ธรรมนัสโมเดล” ถึงเวียงป่าเป้า รมช.เกษตรฯ มอบโฉนดเพื่อการเกษตร–โฉนดต้นไม้ 265 ราย เดินหน้าฟื้นฟูพื้นที่เกษตรเสียหายหลังพายุ “ยางิ” ปักหมุดความมั่นคงที่ดิน–ทุน–ดิน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชาวเชียงราย

เชียงราย, 24 ตุลาคม 2568 — เช้าวันฟ้าหลังฝนที่อำเภอเวียงป่าเป้า บริเวณลานกิจกรรมของสหกรณ์การเกษตรเวียงป่าเป้า จำกัด คลาคล่ำไปด้วยเกษตรกรจากหลายตำบล ผู้คนสวมหมวกผ้าคลุมไหล่ รอคอยเอกสารชิ้นสำคัญในชีวิตการทำกิน เสียงประกาศบนเวทีดังชัด “โฉนดเพื่อการเกษตร และโฉนดต้นไม้ พร้อมมอบแล้ว” และทันทีที่ชื่อนายแรกถูกเรียก เสียงปรบมือก็ลั่นขึ้นเป็นระลอก ความหวังเรื่อง “หลักประกัน” ที่จับต้องได้กำลังงอกงามกลางหุบเขาเชียงราย

พิธีมอบเอกสารสิทธิครั้งนี้นำโดย นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ทำหน้าที่ประธานในพิธี มอบ โฉนดเพื่อการเกษตร 250 ราย และ โฉนดต้นไม้ 15 ราย รวม 265 ราย แก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินของอำเภอเวียงป่าเป้า โดยมี นายประสงค์ หล้าอ่อน รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวต้อนรับ และ นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ เลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) รายงานวัตถุประสงค์และภาพรวมโครงการ

ภาพของซองเอกสารสีขาวเรียงรายบนโต๊ะยาวสะท้อนนโยบายที่รัฐบาลผลักดันต่อเนื่อง ภายใต้การกำกับของ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมุ่งแก้ปมเชิงโครงสร้างเรื่อง “ความมั่นคงในที่ดิน” ของเกษตรกรไทย และเชื่อมต่อสู่ความมั่นคงทางรายได้และคุณภาพชีวิตในระยะยาว

 “โฉนดเพื่อการเกษตร” คือกุญแจไขสู่ทุนและโอกาส

ส.ป.ก. ก่อตั้งตั้งแต่ปี 2518 เพื่อจัดการปัญหาการขาดแคลนที่ดินทำกิน ลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับประสิทธิภาพการใช้ที่ดิน เครื่องมือสำคัญในระยะหลังคือการ ปรับปรุงเอกสารสิทธิ ส.ป.ก. 4-01 ให้เป็น “โฉนดเพื่อการเกษตร” ซึ่งสามารถใช้เป็น หลักประกันทางเศรษฐกิจ เข้าถึงแหล่งทุน สินเชื่อและบริการทางการเงินได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้เกษตรกรวางแผนลงทุนพัฒนาอาชีพได้อย่างมั่นคง

นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ กล่าวบนเวทีว่าวันนี้ไม่ใช่แค่มอบเอกสาร แต่คือการส่งต่อโอกาส “การมอบโฉนดครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อเพิ่มสิทธิ์และโอกาสให้เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินสามารถใช้ที่ดินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เข้าถึงแหล่งทุน และยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างยั่งยืน” คำกล่าวสั้นกระทัดรัด แต่มีน้ำหนักต่อชีวิตหลายครัวเรือน

ด้าน นายเศรษฐเกียรติ กระจ่างวงษ์ อธิบาย “โฉนดเพื่อการเกษตร” ว่าเป็นหัวใจของการปฏิรูปที่ดินยุคใหม่ เพราะเชื่อมโยง “สิทธิในที่ดิน” เข้ากับ “ทุนและตลาด” ทำให้เกษตรกรต่อยอดได้จริง ตั้งแต่การปรับปรุงระบบน้ำ การซื้อเครื่องจักรขนาดเล็ก ไปจนถึงการเปลี่ยนผ่านสู่เกษตรคุณภาพสูงและเกษตรยั่งยืน

