การกลับมาของ ‘ดาวทะเลแห่งป่าดิบ’ Heterostemma brownii พืชหายากโผล่กลางป่าเชียงราย หลังเงียบหายกว่าศตวรรษ – จุดเปลี่ยนเร่งอนุรักษ์ทรัพยากรชีวภาพ

เรื่องเล่าบนผืนป่าลึกปรากฏการณ์ฟื้นคืนของพืชลึกลับที่หลายคนคิดว่าสาบสูญ

เชียงราย, 10 กรกฎาคม 2568 – กว่าร้อยปีที่โลกพฤกษศาสตร์จารึกชื่อ “Heterostemma brownii” หรือ ‘ดาวทะเลแห่งป่าดิบ’ ไว้บนรายชื่อสิ่งมีชีวิตหายากอย่างเงียบงัน จนกระทั่งในปี 2562 ความหวังใหม่ก็ถือกำเนิดอีกครั้งจากการค้นพบของ ดร.วรนาถ ธรรมรงค์ นักอนุกรมวิธานพืช สำนักวิจัยและอนุรักษ์ องค์การสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (QSBG) และทีมงาน ซึ่งออกสำรวจผืนป่าดิบชื้นในจังหวัดเชียงราย ด้วยใจที่เปี่ยมไปด้วยความเชื่อมั่นว่าธรรมชาติยังคงมีความลับซุกซ่อนอยู่

“มันเหมือนเราค้นพบขุมทรัพย์ที่คิดว่าสาบสูญไปแล้ว” ดร.วรนาถกล่าวถึงความรู้สึกขณะเผชิญกับดาวทะเลแห่งป่าดิบครั้งแรก พืชชนิดนี้ในอดีตมีรายงานเฉพาะในไต้หวัน จีน และเวียดนาม โดยมีการค้นพบครั้งสุดท้ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2449 (ค.ศ. 1906) การพบ H. brownii ในไทยครั้งนี้จึงเป็นหลักฐานสำคัญที่ยืนยันการกระจายพันธุ์ในประเทศไทยและประเทศลาวเป็นครั้งแรก

ภาพถ่ายและข้อมูลเชิงลึกจากการค้นพบครั้งนี้ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Thai Forest Bulletin (Botany) ปี 2563 และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดย QSBG ผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อ 10 กรกฎาคม 2568 จุดประกายความสนใจในแวดวงวิทยาศาสตร์และกลุ่มอนุรักษ์ทั่วประเทศทันที

เสน่ห์แห่ง “ดาวทะเล” บนม่านมอสป่าดิบ

‘Heterostemma brownii’ จัดอยู่ในวงศ์ดอกรัก (Apocynaceae) เป็นไม้เลื้อยเนื้ออ่อนที่พบเฉพาะในป่าดิบชื้นระดับความสูง 500-1,100 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะดอกมีความโดดเด่น กลีบดอกสีเหลืองสดใส 5 แฉกแต้มจุดประแดง และกระบังรอบสีแดงเข้ม 5 แฉกกลางดอก คล้ายดาวทะเลกลางป่ามืด ยิ่งเมื่ออวดโฉมท่ามกลางฤดูฝนในเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม พื้นที่ป่าดิบจึงงดงามราวเทพนิยาย

แม้จะค้นพบดอกอันสมบูรณ์ แต่นักวิจัยยังไม่พบผลหรือเมล็ดของ H. brownii จากตัวอย่างที่เก็บรวบรวม นี่คือช่องว่างทางวิทยาศาสตร์ที่จำเป็นต้องเร่งศึกษาเพิ่มเติม เพื่อเข้าใจวงจรชีวิต กระบวนการสืบพันธุ์ และเงื่อนไขที่เอื้อต่อการกระจายพันธุ์ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญต่อการวางแผนอนุรักษ์ระยะยาว

ความเปราะบางและการไม่ถูกประเมินสถานะ เงื่อนปมของการอนุรักษ์

  1. brownii นับเป็นพืชหายากอย่างแท้จริง และยังไม่มีการประเมินสถานะความเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์อย่างเป็นทางการในบัญชีแดงของ IUCN สาเหตุหลักคือข้อมูลที่ยังไม่เพียงพอและการปรากฏตัวอย่างจำกัดตลอดศตวรรษที่ผ่านมา

“การไม่มีสถานะอนุรักษ์ทำให้พืชชนิดนี้ตกอยู่ในความเสี่ยงต่อภัยคุกคามโดยตรงและอ้อม” ดร.วรนาถกล่าว โดยภัยที่น่ากังวล ได้แก่

