
เชียงราย, 30 สิงหาคม 2568—สายลมปลายฤดูฝนพัดผ่านสนาม X-Arena เชียงราย ท่ามกลางเสียงเชียร์เป็นจังหวะและรองเท้าสตั๊ดที่นับก้าวบนหญ้าอย่างมั่นคง นักฟุตบอลรุ่นใหญ่วัย 50+, 55+ และ 60+ หลายสิบชีวิตกำลังก้าวเข้าสู่รอบคัดตัวแทนจังหวัด เพื่อชิงสิทธิ์ “ฟุตบอลอาวุโส อบจ. คัพ ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 1” บรรยากาศเข้มข้นแต่เป็นมิตร—ภาพที่สะท้อนว่ากีฬาไม่ใช่แค่เรื่องชัยชนะ หากคือทุนสุขภาพ ทุนสังคม และทุนความหวังของชุมชน
ในวันเดียวกัน นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) เดินเข้าสนามพร้อมคำกล่าวให้กำลังใจสั้น ๆ แต่ชัดเจนถึงความตั้งใจของจังหวัดในการ “ทำให้สนามกีฬาอยู่ใกล้ประชาชนมากที่สุด” ก่อนเป็นประธานเปิดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน “CR-PAO League CUP 2025” รายการภายในองค์กรที่รวบรวมผู้บริหาร สมาชิกสภา ข้าราชการ และพนักงาน อบจ.เชียงราย รวม 7 ทีม โดยได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน อาทิ SCG และ Dolphin Toilet Partition เพื่อใช้กีฬาเป็นสื่อกลางสร้างสุขภาพ ความสามัคคี และทีมเวิร์กในที่ทำงาน
ภาพเล่าเรื่องจากสนามวันนั้นจึงไม่ใช่ “ข่าวกิจกรรม” ธรรมดา แต่เป็น “จุดเริ่มของทิศทาง”—ทิศทางที่พัฒนาเมืองด้วยกีฬาในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ และสังคม โดยมีผู้สูงวัยและคนทำงานเป็นพระเอกเคียงข้างกัน
จากสนามท้องถิ่นสู่โจทย์ใหญ่ของจังหวัด—ทำไม “กีฬา” ถึงเป็นยุทธศาสตร์ที่ใช่ตอนนี้
เชียงรายกำลังยกระดับความเป็น “เมืองที่น่าอยู่” ไปอีกขั้นผ่านนโยบายด้านกีฬาและกิจกรรมทางกายที่ครอบคลุมทุกช่วงวัย เหตุผลสำคัญมีอย่างน้อยสามประการ
ภายใต้ภาพใหญ่ดังกล่าว เชียงรายจึงเลือก “ขยับ” ด้วยแผนที่จับต้องได้—ตั้งแต่สร้างเวทีให้ผู้สูงวัยแสดงศักยภาพ ไปจนสร้างพื้นที่ (ลีกภายใน) ให้คนทำงานขยับกายเป็นกิจวัตร เพื่อลดค่าป่วย ลดความเครียด และต่อยอดเป็นวัฒนธรรมองค์กร
ฉากจาก X-Arena ฟุตบอลอาวุโส—ทักษะ ประสบการณ์ และน้ำใจ
ช่วงบ่ายที่เมฆเริ่มโปรย นักเตะรุ่น 50+, 55+ และ 60+ ทยอยลงอบอุ่นร่างกาย—ท่าทางระมัดระวังแต่คล่องแคล่ว ผู้เล่นบางคนรัดสน็อปเข่า บางคนพกยาดม แต่ทุกคนมีอย่างเดียวกันคือแววตาที่มุ่งมั่น “ยังอยากลงแข่งให้ลูกหลานได้เห็น” หนึ่งในโค้ชทีมกล่าวระหว่างพักน้ำ
รูปแบบการคัดเลือกเน้น ทักษะพื้นฐาน-ความฟิต-การเล่นเป็นทีม เพื่อเตรียมตัวสู่การแข่งขันระดับประเทศในรายการ “อบจ. คัพ” รุ่นอาวุโส ที่มุ่งหมายให้เวทีกีฬาเปิดกว้างสำหรับวัยที่สังคมมักคิดว่า “ถึงเวลาเบรก” ทั้งที่ข้อเท็จจริงคือ การออกกำลังกายที่พอเหมาะช่วยเพิ่มสมรรถภาพหัวใจและปอด ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมทั้งช่วยเรื่องความจำและอารมณ์—ประโยชน์ที่สอดคล้องกับแนวทางของ WHO และหน่วยงานสุขภาพไทยซึ่งแนะนำการออกแรงแบบแอโรบิกผสมฝึกกล้ามเนื้อและการทรงตัวสำหรับวัยสูงอายุ
การสร้างเวทีให้ “รุ่นใหญ่” กลับมาครื้นเครงในสนาม จึงเป็นมากกว่าเรื่องกีฬา หากคือ นโยบายสุขภาพเชิงรุก ที่อาศัย “ความสนุกและความภูมิใจ” เป็นแรงขับ—ต้นทุนทางสังคมที่เงินซื้อไม่ได้
CR-PAO League CUP ฟุตบอล 7 คนที่มากกว่าเกม—แพลตฟอร์มสร้างสุขภาพและทีมเวิร์ก
ครั้นถึงพิธีเปิด “CR-PAO League CUP 2025” นายก อบจ.เชียงราย ประกาศความพร้อมของ 7 ทีมจากบุคลากรในองค์กร โดยตั้งเป้าหมายสองข้อชัดเจน: (1) สร้างสุขภาพกาย-ใจให้คนทำงาน และ (2) สร้างทีมเวิร์กเพื่อกลับไปยกระดับประสิทธิภาพงานบริการประชาชน
