตมป์เซเว่นฯ จากลูกค้าสมทบ “บุญนิธิแสตมป์เซเว่นฯ” ไปปรับปรุงห้องน้ำโรงเรียนห่างไกล แนวคิดเชื่อม “การให้เล็ก ๆ” เป็น “การเปลี่ยนแปลงใหญ่” ที่โรงเรียนสัมผัสได้ทันที โครงการเดินหน้าต่อเนื่องหลายปี มีการสื่อสารผลลัพธ์ผ่านข่าวประชาสัมพันธ์และรายงานกิจกรรม เช่น “World Toilet Day” ที่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ใช้เป็นจังหวะตอกย้ำความสำคัญของสุขาภิบาลในโรงเรียน
สำหรับ โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม งานปรับปรุงครอบคลุมการ “ทำความสะอาดใหญ่ ซ่อมโครงสร้าง ยกระดับความปลอดภัยและการเข้าถึง” (เช่น แสงสว่าง พื้นกันลื่น สุขภัณฑ์ที่เหมาะกับเด็ก และจุดล้างมือ) โดย “ภาคีท้องถิ่น เอกชน” ร่วมกันประเมินจุดเสี่ยง ความต้องการก่อนลงมือจริง ทำให้งบประมาณถูกใช้ในจุดที่กระทบสุขภาวะของเด็กมากที่สุด ทิศทางนี้สอดคล้องกับข้อเสนอขององค์การระหว่างประเทศด้าน WASH in Schools (น้ำสะอาด สุขาภิบาล และสุขอนามัยในโรงเรียน) ที่ระบุเสมอว่า “ห้องน้ำ+น้ำสะอาด+จุดล้างมือ” คือสามเหลี่ยมทองคำของสุขภาวะโรงเรียน ซึ่งส่งผลยาวไกลถึง “การมาเรียนและผลสัมฤทธิ์” ของนักเรียน.
“ห้องน้ำที่สะอาดไม่ได้เป็นเพียงสถานที่ทำธุระส่วนตัว แต่ยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงการแพร่โรค ส่งเสริมพฤติกรรมสุขอนามัยที่ดี และทำให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียนมากขึ้น” พิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้ให้ความเห็นในพิธีส่งมอบ โดยย้ำว่าความร่วมมือครั้งนี้คือโมเดล “เอกชน–รัฐ–ชุมชน” ที่ตอบโจทย์ภาวะหลังภัยพิบัติ
ทำไม “ห้องน้ำ” จึงสำคัญต่อคุณภาพการศึกษา
แม้ “ชักโครก ก๊อกน้ำ สบู่” จะดูเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่รายงานนโยบายและหลักฐานเชิงประจักษ์จำนวนมากบอกตรงกันว่า
กล่าวอีกนัยหนึ่ง การลงทุนกับ “ห้องน้ำโรงเรียน” คือการลงทุนกับ “เวลาเรียน สุขภาพ ศักยภาพมนุษย์” ในระยะยาว
เล่าเรื่องจากขุนตาล จากห้องน้ำชำรุด สู่พื้นที่ปลอดภัยของการเรียนรู้
โรงเรียนขุนตาลวิทยาคมตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่ฝนตกชุก ช่วงปลายฤดูฝนปี 2567 น้ำหลากทำให้ พื้น–ผนัง–ท่อระบาย ในบางอาคารเสื่อมสภาพ ห้องน้ำหลายห้องต้องปิดใช้งานชั่วคราว เด็กนักเรียนจำนวนมากต้องต่อคิวใช้ห้องน้ำที่เหลืออยู่ ไม่เพียงกระทบสุขอนามัยแต่กระทบ “สมาธิและเวลาการเรียน” ของเด็กโดยตรง
การเข้ามาของ “ห้องน้ำเพื่อน้อง” จึงถูกออกแบบอย่าง “เข้าใจโจทย์พื้นที่” มากกว่าจะเป็นการซ่อมแบบกว้างๆ ทีมร่วมวางแผน “ลำดับชิ้นงาน” โดยยึด 4 มิติหลัก
