มฟล.–เชียงรายยืนยันเจ้าภาพ “APACPH 2025” เวทีสาธารณสุขเอเชีย–แปซิฟิก ชูสุขภาพชายแดน–ความเสมอภาค รับโลกยุค Disruption

เชียงราย, 10 ตุลาคม 2568 — ยามเช้าของปลายฝนต้นหนาว ลมเหนือพัดปรับอุณหภูมิให้เมืองชายแดนเย็นลงเล็กน้อย ขณะเดียวกันข่าวใหญ่ด้านสาธารณสุขก็พัดเข้าสู่ภาคเหนือเช่นกัน เมื่อ สมาพันธ์วิชาการสาธารณสุขภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APACPH) ประกาศยืนยันให้ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) จังหวัดเชียงราย เป็นเจ้าภาพจัด การประชุมวิชาการนานาชาติ APACPH Conference ครั้งที่ 56 ระหว่าง 4–7 พฤศจิกายน 2568 ภายใต้หัวข้อหลัก “Public Health Challenges in a Disruptive World” หรือ ความท้าทายด้านสาธารณสุขในโลกที่มีการหยุดชะงัก”

การตัดสินใจดังกล่าวไม่เพียงย้ำ “สถานะความเป็นนานาชาติ” ของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงซึ่งได้รับการจัดอันดับ International Outlook ในระดับแถวหน้าของประเทศเท่านั้น หากยังสะท้อนบทบาทใหม่ของ เชียงราย ที่กำลังถูกมองเป็น “จุดตัดนโยบายสาธารณสุขชายแดน” ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ท่ามกลางพลวัตใหญ่ของภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก

“เราต้องนำเสียงจากแนวชายแดนเข้าสู่กระดานโลกให้ได้—ทั้งเรื่อง ความเสมอภาคทางสุขภาพของชนกลุ่มน้อย/ผู้ย้ายถิ่น/ผู้สูงอายุ, การเตรียมพร้อมต่อ โรคอุบัติใหม่–อุบัติซ้ำ, ไปจนถึงการบูรณาการ เทคโนโลยี–นโยบาย ในระบบสุขภาพ” สารจากคณะผู้จัด APACPH 2025 สะท้อนทิศทางยุทธศาสตร์ของงานปีนี้

ทำไม “เชียงราย” จึงเป็นสมรภูมิเสียงของภูมิภาค

เชียงรายตั้งอยู่บนทางเชื่อมของ อนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง (GMS) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประเด็นสุขภาพ ไม่รู้จักเส้นแบ่งเขตแดน ไม่ว่าจะโรคติดเชื้อที่เดินทางพร้อมการค้าและการย้ายถิ่น ปัจจัยแวดล้อม–อาชีวอนามัยจาก เศรษฐกิจข้ามแดน ไปจนถึงความเปราะบางเฉพาะบริบทของ แรงงานไร้เอกสาร–ชนกลุ่มน้อย–ผู้สูงอายุในชนบท การย้ายเวทีจากเมืองหลวงสู่ชายแดน จึงเป็นการ “หันไมค์” ไปยังผู้ที่มักอยู่ชายขอบของวงเสวนา สถานะความเป็นนานาชาติของ มฟล. และระบบนิเวศของเครือข่ายวิจัยด้านสุขภาพในภาคเหนือ ทำให้เมืองนี้ไม่ใช่เพียง “สถานที่จัดงาน” แต่เป็น ห้องทดลองเชิงนโยบาย ที่พาผู้เข้าร่วมเห็นของจริง—ตั้งแต่ชุมชนข้ามพรมแดน ไปถึงคลัสเตอร์ธุรกิจ–โลจิสติกส์ที่สร้างเงื่อนไขอาชีวอนามัยรูปแบบใหม่ ธีมย่อยของปีนี้ชัดถ้อยชัดคำ—สุขภาพของกลุ่มพลัดถิ่น ชายแดน และชนกลุ่มน้อย (Diaspora, border, and minority health)”—สะท้อนการปรับโฟกัสจาก กำหนดบนใช้ล่าง” ไปสู่ หลักฐานจากพื้นที่–ดันขึ้นนโยบาย” ที่รับมือความซับซ้อนจริงของภูมิภาค

กรอบวิชาการ 6 กลุ่มหัวข้อ เชื่อม “เทคโนโลยี นโยบาย ความยืดหยุ่น”

โครงสร้างวิชาการของ APACPH 2025 ถูกออกแบบเป็น 6 กลุ่มแกน (Core Tracks) ที่ครอบคลุมทั้ง “วันนี้” และ “วันพรุ่งนี้” ของระบบสุขภาพ:

