โฮงยาไทย” สู่เมือง พา Premium Clinic ลงห้าง ทางเลือกใหม่เพื่อลดแออัด-ยกระดับประสบการณ์สุขภาพของชาวเชียงราย

เชียงราย, 24 สิงหาคม 2568 — ภาพพื้นที่ “Premium Clinic” หรือที่คนเชียงรายคุ้นปากว่า “โฮงยาไทย” นอกเขตรพ.หลัก—คลินิกแนวคิดใหม่ที่กำลังจะเปิดให้บริการในอนาคตอันใกล้ เป้าหมายชัดเจน ทำให้การพบแพทย์ “ใกล้-ง่าย-เร็วขึ้น” และช่วยกระจายผู้ป่วยนอกจากโรงพยาบาลใหญ่

แม้รายละเอียดบริการและกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการยังไม่ประกาศ แต่โครงร่างภาพใหญ่เริ่มชัด โครงการเตรียมใช้พื้นที่ Unit 234 ชั้น 2 เซ็นทรัลเชียงราย ออกแบบสถาปัตยกรรมเสร็จแล้วและกำลังก้าวสู่ขั้นตอนปรับปรุง ภายใต้สาระสำคัญอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ช่วยลดความหนาแน่นของโรงพยาบาลหลัก และรองรับไลฟ์สไตล์เมืองท่องเที่ยวและชายแดนของเชียงราย ที่การเดินทาง การทำงาน และการจับจ่ายในศูนย์การค้ามักเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน

ทำไม “คลินิกในห้าง” จึงเป็นคำตอบของเมือง?

ถ้า “โรงพยาบาล” คือฐานทัพหลักของระบบสุขภาพ “คลินิกนอกพื้นที่” ก็เปรียบเสมือนป้อมหน้าเมืองเข้าถึงง่าย คล่องตัว และตอบโจทย์บริการที่ไม่ซับซ้อน การดึงบริการบางส่วนไปไว้ในศูนย์การค้า มีข้อดีเชิงระบบอย่างน้อย 4 ประการ

  1. ลดการเดินทาง-เวลาเสียโอกาส
    ผู้ป่วยที่อาการไม่ฉุกเฉินเช่น ติดตามอาการโรคเรื้อรัง รับยา ตรวจสุขภาพประจำปี ฉีดวัคซีนไม่จำเป็นต้องฝ่ารถติดเข้ารพ.หลัก สามารถใช้เวลาว่างก่อน-หลังเลิกงาน หรือระหว่างทำธุระในห้างมารับบริการได้ทันที
  2. กระจายภาระงานบุคลากร
    เมื่อเคสเบาถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลใหญ่ ทีมแพทย์-พยาบาลสามารถโฟกัสกับเคสซับซ้อน ผู้ป่วยฉุกเฉิน หรือการผ่าตัดได้มากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิด “ลดแออัดผู้ป่วยนอก (OPD congestion)” ที่กระทรวงสาธารณสุขผลักดันต่อเนื่อง ทั้งผ่านระบบนัดหมาย/หน้าต่างบริการเฉพาะกิจ และทางเลือกบริการที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
  3. ยกระดับประสบการณ์ผู้รับบริการ (patient experience)
    ศูนย์การค้ามีที่จอดรถ ทางเดินสะดวก ห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหาร โซนครอบครัว รวมถึงโรงแรมรอบข้าง เหมาะอย่างยิ่งกับผู้สูงอายุ ผู้ปกครองที่พาเด็กมาตรวจ หรือญาติที่ต้องรอผู้ป่วย
  4. เชื่อมเทคโนโลยีสุขภาพเข้ากับชีวิตประจำวัน
    การนัดหมายล่วงหน้า การจ่ายยาปลอดสัมผัส การชำระค่าบริการดิจิทัล หรือแม้แต่ Telemedicine สำหรับเคสติดตามผลทั้งหมดนี้ทำได้คล่องขึ้นในบรรยากาศ “บริการในเมือง” ซึ่งประเทศไทยมีบทเรียนการใช้เทเลเมดิซีนเพื่อลดการแออัดและเพิ่มการเข้าถึงมาต่อเนื่องตั้งแต่โควิด-19 และกำลังต่อยอดในระบบบริการปกติ

