“CP Axtra เร่งเครื่อง Happy Mall” เปิดเกมเชียงราย โมเดลใหม่พลิกโฉมค้าปลีก—จากห้างสู่ศูนย์รวมชีวิตชุมชน

เชียงราย, 13 พฤศจิกายน 2568 – วงการค้าปลีกไทยกำลังอยู่ในห้วงเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ เมื่อ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ขยับจากเกม “ขายของ” ไปสู่เกม “ขายประสบการณ์” ด้วยการพลิกโฉม Lotus’s สู่แนวคิด “Happy Mall”—จุดหมายปลายทางด้านไลฟ์สไตล์และชุมชน (Lifestyle Hub / SMART Community Center) ที่ตั้งใจทำให้ศูนย์การค้าเป็นมากกว่าสถานที่ซื้อสินค้า แต่เป็น “พื้นที่แห่งความสุขของชุมชน” ในทุกวัน

หัวหอกเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเหนือคือ โครงการ Lotus’s Lifestyle Mall เชียงราย บนที่ตั้ง ตลาดนำสวัสดิ์เดิม ใกล้สี่แยกศรีทรายมูล ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ อำเภอเมือง—ทำเลที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า “เหมาะสมต่อการเป็นศูนย์กลางกิจกรรมของเมือง” ทั้งในมิติการจับจ่าย พักผ่อน สุขภาพ และความบันเทิง

สารตั้งต้นโมเดล 4 เสาหลักแห่งความสุข—Complete Offering (ครบจบในที่เดียว),Food Destination (ศูนย์รวมอาหาร),Lifestyle Destination (แฟชั่น ฟิตเนส บันเทิง/โรงภาพยนตร์), และSpace Utilization (บริหารพื้นที่เพื่อกิจกรรมชุมชน/สุขภาพ/สิ่งแวดล้อม) Happy Mall จาก “Transaction” สู่ “Experience”

การเร่งเครื่อง Happy Mall ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้หรือรีแบรนด์จาก Tesco Lotus เป็น Lotus’s หากแต่เป็นการย้ายจุดศูนย์ถ่วงของธุรกิจจาก Transaction ไปสู่ Experience—สอดรับความจริงใหม่ของผู้บริโภคที่ “ไปห้างเพื่อใช้เวลา” มากกว่า “ไปห้างเพื่อซื้อของอย่างเดียว”

ในระดับองค์กร CPAXT วางแผน เปิดสาขาใหม่ + ปรับปรุง 31 ศูนย์ ขยายคอนเซ็ปต์ Happy Mall ทั่วประเทศ โดยใช้ โมเดล Hybrid Wholesale ผสานจุดแข็งของ Makro (ค้าส่ง B2B/ซัพพลายเชน/ต้นทุน) เข้ากับ Mall Management ของ Lotus’s เพื่อสร้างรายได้จากค่าเช่าคุณภาพ (คลินิก, ฟิตเนส, ร้านอาหารแบรนด์ดัง, ไลฟ์สไตล์) ควบคู่รายได้ค้าปลีกอาหารที่มั่นคง

โครงสร้างการลงทุนถูกยกระดับด้วยบริษัทโฮลดิ้ง “AGP – Extra Growth Plus” เพื่อเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน รองรับดีลพันธมิตรและการหมุนทรัพย์สินเชิงกลยุทธ์ของศูนย์การค้าในเครือ

เชียงราย เมืองรองศักยภาพสูง—ดีไซน์เป็น Lifestyle Hub ของจริง

Lotus’s Lifestyle Mall เชียงราย ถูกออกแบบบนที่ดิน เกือบ 18 ไร่, อาคาร 2 ชั้น, วาง “แม่เหล็ก” ดึงทราฟฟิกด้วย ตลาดโลตัส และ โรงภาพยนตร์ (คาด 5+ โรง) เพื่อสร้าง “วงจรการใช้เวลา” ตลอดวัน—เช้าเพื่อธุระครัวเรือนและสุขภาพ, กลางวัน/ค่ำเพื่ออาหารและความบันเทิง

ไทม์ไลน์สำคัญ

  • รื้อถอนอาคารเดิม ก.ย.–ต.ค. 2568
  • เริ่มก่อสร้าง พ.ย. 2568
  • ระยะก่อสร้าง 11–12 เดือน
  • คาดเปิดบริการ ปี 2569

แม้ไทม์ไลน์จะกระชั้น แต่การวางองค์ประกอบ Complete Offering (เพิ่มคลินิก/ร้านยา/ฟิตเนส/บริการชุมชน) และ Food & Lifestyle Destination (ศูนย์รวมอาหาร + โรงหนัง) จะขยายฐานลูกค้าทุกวัย โดยเฉพาะครอบครัวและคนทำงานเมืองเชียงรายที่มองหาพื้นที่ใช้เวลากับคนรักมากขึ้น

