สารหนูในแม่น้ำกก เกินค่ามาตรฐาน สัตว์น้ำตายปริศนา คนเชียงรายผวา

พบสารพิษในแม่น้ำกก ชาวบ้านไม่กล้าใช้น้ำ

เชียงราย,เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2568 – สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) หรือ สคพ.1 ได้เผยผลตรวจวิเคราะห์น้ำและตะกอนดินจากแม่น้ำกกในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย พบปริมาณ “สารหนู” เกินมาตรฐานทั้ง 3 จุด

หนึ่งในพื้นที่ตรวจวัดคือบริเวณเชิงสะพานแม่ฟ้าหลวง บ้านน้ำลัด อ.เมือง จ.เชียงราย พบค่าปนเปื้อน 0.012 มิลลิกรัมต่อลิตร ขณะที่ค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร สังเกตเห็นว่าน้ำในแม่น้ำยังคงมีสีขุ่นแดง และไม่มีชาวบ้านลงเล่นน้ำหรือหาปลาเช่นเคย

เริ่มพบสัตว์น้ำลอยตายริมฝั่ง

ชาวบ้านรายงานว่าพบลูกเต่าน้ำจืดและปลาจำนวนหนึ่งลอยตายเกยฝั่ง ยังไม่มีคำยืนยันถึงสาเหตุที่ชัดเจน แต่ชาวบ้านเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับสารปนเปื้อนดังกล่าว

นายอภิชิต ปันวิชัย อายุ 51 ปี ชาวบ้านชุมชนน้ำลัด ระบุว่า “ปกติพวกเราจะใช้น้ำจากแม่น้ำกกทั้งกิน ทั้งใช้ และทำมาหากินมาตลอด แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ ไม่มีใครกล้าแตะน้ำอีกเลย แม้กระทั่งการประมงพื้นบ้านก็ต้องหยุดหมด”

เรียกร้องรัฐไทย-เมียนมา ร่วมมือแก้ปัญหา

ประชาชนในพื้นที่ต้องการให้รัฐบาลไทยประสานกับรัฐบาลเมียนมาอย่างเร่งด่วน เพื่อควบคุมและตรวจสอบการทำเหมืองหรือกิจกรรมอื่นๆ ทางตอนเหนือของแม่น้ำ ซึ่งอาจเป็นต้นตอของมลพิษที่ไหลลงสู่แม่น้ำกก

ภาครัฐในพื้นที่ได้รับคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย นายชรินทร์ ทองสุข ให้เพิ่มความถี่ในการเก็บตัวอย่างน้ำตลอดแนวแม่น้ำกก ตั้งแต่รอยต่อกับ จ.เชียงใหม่ ไปจนถึงปลายน้ำที่ อ.เชียงแสน ก่อนแม่น้ำกกจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง

สั่งตรวจสอบระบบประปาและแหล่งใช้น้ำทุกประเภท

ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายยังมีคำสั่งให้สำนักงานสาธารณสุข การประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมสำรวจแหล่งใช้น้ำในกิจกรรมต่างๆ ทั้งอุปโภค บริโภค เกษตรกรรม และอุตสาหกรรม เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ โดยให้สรุปภายในวันที่ 9 เมษายน 2568

สคพ.1 แนะนำให้มีการตรวจคุณภาพน้ำอย่างต่อเนื่อง เดือนละ 1-2 ครั้ง และหากมีอาการผิดปกติหลังสัมผัสน้ำ เช่น ผื่น อาเจียน ควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว

กรมควบคุมมลพิษเผยคุณภาพน้ำ “เสื่อมโทรม”

ผลการตรวจวิเคราะห์ของ สคพ.1 ร่วมกับหลายหน่วยงาน พบว่าคุณภาพน้ำแม่น้ำกก ณ จุดตรวจ 3 จุดใน อ.แม่อาย มีค่าคุณภาพน้ำอยู่ในระดับ “เสื่อมโทรม” ได้แก่

  • BOD (สารอินทรีย์ในน้ำเสีย) เกินมาตรฐานทั้ง 3 จุด
  • แบคทีเรียโคลิฟอร์มและฟีคอลโคลิฟอร์ม สูงเกินค่ากำหนด บ่งชี้ถึงน้ำเสียจากชุมชน
  • แอมโมเนีย สูงจากการย่อยสลายซากพืชซากสัตว์
  • ค่าความขุ่น สูงถึง 988 NTU ที่ชายแดนไทย-พม่า (มาตรฐานไม่เกิน 100 NTU)

พบสารหนูและตะกั่วเกินมาตรฐาน

  • ตะกั่ว (Pb) พบเกินมาตรฐานในจุดที่ติดชายแดน มีค่า 0.076 มิลลิกรัมต่อลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 0.05)
  • สารหนู (As) พบเกินทุกจุด ตรวจพบสูงสุด 0.026 มิลลิกรัมต่อลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 0.01)

การได้รับสารหนูและตะกั่วอย่างต่อเนื่อง อาจทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบประสาท ระบบขับถ่าย และเสี่ยงเป็นมะเร็งในระยะยาว

คำเตือนต่อประชาชน

กรมควบคุมมลพิษแจ้งเตือนประชาชนให้ หลีกเลี่ยงการดื่มหรือสัมผัสน้ำจากแม่น้ำกกโดยตรง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งประเมินความเสี่ยง และปรับระบบการบำบัดน้ำประปาให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด

ความเห็นจากสองฝ่ายแบบเป็นกลาง

ฝ่ายชาวบ้าน: ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน หวั่นผลกระทบต่อวิถีชีวิตและสุขภาพของลูกหลานในอนาคต

ฝ่ายรัฐ: ยืนยันเร่งแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ พร้อมประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน

สถิติและแหล่งข้อมูลอ้างอิง

  • ค่า BOD แม่น้ำกก เฉลี่ย 5.2 มก./ลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 4)
  • ปริมาณสารหนูเฉลี่ย 0.012-0.026 มก./ลิตร (มาตรฐานไม่เกิน 0.01)
  • รายงานคุณภาพน้ำปี 2567 จากกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าแม่น้ำกกอยู่ในลำดับที่ 8 จาก 10 แหล่งน้ำที่เสื่อมโทรมที่สุดในภาคเหนือ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • กรมควบคุมมลพิษ (www.pcd.go.th)
  • สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 เชียงใหม่
  • สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News