สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยจัดโครงการ “ธนาคารสมาธิ” ที่เชียงราย เสริมสร้างสุขภาพจิตเด็กและเยาวชน

เชียงราย, 22 พฤษภาคม 2568 – ณ หอประชุมโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม ตำบลนางแล อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดโครงการ “ธนาคารสมาธิเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน” รุ่นที่ 5 เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนฝึกสมาธิภาวนา อันเป็นเครื่องมือสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพจิตที่แข็งแรง และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม 2568 โครงการนี้ได้รับความสนใจจากนักเรียนและสามเณรจาก 8 โรงเรียนและวัดพระแก้ว จำนวน 150 คน เข้าร่วมอย่างคึกคัก โดยมีเป้าหมายให้เด็กและเยาวชนพัฒนาความสามารถในการจัดการอารมณ์และสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจผ่านการปฏิบัติสมาธิอย่างต่อเนื่อง

ความท้าทายด้านสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน

ในยุคสมัยที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็ว เด็กและเยาวชนต้องเผชิญกับความกดดันจากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันทางการศึกษา ความคาดหวังจากครอบครัว หรืออิทธิพลจากสื่อสังคมออนไลน์ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน ความกดดันเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต ทำให้เด็กจำนวนมากเผชิญกับความเครียด วิตกกังวล และบางรายถึงขั้นซึมเศร้า ในจังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นศูนย์กลางวัฒนธรรมและการศึกษาของภาคเหนือ ครูและผู้ปกครองเริ่มสังเกตเห็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพจิตในหมู่เด็กและเยาวชนมากขึ้น เช่น การขาดสมาธิในการเรียน อารมณ์แปรปรวน และพฤติกรรมที่หุนหันพลันแล่น

จากสถานการณ์ดังกล่าว สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตตั้งแต่วัยเยาว์ โดยเฉพาะในช่วงที่เด็กกำลังพัฒนาทั้งร่างกายและจิตใจ การฝึกสมาธิ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในพระพุทธศาสนา ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการช่วยเด็กจัดการกับความเครียดและพัฒนาความมั่นคงทางอารมณ์ โครงการ “ธนาคารสมาธิ” จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นแนวทางที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนฝึกสมาธิอย่างเป็นระบบ โดยผสานกิจกรรมที่หลากหลายเพื่อให้การเรียนรู้สนุกสนานและเหมาะสมกับวัย

โครงการธนาคารสมาธิและการรวมพลังชุมชน

เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2568 ณ โรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม ดร.ลักขณา สท้านไตรภพ นายกสมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิญ รักสัตย์ เลขาธิการสมาคมฯ ได้นำคณะผู้บริหารและทีมงานจัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “ธนาคารสมาธิเพื่อพัฒนาสุขภาพจิตของเด็กและเยาวชน” โดยมี นางวนิดาพร ธิวงศ์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมศาสนาศิลปะและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย เป็นประธานในพิธีเปิด นอกจากนี้ ยังมี นางสาวนันทวรรณ กันคำ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย และนายประยูร ชาติชำนาญ ผู้อำนวยการโรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม พร้อมคณะครูและบุคลากร เข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรม

โครงการนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 150 คน ประกอบด้วยนักเรียนจาก 8 โรงเรียนในจังหวัดเชียงราย ได้แก่ โรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม โรงเรียนบ้านนางแล โรงเรียนอนุบาลนางแล โรงเรียนบ้านโป่งพระบาท โรงเรียนห้วยพลูวิทยา โรงเรียนบ้านดู่สหราษฎร์พัฒนาคาร โรงเรียนชุมชนบ้านแม่ข้าวต้มหลวง และโรงเรียนพุทธิวงศ์วิทยา รวมถึงสามเณรจากวัดพระแก้ว การรวมตัวของเด็กและเยาวชนจากหลากหลายโรงเรียนและชุมชนสะท้อนถึงความร่วมมือของทุกภาคส่วนในจังหวัดเชียงรายที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชน

รองศาสตราจารย์ ดร.สุวิญ รักสัตย์ กล่าวว่า “สุขภาพจิตของเด็กและเยาวชนเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาสังคม หากเด็กขาดสุขภาพจิตที่แข็งแรง อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้ พฤติกรรม และการใช้ชีวิตในสังคม การฝึกสมาธิเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิต ช่วยให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์และมีสติในการเผชิญกับความท้าทายต่างๆ” เขายังเน้นย้ำว่า สมาธิในพระพุทธศาสนาไม่เพียงช่วยพัฒนาความประพฤติ แต่ยังเสริมสร้างปัญญาและความรอบรู้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญสำหรับเยาวชนในยุคปัจจุบัน

กิจกรรมในโครงการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 22–23 พฤษภาคม 2568 โดยมีหลากหลายรูปแบบเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กและเยาวชน เช่น การให้ความรู้เกี่ยวกับการฝึกสมาธิในพระพุทธศาสนา การทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 57 รูป การถวายสังฆทาน 9 รูป การปลูกต้นไม้เพื่อสร้างจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม การอาบป่า (Forest Bathing) เพื่อเชื่อมโยงกับธรรมชาติ การจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน และการร้องเพลง “ธนาคารสมาธิ” ที่เด็กๆ ร่วมกันขับร้องอย่างสนุกสนาน

จุดเด่นของโครงการคือการสร้าง “ธนาคารสมาธิ” ซึ่งเป็นแนวคิดที่ให้เด็กและเยาวชนฝึกสมาธิอย่างน้อยวันละ 5 นาที และบันทึกเวลาในการปฏิบัติลงในสมุดฝากธนาคารที่จัดเตรียมไว้ โดยระยะเวลาการสะสมสมาธิจะครอบคลุม 2 เดือน ตั้งแต่ช่วงวันวิสาขบูชาถึงวันอาสาฬหบูชา (พฤษภาคม–กรกฎาคม 2568) แนวคิดนี้ไม่เพียงกระตุ้นให้เด็กมีวินัยในการฝึกสมาธิ แต่ยังทำให้การปฏิบัติเป็นเรื่องสนุกและมีเป้าหมายชัดเจน

ความหวังและผลกระทบต่อชุมชน

โครงการ “ธนาคารสมาธิ” ได้สร้างความตื่นตัวในหมู่เด็กและเยาวชนในจังหวัดเชียงราย โดยเด็กๆ ที่เข้าร่วมแสดงความสนใจในกิจกรรมต่างๆ และเริ่มเข้าใจถึงความสำคัญของการมีสติในชีวิตประจำวัน ครูและผู้ปกครองที่เข้าร่วมสังเกตเห็นว่า เด็กมีพฤติกรรมที่สงบลงและมีสมาธิในการเรียนมากขึ้นหลังจากเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ การที่โครงการผสานกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม เช่น การทำบุญตักบาตรและการถวายสังฆทาน ยังช่วยให้เด็กซึมซับคุณค่าทางศาสนาและวัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของสังคมไทย

การปลูกต้นไม้และการอาบป่าที่จัดขึ้นในโครงการยังส่งเสริมให้เด็กตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในจังหวัดเชียงรายที่อุดมด้วยทรัพยากรธรรมชาติ การที่เด็กได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิดช่วยลดความเครียดและสร้างความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาสุขภาพจิต การจำหน่ายเสื้อผ้ามือสองเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจ เนื่องจากเด็กๆ ได้เรียนรู้แนวคิดเรื่องความยั่งยืนและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า

ในระยะยาว โครงการนี้มีแผนขยายผลไปยังจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศมีโอกาสเข้าถึงเครื่องมือในการดูแลสุขภาพจิต สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยตั้งเป้าที่จะสร้างเครือข่ายโรงเรียนและชุมชนที่ส่งเสริมการฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่อง โดยหวังว่าจะช่วยลดปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชนทั่วประเทศ

ผลลัพธ์และความท้าทาย

โครงการ “ธนาคารสมาธิ” ประสบความสำเร็จในการสร้างความตื่นตัวและการมีส่วนร่วมของเด็ก เยาวชน และชุมชนในจังหวัดเชียงราย ผลลัพธ์ที่สำคัญ ได้แก่:

  1. การมีส่วนร่วมของชุมชน: การที่โรงเรียน 8 แห่งและวัดพระแก้วเข้าร่วมแสดงถึงความร่วมมือของภาคการศึกษาและศาสนาในการส่งเสริมสุขภาพจิต
  2. การพัฒนาทักษะชีวิต: เด็กที่เข้าร่วมมีโอกาสฝึกสมาธิ ซึ่งช่วยพัฒนาการควบคุมอารมณ์ ความมั่นคงทางจิตใจ และสมาธิในการเรียน
  3. การผสานวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม: กิจกรรมที่หลากหลาย เช่น การทำบุญ ปลูกต้นไม้ และอาบป่า ช่วยให้เด็กซึมซับคุณค่าทางวัฒนธรรมและจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม
  4. แนวคิดสร้างสรรค์: การใช้ “ธนาคารสมาธิ” เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้เด็กฝึกสมาธิอย่างมีวินัย โดยทำให้การปฏิบัติเป็นเรื่องสนุกและมีเป้าหมาย

อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังเผชิญกับความท้าทายบางประการ:

  1. ความต่อเนื่องในการปฏิบัติ: การฝึกสมาธิต้องอาศัยวินัยและการสนับสนุนจากครอบครัวและโรงเรียน การรักษาความสม่ำเสมอในระยะยาวอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเด็กบางคน
  2. การเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล: แม้ว่าโครงการนี้จะครอบคลุม 8 โรงเรียน แต่ยังมีชุมชนในพื้นที่ห่างไกลของเชียงรายที่อาจยังไม่ได้รับโอกาสเข้าร่วม
  3. การวัดผลกระทบ: การประเมินผลลัพธ์ด้านสุขภาพจิตในระยะยาวต้องใช้เครื่องมือและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งอาจต้องใช้ทรัพยากรเพิ่มเติม
  4. การปรับให้เหมาะกับวัย: เด็กในแต่ละช่วงวัยอาจต้องการวิธีการฝึกสมาธิที่แตกต่างกัน การออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับทุกกลุ่มวัยเป็นสิ่งที่ต้องพัฒนาต่อไป

เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทยควรวางแผนดังนี้:

  • สร้างเครือข่ายสนับสนุน: ทำงานร่วมกับโรงเรียนและชุมชนเพื่อส่งเสริมให้ครอบครัวและครูมีส่วนร่วมในการสนับสนุนเด็กให้ฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่อง
  • ขยายโครงการสู่พื้นที่ห่างไกล: จัดกิจกรรมในชุมชนชนบทและโรงเรียนขนาดเล็กเพื่อให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
  • พัฒนาระบบติดตามผล: ใช้แบบประเมินสุขภาพจิตที่เหมาะสมกับเด็กเพื่อวัดผลกระทบของการฝึกสมาธิในระยะยาว
  • ปรับกิจกรรมให้หลากหลาย: ออกแบบวิธีการฝึกสมาธิที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละวัย เช่น การใช้เกมหรือสื่อดิจิทัลสำหรับเด็กเล็ก

สถิติและแหล่งอ้างอิง

เพื่อให้เห็นภาพความสำคัญของการดูแลสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชน ข้อมูลต่อไปนี้รวบรวมจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ:

  1. อัตราปัญหาสุขภาพจิตในเด็กและเยาวชน:
    • เด็กและเยาวชนไทยอายุ 6–18 ปี มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิตราว 18–20%
    • แหล่งอ้างอิง: กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข. (2567). รายงานสถานการณ์สุขภาพจิตเด็กและเยาวชนในประเทศไทย.
  2. ผลกระทบของการฝึกสมาธิ:
    • การฝึกสมาธิ 5–10 นาทีต่อวันช่วยลดระดับความเครียดได้ถึง 23% และเพิ่มสมาธิในการเรียนได้ 16%
    • แหล่งอ้างอิง: Mindfulness Research Center, Thailand. (2566). รายงานผลกระทบของการฝึกสมาธิต่อสุขภาพจิตเด็ก.
  3. จำนวนเด็กที่เข้าร่วมโครงการ:
    • โครงการธนาคารสมาธิ รุ่นที่ 1–4 มีผู้เข้าร่วมทั่วประเทศรวมกว่า 5,000 คน
    • แหล่งอ้างอิง: สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์. (2568). รายงานผลการดำเนินงานโครงการธนาคารสมาธิ.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สมาคมสุขภาพจิตแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์
  • สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย
  • โรงเรียนเม็งรายมหาราชวิทยาคม
  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News