เมื่อเสร็จสิ้นการปรับโฉม โรงเรียนมี จำนวนห้องน้ำใช้งานได้เพิ่มขึ้น การระบายอากาศดีขึ้น แยกสัดส่วนเพศชัดเจน จุดล้างมือเพียงพอ ครูผู้สอนรายงานว่า “ช่วงพักคาบ หลังรับประทานอาหาร เด็ก ๆ สะดวกสบายมากขึ้น” ขณะที่นักเรียนสะท้อนว่ารู้สึกมี “ความสบายใจ ความมั่นใจ ความรู้สึกปลอดภัย” ในการใช้ห้องน้ำมากขึ้น ทั้งหมดแปลกลับเป็น เวลาเรียนที่ไม่สะดุด ให้กับนักเรียนอีกด้วย
ตัวคูณทางสังคม เมื่อเอกชน ท้องถิ่นจับมือ แก้ปัญหาเร็วขึ้น
แบบจำลองในขุนตาลสะท้อน 3 ตัวคูณทางสังคมที่ควรถอดบทเรียน อย่างการคัดเลือกโรงเรียนแบบฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ สื่อท้องถิ่นทำหน้าที่ “คัดกรองและยืนยันสภาพแวดล้อม” ด้วยหลักฐานภาพถ่าย รายงาน พร้อมเชื่อมกับผู้บริหารโรงเรียนและชุมชน ผลคือ ระบุจุดเสี่ยงได้แม่นยำ และส่งต่อโจทย์ให้เอกชนเข้าไปเติมเต็มตรงจุด ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
และพลังระดมทุนขนาดเล็กแต่ต่อเนื่องของโครงการ ได้อาศัย “แสตมป์เซเว่นฯ” ของลูกค้า และเครือข่ายจิตอาสา ทำให้งบประมาณ คล่องตัว พร้อมใช้ ทันทีที่มีพื้นที่เร่งด่วน การมี “บุญนิธิแสตมป์เซเว่นฯ” เป็นเครื่องมือกลางทำให้เกิดความเชื่อมั่นและตรวจสอบได้ (transparency) ซึ่งเป็นหัวใจของ CSR ยุคใหม่ รวมไปถึง สอดคล้องมาตรฐานสากล (WASH in Schools) การออกแบบ ประเมินผลยึดหลัก “น้ำ–ส้วม–ล้างมือ” เป็นแกน สอดรับทิศทาง UNICEF/WHO ที่ใช้เป็นกรอบวัดผลในระดับนานาชาติ ช่วยให้โรงเรียนไทย โดยเฉพาะในชนบท ก้าวทันมาตรฐานโลก และเข้าถึงองค์ความรู้–เครื่องมือสื่อสารสุขศึกษาได้ง่ายขึ้น.
เสียงจากภาคี เป้าหมายไม่ใช่แค่ “ซ่อม” แต่คือ “เชื่อม”
พิสันต์ จันทร์ศิลป์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ระบุว่า โครงการนี้ “สะท้อนนโยบายที่ให้ความสำคัญกับสุขอนามัยโรงเรียน” ในฐานะฐานรากคุณภาพชีวิต ทั้งเด็กและครู โดยเฉพาะโรงเรียนห่างไกลที่ขาดแคลนงบซ่อมบำรุง “ซ่อมวันนี้ = ลดโรคพรุ่งนี้” และยังช่วย “เชื่อม” ภาคีท้องถิ่นให้ทำงานร่วมกันอย่างต่อเนื่อง
ด้านสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ มนรัตน์ ก.บัวเกษร กล่าวว่า ในช่วงน้ำท่วมเมื่อปีที่แล้ว สถานที่แรก ๆ ที่ได้รับผลกระทบ ก็คือโรงเรียนขุนตาลวิทยาคม ซึ่งสำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ ได้คอยรายงานและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาตลอด เมื่อเห็นถึงความเสียหาย จึงได้รีบประสานงานไปทาง ซีพี ออลล์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการปรับปรุงห้องน้ำ เพื่อส่งคืนสุขอนามัย ความปลอดภัย และศักดิ์ศรี ในการใช้ชีวิตในโรงเรียนได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง และสิ่งที่ทำให้เราประทับใจมากก็คือ วิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของ ซีพี ออลล์ ที่นอกจากการให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าในเรื่องปัจจัยพื้นฐานอื่น ๆ แล้ว ยังได้หยิบยื่นโครงการอันมีคุณค่าอย่าง “โครงการห้องน้ำเพื่อน้อง” ให้เข้ามาเติมเต็มสิ่งขาดหายที่นี่