  1. อนาคตของสังคมและสุขภาพ (Future Society & Health)  โฟกัส AI, เวชสารสนเทศ, Telehealth, Precision/Personalized Medicine และ Smart Care—คำถามใหญ่อยู่ที่กรอบกำกับดูแล จริยธรรมข้อมูล และความพร้อมของรัฐ–พื้นที่
  2. นโยบายและระบบสุขภาพ (Health Policy & Systems)  จาก ความมั่นคงทางสุขภาพโลก และ การเตรียมพร้อมโรคระบาด ไปถึง การเงินการคลังสาธารณสุข และแบบจำลอง Precision Public Health ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
  3. สุขภาพสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย (Environmental & Occupational Health)  ผลพวง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, มลพิษเมือง, และที่สำคัญคือ สุขภาพแรงงาน Gig—เศรษฐกิจแพลตฟอร์มที่เติบโตเร็วในอาเซียน แต่แบนบางด้านหลักประกันสุขภาพและความปลอดภัย
  4. ชุมชนและความเสมอภาค (Community & Equity)  ปัจจัยสังคมกำหนดสุขภาพ (SDoH), ความเสมอภาคทางเพศ, การคุ้มครองกลุ่มเปราะบาง (ชนกลุ่มน้อย–ผู้สูงอายุ–ผู้ย้ายถิ่น) และการป้องกันความรุนแรงในชุมชน
  5. การควบคุมโรคและการศึกษาด้านสุขภาพ (Disease Control & Health Education)  ภัยคุกคามระบาดวิทยา, NCDs, การบาดเจ็บ, สุขภาวะพฤติกรรม และ health literacy—แก่นของ “การป้องกัน” ที่ยังคงเป็นฐานของระบบสุขภาพยั่งยืน
  6. วงจรชีวิตและสุขภาพ (Life Cycle & Health)  จาก “ปฐมวัย–มารดา” ไปสู่ “สังคมสูงวัยโรคเรื้อรัง” ครอบคลุมโภชนาการ การออกกำลังกาย และบริการดูแลต่อเนื่อง

เมื่อนำ 6 กลุ่มมา “วางคู่กัน” จะเห็น ยุทธศาสตร์สามชั้น ชัดเจน เทค นโยบาย ต้องเดินคู่ (Future Society × Policy & Systems), สิ่งแวดล้อม อาชีพ ผูกกับ ความเสมอภาค (Environmental/Occupational × Community & Equity), และป้องกัน วงจรชีวิต เป็น รากฐานความยืดหยุ่น ของสังคมในระยะยาว (Disease Control × Life Cycle)

เส้นตายกระชั้นชิด โอกาส ความเสี่ยงที่ต้องบริหาร

แม้การจัดงานสะท้อนความพร้อมของเจ้าภาพด้านโลจิสติกส์ แต่ปีนี้ กำหนดการทางวิชาการค่อนข้างบีบอัด โดยเฉพาะสำหรับผู้เข้าร่วมต่างชาติ

  • กำหนดส่งบทคัดย่อ (Extended): ถึง 15 ตุลาคม 2568
  • แจ้งผลตอบรับบทคัดย่อ (Extended): 20 ตุลาคม 2568
  • วันประชุมหลัก: 4–7 พฤศจิกายน 2568
  • Early-bird Registration (Extended): ถึง 15 กันยายน 2568

ช่วงเวลา ระหว่างการแจ้งผล (20 ต.ค.) กับวันประชุม (4 พ.ย.) มีเพียงราว สองสัปดาห์ ซึ่งอาจ ไม่เพียงพอ สำหรับผู้ที่ต้องขอวีซ่า/อนุมัติค่าใช้จ่ายจากองค์กรหรือวางแผนการเดินทางที่ซับซ้อน คำแนะนำเชิงปฏิบัติของผู้สื่อข่าวคือ เร่งจัดการงบประมาณnอนุมัติภายใน–เอกสารเดินทางให้ยืดหยุ่น และเตรียมแผนสำรองล่วงหน้า

ด้านค่าลงทะเบียน โครงสร้างราคามีแรงจูงใจชำระล่วงหน้า ชัดเจน:

  • Early-bird (25 เม.ย.–15 ก.ย. 2568)  นักศึกษา 150 USD/4,500 บาท, สมาชิก 250 USD/5,500 บาท, บุคคลทั่วไป 300 USD/6,500 บาท
  • On-site (16 ก.ย.–15 ต.ค. 2568)  นักศึกษา 200 USD/5,000 บาท, สมาชิก 300 USD/6,000 บาท, บุคคลทั่วไป 350 USD/7,000 บาท
  • Pre-conference Workshop (4 พ.ย.)  ต่างชาติ 50 USD, ผู้เข้าร่วมในประเทศ 1,000 บาท

ราคายัง ไม่รวมค่าธรรมเนียมธุรกรรมทางการเงิน (บัตรเครดิต/ธนาคาร)

จากตัวเลขข้างต้น นักศึกษา เสียโอกาสสูงสุดหากพลาด Early-bird (ต่าง 50 USD) ขณะที่หน่วยงานรัฐ–มหาวิทยาลัยควรปิดงบ ก่อน 15 ก.ย. เพื่อบริหารต้นทุนรวมให้ดีที่สุด

 

โลจิสติกส์–การเดินทาง ไกลเมืองแต่ใกล้สนามบิน

สถานที่จัดประชุม มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (มฟล.) อำเภอเมืองเชียงราย

  • ห่าง ท่าอากาศยานนานาชาติแม่ฟ้าหลวง เชียงราย (CEI) ประมาณ 15 กม./20 นาที
  • ห่างตัวเมืองประมาณ 18 กม./20–30 นาที

ตัวเลือกการเดินทาง:

  • แท็กซี่สนามบิน/ศูนย์แท็กซี่เชียงราย
  • Grab (GrabCar/GrabTaxi/GrabRent) ให้บริการในเชียงราย
  • รถเช่า (Avis, Budget, Hertz, Chic Car Rent) มีเคาน์เตอร์ในสนามบิน

ที่พักที่คณะเจ้าภาพร่วมมือ:

  1. วนเวศน์ อินน์ (Wanawes Inn) — ที่พัก ในมหาวิทยาลัย เหมาะผู้ต้องการความสะดวกสูงสุด
  2. The Heritage Chiang Rai Hotel & Conventionสถานที่ประชุมคณะกรรมการบริหาร (ECM) วันที่ 3 พ.ย. คาดเป็น ศูนย์กลางเครือข่าย ของผู้บริหาร/ตัวแทนสถาบัน
  3. The Phufa Waree Chiangrai Resort, The Riverie by Katathani, Kokotel Chiang Rai Airport Suites — ทางเลือกตามงบและทำเล (ใกล้สนามบิน/ใจกลางเมือง/รีสอร์ท)

ด้วยระยะของมหาวิทยาลัยที่ ค่อนข้างห่างจากตัวเมือง ผู้เข้าร่วมควร กันงบการเดินทางภายใน (เรียกรถ/เช่ารถ) และติดตาม ประกาศรถรับ–ส่งทางการ หากมีการยืนยันเพิ่มเติมจากผู้จัด

โครงสร้างโปรแกรม Plenary–Panel–Talk Concert–Workshop

กำหนดการโดยสังเขป (ตามกรอบที่ประกาศ):

  • 1 ก.ค. 2568 เผยแพร่โปรแกรมครั้งที่ 1
  • 3 พ.ย. 2568 Executive Committee Meeting (ECM) ที่ The Heritage
  • 4 พ.ย. 2568 (บ่าย)  ECN Pre-Workshop (14:00–17:00 น.) เปิดให้สมาชิก Early Career Network (ECN) และผู้รับรางวัล YITA เข้าร่วมโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
  • 4–7 พ.ย. 2568 งานประชุมหลัก (วิทยากรปาฐกถา–เวทีเสวนา–การนำเสนอแบบปากเปล่า/โปสเตอร์–กิจกรรมเครือข่าย)

สาระสำคัญของการจัดโปรแกรมคือ “ความร่วมสมัย” ตั้งแต่ Plenary ที่ยก “โจทย์ใหญ่” ของภูมิภาค ไปถึง Panel ที่ ผู้นโยบาย–นักวิจัย–ภาคประชาสังคม นั่งโต๊ะเดียวกัน และ Talk Concert ที่ “แปลภาษาเทคนิค” ให้สาธารณะเข้าใจง่าย—ทั้งหมดภายใต้ ธีม Disruptive World ที่สะท้อนความจริงปัจจุบัน ไม่ใช่ภาพอนาคต

