อบจ.เชียงรายเร่งปลดล็อกปัญหาที่ดิน “รพ.สต.-สอน.” หวังยกระดับบริการสุขภาพสู่ประชาชน

เชียงราย, 8 เมษายน 2568 – องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย โดยการนำของ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย เดินหน้าแก้ปัญหาการใช้ประโยชน์ที่ดินของสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบจ.เชียงราย หลังได้รับการถ่ายโอนภารกิจจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้สามารถดำเนินภารกิจด้านการให้บริการสุขภาพต่อประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครอบคลุม และถูกต้องตามกฎหมาย

เริ่มต้นด้วยความตั้งใจจริง สู่การระดมแก้ไขปัญหาในเชิงระบบ

ในการประชุมวันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา อบจ.เชียงราย ได้จัดประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเร่งรัดการประสานงานกับหน่วยงานเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดินเดิม อาทิ สำนักงานธนารักษ์ กรมป่าไม้ กรมที่ดิน และหน่วยงานรัฐอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับการใช้ที่ดินสาธารณะ ซึ่ง รพ.สต. และ สอน. ตั้งอยู่ เพื่อให้การขออนุญาตใช้พื้นที่เป็นไปโดยถูกต้องตามระเบียบ

สถานการณ์ปัจจุบันของที่ดิน “รพ.สต. – สอน.” ในพื้นที่เชียงราย

จากข้อมูลเบื้องต้น องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงรายมีสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาฯ และ รพ.สต. อยู่ในความรับผิดชอบทั้งสิ้น 211 แห่ง ซึ่งล้วนแต่ประสบปัญหาที่ดินยังไม่ได้รับการจัดการด้านเอกสารสิทธิ์อย่างสมบูรณ์ โดยในจำนวนนี้ มีหลายแห่งตั้งอยู่บนที่ดินของหน่วยงานรัฐหลากหลายประเภท เช่น

  • ที่ราชพัสดุ (สำนักงานธนารักษ์)
  • ที่ดินป่าสงวน (กรมป่าไม้)
  • พื้นที่ ส.ป.ก. (สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม)
  • ที่ดินศาสนสมบัติ (สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ)
  • ที่ดินของโรงเรียน หรือการไฟฟ้าฯ
  • ที่ดินเอกชนที่ชาวบ้านบริจาค

แต่ละกรณีล้วนมีข้อจำกัดเฉพาะ ซึ่งส่งผลต่อความล่าช้าในการขออนุญาตใช้พื้นที่ รวมถึงกระบวนการถ่ายโอนสิ่งปลูกสร้าง

ปัญหาเชิงระบบจากการถ่ายโอนภารกิจ

การถ่ายโอนภารกิจของ รพ.สต. และ สอน. จากกระทรวงสาธารณสุขมายังองค์การบริหารส่วนจังหวัด ตามนโยบายกระจายอำนาจ เป็นแนวทางที่รัฐมุ่งหวังให้เกิดความคล่องตัวและยืดหยุ่นมากขึ้นในระดับพื้นที่

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) พบว่า ภายหลังการถ่ายโอน มีสถานพยาบาลทั้งประเทศกว่า 4,452 แห่ง ที่ อบจ. ได้รับผิดชอบ โดยมีปัญหาด้านกรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมากถึง กว่า 90%

อบจ.เชียงรายเอง กำลังเผชิญกับสถานการณ์เดียวกัน โดยพบว่า หน่วยงานเจ้าของภารกิจเดิมยังไม่จัดทำเอกสารสิทธิ์ให้ครบถ้วน เช่น ยังไม่ขึ้นทะเบียนสิ่งปลูกสร้าง ส่งคืนสำนักงานธนารักษ์ หรือยังไม่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ในพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน

สาเหตุหลักของอุปสรรคในการอนุญาตใช้ที่ดิน

  1. การไม่มีเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่เดิม: อาคารบางแห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ยังไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ์ หรือยังไม่มีการรังวัดเขตแน่นอน เช่น พื้นที่บริจาคจากชาวบ้าน หรือที่ราชพัสดุที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียน
  2. หน่วยงานเดิมยังไม่ส่งมอบข้อมูลครบถ้วน: บางกรณีสิ่งปลูกสร้างยังไม่มีการขึ้นทะเบียนตามแบบฟอร์ม ทบ.6 หรือไม่มีหนังสือรื้อถอนจากเจ้าของเดิม ส่งผลให้หน่วยงานรับโอนอย่าง อบจ. ไม่สามารถดำเนินการต่อได้
  3. ขั้นตอนการขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าสงวนมีความซับซ้อน: การดำเนินการต้องได้รับอนุมัติจากกรมป่าไม้ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาหลายชั้น ตั้งแต่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ จนถึงกรมส่วนกลาง

