
เชียงราย, 13 สิงหาคม 2568 — “ถ้าปลายปีเชียงรายไม่จัด ‘เทศกาลดอกไม้’ ควรเปลี่ยนเป็นเทศกาลอะไรดี?” คำถามปลายเปิดจากเพจ นครเชียงรายนิวส์ โพสต์เมื่อ 10 สิงหาคม กลายเป็นจุดสตาร์ทย่อยๆ ที่ปลุกให้คนเมืองและชาวเชียงรายบางส่วนได้ออกมาแสดงความเห็นแบบหลากหลายทั้งสนับสนุนให้จัดต่อ ปรับรูปแบบ หรือเปลี่ยนใหม่ไปเลย สะท้อนความคาดหวังต่ออนาคตเศรษฐกิจท่องเที่ยวท้องถิ่นในฤดูไฮซีซันปลายปี
เพียงไม่กี่ชั่วโมง โพสต์ดังกล่าวมียอดแสดงความเห็นรวม 472 คอมเมนต์ พร้อมปฏิกิริยาและการแชร์อีกจำนวนมาก แม้จะเป็น “แบบสำรวจไม่เป็นทางการ” แต่ปริมาณการมีส่วนร่วมที่สูงพอสะท้อนพลังการถกเถียงที่กว้างขวางและสำคัญยิ่งสำหรับหน่วยงานที่กำลังคลิกเครื่องวางแผนงบประมาณ และโปรแกรมกิจกรรมฤดูท่องเที่ยวปลายปีของจังหวัด
จาก 472 ความเห็น 5 เส้นเรื่องใหญ่
เมื่อนำสาระจากคอมเมนต์ทั้งหมดมาคลี่เป็นประเด็น จะพบ “5 เส้นเรื่อง” ที่ประชาชนพูดถึงมากที่สุด เรียงจากมากไปน้อย ดังนี้
คำถามชวนคิด: เมื่อเสียงส่วนหนึ่งเรียกร้องให้โยกงบเทศกาลไปแก้ “พื้นฐานเมือง” และอีกส่วนอยากได้ “งานแม่เหล็ก” เพื่อรายได้ช่วงไฮซีซันเชียงรายจะสร้าง “ดุลยภาพ” ระหว่าง คุณภาพชีวิตคนเมือง กับ ภาพจำปลายปี ได้อย่างไร?
ภูมิทัศน์ท่องเที่ยวตัวเลขบอกอะไรเรา
ระดับประเทศ. ปี 2567 (ค.ศ.2024) ไทยต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติราว 35.54 ล้านคน รายได้รวมจากการท่องเที่ยว (ต่างชาติ + ไทยเที่ยวไทย) ประมาณ 2.62 ล้านล้านบาท สัญญาณฟื้นตัวชัดเจนเมื่อเทียบปีก่อน แม้ยังต่ำกว่าเป้าหมายบางหน่วยงาน แต่สะท้อนอุปสงค์กลับมาเด่นชัดและฐานเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยยังแข็งแรงในภาพรวม
ระดับจังหวัด. ฝั่งเชียงรายเอง ข้อมูลอัปเดตจากภาครัฐระบุว่า รายได้จากการท่องเที่ยวปี 2567 ติดท็อป 10 ของประเทศ อยู่ที่ประมาณ 49,420 ล้านบาท (อันดับ 9) แสดงศักยภาพของเมืองที่ไม่ได้พึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างเดียว แต่ยืนบนฐานนักท่องเที่ยวไทยและเส้นทาง-ประสบการณ์หลากหลายที่กระจายทั่วทั้งจังหวัด
สัญญาณอื่นๆ ที่นักท่องเที่ยวสนใจเชียงราย. เมืองยังมี “สินทรัพย์วัฒนธรรม-ธรรมชาติ-งานศิลป์” เป็นแม่เหล็ก ทั้ง วัดร่องขุ่น และ พิพิธภัณฑ์บ้านดำ ที่ยืนยันภาพ “เมืองศิลปะร่วมสมัย” ควบคู่กับแลนด์สเคปภูเขา ไร่ชา และวิถีชนเผ่า
ปฏิทินเทศกาลจาก “ดอกไม้ปลายปี” สู่พหุเทศกาล
เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบาย ควรเห็นภาพ “แพลตฟอร์มเทศกาล” ทั้งปีโดยเฉพาะ ครึ่งหลังของปี ที่เป็นหน้าหนาวและท่องเที่ยวคึกคัก
แกนคิดสำคัญ การบริหารพอร์ตอีเวนต์ที่ ไม่ทับซ้อนกัน และ ไม่กินงบกันเอง จึงสำคัญกว่าการถกเถียงแบบ “เอา-ไม่เอา” งานใดงานหนึ่ง
มิติความปลอดภัย เหตุผลที่ “เชียงราย” น่าสนใจในสายตาโลก
ปัจจัยความปลอดภัย โดยเฉพาะ ความปลอดภัยเชิงเพศสภาพ กำลังกลายเป็นตัวชี้ขาดเส้นทางการท่องเที่ยวและการอยู่นานของดิจิทัลโนแมด งานศึกษาของ Holidu (แพลตฟอร์มท่องเที่ยวในยุโรป) จัดทำ ดัชนีเมืองที่ปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยวดิจิทัลโนแมดหญิง จากหลายปัจจัย เช่น ความปลอดภัยเวลาเดินคนเดียวกลางคืน ความเป็นมิตรต่อผู้หญิง/ชาวต่างชาติ อัตราส่วนเพศในชุมชนโนแมด และกฎหมายคุ้มครองจากการคุกคามในที่ทำงาน—โดยผลลัพธ์หนึ่งระบุว่า เชียงรายติดอันดับ 2 ของโลก รองจากไทเป ในปีล่าสุดที่มีการเผยแพร่ ซึ่งเป็น “ตราประทับ” ด้านภาพลักษณ์ความปลอดภัยที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับการตลาดเมืองในยุคโนแมดกำลังเติบโต
นอกจากภาพลักษณ์ระดับโลก สิ่งที่หน่วยงานท้องถิ่นทำได้ทันที คือการ ย้ำมาตรการความปลอดภัยผ่านบริการที่จับต้องได้ เช่น ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (Tourist Assistance Center) และงานตำรวจท่องเที่ยวเชิงรุกในย่านท่องเที่ยว/งานเทศกาล ตลอดจนการสื่อสารหลายภาษาเพื่อแปลง “อันดับ” ให้เป็น “ประสบการณ์จริง” ของผู้มาเยือน
ข้อเสนอทางปฏิบัติ (เชิงความปลอดภัยงานเทศกาล)
ทางเลือกเชิงนโยบายเมื่อ “เทศกาล” คือเครื่องมือ ไม่ใช่เป้าหมาย
1) โมเดล “เทศกาลหลัก 1 + ดาวเทียมหลายจุด”
แทนที่จะจัดหลายเทศกาลใหญ่ทับซ้อนในเมืองเดียว เสนอให้ยกระดับ “งานดอกไม้” เป็น Flagship ที่เดียว ยกระดับคุณภาพการจัด-ระบบจราจร-การเข้าถึง-ศิลปกรรมร่วมสมัยและใช้ “งานดาวเทียม” กระจายรอบจังหวัดเชื่อม ชุมชนกาแฟ-ศิลปะ-ชาติพันธุ์ ให้เกิด เส้นทางท่องเที่ยว ที่คนใช้เวลาในจังหวัดได้นานขึ้น และกระจายรายได้ดีขึ้นพร้อมขนส่งสาธารณะเฉพาะกิจช่วงพีกที่เชื่อมตัวเมืองกับจุดกระจาย
2) จัดสรรงบ “เทศกาล 70: เมือง 30”
ตอบโจทย์สองฝ่ายด้วยการกันงบ 30% เพื่อโครงสร้างพื้นฐานด่วน ในย่านท่องเที่ยวที่ชาวบ้านใช้งานจริง ฟุตพาท ทางข้ามคนเดินเท้า ไฟส่องสว่าง กล้องฯ และระบายน้ำ โดยสื่อสารให้สังคมเห็น “ผลงานจับต้องได้” ควบคู่แผนงานเทศกาลจะช่วยลดแรงเสียดทานทางสังคมและสร้างทุนทางความไว้วางใจ
3) เทศกาลเนื้อหา (Content Festival) แทนงานก่อสร้างหนาแน่น
ลดการใช้ดอกไม้สดจำนวนมาก เพื่อความยั่งยืนและต้นทุนหันไปเน้น คอนเทนต์ศิลปะเทคโนโลยีแสงเสียงเรื่องเล่าเมือง และ อีเวนต์เชิงความรู้ เช่น เสวนา “เมืองศิลปะและท่องเที่ยวยั่งยืน” เวิร์กช็อปศิลปะร่วมสมัย เวทีโชว์งานคราฟต์ชาติพันธุ์สิ่งเหล่านี้ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าการตกแต่งมวลดอกไม้ แต่ให้ “คุณค่าจดจำ” สูงกว่าและยืดอายุการใช้งานเนื้อหาออนไลน์
4) การตลาดเชิงหัวข้อใหม่ (New Angles)
ต่อยอดความปลอดภัยและภาพลักษณ์ “เมืองทำงานได้เที่ยวง่าย” ด้วยแพ็กเกจ Workation/Remote Year สำหรับกลุ่มดิจิทัลโนแมดหญิงและครอบครัว โรงเรียนระยะสั้น ค่ายเด็ก กิจกรรมธรรมชาติควบคู่การสื่อสาร “Safety First City”—ให้เชียงรายเป็น จุดหมายปลายทางที่รู้สึกปลอดภัย ตั้งแต่วินาทีที่วางแผนจนกลับบ้าน
ประชาชนได้อะไร ถ้าตัดสินใจ “ถูกแกน” ตั้งแต่วันนี้
เมืองเดินได้-อยู่ดีขึ้น งบเทศกาลที่ออกแบบควบคู่การซ่อมเมือง จะทำให้ฟุตพาท ทางข้าม และไฟส่องสว่างดีขึ้นถาวรประชาชนใช้ได้ทุกวัน มิใช่เฉพาะช่วงอีเวนต์ รายได้กระจายไป “รอบนอก” เมื่อเทศกาลหลักโยงเส้นทางนอกเมือง ไร่ชา ดอย ชุมชนกาแฟ ชาติพันธุ์ ร้านเล็กๆ โฮมสเตย์ และบริการขนาดย่อมจะมีลูกค้าเพิ่มเงินกระจายกว้างขึ้น ลดการกระจุกตัว ภาพจำจังหวัดชัดขึ้น เชียงรายไม่เพียง “สวยเพราะดอกไม้” แต่ “สวยเพราะเรื่องเล่าศิลปะวัฒนธรรมปลอดภัย” ซึ่งแปลงเป็นข้อได้เปรียบระยะยาว ดึงคนคุณภาพและกลุ่มครอบครัวกลับมาเยือนซ้ำต้นทุนสิ่งแวดล้อมลดลง การย้ายจาก “มหกรรมดอกไม้สดมวลมาก” ไปสู่ “คอนเทนต์เทคโนโลยีศิลปะร่วมสมัย” ช่วยลดขยะ ลดการใช้น้ำ ลดพลังงาน และทำให้งาน “สเกลได้” โดยไม่ขยายภาระ
มอนิเตอร์ภาพลักษณ์ออนไลน์
โพสต์ถามใจคนเชียงรายเพียงหนึ่งโพสต์จุดกระแสให้เห็น “เส้นเลือดใหญ่ของเมือง” ที่วิ่งควบคู่กันอยู่เสมอ คือ เศรษฐกิจ-วัฒนธรรม-คุณภาพชีวิต ถ้าต้องเลือกระหว่าง “จัดไม่จัด” เทศกาลคำตอบอาจเป็น “จัดให้ตรงแกน” มากกว่าจัดแบบพอเหมาะ พอเพียง สื่อสารเรื่องเล่าของเมืองอย่างมีสไตล์ เชื่อมเส้นทางเที่ยวทั้งจังหวัด เกลี่ยงบไปซ่อมเมืองที่คนใช้จริง และตอกย้ำมาตรการความปลอดภัย เพื่อให้ “ประสบการณ์จริง” สอดคล้องกับ “ภาพลักษณ์โลก” ที่เชียงรายได้บนเวทีสากล
ท้ายที่สุด เทศกาลคือ เครื่องมือ ไม่ใช่ เป้าหมายเครื่องมือที่ดีต้องทำให้คนอยู่ดีขึ้น เมืองยั่งยืนขึ้น และเศรษฐกิจกระจายกว้างขึ้น หากเชียงรายจัดสมดุลสามขานี้ได้ตั้งแต่ปลายปีนี้ เมืองก็มีสิทธิ์กลายเป็น ต้นแบบการจัดเทศกาลเชิงคุณภาพ ของภาคเหนือได้อย่างเต็มภาคภูมิ
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.