โฮงยาไทย” ในความทรงจำของเมือง กับบทใหม่ที่กำลังจะเริ่ม

คนเชียงรายเรียกโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ว่า “โฮงยาไทย” มาหลายทศวรรษ สถาบันแห่งนี้เป็นโรงพยาบาลหลักของจังหวัดบทบาท “เสาหลัก” แห่งระบบสุขภาพที่รับส่งต่อจากอำเภอ พรมแดน และนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ความหมายเชิงวัฒนธรรมของชื่อ “โฮงยาไทย” จึงมากกว่าสถานพยาบาล แต่คือความไว้ใจของชุมชนที่ส่งต่อรุ่นสู่รุ่น การขยายบริการสู่ศูนย์การค้า จึงไม่ใช่การ “ออกจากชุมชน” แต่คือการ “เข้าไปใกล้ชุมชน” มากยิ่งขึ้น  

เชื่อมโยงกับนโยบายชาติ “Premium Clinic” ของรัฐ—อีกเครื่องมือหนึ่งเพื่อลดแออัด

ตลอดปี 2567–2568 กระทรวงสาธารณสุขสื่อสารแนวทาง คลินิกพรีเมียม (Premium Clinic)” ในโรงพยาบาลรัฐบางแห่ง—บริการทางเลือกที่เร็วขึ้น มีความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น และมีค่าบริการตามกรอบกฎหมาย โดยยืนยันควบคู่ว่า สิทธิพื้นฐานของประชาชน (เช่น บัตรทอง/ประกันสังคม/ข้าราชการ) ยังคงอยู่ครบถ้วน คลินิกพรีเมียมจึงเป็น “ช่องทางเสริม” ที่ช่วยแก้จุดปวดเรื่องคิวและเวลารอ โดยมีการรายงานความคืบหน้าและติดตามผลในระดับนโยบายอย่างต่อเนื่อง

เมื่อจับภาพรวม การตั้ง Premium Clinic ของ “โฮงยาไทย” ในศูนย์การค้าจึงสอดคล้องกับกรอบเชิงนโยบายของประเทศที่มุ่งให้ระบบบริการ “ยืดหยุ่น-ทันสมัย-เลือกได้” โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

บริการที่คาดหวัง ไม่ฉุกเฉิน แต่สำคัญต่อคุณภาพชีวิต

แม้โรงพยาบาลยัง ไม่ได้ประกาศ รายละเอียดรายการบริการและเวลาเปิด-ปิดอย่างเป็นทางการ แต่จากธรรมชาติของคลินิกนอกเขตรพ.หลักในหลายพื้นที่ และแนวโน้มบริการผู้ป่วยนอกยุคใหม่ บริการที่ “มีแนวโน้ม” เหมาะสมกับรูปแบบ Premium Clinic ได้แก่

  • ตรวจติดตามโรคเรื้อรังที่ควบคุมได้ เช่น ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันผิดปกติ (ผู้ป่วยอาการคงที่/ไม่มีภาวะฉุกเฉิน)
  • คลินิกเวชศาสตร์ครอบครัว/เวชปฏิบัติทั่วไป ตรวจรักษาอาการไม่รุนแรง เจ็บคอ ไอ จาม แพ้อากาศ ผื่น คำปรึกษาพื้นฐาน
  • วัคซีนและส่งเสริมสุขภาพ ตรวจสุขภาพประจำปี คัดกรองความเสี่ยง NCDs ให้คำปรึกษาโภชนาการ/การเลิกบุหรี่
  • บริการนัดติดตาม-รับยา ร่วมกับระบบนัดหมาย/รับยาแบบ Drive-thru หรือส่งยาถึงบ้านในบางกรณี (ขึ้นกับนโยบายของหน่วยบริการในพื้นที่)
  • Telemedicine/Teleconsult (เมื่ออนุญาต) สำหรับการติดตามผลที่ไม่ต้องตรวจร่างกายซับซ้อน

ทั้งหมดนี้เป็น “ตัวอย่างแนวปฏิบัติทั่วไป” ของคลินิกเมืองยุคใหม่ทั่วโลกและสอดคล้องกับบทเรียนไทยด้าน Telemedicine ซึ่งช่วยลดเวลารอ ลดความหนาแน่น และคงคุณภาพการดูแลเมื่อคัดกรองผู้ป่วยอย่างเหมาะสม