การแข่งขันรูปแบบ 7 คนบริหารจัดการง่าย ใช้เวลาสั้น กระตุ้นให้เกิด “กิจกรรมทางกายสม่ำเสมอ” แทรกในชีวิตประจำวันของข้าราชการและพนักงาน—ปัจจัยที่สอดรับแนวทางองค์การอนามัยโลกเรื่องการเพิ่ม “Active Minutes” รายสัปดาห์ ตลอดจนข้อแนะนำของกรมอนามัยไทยที่สื่อสารอย่างกว้างขวางในช่วงหลัง เพราะการสะสมเวลาออกกำลังกายเป็นชั่วโมงต่อสัปดาห์—even แบบสั้น ๆ หลายครั้ง—ช่วยลดความเสี่ยงเจ็บป่วยระยะยาวได้จริง
ความร่วมมือจาก SCG และ Dolphin Toilet Partition ในฐานะภาคเอกชนท้องถิ่น ชี้ให้เห็นการระดมพลังหลายภาคส่วน (multi-stakeholder) ที่เมืองสมัยใหม่ใช้ขับเคลื่อน—อบจ. สร้างเวทีและมาตรฐานความปลอดภัย เอกชนช่วยอุปกรณ์และโลจิสติกส์ สโมสร/สนามเอกชนอย่าง X-Arena เชียงราย ทำหน้าที่เป็น “ฮับกีฬา” ที่เข้าถึงง่าย สนับสนุนกิจกรรมได้ต่อเนื่องตลอดปี
ตัวเลขที่ชวนคิด—ทำไมกีฬา (จริง ๆ) ช่วยเมืองและช่วยรัฐ
ตัวเลขและกรอบมาตรฐานเหล่านี้ ทำให้การตัดสินใจของ อบจ.เชียงรายในวันนี้ “มีหลักฐานรองรับ” มากกว่าความเชื่อ—และพร้อมถอดบทเรียนไปยังพื้นที่อื่น
บริหารความเสี่ยงอย่างมืออาชีพ ความปลอดภัยของนักเตะอาวุโสต้องมาเป็นที่หนึ่ง
เมื่อผลักดันกีฬาในกลุ่มผู้สูงอายุ สิ่งที่ต้องมาคู่กันคือ มาตรการความปลอดภัย ตั้งแต่คัดกรองสุขภาพเบื้องต้น (เช่น แบบประเมินความเสี่ยงโรคหัวใจ/ความดัน) ออกแบบภาระงานตามวัย (intensity/interval) ไปจนถึงการเตรียมทีมแพทย์/กู้ชีพ ณ จุดแข่ง การยืดเหยียดก่อน-หลัง การอบอุ่นและคูลดาวน์อย่างเพียงพอ ตลอดจนการจัดตารางแข่งที่ลดความร้อนและความล้าเกินจำเป็น—แนวทางที่สอดคล้องกับข้อเสนอของ WHO และคู่มือสุขภาพระดับประเทศที่เน้น “ปลอดภัย-สนุก-ต่อเนื่อง” เป็นเงื่อนไขให้เกิดพฤติกรรมซ้ำ
จากเกมลูกหนังสู่ “ทุนสังคม” และ “ทุนเศรษฐกิจท้องถิ่น”
เสียงจากสนามความภาคภูมิใจที่แบ่งปันได้
ระหว่างพักครึ่งทีมอาวุโสรุ่น 60+ นักเตะคนหนึ่งบอกว่า “ผมดีใจที่ยังได้ลงสนาม เพราะฟุตบอลมันทำให้รู้สึกว่าเรายังมีบทบาท” เสียงสั้น ๆ แต่ตรงใจผู้ชมข้างสนามที่เป็นลูกหลาน—นี่คือ คุณค่าทางสังคม ของกีฬา ที่ทำให้คนต่างวัย “เจอกันตรงกลาง” อย่างงดงาม
ฝ่ายจัดการแข่งขันย้ำว่า รายการ “อบจ. คัพ” รุ่นอาวุโส จะให้ความสำคัญกับ มาตรฐานสนาม อุปกรณ์ และทีมเวชกีฬา เพื่อความปลอดภัย พร้อมจัดการความร้อน ความชื้น และเวลาพักตามวัย—เกณฑ์ที่ขยับได้ตามข้อมูลสุขภาพของนักกีฬาแต่ละรุ่น
เชื่อมโยงนโยบาย บทบาท อบจ. กับการทำงานเชิงข้อมูล
ความก้าวหน้าด้านกีฬาในวันนี้ไม่ใช่เรื่องฉาบฉวย อบจ.เชียงรายสื่อสารบทบาทด้านการสนับสนุนกีฬาและกิจกรรมสาธารณะผ่านช่องทางทางการอย่างต่อเนื่อง ทั้งเว็บไซต์และเพจทางการ เพื่อเชื่อม “ข่าวกิจกรรม” เข้ากับ “การรับรู้ของสาธารณะ” ว่ากีฬาคือวาระเมือง มิใช่เพียงความสนุกเฉพาะกลุ่ม—แนวทางสื่อสารสาธารณะที่สำคัญต่อการสร้างการมีส่วนร่วมของชุมชน
สิ่งที่เชียงรายทำวันนี้ “ถูกโจทย์” และ “ทันเวลา”
ในท้ายที่สุด ลูกฟุตบอลลูกหนึ่งที่กลิ้งอยู่กลางสนาม X-Arena จึงมิใช่สัญลักษณ์ของการแข่งขันอย่างเดียว แต่คือ สัญลักษณ์ของการลงทุนในคน—การลงทุนที่เริ่มต้นจากเสียงนกหวีด พาไปไกลถึงคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจฐานราก และความภูมิใจร่วมของชุมชนเชียงราย
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.