ข้อมูลสำคัญระดับจังหวัด สะท้อนความก้าวหน้าในภาพใหญ่ของเชียงราย คือ มีพื้นที่เขตปฏิรูปที่ดินรวมประมาณ 932,061 ไร่ จัดสรรให้เกษตรกรแล้วกว่า 76,000 ราย รวมกว่า 583,000 ไร่ และ ปรับปรุงเอกสารสิทธิเป็นโฉนดเพื่อการเกษตรแล้วกว่า 22,000 ราย รวมกว่า 178,000 ไร่ ส่วนในอำเภอเวียงป่าเป้า มีเกษตรกรได้รับจัดสรรที่ดินกว่า 3,800 ราย รวมกว่า 32,000 ไร่ ตัวเลขเหล่านี้ทำให้วันนี้ไม่ใช่เหตุการณ์โดดเดี่ยว แต่คือจิ๊กซอว์อีกชิ้นในแผนงานระยะยาวของพื้นที่

เมื่อ “ดิน–น้ำ–โครงสร้าง” บาดเจ็บจากภัยพิบัติ

ช่วงบ่าย คณะรัฐมนตรีช่วยฯ เคลื่อนคาราวานไปยัง โรงเรียนดอยเวียงผาพิทยา ตำบลเวียง เพื่อประชุมติดตามการฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพล พายุ “ยางิ” เมื่อเดือนกันยายน 2567 ภาพจำของคนเวียงป่าเป้าคือสายน้ำเชี่ยวและดินโคลนหนาทึบกวาดผ่านทุ่งนาทุ่งข้าวโพด เหลือร่องรอยคล้ายรอยแผลเป็นบนภูมิประเทศ

ดร.สุมิตรา วัฒนา รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน รายงานว่า พายุครั้งนั้นสร้างความเสียหายในพื้นที่ บ้านแม่ปูนล่าง ตำบลเวียง เป็นบริเวณกว้าง รวมกว่า 12,000 ไร่ โดยเฉพาะนาข้าวและข้าวโพดราว 400 ไร่ ที่ถูกตะกอนดินทับถมจนหน้าดินเสียสมดุล การฟื้นฟูจึงต้องใช้ทั้งวิทยาศาสตร์ดินและการมีส่วนร่วมของชุมชน

แผนฟื้นฟูแบบเป็นขั้นตอน ของกรมพัฒนาที่ดินประกอบด้วย

  • สำรวจและออกแบบระบบอนุรักษ์ดินและน้ำแบบมีส่วนร่วมรายแปลง เพื่อให้มาตรการเหมาะกับลักษณะพื้นที่จริง
  • อนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่ป่าแม่ลาวฝั่งซ้าย (ได้รับอนุญาตจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 2 เชียงราย) เน้น จัดระบบขั้นบันไดดิน ฝายชะลอน้ำ และคูเบนน้ำ เพื่อลดความเร็วการไหลบ่าของน้ำและพัดพาตะกอน
  • ปรับปรุงพื้นที่นาที่ถูกตะกอนทับถม 350 ไร่ ด้วยการปรับระดับแปลงนา เติมอินทรียวัตถุ และปรับปรุงโครงสร้างดิน
  • สนับสนุนพืชปุ๋ยสด วัสดุปรับปรุงดิน และปุ๋ยหมัก เพื่อคืนความอุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน
  • ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องหญ้าแฝก ให้เกษตรกรใช้เป็นแนวกันชะล้างพังทลาย ลดความเสี่ยงดินถล่มในฤดูฝนหน้า

การฟื้นฟูเช่นนี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ทันที แต่เป็นการ “รักษาแผลลึก” ให้ดินกลับมาแข็งแรง ซึ่งเมื่อผนวกกับ “โฉนดเพื่อการเกษตร” ที่เพิ่งได้ จะทำให้เกษตรกรมีทั้ง สิทธิในที่ดิน และ ศักยภาพของดิน ไปพร้อมกัน

จากใบตองรองข้าวสู่เอกสารรองชีวิต

บนเก้าอี้แถวหลังเวที ชายชาวนาในวัยห้าสิบปลายก้มลงลูบซองเอกสาร เขาเล่าว่าพายุปีที่แล้วพัดตะกอนเข้าทุ่งข้าวจนเทือกดินเสียรูป ต้องทำนาแบบไม่รู้ผล “แต่พอมีทีมกรมพัฒน์ฯ เข้ามาช่วยวางคันนาใหม่ สอนปลูกหญ้าแฝก แถมวันนี้ได้โฉนดเพื่อการเกษตรอีก ก็คงกล้าคุยกับธนาคารเรื่องน้ำและเครื่องสูบแล้ว” ประโยคสั้นอาจไม่ใช่คำสัมภาษณ์อย่างเป็นทางการ หากคือภาพสะท้อนโครงสร้างโอกาสที่เปลี่ยนไป

