
เชียงราย, 6 กันยายน 2568 – เชียงรายกำลังเปลี่ยนผ่านจากกรีนซีซันสู่ไฮซีซันอย่างเต็มรูปแบบ ททท.สำนักงานเชียงรายประเมินว่าตลาดยัง “เป็นบวกและมีแรงส่ง” จากทั้งปัจจัยอากาศ ชุดกิจกรรมเชิงวัฒนธรรม และภาพลักษณ์เมืองปลอดภัยสำหรับนักเดินทาง โดยเฉพาะผู้หญิงและดิจิทัลโนแมด ขณะเดียวกัน เมืองเดินเกมเชิงรุกด้วย “สินค้าท่องเที่ยว” ที่แตกต่าง ได้แก่ ชา–กาแฟ งานศิลปะร่วมสมัย และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness) ซึ่งเปลี่ยนบทบาทเชียงรายจาก “เมืองผ่าน” เป็น “เมืองปลายทาง” สำหรับนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง
จากกรีนซีซันสู่ไฮซีซันตัวเลขบวกและจังหวะเร่งเครื่อง
นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานเชียงราย อธิบายว่า ช่วง 2–3 เดือนที่ผ่านมา อัตราเข้าพักเฉลี่ยอยู่ราว 55% สอดคล้องฤดูกาลฝน และเมื่อมองตั้งแต่ต้นปีถึงสิงหาคม ตัวเลขการท่องเที่ยว เติบโตประมาณ 5% แม้ไม่หวือหวา แต่ “เป็นบวกและน่าพอใจ” โดยมีปัจจัยหนุนจากสภาพอากาศช่วงต้นปีที่เป็นใจ และ ไม่มีน้ำท่วมใหญ่ เช่นบางปีที่ผ่านมา
“หากช่วงสี่เดือนสุดท้ายไม่มีเหตุฉุกเฉิน โดยเฉพาะน้ำท่วม และเมื่อเข้าสู่ปลายฝนต้นหนาว เราคาดว่า ตัวเลขจะดีขึ้นต่อเนื่อง” นายวิสูตรระบุ พร้อมย้ำว่าไฮซีซันซึ่งเริ่มกลางตุลาคมเป็นหัวใจสำคัญในการเร่งจังหวะการฟื้นตัวของทั้งที่พัก ร้านอาหาร และผู้ประกอบการนำเที่ยว
Soft Power เชียงราย ชา–กาแฟ ศิลปะ และ Wellness
แม้ภาคเหนือจะมีทรัพยากรธรรมชาติใกล้เคียงกัน แต่เชียงราย “สร้างความต่าง” ผ่านสามแกนหลัก
แกน Soft Power ดังกล่าวถูกออกแบบให้ “ทำงานร่วมกัน” ทั้งในเชิงเส้นทาง ทริป 2–3 วัน และคอนเทนต์สื่อสารเชิงเรื่องเล่าที่ชัดเจน
ความปลอดภัยคือใบเบิกทาง เมืองที่ผู้หญิงมั่นใจ
ความมั่นใจเรื่อง ความปลอดภัย คือปัจจัยตัดสินใจสำคัญ นายวิสูตรชี้ว่าเชียงรายเพิ่งถูกจัดอันดับให้เป็น เมืองปลอดภัยอันดับ 2 ของโลกสำหรับนักท่องเที่ยวผู้หญิง รองจากไทเป สะท้อนมาตรการดูแลทั้งเชิงป้องกันและการให้ความช่วยเหลือจริงจังในพื้นที่ ทั้งการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวและศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว
“ปีที่ผ่านมา เชียงรายมีนักท่องเที่ยวกว่า 6.1 ล้านคน แต่ แทบไม่มีเหตุรุนแรง ที่กระทบชีวิตและทรัพย์สิน แม้เรามีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและเส้นทางภูเขาจำนวนมาก” ผู้บริหารททท.กล่าว นัยสำคัญคือ รีวิวเชิงบวกและการบอกต่อ ซึ่งสร้างผลทวีคูณต่อการกลับมาเยือนซ้ำ
แผนพร้อมรับไฮซีซัน ทั้งพื้นที่ เอกชน และการเดินทาง
