
วันที่ 8 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 15.30 น. ได้มีรายงานข่าวสารในสื่อสังคมออนไลน์ กรณี “เหตุมีชายจมน้ำในสถานที่ท่องเที่ยวล่องแพเปียกแม่สรวย” โดยมีเจ้าหน้าที่งานฉุกเฉินโรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ที่อยู่ในพื้นที่ขณะเกิดเหตุสามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยจมน้ำจนมีชีพจร และได้ประสานโรงพยาบาลแม่สรวยเข้ามารับตัวเพื่อไปรักษาต่อ
จากการตรวจสอบข้อมูลกับโรงพยาบาลแม่สรวย สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่สรวย และกำนันตำบลแม่สรวย พบว่าผู้ประสบเหตุเป็นชายอายุประมาณ 45 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย โดยมาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่บ้านสันกลาง หมู่ 2 ตำบลแม่สรวย ซึ่งเป็นบริเวณแหล่งท่องเที่ยวล่องแพเปียกเขื่อนแม่สรวย ขณะเกิดเหตุคาดว่าผู้ประสบเหตุได้ลงเล่นน้ำแล้วเกิดหมดสติจมน้ำ
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายชื่นชมเจ้าหน้าที่ รพ.เวียงป่าเป้า
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้ออกแถลงการณ์ชื่นชมเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเวียงป่าเป้า ที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยจมน้ำจนสามารถกลับมามีสัญญาณชีพ โดยเจ้าหน้าที่ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้ ได้แก่
นายแพทย์วัชรพงษ์ คำหล้า นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย ได้กล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกท่านที่สามารถช่วยชีวิตประชาชนได้อย่างทันท่วงที แสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ในการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉิน นอกจากนี้ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงรายยังขอขอบคุณทุกท่านที่มีส่วนร่วมในภารกิจครั้งนี้ ซึ่งเป็นตัวอย่างของความเสียสละและความเป็นมืออาชีพของบุคลากรสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชนอย่างเต็มกำลัง
มาตรการป้องกันและดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ล่องแพเปียก
หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายอำเภอแม่สรวย ได้สั่งการให้ นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสรวย ดูแลมาตรการรักษาความปลอดภัยทางน้ำในบริเวณที่มีการจัดกิจกรรมล่องแพเปียก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีก โดยเน้นมาตรการสำคัญ ได้แก่
สถานการณ์ความปลอดภัยทางน้ำในเชียงราย
จากข้อมูลของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย พบว่าในปี 2567 มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์จมน้ำในจังหวัดเชียงรายรวม 28 ราย และมีผู้บาดเจ็บจากการจมน้ำกว่า 50 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากการเล่นน้ำในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวโดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันที่เหมาะสม
ความคิดเห็นที่แตกต่างเกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัย
เหตุการณ์ครั้งนี้ได้นำไปสู่การแสดงความคิดเห็นที่แตกต่างออกเป็นสองด้าน ด้านหนึ่งประชาชนและนักท่องเที่ยวเห็นว่าควรมีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวดมากขึ้น เช่น การบังคับให้สวมเสื้อชูชีพตลอดเวลา การมีเจ้าหน้าที่ประจำจุด และการเพิ่มการตรวจสอบมาตรฐานของผู้ประกอบการล่องแพเปียก
ขณะที่อีกฝ่ายมองว่าการเพิ่มมาตรการที่เข้มงวดเกินไป อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น และอาจทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกไม่สะดวกในการมาเยือน ดังนั้นแนวทางที่เหมาะสมควรเป็นการหาจุดสมดุลระหว่างการดูแลความปลอดภัยและการรักษาบรรยากาศของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
ทั้งนี้ คาดว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการหารือเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการที่เหมาะสม เพื่อให้สามารถรองรับการท่องเที่ยวในพื้นที่ได้อย่างปลอดภัย และลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เครดิตภาพและข้อมูลจาก : สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.