เรื่องเล่าทำนองนี้ทำให้พิธีมอบเอกสารสิทธิไม่ใช่เรื่อง “พิธีกรรม” แต่เป็นจุดเริ่มของ เส้นทางทุน–ความรู้–การตลาด ที่เกษตรกรจะก้าวเดินต่อไป

ความมั่นคง 3 มิติ “ที่ดิน–ทุน–ดิน” และผลต่อเศรษฐกิจฐานราก

  1. มิติที่ดิน (Land Security)
    โฉนดเพื่อการเกษตรช่วยรับรองสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ชัดเจน ลดความเสี่ยงข้อพิพาท และเพิ่มความสามารถในการวางแผนระยะยาว เปิดทางสู่การรวมกลุ่มจัดการน้ำ การรับรองมาตรฐาน GAP/ออร์แกนิก และการเชื่อมโยงสหกรณ์
  2. มิติทุน (Financial Inclusion)
    เอกสารสิทธิรูปแบบใหม่นี้ถูกออกแบบให้ใช้เป็นหลักประกัน จึงช่วยให้เข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยเหมาะสม เกิดการลงทุนย่อยจำนวนมาก เช่น ระบบน้ำหยด โรงเรือนเพาะปลูก เครื่องจักรกลขนาดเล็ก ซึ่งสร้าง ผลิตภาพ และ รายได้ต่อไร่ ที่สูงขึ้นกว่าการทำแบบเดิม
  3. มติดิน (Soil Health & Climate Resilience)
    แผนฟื้นฟูหลังพายุยางิที่เน้น “โครงสร้างดิน–ระบบชะลอน้ำ–หญ้าแฝก” ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นต่อสภาพอากาศสุดขั้ว และลดความเสี่ยงซ้ำซากในฤดูฝนหน้า เมื่อดินดี น้ำดี การผลิตก็กลับมาเร็วขึ้น ต้นทุนลดลง และวงจรหนี้ระยะสั้นของเกษตรกรคลายตัว

เชิงเศรษฐกิจระดับท้องถิ่น ผลคูณจากการลงทุนเล็กๆ หลายร้อยแปลงสามารถขับเคลื่อน ห่วงโซ่ธุรกิจชุมชน ตั้งแต่ร้านปุ๋ย–เครื่องมือเกษตร–ช่างซ่อม–ขนส่ง ไปจนถึงตลาดชุมชนและท่องเที่ยวชุมชน ที่เชื่อมกับภาพรวมของจังหวัดที่กำลังผลักดัน “เมืองท่องเที่ยวคุณภาพ” คู่ขนานไปกับ “เมืองเกษตรคุณภาพสูง”

บทบาทสหกรณ์และท้องถิ่นสะพานเชื่อมรัฐสู่ไร่นา

การมอบโฉนดวันนี้เกิดขึ้นที่ สหกรณ์การเกษตรเวียงป่าเป้า ซึ่งทำหน้าที่เป็น “ศูนย์รวม” ของข้อมูล สมาชิก และบริการทางการเงินของเกษตรกรในพื้นที่ สหกรณ์มีบทบาทสำคัญสามด้าน

  • คัดกรอง–ยืนยันข้อมูลแปลง เพื่อความถูกต้องของเอกสารสิทธิ
  • ออกแบบผลิตภัณฑ์ทางการเงินร่วมธนาคารคู่ค้าสหกรณ์ ให้สอดรับฤดูกาลผลิต
  • ทำตลาดร่วม ช่วยรวมผลผลิตและยกระดับคุณภาพเพื่อให้ขายได้ราคาดีขึ้น

องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเวียงป่าเป้ายังเดินหน้าจัดการโครงสร้างพื้นฐานหมู่บ้าน เช่น ถนนคันนา ฝายในลำเหมือง และพื้นที่ปลอดภัยจากอุทกภัย ร่วมกับหน่วยงานกระทรวงเกษตรฯ เพื่อให้ผลของ “เอกสารสิทธิ + การฟื้นฟูดิน” ส่งผลจริงในไร่นา

ตัวเลขสำคัญที่ควรรู้ (เชียงรายและเวียงป่าเป้า)

