17 ธันวาคม 2566 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดอาคารรังสีรักษา โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ จ.เชียงราย โดยมี พญ.นวลสกุล บำรุงพงษ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะผู้บริหารร่วม
 
          นพ.ชลน่านกล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดให้ “มะเร็งครบวงจร” เป็น 1 ในนโยบายมุ่งเน้นที่ต้องเร่งรัดดำเนินการ ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การส่งเสริมป้องกัน คัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษา และดูแลฟื้นฟูกายใจ โดยเฉพาะในมะเร็ง 5 ชนิด ที่พบมากและเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ ของคนไทย และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ได้แก่ มะเร็งตับ มะเร็งท่อน้ำดี มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง มะเร็งเต้านม และมะเร็งปากมดลูก ซึ่งการเปิดศูนย์รังสีรักษา โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ พร้อมมีทีม Cancer Warrior ช่วยดูแล เพิ่มความรอบรู้ สร้างพฤติกรรมป้องกันมะเร็งให้กับประชาชนจังหวัดเชียงราย ตามแนวทาง Quick Win “มะเร็งครบวงจร” จะช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งของจังหวัดเชียงรายและจังหวัดพะเยา ที่มีประมาณ 2,400 ราย/ปี ซึ่งครึ่งหนึ่งจำเป็นต้องรับการรักษาด้วยการฉายรังสี (ข้อมูล 3 ปีย้อนหลัง) ได้เข้าถึงบริการ ลดการกลับเป็นซ้ำของโรคมะเร็ง และบรรเทาอาการของโรคในระยะแพร่กระจาย ส่งผลให้มีโอกาสหายจากโรคมะเร็งได้มากขึ้น ทั้งยังเป็นการอำนวยความสะดวก ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางอีกด้วย
 
          ด้าน พญ.อัจฉรา ละอองนวลพานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ กล่าวว่า โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาด 758 เตียง รับผิดชอบผู้ป่วยโรคมะเร็งจังหวัดเชียงรายและพะเยา โดยมะเร็งที่พบบ่อยในเพศชาย ได้แก่ 1.มะเร็งตับ 2.มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง 3.มะเร็งปอด ส่วนในเพศหญิงพบมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ตามลำดับ ส่วนมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายสูงสุด คือ มะเร็งปอด มะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งเต้านม ตามลำดับ ซึ่งเดิมผู้ป่วยที่ต้องรับการรักษาด้วยรังสี ส่วนใหญ่ประมาณ 900 รายต่อปี ต้องไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งลำปาง ทำให้มีผู้ป่วยประมาณร้อยละ 25 ที่ไม่เดินทางไปรับการรักษา เนื่องจากมีภาระด้านค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ประมาณ 15,000 บาทต่อราย โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์จึงได้ก่อสร้างอาคารรังสีรักษา 6 ชั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 123,900,000  บาท เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งได้เข้าถึงบริการด้านรักษา ลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ป่วยและครอบครัว โดยได้เริ่มทยอยเปิดใช้งานตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา
 
          นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาศักยภาพบุคลากรในการให้บริการด้านรังสีรักษา และพัฒนาระบบสารสนเทศรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างสถานบริการในเครือข่าย เพื่อความต่อเนื่องในการดูแลผู้ป่วย และนำข้อมูลมาใช้ในการบริหารจัดการระบบและบริการแบบเบ็ดเสร็จ เพื่อประสิทธิภาพการบริการและคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน
 

โดยทางด้าน “หมอเอก”  นายแพทย์ เอกภพ เพียรพิเศษ เฟซบุ๊ก หมอเอก Ekkapob Pianpises ได้โพสต์ข้อความเล่าเรื่องเกี่ยวกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดศูนย์รังสีรักษา โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ดูแลผู้ป่วยมะเร็งชาวเชียงราย-พะเยา ช่วยผู้ป่วยเข้าถึงการฉายรังสีประมาณ 1,200 รายต่อปี พร้อมจัดทีม Cancer Warrior เพิ่มความรอบรู้ สร้างพฤติกรรมป้องกันมะเร็ง ว่า

ข่าวดีสุดๆ !!!!!!! จากนี้ไปชาวเชียงรายไม่ต้องลำบากข้ามเขาไปรักษามะเร็งถึงที่ลำปาง ที่เชียงใหม่แล้ว !!!!!
อาคารรักษามะเร็ง พร้อมทีมบุคลากรรักษามะเร็ง และเครื่องมือรักษามะเร็งพร้อมสำหรับชาวเชียงรายและจังหวัดใกล้เคียงแล้วครับ
 
และในเดือนมีนาคม-เมษายน เครื่องรักสีรักษามะเร็งจะได้มาติดตั้งพร้อมให้การรักษาแล้วครับ
ต่อจากนี้คนไข้มะเร็งและครอบครัวไม่ต้องเลือกอีกแล้วว่าจะต้องเดินทางไปรักษาไกลบ้าน หรือต้องยอมยุติการรักษาเพื่อไม่ต้องเป็นภาระของครอบครัว
 
อีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้เคยนำเสนอปัญหาของผู้ป่วยมะเร็งในพื้นที่ให้กับ #พี่หนู ในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
 
ร่วมกับการขับเคลื่อนของผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทั้งในสมัยพี่ไชยเวช มาถึงสมัยพี่อัจฉรา และนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และการสนับสนุนของผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หรือที่ชาวเชียงรายเรียกว่า โฮงยาไทย ได้มีการพัฒนาศักยภาพเพื่อ คุณภาพชีวิตที่ดีของชาวเชียงราย
 
วันนี้ขณะนั่งร่วมอยู่ในพิธีเปิดอาคาร ผมมีความรู้สึกดีใจและอิ่มใจกับอาคารที่จะช่วยชีวิตชาวเชียงรายต่อเนื่องไปอีกนาน 
 
 

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : กระทรวงสาธารณสุข

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME