สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2566 รุ่นที่ 22 พร้อมทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระรูป

 
เชียงราย, 18 มีนาคม 2568 – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษามหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ประจำปีการศึกษา 2566 รุ่นที่ 22 โดยมี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดี ทูลเกล้าฯ ถวายสูจิบัตร ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ นายกสภามหาวิทยาลัย (อธิการบดีผู้ก่อตั้ง) กราบบังคมทูลสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
 
สำหรับปีนี้ มีผู้สำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาดุษฎีบัณฑิต มหาบัณฑิต และบัณฑิต เป็นจำนวนกว่า 2,600 คน จากสำนักวิชา แพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ นวัตกรรมสังคม จีนวิทยา การแพทย์บูรณาการ ศิลปศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การจัดการ เทคโนโลยีดิจิทัลประยุกต์ อุตสาหกรรมเกษตร นิติศาสตร์ วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง วิทยาศาสตร์สุขภาพ พยาบาลศาสตร์ และเวชศาสตร์ชะลอวัยและฟื้นฟูสุขภาพ เป็นบัณฑิตชาวต่างชาติ จำนวน 73 คน จากชาวต่างชาติที่สำเร็จการศึกษาในปีนี้ทั้งหมด 116 คน จากหลายประเทศ เช่น จีน, เมียนมา, ศรีลังกา, ภูฏาน, เกาหลี, กัมพูชา, ออสเตรเลีย, แอฟริกาใต้, ญี่ปุ่น, อเมริกา, อินโดนีเซีย, โซมาเลีย เป็นต้น
 
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเปิดสอน 67 หลักสูตร ใน 15 สำนักวิชา ทั้งระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี โท และ เอก จัดการเรียนการสอนโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง และมีภาษาที่สองเป็นภาษาจีน ตลอดมานั้น ทำให้บัณฑิตที่จบจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีทักษะและความสามารถ ที่จะร่วมพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้า การรับรู้ในวัฒนธรรมที่หลากหลาย เป็นพลเมืองโลกได้อย่างสมบูรณ์ โดยปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษากว่า 40,000 คน กระจายการทำงานอยู่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
โอกาสนี้ พระราชทานพระราโชวาทความว่า…พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ข้าพเจ้ามาปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงประจำปีการศึกมา 2566 ในวันนี้. ขอแสดงความชื่นชมต่อผู้ทรงคุณวุฒิและบัณฑิตทุกคนที่ได้รับเกียรติและความสำเร็จ.
 
บัณฑิตทั้งหลายต่างก็สำเร็จการศึกษา สมกับที่ได้ตั้งใจพากเพียรมาโดยตลอดเเล้ว ต่อไปก็ถึงวาระที่จะต้องออกไปทำงาน และดำเนินชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่น. การที่จะดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงาน ให้สำเร็จผลที่ดีที่เจริญได้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความคิดที่ดีที่ถูกต้องเป็นพื้นฐาน. ในเรื่องนี้ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทไว้ ความว่า “ความคิดนั้นสำคัญมากถือได้ว่าเป็นแม่บทใหญ่ของคำพูดและการกระทำทั้งปวง. กล่าวคือ ถ้าคนเราคิดดี คิดถูกต้องทั้งตามหลักวิชาและคุณธรรม คำพูดและการกระทำก็เป็นไปในทางที่ดีที่เจริญ. แต่ถ้าคิดไม่ดีไม่ถูกต้อง คำพูดและการกระทำก็อาจก่อก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหาย ทั้งแก่ตัวเองและส่วนรวมได้. ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่บุคคลจะพูดจะทำสิ่งใด จำเป็นต้องหยุดคิดเสียก่อนว่า กิจที่จะทำ คำที่จะพูดนั้นผิดหรือถูก เป็นคุณประโยชน์หรือเป็นโทษเสียหาย เป็นสิ่งที่ควรพูด ควรกระทำ หรือควรงดเว้น. เมื่อคิดพิจารณาได้ดังนี้ ก็จะสามารถยับยั้งคำพูดที่ไม่สมควร หยุดยั้งการกระทำที่ไม่ถูกต้อง พูดและทำแต่สิ่งที่จะสัมฤทธิ์ผลเป็นคุณ เป็นประโยชน์ และเป็นความเจริญ.” จึงขอให้บัณฑิตทุกคน น้อมนำพระบรมราโชวาทที่ได้เชิญมานี้ ไปเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและประกอบกิจการงานสืบไป.
 
ในพระปรมาภิไทยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขออวยพรให้บัณฑิตทุกคนและผู้ที่มาร่วมในพิธีนี้ทุกท่าน ประสบความสุขสวัสดี และมีความเจริญรุ่งเรืองโดยทั่วกัน.
 
จากนั้น สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระรูปสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ประทับคู่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ณ มณฑลพิธีลานพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรฯ และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี อีกทั้งเพื่อเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของบุคลากรทางการแพทย์และผู้มารับบริการที่ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ซึ่งจะประดิษฐาน ณ บริเวณด้านหน้าอาคารโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News