  • มอบเอกสารสิทธิวันนี้โฉนดเพื่อการเกษตร 250 ราย, โฉนดต้นไม้ 15 ราย รวม 265 ราย
  • เชียงรายทั้งจังหวัด เขตปฏิรูปที่ดินรวม ประมาณ 932,061 ไร่; จัดสรรแล้วกว่า 76,000 ราย รวมกว่า 583,000 ไร่; ปรับเป็น โฉนดเพื่อการเกษตรกว่า 22,000 ราย รวมกว่า 178,000 ไร่
  • เวียงป่าเป้า เกษตรกรได้รับจัดสรรที่ดินกว่า 3,800 ราย รวมกว่า 32,000 ไร่
  • ความเสียหายจากพายุ “ยางิ”  พื้นที่เกษตรเสียหายรวมกว่า 12,000 ไร่; แปลงข้าว–ข้าวโพดเสียหายราว 400 ไร่; โครงการปรับปรุงพื้นที่นาที่ถูกตะกอนทับถม 350 ไร่

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงสถิติ แต่คือ แนวเส้นทาง ของการทำงานเชิงระบบ ตั้งแต่ปฏิรูปที่ดินจนถึงการพัฒนาดิน ช่วยให้ประชาชนเห็นภาพก้าวต่อไปของอำเภอและจังหวัด

มองไปข้างหน้า จาก “เอกสารในมือ” สู่ “รายได้ในกระเป๋า”

การได้โฉนดเพื่อการเกษตรคือจุดเริ่ม ไม่ใช่ปลายทาง เพื่อให้ เงินลงทุน กลายเป็น รายได้ อย่างยั่งยืน หน่วยงานเกี่ยวข้องควรเดินหน้า 5 ประเด็นเร่งด่วน

  1. แพ็กเกจสินเชื่อชลประทานย่อย–ระบบน้ำอัจฉริยะ สำหรับแปลงนาและพืชไร่ที่ผ่านการฟื้นฟู ช่วยลดความเสี่ยงภัยแล้งสั้นและยกระดับคุณภาพผลผลิต
  2. แผนปรับตัวภัยพิบัติชุมชน จัดทำแผนที่เสี่ยงน้ำหลาก–ดินถล่ม ควบคู่ระบบเตือนภัยและประกันภัยพืชผลภาคสมัครใจ
  3. เร่งเครื่องมาตรฐานคุณภาพ เช่น GAP/เกษตรอินทรีย์ เพื่อให้เข้าถึงตลาดที่ราคาดีกว่า และสอดรับดีมานด์ผู้บริโภคยุคใหม่
  4. ส่งเสริมรวมกลุ่มการตลาดผ่านสหกรณ์ เชื่อมอีคอมเมิร์ซท้องถิ่นและตลาดท่องเที่ยวจังหวัด สร้างเรื่องเล่าต้นทาง–ปลายทาง
  5. ติดตามประเมินผลแบบโปร่งใส เผยแพร่ความคืบหน้าฟื้นฟูรายตำบล เปิดข้อมูลให้สาธารณชนติดตามได้

หากทำครบวงจร “ที่ดินมั่นคง–ดินแข็งแรง–ทุนเข้าถึงง่าย–ตลาดรองรับ” จะช่วยยกระดับรายได้ต่อไร่ ลดการโยกย้ายแรงงาน และสร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกรเวียงป่าเป้าผ่านฤดูกาลที่ผันผวน

ทำให้ “โฉนด” มีชีวิต

โฉนดเพื่อการเกษตร และ โฉนดต้นไม้ เป็นเอกสารที่สัมผัสได้ แต่ “ชีวิต” ของมันเริ่มต้นเมื่อถูกนำไปใช้จริง แปลเป็นเครดิตน้ำ แปลเป็นระบบสูบน้ำพลังงานสะอาด แปลเป็นคันนาขั้นบันไดที่ลดการชะล้าง หรือแปลเป็นโรงเรือนที่ต่อยอดรายได้แกนที่สองของครัวเรือน เมื่อบวกกับกระบวนการฟื้นฟูดินอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ภาพใหญ่ที่เห็นคือ ความมั่นคงสามชั้น ของเกษตรกร คือ สิทธิในที่ดิน–การเข้าถึงทุน–ความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งจะหนุนคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน

สุดท้าย พิธีวันนี้ไม่เพียง “มอบกระดาษ” หากคือการส่งมอบความเชื่อมั่น เกษตรกรในเวียงป่าเป้าไม่ได้เดินลำพัง แต่มีรัฐ สหกรณ์ ท้องถิ่น และวิทยาศาสตร์ดินเดินไปด้วยกัน บนถนนสายยาวของการฟื้นฟูหลังพายุและการอยู่ร่วมกับภูมิอากาศที่ผันผวน

 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย
  • กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
  •  สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)
  • กรมพัฒนาที่ดิน
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News