
ในช่วงรอยต่อการฟื้นตัวของระบบบริการสุขภาพและสังคมไทย ภูมิภาคเหนือโดยเฉพาะจังหวัดชายแดนอย่างเชียงรายต้องการ “คน” และ “คุณค่า” มากพอๆ กับ “เครื่องมือ” และ “งบประมาณ” สถานพยาบาลปลายทางต้องรองรับผู้ป่วยหลากหลายมิติ ขณะที่ชุมชนต้องการบุคลากรที่มีทั้งความรู้เชิงวิชาการ ทักษะการปฏิบัติ และหัวใจของความเป็นมนุษย์ พิธี “มอบหมวก–ดวงประทีป–เข็มชั้นปี” ของคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (มรภ.เชียงราย) จึงไม่ใช่เพียงพิธีการ หากเป็น “พิธีกรรมแห่งการเปลี่ยนผ่าน” ที่ประกาศต่อสาธารณะว่า นี่คือจุดเริ่มต้นของการก้าวสู่แถวหน้าการดูแลสุขภาพอย่างมีจริยธรรมและความรับผิดชอบ
รายงานนี้หยิบ “สาระความหมายบริบท” ของพิธีครั้งล่าสุด (22 สิงหาคม 2568) มาคลี่ให้เห็นทั้งภาพพิธีการ สัญลักษณ์หลัก และนัยต่อระบบสุขภาพท้องถิ่น ผ่านเลนส์การสื่อสารที่เป็นกลาง และรองรับด้วยข้อมูลอ้างอิงที่ตรวจสอบได้
พิธีที่เป็นมากกว่าความภาคภูมิใจจุดเปลี่ยนสู่การปฏิบัติจริง
เชียงราย,22 สิงหาคม 2568 – อาคารเรียนรวม 101 ของคณะพยาบาลศาสตร์ มรภ.เชียงราย คลาคล่ำไปด้วยรอยยิ้ม น้ำตา และความคาดหวังของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 2 “ช่อทองคำรุ่นที่ 2” จำนวน 79 คน พร้อมครอบครัวและคณาจารย์ผู้ปลูกฝังวิชาชีพ พิธีมอบหมวก–ดวงประทีป–เข็มชั้นปี เป็นธรรมเนียมอันทรงเกียรติที่สืบทอดมายาวนานในแวดวงการพยาบาลไทย ใช้ยืนยันว่า นักศึกษากลุ่มนี้ได้ผ่านรากฐานทางทฤษฎีที่จำเป็น และพร้อมก้าวเข้าสู่การฝึกปฏิบัติในหอผู้ป่วย โดยมีระบบพี่เลี้ยงและสถาบันคู่ความร่วมมือทางคลินิกคอยกำกับคุณภาพอย่างใกล้ชิด
พิธีได้รับเกียรติจากผู้บริหารมหาวิทยาลัยระดับรองอธิการบดีเป็นประธาน พร้อมด้วยคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ตอกย้ำความสำคัญของ “คนดีคนเก่งคนกล้าเปลี่ยนแปลง” ที่สังคมต้องการ ยิ่งในบริบทจังหวัดชายแดนที่มีพลวัตด้านประชากร สุขภาวะ และวัฒนธรรมแตกต่างหลากหลาย การหล่อหลอมบัณฑิตให้ “รู้เท่าทันข้อมูลเข้าใจผู้คนเชื่อมต่อระบบ” คือสิ่งที่ทุกภาคส่วนคาดหวัง
สัญลักษณ์สามประการหลักยึดของการดูแลด้วยหัวใจมนุษย์
สาระสำคัญของพิธีประกอบด้วย “สามสัญลักษณ์” ซึ่งล้วนมีที่มาและความหมายลึกซึ้งในวิชาชีพพยาบาล
ลำดับพิธี–สายใยเครือข่าย
ไฮไลต์ของงานอยู่ที่การจุดเทียนไนติงเกลและส่งมอบตะเกียงแก่ผู้แทนนักศึกษา ก่อนเข้าสู่ช่วงติดหมวกและประดับเข็มชั้นปีโดยคณาจารย์และตัวแทนภาคีเครือข่ายโรงพยาบาลในจังหวัด อาทิ โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานพยาบาลหลักที่รับนักศึกษาเข้าฝึกปฏิบัติ สะท้อน “สะพานเชื่อม” ระหว่างมหาวิทยาลัยและบริการสุขภาพจริง ทำให้การเรียนรู้ไม่ขาดช่วงระหว่างทฤษฎีกับคลินิก
ในงานยังมีการมอบทุนการศึกษา–เกียรติบัตรแก่นักศึกษาที่โดดเด่นด้านจิตอาสาและความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมบทเพลงเครื่องทองเหลืองโดยวง Crru Brass Project สร้างบรรยากาศขรึมขลังและอบอุ่นไปพร้อมกัน
ตัวเลขชวนคิด
ทำไมพิธีนี้จึงสำคัญ “ตอนนี้”?
