
เชียงราย, 9 ตุลาคม 2568 — แสงสายของเช้าวันพฤหัสบดีกรองผ่านหลังคาอาคารชุมชนที่เรียบง่าย ณ ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ เทศบาลตำบลศิริเวียงชัย กลายเป็นฉากหลังของ “พิธีเปิดการเรียนการสอนโรงเรียนผู้สูงอายุ” ประจำปี 2568 ที่อบอวลด้วยรอยยิ้มและแรงบันดาลใจ ผู้ร่วมงานบอกกันสั้น ๆ ว่า “วันนี้ไม่ใช่แค่การเปิดเทอม แต่เป็นการเปิดโอกาสให้คนทั้งชุมชนได้เริ่มรูปแบบการพัฒนาใหม่”—ภาพห้องเรียนที่เต็มไปด้วยคุณตาคุณยาย 208 คน สะท้อนสารสำคัญว่า “การเรียนรู้ไม่สิ้นสุดตามอายุ” และการดูแลผู้สูงวัยที่ยั่งยืน เริ่มต้นจากการเสริมพลังให้พวกเขาเป็นเจ้าของศักยภาพของตนเอง
พิธีเปิดในวันนี้ได้รับเกียรติจาก นางสาวธมลวรรณ ปัญญาพฤกษ์ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย อำเภอเวียงชัย เขต 1 ผู้แทน นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย เข้าร่วมเป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาเทศบาล ผู้นำชุมชน หน่วยงานภาครัฐ–เอกชน ตลอดจนสถาบันการศึกษาในจังหวัดเชียงรายที่มาร่วม “เชื่อมขีดความสามารถ” เข้ากับ “ความต้องการจริง” ของผู้สูงอายุในพื้นที่
เมล็ดพันธุ์ที่เพาะมานาน จากปี 2558 สู่รากฐานความยั่งยืน
โรงเรียนผู้สูงอายุเทศบาลตำบลศิริเวียงชัย ก่อตั้งเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2558 ท่ามกลางบริบทที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมสูงวัยอย่างต่อเนื่อง โมเดล “ห้องเรียนชีวิต” ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีชุมชน ไม่ใช่โครงสร้างการศึกษาที่แยกตัวจากชีวิตจริง โรงเรียนจึงทำหน้าที่มากกว่า “สถานที่ถ่ายทอดความรู้” แต่เป็น แพลตฟอร์มการพัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ให้ผู้สูงอายุได้เรียนรู้ด้านสุขภาพ การดำเนินชีวิต การสร้างรายได้ และการมีส่วนร่วมทางสังคม—หัวใจสำคัญคือการให้ผู้สูงวัย “พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น” และ “ยังมีบทบาทเป็นกำลังพัฒนาชุมชนได้จริง”
ตลอดเส้นทางกว่า 10 ปี โรงเรียนได้ขยายหลักสูตรหลากหลาย ตั้งแต่ความรู้ด้านการป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) โภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะกับวัย ไปจนถึงทักษะดิจิทัลเบื้องต้น การสื่อสารออนไลน์อย่างปลอดภัย การเงินครัวเรือน–หนี้สินชุมชน งานฝีมือและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นเชิงอาชีพ รวมถึงกิจกรรมอาสาสมัครเพื่อสังคม หลักสูตรเหล่านี้ไม่ใช่เพียง “เนื้อหาในตำรา” หากแต่เป็น คำตอบต่อปัญหาจริงในชีวิตประจำวัน—จากการดูแลสุขภาพของตนเองและคู่ชีวิต การเข้าถึงสวัสดิการ การหาตลาดให้สินค้าชุมชน ไปจนถึงการสื่อสารกับลูกหลานที่อยู่ต่างจังหวัดผ่านช่องทางออนไลน์
เปิดเทอม 2568 “ห้องเรียน 4 มิติ” ที่ออกแบบจากโจทย์ชีวิต
ปีนี้ โรงเรียนวางโครงสร้างการเรียนรู้ไว้ 4 มิติหลัก เพื่อเชื่อมการศึกษาเข้ากับคุณภาพชีวิตอย่างเป็นรูปธรรม