ข้อสำคัญ: ผู้ป่วยฉุกเฉิน (เจ็บหน้าอกรุนแรง หอบเหนื่อยเฉียบพลัน อัมพาตเฉียบพลัน อุบัติเหตุเลือดออกมาก ฯลฯ) ต้องไปโรงพยาบาลหลักหรือโทร 1669 ตามมาตรฐานระบบการแพทย์ฉุกเฉิน

มองผ่านเลนส์ “เศรษฐกิจ-สังคม-สุขภาพ” ใครได้ประโยชน์?

ประชาชนทั่วไป
ได้ทางเลือกบริการใกล้ตัว ลดเวลารอ ลดค่าโสหุ้ยจากการเดินทาง ช่วยให้คนทำงาน/ผู้ประกอบการรายย่อย/นักท่องเที่ยวได้รับการดูแลทันเวลา ไม่ปล่อยให้โรคเรื้อรังลุกลาม

โรงพยาบาลจังหวัด (โฮงยาไทย)
สามารถบริหารคิวงานดีขึ้น—แยก เคสเบา-เคสหนัก” อย่างสมเหตุผล เพิ่มความพึงพอใจผู้ป่วย และรักษาคุณภาพการดูแลเคสซับซ้อนได้มากขึ้น

ระบบสุขภาพจังหวัด
เสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายบริการ (PCC/รพ.สต./รพช.) ด้วยจุดรับบริการ “ดาวเทียม” ในเมือง เชื่อมข้อมูลกับรพ.หลักได้เร็วขึ้น สร้าง continuity of care ที่ดี

เศรษฐกิจท้องถิ่นและการท่องเที่ยว
เชียงรายเป็นเมืองท่องเที่ยวและประตูการค้าชายแดน การมีบริการสุขภาพมาตรฐานในโลเคชันที่เข้าถึงง่ายอย่างศูนย์การค้า ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและนักลงทุน (ข้อมูลสถานที่ศูนย์การค้าจากแหล่งสาธารณะ)

ความคืบหน้า-สิ่งที่ต้องติดตาม

  • ขั้นตอนก่อสร้าง/ตกแต่งภายใน: การออกแบบสถาปัตยกรรมเสร็จแล้ว กำลังเข้าสู่การปรับปรุงพื้นที่
  • กรอบบริการ/เวลาทำการ/ตารางแพทย์: รอประกาศอย่างเป็นทางการจากโรงพยาบาล
  • อัตราค่าบริการ/การใช้สิทธิ: หากอยู่ในกรอบ “คลินิกพรีเมียม” จะเป็น บริการทางเลือก ที่มีค่าธรรมเนียมชัดเจน แต่สิทธิพื้นฐานเดิมยังคงอยู่ (ตามกรอบนโยบายระดับประเทศ)
  • การเชื่อมระบบดิจิทัล: นัดหมายออนไลน์ ชำระเงินดิจิทัล Telemedicine/รับยาต่อเนื่อง—แนวทางที่ไทยมีบทเรียนและงานวิจัยสนับสนุนแล้ว

เสียงสะท้อนจาก “แนวโน้มประเทศ” ลดแออัดให้ได้ผล ต้อง “หลายเครื่องมือพร้อมกัน”

การลดความแออัดผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาลรัฐ ไม่ใช่โจทย์ที่แก้ด้วยมาตรการเดียว ศูนย์กลางนโยบายไทยระบุแนวทางผสมผสาน ตั้งแต่ บริหารคิว/นัดหมายล่วงหน้า/ขยายชั่วโมงบริการบางคลินิก/ใช้แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัวเป็นด่านหน้า/เชื่อม Telemedicine/และกระจายบริการสู่จุดใกล้บ้านใกล้เมือง ซึ่งสะท้อนอยู่ในทั้งเอกสารวิชาการและการสื่อสารเชิงนโยบายของภาครัฐ

การตั้ง Premium Clinic ในห้าง ของ “โฮงยาไทย” จึงควรอ่านควบคู่ไปกับมาตรการอื่น ๆ ไม่ใช่ตัวแทนของการ “แปรรูปบริการ” หากแต่เป็น ทางเลือกเสริม” ที่เติมช่องว่างประสบการณ์ผู้รับบริการ—โดยที่สิทธิพื้นฐานยังอยู่ครบถ้วนตามกฎหมายและนโยบาย

ความคาดหวังที่สมเหตุผลคืออะไร?