เพื่อรองรับช่วงพีกซีซัน จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ “เข้าจังหวะ” เตรียมพร้อมในสามชั้น
สื่อสารเชิงรุก คอนเทนต์จริง พาเห็นหน้างาน
ในกรีนซีซันที่ผ่านมา ททท.สำนักงานเชียงรายพาสื่อมวลชนลงพื้นที่ “ตอนบน” และเชื่อมโยงกับ ประเพณีโล้ชิงช้า เพื่อสร้างคอนเทนต์เชิงวัฒนธรรมและธรรมชาติที่ “จับต้องได้” วิธีการนี้ทำให้ผู้ชมเห็นภาพจริง รีแอคต์ต่อบรรยากาศ และเปลี่ยนใจสู่การจองทริปได้รวดเร็วกว่าแคมเปญภาพรวม
ยุทธศาสตร์คอนเทนต์ต่อไปคือ Wellness Storytelling ที่มีเส้นเรื่องชัดเจน เช่น “พักร้อน–พักใจ–พักกาย” เชื่อมคาเฟ่ไร่กาแฟกับออนเซ็นธรรมชาติ และเวิร์กช็อปชุมชน เพื่อเพิ่มเวลาพำนักเฉลี่ยและรายได้ให้คนในท้องถิ่น
เศรษฐกิจมหภาคในพื้นที่ เติบโต แต่ไม่ทั่วถึง
นอกเหนือจากตัวเลขท่องเที่ยวที่เป็นบวก รายงานเชิงวิเคราะห์ที่จัดทำจาก ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม ชี้ให้เห็นภาพรวมเศรษฐกิจเชียงรายปี 2568 ว่า เติบโตเด่นในระดับมหภาค ทั้งรายได้ท่องเที่ยวและการลงทุนธุรกิจใหม่ แต่เกิดปรากฏการณ์ “เศรษฐกิจสองขั้ว” รายย่อยในตลาดดั้งเดิมยอดขายลดลงจากค่าครองชีพและการแข่งขันจากทุนใหญ่ ช่องว่างรายได้จึงกว้างขึ้น
ด้านการท่องเที่ยว ครึ่งปีแรก 2568 เชียงรายขึ้นแท่น เมืองรองอันดับ 1 รายได้รวมเกือบ 26,000 ล้านบาท แนวโน้มต่อเนื่องจากปี 2566 ที่มีรายได้กว่า 46,773.91 ล้านบาท และปี 2567 ราว 38,493 ล้านบาท (ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียม) ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนผลของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและแผนการตลาดที่เน้นความต่างอย่างได้ผล
พลวัตการค้า ผ่านแดนพุ่ง ชายแดนชะลอ เสี่ยงพึ่งพาตลาดเดียว
ข้อมูลผู้ใช้จัดเตรียมระบุว่า กรกฎาคม 2568 มูลค่า การค้าผ่านแดน อยู่ที่ 99,805 ล้านบาท เพิ่ม 32.5% โดยจีนเป็นแรงขับหลัก สินค้าเด่นคือ ทุเรียนสด มูลค่าส่งออก 22,949 ล้านบาท โต 135.6% ขณะที่ การค้าชายแดน ชะลอลงมาที่ 66,220 ล้านบาท ติดลบ 20% และส่งออกติดลบ 29.5% สะท้อนข้อจำกัดด้านกฎระเบียบฝั่งเพื่อนบ้าน
ข้อค้นพบสำคัญคือ ความเสี่ยงเชิงโครงสร้าง จากการพึ่งพาสินค้าหรือ “ตลาดเดียว” สูงเกินไป หากอุปสงค์จีนชะลอ อาจ “ส่งแรงสั่นสะเทือน” ผ่านห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ชาวสวนจนถึงโลจิสติกส์และค้าปลีกในเมือง
ความท้าทายคาบเกี่ยว PM2.5 ภัยธรรมชาติ และการแข่งขันภูมิภาค
รายงานผู้ใช้ยังสะท้อน “จุดเปราะบาง” หลายด้าน ได้แก่
ทางออกเชิงระบบคือ ความร่วมมือข้ามพรมแดน ในการจัดการไฟป่า–การเผา และการสื่อสารคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ พร้อมกับการยกระดับบุคลากรบริการและภาษา เพื่อชดเชยและสร้างสมดุลต่อแรงกดดันภายนอก