การจัดมิติดังกล่าวทำให้ผู้เรียนไม่ได้รับความรู้แบบกระจัดกระจาย แต่ เห็นเส้นเชื่อมโยง ระหว่างสุขภาพ–รายได้–สิทธิ–การมีส่วนร่วม นำไปสู่พฤติกรรมใหม่ที่ยั่งยืนกว่า เช่น ผู้เรียนที่เคยกังวลเรื่องภาวะหกล้ม ปรับบ้านและจัดระเบียบพื้นที่เดินภายในหนึ่งสัปดาห์ หรือกลุ่มที่ทำของฝากชุมชน สามารถตั้งต้นทุน–กำหนดราคาที่เป็นธรรม พร้อมเรียนรู้วิธีบันทึกบัญชีอย่างเป็นระบบ
“เครือข่าย” คือรากฐาน เมื่อทุกฟันเฟืองขยับไปในทิศทางเดียวกัน
ความสำเร็จของโรงเรียนผู้สูงอายุศิริเวียงชัยไม่ได้ยืนอยู่ลำพัง หากเกิดจาก การบูรณาการความร่วมมือ ของหลายหน่วยงาน ได้แก่
เครือข่ายแบบนี้ทำให้โรงเรียนไม่ต้อง “คิดเอง–ทำเอง” ทุกเรื่อง แต่สามารถ ยกเวทีให้ผู้เชี่ยวชาญตรงสาขา เข้ามาส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ช่วยยกระดับมาตรฐานการเรียนรู้ และประกันคุณภาพผลลัพธ์กับผู้เรียน
เสียงจากพื้นที่เมื่อผู้สูงวัยเป็น “ครูใหญ่” ของประสบการณ์
แม้ในพิธีเปิดจะไม่มีคำปราศรัยยาวเหยียด แต่ท่าทีและการมีส่วนร่วมของผู้เรียนสะท้อนความคาดหวังชัดเจน—หลายคนเลือกเข้าหลักสูตรสุขภาพเพื่อ “แข็งแรงอย่างพอดี” หลายคนอยากเรียนดิจิทัลเพื่อ “คุยกับหลานได้คล่องขึ้น” บางคนมองหาโอกาส “ต่อยอดงานฝีมือเป็นรายได้” ขณะที่อีกไม่น้อยต้องการ “ใช้เวลาให้มีคุณค่าและประโยชน์” ผ่านงานอาสาสมัคร
เมื่อบทบาทผู้สูงวัยเปลี่ยนจาก “ผู้รับบริการ” สู่ “ผู้มีส่วนร่วม” โรงเรียนจึงไม่ใช่ ที่สอน เพียงด้านเดียว แต่เป็น เวทีแลกเปลี่ยน ที่ผู้เรียนถ่ายทอดเทคนิคการครัวพื้นบ้าน วิธีการปลูกผักสวนครัวปลอดภัย แก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่เคยผ่านมาก่อน ตลอดจนเรื่องเล่าเก่าก่อนของเวียงชัย—องค์ความรู้เหล่านี้กลายเป็นหลักสูตร “จากชุมชนสู่ชุมชน” ที่สถาบันการศึกษาภายนอกก็ย้อนกลับมาเก็บข้อมูลวิจัยเชิงพื้นที่ สร้างคุณค่าร่วมกันอย่างงดงาม
เชื่อมโยงยุทธศาสตร์จังหวัด ผู้สูงวัย = กำลังพลทางสังคม
ในระดับจังหวัด เชียงรายเดินหน้าวาระ “เมืองน่าอยู่–เศรษฐกิจฐานรากเข้มแข็ง–ชุมชนเกื้อกูล” การลงทุนด้านผู้สูงอายุจึงไม่ใช่ภาระ แต่คือ ทุนทางสังคม ที่สร้างผลคูณ เศรษฐกิจชุมชนได้ประโยชน์จากแรงงาน–ทักษะ–เครือข่ายของผู้สูงวัย ขณะที่ระบบสุขภาพได้ประชากรที่ดูแลตนเองได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรังและการเข้ารับบริการฉุกเฉินบ่อยครั้ง ส่วนระบบการศึกษาได้ “พี่เลี้ยง” ให้เยาวชนผ่านกิจกรรมบ่มเพาะทักษะชีวิตและภูมิปัญญาท้องถิ่น
สำหรับ อบจ.เชียงราย โครงการโรงเรียนผู้สูงอายุสอดรับแนวคิด “การพัฒนาคุณภาพชีวิตเชิงรุกทุกช่วงวัย” ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการสังคม และสร้างกลไกให้ท้องถิ่นเป็นเจ้าของการพัฒนาอย่างแท้จริง—เมื่อเทศบาลสามารถออกแบบหลักสูตรจากโจทย์พื้นที่จริง และเชื่อมหน่วยงานเชี่ยวชาญเข้ามาสนับสนุน ผลลัพธ์จึง “อยู่ได้ยาว” ไม่ใช่กิจกรรมฉาบฉวย
จับต้องผลลัพธ์ ตัวชี้วัดง่าย แต่ทรงพลัง