ประเด็นเชิงยุทธศาสตร์ที่ต้องจับตา

  1. AI–Data Governance–Telehealth การยกระดับบริการสุขภาพด้วยเทคโนโลยีจะเดินไปได้ไกลแค่ไหน หาก กรอบกำกับดูแล–จริยธรรม ยังไม่ชัด? การประชุมนี้อาจวาง หลักคิดร่วม ของภูมิภาค
  2. Gig Worker Health แพลตฟอร์มเศรษฐกิจเติบโตไว แต่ ความคุ้มครองแรงงาน/อาชีวอนามัย ตามไม่ทัน—นโยบายแบบใด “รับทุกฝ่าย” ได้จริง
  3. Border & Minority Health จาก การเข้าถึงหลักประกันสุขภาพ ของแรงงานข้ามแดน ไปถึง บริการที่คำนึงความหลากหลายทางวัฒนธรรม/ภาษา—เชียงรายอาจเป็น กรณีศึกษาจริง ที่ต่อยอดสู่ โมเดลข้ามพรมแดน
  4. Climate–Environment–NCDs ภูมิอากาศสุดขั้วและมลพิษเชื่อมโยงกับ NCDs/สุขภาพจิต อย่างไร—การออกแบบ นโยบายป้องกันเชิงระบบ คือคำตอบระยะยาว
  5. Resilience by Design ทุกกลุ่มหัวข้อย้ำ “การป้องกัน” และ “ความยืดหยุ่น”—เสียงส่วนใหญ่คาดหวังเอกสาร แนวปฏิบัติ (playbook) ที่องค์กรในประเทศต่าง ๆ นำไปใช้ได้จริง

เสียงสะท้อนจากเครือข่าย (Key Messages)

  • มฟล. เน้นบทบาท “มหาวิทยาลัยของภูมิภาค” ที่ เชื่อมศาสตร์–เชื่อมเมือง–เชื่อมชายแดน และเป็น พื้นที่กลาง ของงานนานาชาติด้านสุขภาพ
  • APACPH ตั้งธง “ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ผ่านหัวข้อ Community & Equity และ Border/Minority Health เพื่อปิดช่องว่างที่การประชุมในเมืองใหญ่ มักมองข้าม
  • เครือข่ายนักวิจัยรุ่นใหม่ (ECN) ได้เวที Pre-Workshop สร้าง ผู้นำสาธารณสุขรุ่นต่อไป—สัญญาณของการลงทุนกับ ทุนมนุษย์ อย่างจริงจัง

สรุปสำหรับผู้วางแผนเข้าร่วม (Actionable Takeaways)

  • รีบปิด Early-bird (ถึง 15 ก.ย. 2568) ประหยัดงบชัดเจน โดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา/หน่วยงานภาครัฐ–สถาบันการศึกษา
  • ส่งบทคัดย่อ (ถึง 15 ต.ค. 2568) และเผื่อเวลาเอกสาร ระยะห่าง แจ้งผล 20 ต.ค. ถึง เริ่มงาน 4 พ.ย. สั้น—เตรียม แผน A–B เรื่องตั๋ว/ที่พัก/วีซ่า
  • วางแนวหัวข้องานวิจัยให้ “เข้าแกน 6 กลุ่ม”  โอกาสได้รับการคัดเลือก/สปอตไลต์สูงขึ้น โดยเฉพาะประเด็น ชายแดน–ความเสมอภาค–แรงงาน Gig–ภูมิอากาศ–AI/Telehealth
  • จองที่พักตามกลยุทธ์การเดินทาง หากต้องการเครือข่าย–ประชุมผู้บริหาร เลือก The Heritage; หากเน้นความสะดวกฝั่งสถานที่ประชุม เลือก Wanawes Inn (ในมฟล.)
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของนักวิจัยรุ่นใหม่ ใช้สิทธิ ECN Pre-Workshop (4 พ.ย. 14:00–17:00 น.) ที่เปิดฟรีแก่สมาชิก ECN/YITA

 

APACPH 2025 @ เชียงราย ไม่ได้เป็นเพียง “โลเคชันใหม่” ของงานประชุมใหญ่ แต่เป็นการ จัดวางคำถามใหม่ ให้สอดคล้องกับ ความจริงใหม่ ของภูมิภาค—ความเปราะบางตามแนวชายแดน แรงงานรูปแบบใหม่ เศรษฐกิจแพลตฟอร์ม ภูมิอากาศสุดขั้ว และคลื่นเทคโนโลยีที่ทั้งสร้างโอกาสและตั้งคำถามเชิงจริยธรรม

ในโลกที่ Disruption กลายเป็นสภาวะปกติ งานนี้จึงมีความหมายมากกว่าเวทีนำเสนอผลงาน—มันคือ พื้นที่กำกับทิศทาง ที่ผู้กำหนดนโยบาย–นักวิจัย–ภาคประชาสังคม จะทดลอง “ประกบ” เทคโนโลยี–หลักฐาน–ความยุติธรรมทางสังคม เข้าด้วยกัน เพื่อสร้าง ระบบสุขภาพที่ยืดหยุ่นและเท่าเทียม กว่าเดิม

เชียงราย—เมืองชายแดนที่ครั้งหนึ่งถูกมองว่าอยู่ไกล—วันนี้กลายเป็น ใจกลางของบทสนทนาเอเชีย–แปซิฟิก ว่าด้วยสุขภาพของผู้คนที่ ไม่ควรถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สมาพันธ์วิชาการสาธารณสุขภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (APACPH)
  • มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง (MFU
  • APACPH 2025
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News