เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2567 นายนณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ได้กล่าวถึงแนวคิดที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดเชียงราย ว่าด้วยการลดค่าไฟฟ้าจาก 4.15 บาท เหลือ 3.70 บาท ซึ่งเขามองว่าแนวคิดนี้เป็นสิ่งที่ดี เพราะค่าไฟฟ้าเป็นตัวกำหนดค่าครองชีพสำคัญของครัวเรือน แต่การดำเนินการจำเป็นต้องพิจารณาในเชิงลึกเพื่อให้เกิดความเป็นไปได้และยั่งยืน
การลดค่าไฟ: แนวคิดที่ดีแต่ต้องระวังผลกระทบ
นายนณริฏระบุว่า การตั้งเป้าหมายเพื่อลดค่าไฟฟ้าเป็นสิ่งที่ดี แต่ประเทศไทยยังอยู่ในระบบตลาด การลดค่าไฟจึงต้องพิจารณาว่าจะสามารถลดต้นทุนพลังงานได้อย่างไรโดยไม่ส่งผลกระทบต่อภ
าคธุรกิจมากเกินไป หากรัฐบาลเลือกใช้มาตรการกดดันหรือบังคับภาคธุรกิจ อาจส่งผลให้เอกชนต้องประสบปัญหาขาดทุนและสร้างแรงกระทบที่ไม่พึงประสงค์ ดังนั้น ควรมุ่งเน้นวิธีการที่สร้างสรรค์ เช่น การวิจัยและพัฒนา การใช้เทคโนโลยีลดต้นทุนพลังงาน หรือการหาแหล่งพลังงานราคาถูกเพิ่มเติม
กลไกตลาด: คีย์สำคัญสู่ความยั่งยืน
นักวิชาการทีดีอาร์ไอเสนอว่า รัฐบาลควรใช้กลไกตลาดในการดำเนินการเพื่อสร้างประสิทธิภาพ โดยมีบทบาทสนับสนุนเพื่อให้แนวคิดนี้สามารถเกิดขึ้นจริงโดยมีผลกระทบน้อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีพลังงานทางเลือกหรือการร่วมมือกับภาคเอกชนในการจัดหาพลังงานต้นทุนต่ำ
เศรษฐกิจไทยปี 2568: การฟื้นตัวที่ไม่เท่าเทียม
ในอีกด้านหนึ่ง นายนณริฏยังกล่าวถึงเศรษฐกิจไทยในปี 2568 ว่ามีการฟื้นตัวดีขึ้นในภาพรวม โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) จะเติบโตที่ 2.6-2.8% อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวนี้ไม่ได้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียม กลุ่มรากหญ้าและผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังคงเผชิญความลำบาก รัฐบาลจึงควรมุ่งเน้นการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง มากกว่าการแจกเงินในลักษณะที่สร้างผลกระทบเพียงชั่วคราว
แนวทางแก้ปัญหา: การลดหนี้และเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน
การแก้ไขปัญหาโครงสร้างเศรษฐกิจที่สำคัญคือการลดปัญหาหนี้ โดยเฉพาะหนี้ของผู้ประกอบการรายย่อยและกลุ่มคนตัวเล็ก รัฐบาลควรสนับสนุนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การเปิดตลาดใหม่ให้ผู้ประกอบการไทย การลดอุปสรรคทางการค้า และการสร้างโอกาสในเศรษฐกิจโลก
สรุป
แนวคิดลดค่าไฟเป็นเป้าหมายที่ดีและสามารถสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อค่าครองชีพประชาชน แต่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังโดยใช้กลไกตลาดและเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืนพร้อมทั้งส่งเสริมเศรษฐกิจไทยในระยะยาว นอกจากนี้ การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเศรษฐกิจ เช่น การลดหนี้และเพิ่มโอกาสแข่งขัน ยังเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญในปี 2568 เพื่อสร้างความสมดุลและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในทุกภาคส่วน
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ)
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.