แตะจุดอ่อนไหวชุมชน—เปลี่ยน “ตลาดนำสวัสดิ์” เป็น “พื้นที่ความทรงจำใหม่”

การทดแทนแลนด์มาร์กอย่าง “ตลาดนำสวัสดิ์” ย่อมมากับความรู้สึกทับซ้อนในชุมชน ระหว่าง “อาลัยอดีต” กับ “ยินดีต่ออนาคต” นักวิเคราะห์ชี้ว่า กุญแจความสำเร็จของ Happy Mall เชียงราย จึงไม่ใช่เพียงคุณภาพร้านค้า แต่คือ วิธีใช้พื้นที่เพื่อสังคม” ตามเสาหลัก Space Utilization—เช่น

  • Happy Community Event แอโรบิก/ตรวจสุขภาพฟรี/ตลาดชุมชนผู้ประกอบการรายย่อย
  • Recycling Market (AXTRA Green Together) ยกระดับพฤติกรรมรักษ์โลก
  • Co-creation Space เวทีเล็กให้โรงเรียน/มหาวิทยาลัย/ชุมชน นำกิจกรรมมา “เล่าเรื่องเชียงราย” ด้วยตัวเอง

แนวทางเช่นนี้ทำให้ มอลล์ = โครงสร้างพื้นฐานทางสังคม (Social Infrastructure) มากกว่าจะเป็น “อาคารเชิงพาณิชย์”—ยิ่งคอนเซ็ปต์นี้บรรลุเป้าหมายความเป็น “ของทุกคน” ได้มากเท่าไร โอกาสสำเร็จของโครงการก็ยิ่งสูงเท่านั้น

เครื่องยนต์คู่ยังแรง ผลประกอบการ–ออนไลน์โต–ขยาย 100 สาขา

ตัวเลข 9 เดือนปี 2568 ของ CPAXT สะท้อนความแข็งแรงของเครื่องยนต์คู่—ค้าส่งและค้าปลีก

  • รายได้รวม 386,050 ล้านบาท
  • กำไรสุทธิ 6,794 ล้านบาท
  • ขยายสาขา 100 แห่ง ทั่วประเทศ
  • ยอดขายออนไลน์ โต 31% YoY (ผนึก B2B + แพลตฟอร์มออนไลน์)
    พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Private Label เพื่อเพิ่มมาร์จิ้นและความแตกต่างเชิงสินค้า

ในระดับภูมิภาค บริษัทประกาศร่วมมือพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ (เช่น Ayala ในฟิลิปปินส์) และเข้าซื้อกิจการด้าน Food Service (เช่น Lucky Frozen ภายใต้ Renewed Hope Pte. Ltd.) เพื่อขยายพอร์ตและเสริมความแข็งแกร่งซัพพลายเชนอาหารระดับอาเซียน สอดคล้องภาพการเป็น Regional Retail & Foodservice Leader

ด้านความยั่งยืน บริษัทได้รับการประเมิน MSCI ESG Rating 2025 ระดับ “A” (จาก “BBB” ปีก่อน) สะท้อนความก้าวหน้า ESG และช่วยดึงดูดกลุ่มนักลงทุนสถาบันในมิติระยะยาว

ทำไม “Happy Mall Model” จึงตอบโจทย์ยุคอีคอมเมิร์ซ?

คำตอบสั้นที่สุดคือ—ประสบการณ์นอกบ้าน (Out-of-Home Experiences) แทนที่ออนไลน์ได้ยาก

  • Food Destination การพบปะ/รับประทานอาหารร่วมกัน
  • Lifestyle Destination โรงภาพยนตร์/ฟิตเนส/กิจกรรมเด็กและครอบครัว
  • Complete Offering คลินิก/ร้านยา/ธุรกรรม—บริการสัมผัสจริง
  • Space Utilization งานชุมชน/ตลาดคนตัวเล็ก/กิจกรรมสุขภาพ—สร้าง “ความรู้สึกเป็นเจ้าของ”

ทั้งหมดนี้คือ เกราะกันความโภคภัณฑ์” (Commoditization Defense) ของศูนย์การค้า ที่ทำให้ลูกค้ากลับมาบ่อยด้วยเหตุผลมากกว่าราคา—คือ ความสุข ความสะดวก และความสัมพันธ์กับชุมชน

ภาพใหญ่ปี 2569 17 โครงการ—เพิ่มพื้นที่เช่า >100,000 ตร.ม.—เป้าหมายทราฟฟิก 5,000 ล้านครั้ง/ปี

โรดแมปที่ประกาศ เริ่มทรานส์ฟอร์มตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้ ยาวไปทั้งปี 2569 ด้วย ปรับโฉมเดิม 7 แห่ง + โครงการใหม่ 10 แห่ง ในเมืองหลักและเมืองรอง (กทม., ชลบุรี, เชียงใหม่, เชียงราย, หาดใหญ่, ภูเก็ต, นครสวรรค์, ขอนแก่น, เพชรบุรี ฯลฯ) เพื่อสร้างเครือข่าย “Happy Mall ใกล้บ้าน” ให้คนใช้ชีวิตจริงในทุกวัน

ตัวเลขเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ทราฟฟิก 5,000 ล้านครั้ง/ปี ชี้ถึงความทะเยอทะยานของเครือข่ายมอลล์ที่ต้องการเป็น จุดหมายประจำย่าน” มากกว่า “สถานที่ช้อปปิ้งเป็นครั้งคราว” และการเพิ่มพื้นที่เช่ารวม กว่า 100,000 ตร.ม. จะเป็นฐานรายได้ค่าเช่าให้ Mall Business เด่นชัดขึ้น ขณะที่ซัพพลายเชนอาหารจาก Makro คงความได้เปรียบด้านราคา/คุณภาพสำหรับโซนไฮเปอร์มาร์เก็ต

มุมมองความเสี่ยงและเงื่อนไขความสำเร็จ

  1. ไทม์ไลน์ก่อสร้าง 11–12 เดือนสำหรับโครงการ 18 ไร่ ถือว่า “ท้าทาย” ต้องบริหารสัญญา/ซัพพลาย/แรงงานอย่างรัดกุม เพื่อลดความเสี่ยงเปิดล่าช้า
  2. Tenant Mix & Localization ต้องบาลานซ์แบรนด์ระดับประเทศกับผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ “สะท้อนรสนิยมเชียงราย” ไม่ให้เป็นมอลล์ไร้ตัวตน
  3. Community Acceptance การแทนที่ตลาดนำสวัสดิ์จำเป็นต้องมี “แผนสื่อสารชุมชน” ตั้งแต่ต้นทาง—ออกแบบพื้นที่กิจกรรมฟรี/ตลาดชุมชน/ทุนเล็กให้ผู้ค้าเดิมเปลี่ยนผ่าน
  4. ESG & Social Impact ชี้วัดผลลัพธ์สังคมเป็นตัวเลขได้ (จำนวนกิจกรรมสุขภาพ/รายได้ตลาดชุมชน/ปริมาณขยะรีไซเคิล) เพื่อสร้าง “ความ正当” ทางสังคมและรายงานต่อผู้มีส่วนได้เสีย

เชียงรายในภาพโครงสร้าง ทำไมที่นี่? ทำไมตอนนี้?

เชียงรายกำลังอยู่ในลูปอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐาน—ทั้ง ขยายสนามบินแม่ฟ้าหลวง (ตั้งเป้าความจุ 6–8 ล้านคน/ปี), รถไฟทางคู่เด่นชัย–เชียงราย–เชียงของ และนโยบายดันเมืองรองด้านท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ สร้าง “แรงหนุน” การบริโภค การเดินทาง การลงทุน

Happy Mall เชียงราย จึงไม่ใช่แค่โครงการค้าปลีก แต่เป็น แพลตฟอร์มเศรษฐกิจเมือง ที่ช่วยกระจายรายได้ สร้างงาน และยกระดับคุณภาพชีวิต หากทำสำเร็จจะเป็น “ต้นแบบเมืองรอง” ที่โคลนได้ทั่วประเทศ

“แม้สภาวะเศรษฐกิจท้าทาย เราเดินเกมยืดหยุ่น—ผสานข้อมูล/AI/ออมนิแชนเนล ขยายสาขาและปรับพื้นที่เช่าในทำเลศักยภาพ เพื่อให้ ‘Happy Mall’ เป็นพื้นที่ความสุขของชุมชน และสร้างโอกาสเติบโตต่อเนื่องในไตรมาสถัดไป”

การทรานส์ฟอร์ม Lotus’s → Happy Mall คือการย้ายอัตลักษณ์จาก “ร้านค้าขนาดใหญ่” เป็น “พื้นที่สาธารณะเชิงพาณิชย์ของชุมชน” ที่คนมาใช้ชีวิตจริง จุดต่างของผู้ชนะในยุคนี้ไม่ใช่ “ใครสินค้าถูกกว่า” แต่คือ “ใครทำให้ผู้คนอยากกลับมาบ่อยกว่า”—ด้วยอาหารที่หลากหลาย ประสบการณ์บันเทิงที่แทนออนไลน์ไม่ได้ บริการสุขภาพจำเป็น และพื้นที่ให้คนท้องถิ่นได้ “เล่าเรื่องของตัวเอง”

เชียงราย จึงกลายเป็น สนามพิสูจน์ ว่า โมเดล “Happy Mall” สามารถทำให้ห้าง “กลายเป็นบ้านหลังที่สองของเมือง” ได้จริงเพียงใด และจะถูกคัดลอกไปยังเมืองรองอื่นอย่างมีความหมายอย่างไรในปี 2569 เป็นต้นไป

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • CP Axtra (CPAXT)
  • Lotus’s Lifestyle Mall เชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News