ขณะที่ครูและนักเรียนโรงเรียนขุนตาลวิทยาคมให้ข้อมูลสอดคล้องกันว่า “การเข้าถึงห้องน้ำที่เพียงพอ ปลอดภัย เปลี่ยนบรรยากาศโรงเรียนอย่างชัดเจน” เด็กมีวินัยการล้างมือดีขึ้น และห้องน้ำสะอาดขึ้นจากการจัดตารางดูแลร่วมกับนักเรียนแกนนำ
วิเคราะห์ผลลัพธ์ ข้อเสนอเชิงนโยบาย
1) ความคุ้มค่าเชิงสังคม (Social ROI) สูง
ต้นทุนเฉลี่ยการปรับปรุงห้องน้ำหนึ่งบล็อกเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ด้านสุขภาพ เวลาเรียน ภาพลักษณ์โรงเรียน พบว่า “คุ้ม” อย่างมาก เมื่อเทียบกับค่าเสียโอกาสจากการขาดเรียน/การเจ็บป่วยซ้ำๆ ทั้งยังลดภาระซ่อมเฉพาะหน้า เช่น ค่าทำความสะอาดแก้ฉุกเฉินระหว่างเทอม
2) เชื่อมกับภัยพิบัติที่ถี่ขึ้น
สภาพภูมิอากาศสุดขั้วทำให้ รอบภัยพิบัติสั้นลง–ความรุนแรงเพิ่มขึ้น หลายแหล่งข่าวสากลชี้ว่าภาคเหนือรวมถึงเชียงราย รับแรงปะทะฝนหนัก น้ำหลากมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งสอดรับกับการเตือนภัยในประเทศปี 2567–2568 ดังนั้น สุขาภิบาลโรงเรียนหลังน้ำลดคือ “ภารกิจเร่งด่วน” ที่ต้องตั้งงบสำรองถาวรระดับจังหวัด
3) ยกระดับมาตรฐาน กำหนดเช็กลิสต์ WASH ระดับจังหวัด
เสนอให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สาธารณสุขจังหวัด ใช้ เช็กลิสต์ WASH โรงเรียน เป็นเครื่องมือตรวจสุขาภิบาลทุกเทอม (น้ำ ส้วม ล้างมือ การสื่อสารสุขศึกษา) พร้อมสร้าง “ดัชนีสุขาภิบาลโรงเรียน” เผยแพร่สาธารณะ เพื่อเร่งรัดโรงเรียนเปราะบางให้ได้รับการสนับสนุนก่อนเกิดเหตุ
4) กลไกระดมทุนรูปแบบผสม (Blended CSR)
โครงการ “ห้องน้ำเพื่อน้อง” พิสูจน์ว่าการระดมทรัพยากรเล็กๆ จากประชาชนจำนวนมาก สามารถ “ขยับภูเขา” ได้จริง เสนอให้ขยายโมเดลไปยัง “กองทุนย่อยระดับอำเภอ” เปิดรับเงิน วัสดุ แรงงานจิตอาสา และจับคู่โรงเรียนรอซ่อมกับผู้สนับสนุนแบบ real-time
จากแผลน้ำท่วม สู่โอกาสยกมาตรฐานโรงเรียนชนบท
กรณี โรงเรียนขุนตาลวิทยาคม แสดงให้เห็นว่า “เมื่อข้อมูลพื้นที่แม่น ภาคีพร้อม เครื่องมือระดมทุนยืดหยุ่น” การกู้คืนสุขาภิบาลโรงเรียนหลังวิกฤตสามารถทำได้เร็วและยั่งยืน ผลลัพธ์ไม่ได้หยุดแค่ห้องน้ำปรับปรุงใหม่ที่สะอาดขึ้น แต่หมายถึง การเรียนรู้ที่ไม่สะดุด สุขภาพเด็กที่ดีขึ้น และความภูมิใจของชุมชน ที่เห็นโรงเรียนกลับมายืนได้ด้วยพลังรวม ในโลกที่ภัยพิบัติมาไว มาแรงขึ้น การมี “ต้นแบบ” อย่างขุนตาล ที่สื่อท้องถิ่นจับมือเอกชนและรัฐ ช่วยยกระดับให้กับห้องน้ำเด็ก ๆ และเยาวชน คือคำตอบที่เป็นรูปธรรมและต่อยอดได้ ทั้งในเชียงรายและจังหวัดเปราะบางอื่น ๆ ของประเทศไทย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.