
เชียงราย, 14 ตุลาคม 2568 — ในวันที่ธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดแข่งขันดุเดือดและค่าครองชีพกดดันการตัดสินใจของนักเดินทาง “ราคาที่คาดเดาได้” กลายเป็นคำตอบของตลาดมากกว่าที่เคย นี่คือโจทย์ที่ โรงแรมวัน บัดเจท (One Budget Hotel) ภายใต้การขับเคลื่อนของ บริษัท เคเอส กรุ๊ป เรสซิเดนซ์ จำกัด เลือกหยิบขึ้นมาสร้างความแตกต่าง ผ่านยุทธศาสตร์ Fixed Rate ราคาเดียวทั้งปี พร้อมประกาศปักธงสาขาน้องใหม่ “วัน บัดเจท เชียงราย—สาขาแม่สาย” ชายแดนเหนือสุดของไทย และตั้งเป้า “ปิดดีล” ให้ครบ 10 สาขาในจังหวัดเชียงรายภายในปี 2568 ควบคู่กับแผนขยายเครือข่ายไปยังหัวเมืองรองทั่วประเทศ
เสียงเล่าของผู้บริหารบอกตรงกันว่า “ถูกและดี” ไม่ได้เป็นเพียงสโลแกน แต่เป็น “สัญญา” ต่อผู้บริโภคที่ต้องการที่พักสะอาด ปลอดภัย มีฟังก์ชันจำเป็นครบ และราคาที่ไม่เหวี่ยงขึ้นตามฤดูกาล—จุดยืนที่ส่งผลให้หลายสาขา ทำอัตราการเข้าพักเฉลี่ยมากกว่า 90% อย่างต่อเนื่อง นับจากเปิดสาขาแรกช่วงปี 2563 ท่ามกลางพายุโควิด-19 จนถึงวันที่แบรนด์กำลังเร่งเครื่องอย่างเต็มกำลัง
จากหอพักสู่เครือข่ายโรงแรม—บทเรียนที่กลั่นเป็น “สูตรลับคุมต้นทุน”
เบื้องหลังความคึกคักของการเปิดสาขาแม่สาย คือภูมิหลังที่ไม่ธรรมดา เคเอส กรุ๊ป เรสซิเดนซ์ เริ่มต้นจากธุรกิจ หอพักและอาคารพาณิชย์ให้เช่า ก่อนจะต่อยอดความชำนาญด้านการบริหารสินทรัพย์และการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) มาสู่โรงแรมราคาประหยัดแบบ Asset-Light ที่เน้นการควบคุมต้นทุนอย่างละเอียดในทุกห่วงโซ่ ตั้งแต่การเลือกทำเล การออกแบบห้องมาตรฐาน ไปจนถึงระบบซักรีดภายในเครือและการจัดซื้อรวมเพื่อให้ต้นทุนผันแปรต่อห้องต่ำที่สุด
ช่วงโควิด-19 ที่หลายธุรกิจสะดุด “วัน บัดเจท” เลือก กระจายความเสี่ยง ด้วยการปรับหอพักบางแห่งเป็นสถานที่กักตัว ASQ และรักษากำลังคนไว้ พร้อมอาศัย กระแสเงินสดสำรองอย่างน้อย 1 ปี เป็นกันชน พอกลับสู่ภาวะปกติ การดีดตัวของดีมานด์ในเมืองรองและหัวเมืองธุรกิจยิ่ง “ปลุกแบรนด์” ให้ติดตลาดไว ผู้เข้าพักจำนวนมากกลับมาใช้ซ้ำและ บอกต่อ ด้วยคอนเทนต์รีวิวจากผู้ใช้จริง (User Generated Content) บนแพลตฟอร์มโซเชียล
กลยุทธ์ “ราคาเดียวทั้งปี” ยอมแลกส่วนต่างกำไร เพื่อครอง “Top of Mind”
หัวใจของแบรนด์คือ Fixed Rate — ราคา เริ่มต้น 550 บาท/คืน ในหลายสาขา (บางสาขาในเมืองหลัก 600 บาท) ไม่เปลี่ยน แม้วันหยุดยาว ไฮซีซัน หรือเทศกาลใหญ่ ข้อเสนอที่ดูเรียบง่ายนี้ ทำหน้าที่ไม่ต่างจาก “คีย์เวิร์ด” ติดหัว—เมื่อลูกค้าคิดถึงที่พักประหยัด “One Budget = ราคาเดิม” กลายเป็นภาพจำที่ชัดเจน
แทนที่จะวิ่งหา ADR สูงสุด (อัตราค่าห้องเฉลี่ยต่อคืน) แบรนด์เลือกตั้งโจทย์ที่ยากกว่า—รักษา Occupancy Rate ให้สูงสม่ำเสมอ และยกเครื่องประสิทธิภาพการดำเนินงาน (จากห้องพักมาตรฐาน การบำรุงรักษารายวัน ไปจนถึงการบริหารสาธารณูปโภค) เพื่อขับเคลื่อน กระแสเงินสด ให้เสถียรในจุดราคาต่ำ นี่คือ “สูตรลับ” ที่ผู้บริหารลงมือทำเองจนเกิดวินัย