ความมุ่งมั่นของนายก อบจ.เชียงราย

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย ย้ำในที่ประชุมว่า “อบจ.เชียงรายจะเร่งประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การขออนุญาตใช้ที่ดินสถานพยาบาลเหล่านี้ เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และเร็วที่สุด เพราะนี่ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสาร แต่คือคุณภาพชีวิตของประชาชน”

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ สำนักช่าง อบจ.เชียงราย เร่งจัดทำผังบริเวณ รังวัดที่ดิน และจัดเตรียมเอกสารประกอบคำขออย่างครบถ้วน พร้อมประสานงานกับสำนักงานธนารักษ์ และสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้จังหวัด เพื่อเร่งรัดขั้นตอนการอนุญาต

ความสำคัญของ รพ.สต. และ สอน. ต่อระบบสุขภาพไทย

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษาฯ (สอน.) เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ ที่ประชาชนพึ่งพาเป็นด่านหน้าในการดูแลสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพแม่และเด็ก ดูแลผู้สูงอายุ ตลอดจนการส่งต่อผู้ป่วยในระบบสาธารณสุข

หากสถานพยาบาลเหล่านี้ไม่สามารถใช้อาคารหรือที่ดินได้อย่างถูกต้อง ย่อมกระทบต่อคุณภาพบริการและความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง

ข้อเสนอเชิงนโยบายและแนวทางขับเคลื่อนในอนาคต

เพื่อให้การแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างยั่งยืน จำเป็นต้องมีแนวทางดังนี้

  • สร้างระบบฐานข้อมูลกลางที่เชื่อมโยงกันระหว่าง สถ. – สธ. – ธนารักษ์ – ป่าไม้ เพื่อให้การดำเนินงานโปร่งใสและไม่ซ้ำซ้อน
  • เร่งจัดทำร่างระเบียบกลางว่าด้วยการถ่ายโอนและการใช้ประโยชน์ในที่ราชการร่วมกัน เพื่อลดภาระการขออนุญาตรายกรณี
  • เสนอแก้ไขกฎหมายบางประการที่เป็นอุปสรรค เช่น พ.ร.บ.ป่าไม้, พ.ร.บ.ที่ราชพัสดุ เพื่อให้เอื้อต่อภารกิจด้านสาธารณสุขในพื้นที่ห่างไกล

สถิติที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาข่าว

  • ข้อมูลจาก กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ณ ต้นปี 2568 ระบุว่า มีสถานพยาบาล (รพ.สต. – สอน.) ที่ได้รับการถ่ายโอนจากกระทรวงสาธารณสุข จำนวนทั้งสิ้น 4,452 แห่ง ทั่วประเทศ
  • จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่า มากกว่า 90% ของสถานพยาบาลที่ถ่ายโอน ยังไม่ได้รับการจัดการเรื่องเอกสารสิทธิ์ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างให้ถูกต้อง
  • ในจังหวัดเชียงราย อบจ.มีความรับผิดชอบดูแลสถานพยาบาลที่ถ่ายโอนแล้วถึง 211 แห่ง ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการแก้ไขปัญหาในลักษณะเดียวกัน
  • รายงานจาก กรมป่าไม้ ระบุว่า พื้นที่ป่าอนุรักษ์และป่าสงวนแห่งชาติครอบคลุมกว่า 38% ของพื้นที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคหลักของการใช้ประโยชน์พื้นที่ในหลายจังหวัด

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.), หนังสือด่วนมาก ลงวันที่ 6 มกราคม 2568
  • กรมป่าไม้, รายงานพื้นที่ป่าประเทศไทย ปี 2566
  • สำนักงานธนารักษ์จังหวัดเชียงราย
  • องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (การประชุมวันที่ 8 เมษายน 2568)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News