พระเมธีวชิโรดม ชี้แจงข้อกล่าวหายูทูปเปอร์ปมไร่เชิญตะวันรกร้าง ยืนยันยังมีประชาชนเข้าปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง

เชียงใหม่, 20 พฤษภาคม 2568 – พระเมธีวชิโรดม หรือท่าน ว.วชิรเมธี ผู้อำนวยการศูนย์วิปัสนาสากลไร่เชิญตะวัน จังหวัดเชียงราย ออกแถลงชี้แจงกรณียูทูปเปอร์บางรายเผยแพร่เนื้อหาผ่านโซเชียลมีเดียกล่าวหาไร่เชิญตะวันเป็นวัดร้าง และระบุว่าไม่มีผู้คนไปปฏิบัติธรรม ทั้งยังมีข้อสงสัยเกี่ยวกับตัวพระเมธีวชิโรดมว่าหายตัวไปจากพื้นที่ โดยยืนยันว่าทั้งหมดไม่เป็นความจริง พร้อมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ

ตรวจสอบข้อเท็จจริง: ไร่เชิญตะวันยังมีการปฏิบัติกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไร่เชิญตะวัน อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่าภายในไร่ยังคงมีสภาพที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีพระสงฆ์และเจ้าหน้าที่ประจำการตามปกติ พร้อมพบว่าพระเมธีวชิโรดมอยู่ภายในไร่และได้พาชมสถานที่ต่าง ๆ ด้วยตนเอง

ท่าน ว.วชิรเมธี ระบุว่า ผู้ที่เผยแพร่เนื้อหาเท็จมักบันทึกภาพในช่วงเวลานอกการเปิดให้บริการ ซึ่งไร่เชิญตะวันเปิดตั้งแต่เวลา 09.00–17.00 น. และมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทุกวัน เช่น การบรรยายธรรม การอบรมสามเณร การประชุมทีมงาน และการปฏิบัติธรรมของประชาชนทั่วไป

ความเคลื่อนไหวของพระเมธีวชิโรดม จากเชียงรายสู่เวทีระดับโลก

พระเมธีวชิโรดมเปิดเผยว่า ตลอดช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปประกอบศาสนกิจที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดำเนินการสร้างวัดถวายแด่พระอุปัชฌาย์คือพระเทพสิทธินายก อดีตเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ โดยปัจจุบันมีวัดในประเทศญี่ปุ่นภายใต้การดูแลแล้วสองแห่ง ได้แก่ วัดหลวงพ่อชื่นพุทธาราม จังหวัดไซตามะ

นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15–16 พฤษภาคม 2568 ท่านยังได้เป็นประธานในพิธีปฐมนิเทศนักเรียนใหม่โรงเรียนวัดครึ่งใต้วิทยา ณ ไร่เชิญตะวัน ซึ่งเป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกธรรม-สามัญที่ตั้งอยู่ภายในไร่โดยตรง

ล่าสุด มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด สหราชอาณาจักร ได้มีฉันทามติตั้งกองทุนวิจัย “The Vajiramedhi Scholarship in Pali Studies” โดยมีพระเมธีวชิโรดมเป็นประธานที่ปรึกษา ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยและวงการพระพุทธศาสนาโลก

การดำเนินคดีทางกฎหมายต่อผู้เผยแพร่ข้อมูลเท็จ

จากกรณียูทูปเปอร์บางรายเผยแพร่คลิปที่ระบุว่าไร่เชิญตะวันรกร้างและไม่มีการดูแล พระเมธีวชิโรดมเปิดเผยว่า ได้มีการตั้งทีมทนายความและยื่นฟ้องผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จต่อศาลจังหวัดเชียงราย โดยมีบางรายติดต่อขอให้ถอนฟ้อง แต่ทางทนายยืนยันจะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายเพื่อรักษาสิทธิและศักดิ์ศรีขององค์กร

“บางคนอยากได้ยอดไลก์ยอดแชร์ เอาข้อมูลผิด ๆ ไปลงในโซเชียล สร้างความเข้าใจผิดในวงกว้าง อยากให้ผู้ผลิตเนื้อหาออนไลน์มีจรรยาบรรณในการนำเสนอข้อมูล” พระเมธีวชิโรดมกล่าว

ชี้แจงกรณีการเงินของไร่เชิญตะวัน – ตรวจสอบได้ โปร่งใส

พระเมธีวชิโรดมยังกล่าวถึงข้อครหาที่ว่าไร่เชิญตะวันเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน โดยยืนยันว่าเรื่องการเงินทั้งหมดดำเนินการผ่านมูลนิธิไร่เชิญตะวัน ไม่มีบัญชีส่วนตัวใดเกี่ยวข้อง ยกเว้นบัญชีนิตยภัตสำหรับพระเปรียญ 9 เท่านั้น

“ทุกบาททุกสตางค์ที่มีผู้ถวายมา เรานำเข้าไปในบัญชีมูลนิธิ สามารถตรวจสอบได้ทั้งหมด ใครต้องการข้อมูลเชิงลึกสามารถติดต่อขอจากมูลนิธิได้โดยตรง” พระเมธีวชิโรดมย้ำ

วิเคราะห์ผลกระทบต่อวงการสื่อและพระพุทธศาสนา

นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและศาสนาเห็นพ้องว่า กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงอันตรายของการเผยแพร่ข้อมูลเท็จผ่านสื่อออนไลน์ ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ขององค์กรศาสนาแล้ว ยังทำให้สังคมเกิดความแตกแยกในด้านความเชื่อ

การใช้สื่อโดยไม่กลั่นกรองและไม่ยึดหลักจรรยาบรรณวิชาชีพจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และอาจเป็นบ่อเกิดของคดีความและความขัดแย้งที่ไม่จำเป็นในสังคม

ข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องและแหล่งอ้างอิง

  • จากรายงานของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า ไร่เชิญตะวันมีผู้เข้าชมเฉลี่ย 8,000–10,000 คนต่อเดือนในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และประมาณ 4,000–6,000 คนต่อเดือนในช่วงนอกฤดูกาล
  • ข้อมูลจากมูลนิธิไร่เชิญตะวันระบุว่า มีการจัดกิจกรรมอบรมธรรมะและหลักสูตรการเจริญสติไม่น้อยกว่า 36 ครั้งต่อปี และมีพระภิกษุและสามเณรที่เข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่อง
  • สำนักงานศาสนสมบัติกลางของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ระบุว่า ศูนย์วิปัสนาสากลไร่เชิญตะวันเป็นศูนย์กลางด้านการอบรมพระธรรมทูตสายสากลระดับภูมิภาค

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • มูลนิธิไร่เชิญตะวัน
  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่
  • สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
  • มหาวิทยาลัยอ๊อกฟอร์ด
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News