  1. ความโปร่งใสเรื่องค่าบริการและการใช้สิทธิ
    การสื่อสารชัดว่าบริการใดอยู่ในแพ็กเกจพรีเมียม/ค่าใช้จ่ายประมาณการเท่าไร/ประชาชนที่ใช้สิทธิบัตรทองหรือสิทธิอื่น ๆ มีทางเลือกอะไร—คือหัวใจของการยอมรับ
  2. มาตรฐานวิชาชีพและความต่อเนื่องของข้อมูล
    ระบบเวชระเบียนเดียวกัน/การส่งต่อระหว่างคลินิกกับรพ.หลักแบบไร้รอยต่อ/มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย—ยิ่งแน่น ยิ่งสร้างความเชื่อมั่น
  3. สมดุลระหว่าง “ความสะดวก” กับ “ความเป็นธรรม”
    คลินิกพรีเมียมเพิ่มทางเลือกความสะดวก แต่ต้องไม่ดึงทรัพยากรสำคัญออกจากการดูแลตามสิทธิพื้นฐาน—การจัดสรรกำลังคนและตารางแพทย์จึงต้องวางแผนอย่างรอบคอบ
  4. การประเมินผลอย่างเป็นระบบ
    วัดจริงว่าคิวรพ.หลักลดลงแค่ไหน เวลาเฉลี่ยผู้ป่วยนอกดีขึ้นเท่าไร ความพึงพอใจ-ความปลอดภัย-ผลลัพธ์สุขภาพของผู้ป่วยเป็นอย่างไร และรายได้-ค่าใช้จ่ายหน่วยบริการสมดุลหรือไม่

ก้าวเล็กในแปลนก่อสร้าง แต่คือก้าวใหญ่ของการดูแลสุขภาพแบบใหม่

จาก “โฮงยาไทย” ในความทรงจำของชาวเชียงราย สู่ Premium Clinic ในศูนย์การค้าใจกลางเมือง—นี่คือตัวอย่างการพลิกมุมมองว่า “การแพทย์ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในโรงพยาบาล” และ “ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องเสียทั้งวันเพื่อพบแพทย์ 10 นาที” หากออกแบบประสบการณ์ที่ดี เชื่อมโยงเทคโนโลยีและระบบคิวให้ฉลาด การดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพสามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่ที่ผู้คนใช้ชีวิตจริง

ในระยะสั้น โครงการนี้จะเป็น จุดทดสอบ” ว่าเชียงรายสามารถกระจายบริการ ลดแออัด และยกระดับความพึงพอใจของประชาชนได้จริงเพียงใด ในระยะยาว หากโมเดลนี้เดินได้ด้วยความโปร่งใส ยึดมาตรฐานวิชาชีพ และเคารพสิทธิพื้นฐาน—เชียงรายอาจกลายเป็นต้นแบบของ คลินิกเมือง” ที่เมืองอื่น ๆ น่าศึกษาและต่อยอด

สิ่งที่ทุกฝ่ายรอคือ ประกาศอย่างเป็นทางการ เรื่องรายการบริการ เวลาเปิด-ปิด และเงื่อนไขการใช้สิทธิ/ค่าบริการ เมื่อถึงวันนั้น “คลินิกในห้าง” แห่งนี้อาจไม่ใช่เพียงโครงการสวย ๆ ในแปลน แต่จะกลายเป็น ประตูบานใหม่ของระบบสุขภาพ ที่เปิดออกสู่ผู้คนทุกวัน—ใกล้ขึ้น สะดวกขึ้น และเป็นมิตรกับชีวิตมากขึ้น

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • เว็บไซต์ทางการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์: ข้อมูลสถาบัน/บทบาทโรงพยาบาลจังหวัด 
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (สลน.)/สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี 
  • HITAP – Health Intervention and Technology Assessment Program 
  • องค์การอนามัยโลก (WHO) 
  • Hfocus.org 
  • ท้องถิ่นนิวส์
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News