  • การสูญเสียถิ่นที่อยู่: การขยายพื้นที่เกษตรกรรม ตัดไม้ผิดกฎหมาย และอุตสาหกรรมที่รุกรานพื้นที่ป่า
  • การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ: ทำให้อุณหภูมิและปริมาณฝนผันผวนจนระบบนิเวศที่อ่อนไหวอย่าง H. brownii ปรับตัวไม่ทัน
  • มลพิษและชนิดพันธุ์ต่างถิ่น: เคมีเกษตรและการบุกรุกของพืชต่างถิ่นส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของป่าและพันธุ์ไม้หายาก
  • การโจรกรรมชีวภาพ: การลักลอบนำพันธุ์พืชหายากไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาต

ภัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการบูรณาการอนุรักษ์ H. brownii เข้ากับยุทธศาสตร์การปกป้องป่าดิบโดยรวม

ต้นแบบความมุ่งมั่นในงานอนุรักษ์ไทย

องค์การสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ (QSBG) จังหวัดเชียงใหม่ ดำรงบทบาทศูนย์กลางของการวิจัยและอนุรักษ์พืชหายากในไทย QSBG ไม่เพียงเก็บรวบรวมพืชพันธุ์ไว้ในสวนและพิพิธภัณฑ์พืชเท่านั้น แต่ยังเน้นงานอนุกรมวิธานและโครงการศึกษาวิจัยอย่างต่อเนื่อง เพื่อปิดช่องว่างความรู้และขยายผลสู่นโยบายอนุรักษ์ระดับประเทศ

ความสำเร็จในการค้นพบ H. brownii อีกครั้ง ตอกย้ำถึงศักยภาพของทีมวิจัย QSBG และเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น Singapore Botanic Gardens และนักวิทยาศาสตร์จากลาวที่ร่วมศึกษาเส้นทางการกระจายพันธุ์ของพืชชนิดนี้ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ก้าวต่อไปเพื่อ “ดาวทะเลแห่งป่าดิบ”

  1. ประเมินสถานะอนุรักษ์อย่างเป็นทางการ: เร่งสำรวจข้อมูลเพื่อจัดอันดับในบัญชีแดงของ IUCN อาจพิจารณาสถานะ “ข้อมูลไม่เพียงพอ” เพื่อกระตุ้นการเก็บข้อมูลอย่างจริงจัง
  2. วิจัยเชิงลึกทางชีววิทยา: สำรวจวงจรชีวิต กระบวนการสืบพันธุ์ และความต้องการด้านนิเวศวิทยาเพื่อเตรียมแผนฟื้นฟูทั้งในธรรมชาติและนอกพื้นที่
  3. ปกป้องถิ่นที่อยู่: ร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและท้องถิ่น ป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่า และผลักดันมาตรการคุ้มครองเฉพาะบริเวณที่พบ H. brownii
  4. สร้างเครือข่ายภูมิภาค: ขยายความร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์จากจีน ลาว ไต้หวัน เวียดนาม เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
  5. รณรงค์ให้ความรู้ชุมชน: ถ่ายทอดคุณค่าและความสำคัญของระบบนิเวศป่าดิบและ H. brownii สู่เยาวชนและชาวบ้าน สนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่ยั่งยืน ควบคู่กับการอนุรักษ์

 “ดาวทะเลแห่งป่าดิบ” – จากตำนานสู่ความหวังใหม่ของป่าไทย

การค้นพบ Heterostemma brownii Hayata อีกครั้งในประเทศไทย คือตัวอย่างที่ชี้ชัดว่าธรรมชาติยังมีเรื่องราวซ่อนเร้นอีกมากมาย และความหลากหลายทางชีวภาพยังมีบทบาทสำคัญต่อความมั่นคงของระบบนิเวศและคุณภาพชีวิตมนุษย์

การดำเนินนโยบายอนุรักษ์ที่เข้มข้นและต่อเนื่อง คือหนทางเดียวที่จะรักษาพืชพันธุ์ล้ำค่านี้ไว้ให้เป็นสมบัติของป่าฝนไทยสืบไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เพจสวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
  • ดร.วรนาถ ธรรมรงค์ | สำนักวิจัยและอนุรักษ์ QSBG
  • Thammarong, W., Raksa-chat, S., & Rodda, M. (2020). Thai Forest Bulletin (Botany), 48(2), 114–117.
  • IUCN Red List: International Union for Conservation of Nature’s Red List
  • The Plant List (2013) | http://www.theplantlist.org/
  • IPNI (International Plant Names Index)
  • Global Biodiversity Information Facility (GBIF)
  • คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News