ทำเลคือทุกอย่าง สนามบิน—มหาวิทยาลัย—สามเหลี่ยมทองคำ—และ “แม่สาย”
เส้นทางขยายของ “วัน บัดเจท” เริ่มจากการปักหมุด เชียงราย เป็นฐาน และค่อยๆ เติมเครือข่ายไปตาม แหล่งดีมานด์คงที่ ใกล้สนามบิน มหาวิทยาลัย สถานกีฬา รวมถึงทำเลท่องเที่ยวชายแดน เช่น เชียงแสน–สามเหลี่ยมทองคำ และล่าสุดคือ แม่สาย ที่มีทั้งการท่องเที่ยวและการค้าชายแดน
ทำเลที่ดีประกอบกับ ที่จอดรถเพียงพอ ระบบคีย์การ์ดความปลอดภัย Wi-Fi ฟรี น้ำอุ่นแรง เครื่องดื่มยามเช้า และบางสาขามี ห้องฟิตเนส/ห้องประชุม ทำให้โรงแรมตอบโจทย์ “ลูกค้ามีภารกิจ” ไม่ว่าจะเป็นผู้เดินทางทำงาน หน่วยงานรัฐ/รัฐวิสาหกิจ และนักท่องเที่ยวที่ระมัดระวังงบประมาณ
โครงสร้างการเงิน–การบริหาร วินัยคือ “กำแพงกันคลื่น”
แม้ไม่เปิดเผยงบการเงินต่อสาธารณะ ผู้บริหารยืนยันว่ากิจการสามารถ ผ่านวิกฤติด้วยเงินสำรอง และ เครื่องมือสินเชื่อ ที่เหมาะสม โดยได้รับการสนับสนุนจาก ธนาคารกรุงไทย ทั้งสินเชื่อระยะยาวและวงเงินเบิกเกินบัญชี (O/D) สำหรับการลงทุนซื้อที่ดินและก่อสร้างสาขาใหม่ ขณะเดียวกัน บริษัทเลือก “คุมเกม” ต้นทุนด้วยการทำ ซักรีดในเครือ การซื้อรวม และ ตารางบำรุงรักษาเข้ม—ห้องไหนมีปัญหา “ปิดซ่อมทันที” ไม่ปล่อยค้างจนกลายเป็นก้อนใหญ่ให้ต้องรีโนเวตยกชั้นภายหลัง
การเดินเกมแบบนี้สะท้อน “ความเป็นผู้ประกอบการเชิงวินัย” มากกว่าการไล่ตัวเลขสวยงามระยะสั้น เมื่อรวมกับ ราคาที่คงที่ และ อัตราการเข้าพักสูง ทำให้ภาพรวม กระแสเงินสด ไหลลื่นเพียงพอที่จะรับมือวงจรโลว์/ไฮซีซัน และ ดอกเบี้ยเงินกู้ ที่เป็นภาระต้นทุนทางการเงินสำคัญของธุรกิจโรงแรมราคาประหยัดในยามเศรษฐกิจผันผวน
ตลาดโลว์คอสต์ที่ยังโต เมืองรอง–ท้องถิ่น–ท่องเที่ยวใกล้ตัว
บริบทมหภาคสนับสนุนแผนของ One Budget อย่างชัดเจน—หัวเมืองรอง และ แหล่งท่องเที่ยวท้องถิ่น กลับมาคึกคักตามจังหวะเศรษฐกิจและกิจกรรมระดับจังหวัด/ภูมิภาค ประกอบกับนิยาม “คุ้มค่า” ที่จับต้องได้มากกว่าเดิมในสายตาผู้บริโภคหลังโควิด ผู้เล่นโลว์คอสต์ที่มี มาตรฐานความสะอาด–ความปลอดภัย–ที่จอดรถ–อินเทอร์เน็ต และที่สำคัญคือ ราคาไม่ทำร้ายกระเป๋า จึง “ขึ้นแท่น” ตัวเลือกแรกในหลายทริป
ในระดับภูมิภาคเหนือ โครงการ รถไฟทางคู่เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ (กำหนดเปิดปี 2571) จะยิ่งเพิ่มการเข้าถึงพื้นที่ชายแดน และหนุนการเดินทางระหว่างจังหวัดแบบ Multi-City ซึ่งเป็น “โอกาสลำดับถัดไป” ของผู้ประกอบการโรงแรมราคาประหยัดที่วางเครือข่ายไว้ล่วงหน้าแล้ว
ความท้าทายที่รออยู่ ต้นทุนการเงิน–แรงงาน–มาตรฐานแบรนด์ และ “ชื่อคล้ายในบางพื้นที่”
แม้เส้นกราฟการเติบโตจะชี้ขึ้น แต่เส้นทางข้างหน้ามีโจทย์ท้าทายชัดเจน
เสียงจากทีมบริหาร บทเรียนจากสนามจริง