คำตอบอยู่ที่โจทย์ของระบบสุขภาพและแนวโน้มกำลังคนพยาบาลระดับโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) เคยประเมินในรายงาน State of the World’s Nursing 2020 ว่าโลกยังขาดแคลนพยาบาลราว 5.9 ล้านคน โดยกระจุกตัวในประเทศรายได้ปานกลาง–ต่ำ การสร้างและรักษากำลังคนพยาบาลคุณภาพจึงเป็นวาระเร่งด่วนของทุกประเทศ รวมถึงไทยด้วย การที่สถาบันท้องถิ่นอย่างมรภ.เชียงราย ย้ำ “คุณธรรม–จริยธรรม–ความเป็นมืออาชีพ” ตั้งแต่ก้าวแรก ย่อมช่วยวางรากฐานให้การบริการสุขภาพเชิงชุมชนมีความเชื่อถือและเข้าถึงได้จริงในระยะยาว
ยิ่งในเชียงรายจังหวัดที่มีภูมิศาสตร์ชายแดน การเดินทางของแรงงานข้ามแดน และโครงสร้างประชากรชนเผ่า–กลุ่มชาติพันธุ์บทบาทของพยาบาลที่ “สื่อสารได้ เข้าใจบริบทได้ ไวต่อความต่างทางวัฒนธรรม” จึงเป็นหัวใจของการดูแลสุขภาพระดับปฐมภูมิและทุติยภูมิอย่างแท้จริง
สัญญาใจของวิชาชีพ จาก “คำปฏิญาณ” สู่ “การกระทำ”
แก่นแท้ของพิธีไม่ได้หยุดอยู่ที่เครื่องแบบ หากอยู่ที่ “คำปฏิญาณ” และบรรทัดฐานวิชาชีพที่ต้องยึดถือ สภาการพยาบาลไทยระบุกรอบจริยธรรมไว้อย่างชัดเจน อาทิ ความซื่อสัตย์ การเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การรักษาความลับผู้ป่วย และการอุทิศตนเพื่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับแนวทาง ICN Code of Ethics for Nurses (2021) ของสภาการพยาบาลนานาชาติที่เน้น “พยาบาลกับผู้รับบริการ–กับการปฏิบัติวิชาชีพ–กับวิชาชีพพยาบาล–กับสุขภาพโลก” เป็นสี่เสาหลักสำคัญในการตัดสินใจและการกระทำของพยาบาลทุกคน (เอกสารฉบับภาษาไทยโดยสถาบันการพยาบาลศรีสวรินทิรา สช.มหิดล และฉบับสากลโดย ICN)
การที่นักศึกษาชั้นปีที่ 2 ได้รับเข็มชั้นปีและเข้าสู่การฝึกปฏิบัติในโรงพยาบาล จึงเท่ากับถือ “ใบเบิกทาง” ที่มาพร้อมพันธสัญญาจะยึดมั่นกรอบจริยธรรมดังกล่าว—จากถ้อยคำในพิธี สู่การกระทำจริงข้างเตียงผู้ป่วย
พิธีกรรมเชื่อมอดีต–ปัจจุบัน สืบสายไนติงเกล
เพื่อให้ “ดวงประทีป” มีชีวิตในใจคนรุ่นใหม่ รายละเอียดของพิธีในไทยหลายสถาบันยังคงยึดโยงกับประวัติศาสตร์ไนติงเกลในฐานะผู้บุกเบิกการพยาบาลสมัยใหม่สัญลักษณ์ “สุภาพสตรีแห่งดวงประทีป” ที่ถือโคมไฟเดินตรวจทหารบาดเจ็บยามวิกาล กลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักศึกษาพยาบาลทั่วโลกใช้ “แสง” เป็นเครื่องหมายของความหวัง ความเอื้ออาทร และความไม่ทอดทิ้งผู้ป่วยในห้วงยากลำบาก (สาระอ้างอิงจากสารานุกรมบริแทนนิกา).