งบประมาณภาครัฐ ลงทุนมาก แต่การกระจายยังท้าทาย
ข้อมูลผู้ใช้ชี้ว่า งบกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกปี 2568 ที่จัดสรรให้เชียงรายรวม 1,876.1 ล้านบาท กระจุกตัวในหน่วยงานส่วนกลาง โดยเฉพาะ กรมทางหลวง (713.9 ล้านบาท หรือ 38%) ขณะที่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ไม่ได้รับจัดสรรโดยตรง แม้งบซ่อมฟื้นฟูหลังน้ำท่วมปลายปี 2567 อีก 363 ล้านบาท จะช่วยโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังมีคำถามถึง “ประสิทธิผลเชิงกระตุ้น” ต่อเศรษฐกิจฐานราก
ข้อเสนอเชิงนโยบายจากรายงานผู้ใช้คือ เพิ่มสัดส่วนงบตรงถึง อปท. และออกแบบเครื่องมือช่วย SME–ชุมชน ให้เข้าถึงง่าย ทั้งอบรมดิจิทัล มาร์เก็ตเพลส และสินเชื่อรายย่อย เพื่อ เชื่อมเศรษฐกิจบน–ล่าง ให้ไหลเวียนจริง
ยุทธศาสตร์เชื่อมการท่องเที่ยวกับชุมชน รายได้ไหลสู่ท้องถิ่น
เพื่อให้การเติบโต “ทั่วถึง” เชียงรายควรเดินหน้า แพ็กเกจร่วม ระหว่างโรงแรม–คาเฟ่–สปา–ชุมชน สร้างเส้นทาง “เรียนรู้–ลงมือทำ” เช่น เวิร์กช็อปชา–กาแฟ หัตถกรรม และอาหารท้องถิ่น เชื่อมบริการขนส่งท้องถิ่น ลดการรั่วไหลของรายได้ พร้อมมาตรฐาน ความปลอดภัย–ความสะอาด–ความเป็นมิตร โดยเฉพาะมุมบริการสำหรับนักเดินทางหญิง อาทิ ไฟส่องสว่าง ทางหนีไฟ กล้องวงจรปิด และบุคลากรที่ผ่านการอบรมปฐมพยาบาล
มาตรการเหล่านี้ช่วยสร้าง รีวิวดี–กลับมาเยือนซ้ำ–การบอกต่อ ซึ่งเป็น “ทุนทางสังคม” สำคัญของเมือง
โอกาสปลายปีและสมการความยั่งยืน
เมื่อรวมภาพทั้งหมด เชียงรายมี แรงส่งเชิงโครงสร้าง จากสินค้าท่องเที่ยวที่ต่าง วาระความปลอดภัยที่เด่น และไฟลต์ใหม่เชื่อมอาเซียนโดยตรง แต่ความยั่งยืนยังพึ่งพา “สามสมการ” ที่ต้องเดินพร้อมกัน
หากทำได้พร้อมกัน เมืองจะ “ล็อกอิน” สถานะ เมืองปลายทางคุณภาพสูง ที่นักท่องเที่ยวพักนาน ใช้จ่ายสูง และกลับมาเยือนซ้ำในทุกฤดูกาล
ข้อเสนอสำหรับผู้ประกอบการในฤดูกาลนี้
ไฮซีซันปลายปี 2568 คือ “จังหวะเร่งเครื่อง” ของเชียงราย ตัวเลขพื้นฐานบวก ความปลอดภัยเด่น และ Soft Power ชัดเจน ทั้งชา–กาแฟ ศิลปะ และ Wellness ขณะที่ไฟลต์ใหม่จากสิงคโปร์จะเปิดประตูตลาดอาเซียนโดยตรง ภาพความท้าทายยังมี ทั้ง PM2.5 การแข่งขันภูมิภาค และเศรษฐกิจสองขั้ว แต่ด้วยแผนเตรียมพร้อมของพื้นที่ ภาคเอกชน และการสื่อสารเชิงรุก เชียงรายมีศักยภาพจะ เปลี่ยนฤดูกาล ให้เป็น โอกาส และเปลี่ยน นักเดินทางครั้งแรก เป็น ผู้มาเยือนซ้ำ ที่หลงรักเมืองเหนือปลายทางแห่งนี
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.