สาระสำคัญที่ทีมบริหารสรุปไว้—และถูกใช้เป็น “คู่มือภายใน”—มีดังนี้
ในมุมรายได้ ผู้บริหารยอมรับว่าเคย ปรับราคาพื้นฐาน จาก 500 เป็น 550 บาท/คืน เมื่อปลายปีที่ผ่านมาเพราะต้นทุนดอกเบี้ยและค่าสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้น แต่ยัง “คงแกน” Fixed Rate เพื่อรักษาภาพจำและความภักดีของลูกค้า—แนวทางที่ลูกค้าส่วนใหญ่ “เข้าใจและยอมรับได้” เพราะยังอยู่ในจุดราคาที่รู้สึกว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับทางเลือกอื่น
“แม่สาย” มากกว่าสาขาใหม่ คือบททดสอบการยึดฐานชายแดน
สาขาแม่สายไม่ได้เป็นเพียงหมุดหมายเชิงจำนวนสาขา แต่คือ บททดสอบเชิงกลยุทธ์ ของแบรนด์ในพื้นที่ชายแดนที่มี ดีมานด์หลากหลาย—นักท่องเที่ยวเดินทางไป–กลับ, ผู้ค้าชายแดน, หน่วยงานรัฐฯ และกรุ๊ปงานบุญ/งานเทศกาล การผสมผสาน ราคาที่แน่นอน กับ แฟซิลิตีสำคัญ (ที่จอดรถกว้าง คีย์การ์ดสองชั้น Wi-Fi เร็ว) จะเป็นตัวชี้วัดว่าคอนเซ็ปต์ “ถูกและดี” ของ One Budget เหมาะกับ “ดีมานด์จริง” ในเมืองชายแดนเพียงใด
ถ้าแม่สาย “ติดตลาด” ตามจังหวะเชียงแสน สนามบิน และย่านพาณิชยกรรมในตัวเมือง เชียงราย 10 สาขาภายในปี 2568 ก็ไม่ใช่เพียงตัวเลขสวย แต่คือ ฐานราก ของการก้าวไปสู่เป้าหมายที่ใหญ่กว่า—ขยายสู่หัวเมืองรองทั่วประเทศ และเปิดทางสู่ แผนเข้าจดทะเบียน ในอนาคตเมื่อระบบธรรมาภิบาลพร้อม
ไฮไลต์ธุรกิจ (Business Highlights)
ราคาที่คาดเดาได้ + วินัยปฏิบัติการ = สูตรโค้งยาวของโลว์คอสต์
ในตลาดที่ผู้บริโภค “คิดคุ้ม” มากขึ้น One Budget Hotel กำลังพิสูจน์ว่ากลยุทธ์ Fixed Rate สามารถสร้าง “ความไว้ใจ” ที่ต่อยอดเป็น การเข้าพักซ้ำ และ การบอกต่อ ได้จริง เมื่อประกอบกับโครงสร้างการบริหารที่ “เข้มกับวินัย–เบากับทรัพย์สิน–หนักแน่นกับเงินสด” แบรนด์จึงกลายเป็นผู้เล่นโลว์คอสต์ที่ “วิ่งโค้งยาว” ได้ ไม่ใช่แค่ “สปรินต์” ระยะสั้น
อย่างไรก็ดี เส้นทางสู่เครือข่ายระดับประเทศและแผนตลาดทุนต้องอาศัย ธรรมาภิบาลแบรนด์ และ มาตรฐานบริการ ที่คงเส้นคงวาในทุกสาขา โดยเฉพาะเมื่อมีผู้ประกอบการใช้นามคล้ายในบางพื้นที่ การสื่อสารให้ชัดว่ากลุ่มเชียงรายอยู่ภายใต้ KS Group Residence และการวาง “มาตรฐานกลาง” ที่ตรวจวัดได้ จะเป็นหัวใจในการป้องกันความสับสนและยกคุณภาพทั้งเครือ
สาขาแม่สายคือบททดสอบสำคัญ ถ้าทำได้ตาม “สูตรเชียงราย” เมืองรองอื่นที่กำลังสร้างก็น่าจะ “ติด” เช่นกัน และเมื่อรถไฟทางคู่เปิดเดินรถในปี 2571 เครือข่ายที่ปักไว้ล่วงหน้าจะรับแรงดีดของดีมานด์ได้เต็มประสิทธิภาพ—ถูกและดี จึงไม่ใช่เพียงคำขวัญ แต่เป็น กลยุทธ์การลงทุน ที่วางบนความเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและวินัยการดำเนินงานอย่างถึงแก่น
คำกล่าว/มุมมองจากผู้บริหาร (อ้างอิงจากการให้ข้อมูลสาธารณะ)
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.