ในระดับสถาบัน มรภ.เชียงรายจัดพิธีมอบหมวก–ดวงประทีป–เข็มชั้นปีอย่างต่อเนื่องมายาวนาน ทั้งในมิติ “พิธีหลวง” และ “ชีวิตนักศึกษา” สื่อสาธารณะของมหาวิทยาลัยและคณะพยาบาลศาสตร์สะท้อนภาพความต่อเนื่องดังกล่าวไว้หลายครั้งในปีที่ผ่านมา ช่วยยืนยันว่า พิธีนี้คือ “วัฒนธรรมองค์กร” ที่สถาบันยึดถือเพื่อพัฒนาคนก่อนปล่อยสู่สนามจริงของการพยาบาลคลินิกและชุมชน
ความหมายเชิงระบบ เมื่อพิธีปั้น “คน” ให้รองรับเมือง
เล่าเรื่องด้วยตัวเลข จากรหัสวิชาสู่ชั่วโมงจริง
แม้ในพิธีจะไม่ทยอยประกาศตัวเลขกำลังคนระดับชาติ แต่หากวางไว้บนฉากหลังรายงาน WHO ที่ชี้ปัญหา “ขาดแคลนพยาบาลทั่วโลกหลายล้านคน” การได้เห็น “คนรุ่นใหม่” สวมหมวก รับดวงประทีป และกลัดเข็มชั้นปี จึงเป็นภาพที่มีทั้งความหวังและความรับผิดชอบซ่อนอยู่—สำหรับตัวนักศึกษา ครอบครัว สถาบัน และสังคมร่วมกัน.
จากห้องพิธีสู่หอผู้ป่วย—รักษา “ไฟในใจ” ให้สว่างยาวนาน
พิธีมอบหมวก–ดวงประทีป–เข็มชั้นปีของคณะพยาบาลศาสตร์ มรภ.เชียงราย ในปีการศึกษา 2568 เป็นมากกว่าพิธีเฉลิมฉลอง มันคือ “สัญญาสาธารณะ” ที่บอกกับสังคมว่า คนรุ่นใหม่ 79 คนพร้อมออกเดินทางสู่พื้นที่จริงของการดูแลสุขภาพ โดยมีแสงประทีปเป็นสัญลักษณ์เตือนใจ และมีเข็มชั้นปีเป็นเครื่องหมายความรับผิดชอบ
จากนี้ไป ทุกชั่วโมงในหอผู้ป่วยจะเป็นบททดสอบจริงของความรู้ ทักษะ และคุณธรรมที่ได้รับการหล่อหลอมมา หากรักษา “ไฟในใจ” ให้สว่างไสวเหมือนในพิธีได้ยาวนาน พยาบาลรุ่นนี้ย่อมจะเป็นหนึ่งในเสาหลักที่ทำให้ระบบสุขภาพของเชียงรายและภาคเหนือ “อบอุ่น–เข้าถึง–เชื่อถือได้” มากขึ้น
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.