ครอบครัวผู้เสียชีวิตเหตุเสาซิปไลน์ล้มที่ดอยช้าง วอนขอความรับผิดชอบจากเจ้าของกิจการ

ผ่านไป 24 วัน ครอบครัวยังเฝ้ารอความยุติธรรม

เชียงราย, 12 มีนาคม 2568 – นายวิเชียร พวกอินแสง ครอบครัวของนายวัชระ ผู้เสียชีวิตจากเหตุ เสาซิปไลน์ล้มที่ดอยช้าง ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ออกมาโพสต์เรียกร้องให้เจ้าของกิจการออกมารับผิดชอบต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต โดยระบุว่า “ผ่านมา 24 วันแล้วที่ลูกชายผมจากไป… ผมยังคงเฝ้ารอความยุติธรรม (คนตายพูดไม่ได้)

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นขณะทีมช่างกำลังทำการทดสอบระบบสลิงของซิปไลน์ ก่อนที่เสาจะล้มลง เป็นเหตุให้ นายวัชระ อายุ 34 ปี เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย ซึ่งต่อมา ทางครอบครัวได้จัดพิธีฌาปณกิจศพ ณ สุสานบ้านปางไฮ หมู่ที่ 7 ตำบลเทพเสด็จ อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนร่วมกลุ่มเอ็นดูโร่ที่เดินทางมาร่วมไว้อาลัย

ครอบครัวของผู้เสียชีวิตเปิดใจ – ยังคงรอความช่วยเหลือ

นางสาวอรทัย อายุ 36 ปี ภรรยาของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีของเธอเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานรับจ้างเพื่อหาเลี้ยงพ่อแม่ ลูกสาววัย 11 ปี และลูกชายวัย 7 ปี ก่อนเกิดเหตุ นายวัชระได้รับว่าจ้างให้ไปแก้ไขระบบสลิงของซิปไลน์ที่ดอยช้าง เนื่องจากพบปัญหาว่า นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการโหนสลิงไปไม่ถึงปลายทาง จึงต้องเข้าปรับปรุงและทดสอบระบบใหม่ แต่กลับเกิดอุบัติเหตุจนทำให้เขาต้องเสียชีวิต

“ทุกวันนี้ ลูกๆ ยังคงร้องไห้ถามหาพ่อ โดยเฉพาะคนเล็ก เวลาคิดถึงพ่อก็มักจะมาถามว่า พ่อไปไหน ลูกสาวคนโตก็พยายามทำใจและพูดกับแม่ว่า เราทำพิธีเผาศพพ่อไปแล้ว พ่อไม่ได้อยู่กับเราแล้ว แต่ฉันก็บอกกับลูกว่า พ่อยังอยู่กับเราเสมอ เพียงแค่เรามองไม่เห็นเท่านั้น” ภรรยาของผู้เสียชีวิตกล่าวด้วยความเศร้า

เจ้าของกิจการยังไม่แสดงความรับผิดชอบ ครอบครัวหวั่นถูกลืม

ภรรยาของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่มีเจ้าของกิจการออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือให้ความช่วยเหลือในด้านค่าใช้จ่ายต่างๆ เลย ไม่ว่าจะเป็นค่าจัดงานศพหรือเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูครอบครัว โดยระบุว่า “เราไม่ได้ต้องการอะไรมากมาย แค่ขอให้ช่วยดูแลค่าใช้จ่ายในงานศพและเงินเลี้ยงดูลูกๆ เพียงเล็กน้อย แต่จนถึงตอนนี้ ยังไม่มีใครเข้ามาพูดคุยเรื่องนี้เลย

ล่าสุด พบว่า กิจการซิปไลน์ดังกล่าวถูกสั่งปิดชั่วคราว และไม่มีผู้ดูแลออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าของ อย่างไรก็ตาม มีการรื้อถอนเสาซิปไลน์ต้นที่ล้มออกไปหลังเกิดเหตุไม่นาน โดยจากการตรวจสอบพบว่า โครงสร้างของฐานเสา รวมถึงน็อตและท่อปูนที่ใช้ยึดสลิง มีขนาดเล็กและดูไม่มั่นคงพอที่จะรองรับน้ำหนัก หากมีนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก ซึ่งสร้างข้อกังวลว่า ระบบซิปไลน์ของที่นี่อาจไม่ได้มาตรฐานเพียงพอ

ข้อเรียกร้องของครอบครัวและแนวทางการดำเนินคดี

ขณะนี้ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้แจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าของกิจการซิปไลน์ดังกล่าว เพื่อให้มีการสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของกิจการประเภทนี้ โดย สำนักงานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดเชียงราย ได้เข้ามาตรวจสอบพื้นที่ และอยู่ระหว่างพิจารณาว่า โครงสร้างของซิปไลน์ดังกล่าวมีการก่อสร้างตามหลักวิศวกรรมหรือไม่

ด้านภาคประชาสังคมและนักสิทธิมนุษยชนบางส่วนมองว่า กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาความปลอดภัยในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยของไทย และเสนอให้ภาครัฐกำหนดมาตรฐานด้านความปลอดภัยที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับความสูงและอุปกรณ์สลิง

สถิติที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุซิปไลน์

  • ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุแห่งชาติ (2567) รายงานว่า อุบัติเหตุจากกิจกรรมซิปไลน์ในประเทศไทย มีจำนวน 15 กรณีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง 80% ของอุบัติเหตุเกิดจากปัญหาด้านโครงสร้างและความปลอดภัยของอุปกรณ์
  • กรมการท่องเที่ยว (2567) เปิดเผยว่า มีซิปไลน์ในประเทศไทยที่เปิดให้บริการกว่า 60 แห่ง แต่พบว่าประมาณ 30% ยังไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้อง
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย รายงานว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จังหวัดเชียงรายมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากกิจกรรมการท่องเที่ยวแนวผจญภัย เฉลี่ยปีละ 5-7 ราย โดยสาเหตุหลักเกิดจาก ระบบอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานและการขาดการบำรุงรักษา

สรุป

เหตุการณ์ เสาซิปไลน์ล้มที่ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยในประเทศไทย แม้ว่ากิจการจะถูกสั่งปิดชั่วคราว แต่ยังไม่มีเจ้าของกิจการออกมาแสดงความรับผิดชอบหรือช่วยเหลือครอบครัวของผู้เสียชีวิต

ครอบครัวของนายวัชระยังคงรอคอยความยุติธรรมและการชดเชยที่เหมาะสมจากเจ้าของกิจการ ขณะที่ภาครัฐอยู่ระหว่างการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่เกิดเหตุ หากพบว่ามีการละเลยมาตรการด้านวิศวกรรม อาจมีการดำเนินคดีตามกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นอีกในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ศูนย์ข้อมูลอุบัติเหตุแห่งชาติ (2567) / กรมการท่องเที่ยว (2567) / สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News