เพื่อให้โครงการขับเคลื่อนต่อเนื่อง โรงเรียนวางกรอบ ตัวชี้วัดเชิงพฤติกรรม ที่ติดตามได้จริง ได้แก่
ตัวชี้วัดเหล่านี้ไม่ต้องใช้เทคโนโลยีซับซ้อน แต่เพียง ความต่อเนื่อง ก็สะท้อนคุณภาพโครงการได้ชัดเจน—ห้องเรียนที่ผู้เรียนกลับมาอย่างสม่ำเสมอ คือห้องเรียนที่ “มีความหมาย” ต่อชีวิตจริงของพวกเขา
ความปลอดภัย–การเข้าถึง–สิ่งแวดล้อม มาตรฐานบริการเพื่อคนทุกวัย
การเรียนรู้ของผู้สูงอายุต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและความสะดวกเป็นพิเศษ ศูนย์ฯ จึงปรับสภาพแวดล้อม เช่น พื้นกันลื่น ทางลาดสำหรับรถเข็น ห้องน้ำผู้สูงวัย เก้าอี้พนักพิงสูงมีที่วางแขน พร้อมทีมอาสาจากโรงเรียนและชุมชนคอยประคองขึ้น–ลงบันได กำหนดช่วงเวลาพักทุก 45–60 นาที และมีมุมตรวจวัดความดัน–ระดับน้ำตาลก่อน–หลังเรียนในบางกิจกรรม
ด้านสิ่งแวดล้อม โรงเรียนใช้แนวคิด “ห้องเรียนปลอดขยะ” สนับสนุนกระติกน้ำส่วนตัว ภาชนะใช้ซ้ำ และถังคัดแยก 3 ประเภท โดยร่วมกับกลุ่มรีไซเคิลชุมชนมารับ–แยกต่อยอดรายได้ นอกจากลดภาระเทศบาลยังเป็นกิจกรรม “ขยายผล” ให้ผู้เรียนพาแนวทางกลับไปปรับใช้ที่บ้าน
บทเรียนจากเวียงชัยต้นแบบที่ขยายผลได้
สิ่งที่น่าสนใจคือโรงเรียนผู้สูงอายุศิริเวียงชัยไม่เพียงเป็น โมเดลของตำบล แต่มีศักยภาพจะเป็น ต้นแบบของอำเภอเวียงชัย–จังหวัดเชียงราย ด้วยองค์ประกอบสำคัญ 3 ประการ
เมื่อองค์ประกอบครบ โรงเรียนผู้สูงอายุจะไม่ใช่ “โครงการสั้น ๆ” แต่เป็น สถาบันการเรียนรู้ตลอดชีวิตของชุมชน ที่ตอบโจทย์ประชากรสูงวัยมากขึ้นทุกปี
มองภาพใหญ่ ผู้สูงวัยไม่ใช่ผู้ตาม แต่เป็น “ผู้นำภารกิจชุมชน”
หากมองลึกลงไป โรงเรียนผู้สูงอายุคือการ จัดวางบทบาทใหม่ให้ผู้สูงวัย จากภาพจำเดิม ๆ ว่าต้องได้รับการดูแล สู่ภาพของ “ผู้นำภารกิจ” หลายด้าน—ครูภูมิปัญญา ผู้ประสานรอยต่อรุ่น แกนนำสาธารณสุขชุมชน ผู้เฝ้าระวังภัยทางสังคมรูปแบบใหม่ และผู้ประกอบการรายย่อยที่ส่งต่อรายได้สู่ครัวเรือน การ “คืนพื้นที่นำ” ให้ผู้สูงวัยเช่นนี้ ทำให้ชุมชนเวียงชัยมี ทุนทางสังคม ที่แข็งแกร่งขึ้นโดยอัตโนมัติ และเมื่อทุนนี้หมุนกับระบบสนับสนุนของรัฐท้องถิ่น ก็ยิ่งขยายผลได้กว้าง
เปิดเทอมของใจ เปิดทางของเมือง
การเปิดการเรียนการสอนโรงเรียนผู้สูงอายุศิริเวียงชัยปี 2568 จึงไม่ใช่เพียงพิธีเชิงสัญลักษณ์ แต่คือการย้ำว่าการพัฒนาที่แท้จริงเริ่มจาก คน และ พื้นที่—เมื่อผู้สูงวัย 208 คนกลับเข้าห้องเรียน เมืองทั้งเมืองก็ได้ “ครูใหม่” เพิ่มอีก 208 คน ที่พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิต สร้างสังคมเอื้อเฟื้อ เกื้อกูล และยืดหยุ่นต่อความเปลี่ยนแปลง
ความมุ่งมั่นของ อบจ.เชียงราย และเครือข่ายท้องถิ่นในการผลักดัน “การเรียนรู้ตลอดชีวิต” ให้เป็นวาระปกติของเมือง คือคำตอบต่อคำถามใหญ่ของยุคสูงวัยว่า จะทำอย่างไรให้ทุกช่วงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีศักดิ์ศรี—คำตอบอาจเรียบง่ายแต่ทรงพลัง เปิดห้องเรียนให้ชีวิต และเปิดชีวิตให้สังคม
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.