
เชียงราย, 16 สิงหาคม 2568 – ฤดูส้มโอของอำเภอเวียงแก่นกำลังเดินหน้าเต็มกำลัง ผลผลิตทยอยออกสู่ตลาดต่อเนื่องตั้งแต่กลางฤดูฝนถึงต้นฤดูหนาว ขณะที่ราคาในประเทศเผชิญแรงกดดันจากปริมาณผลไม้ที่ออกมาพร้อมกัน จำนวนมากของผลผลิตสะท้อนทั้ง “ความสำเร็จเชิงเกษตร” และ “โจทย์ใหญ่เชิงการตลาด” ในคราวเดียวกัน ท่ามกลางความท้าทายนี้ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายเดินเกมเชิงรุก เปิดกิจกรรม “Kick off เปิดตลาดส้มโอเวียงแก่นผ่านระบบออนไลน์” เชื่อมตรงชาวสวนกับผู้บริโภค พร้อมสนับสนุน กล่องกรมการค้าภายใน (DIT) และบริการ จัดส่ง EMS ฟรีผ่านไปรษณีย์ไทย เพื่อเร่งระบายผลผลิต ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเพิ่มทางเลือกให้เกษตรกรในช่วงเวลาสำคัญของปี โดยมีการทยอยส่งมอบวัสดุบรรจุภัณฑ์ให้พื้นที่ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา และเดินหน้าจัดสรรโควตา “ส่งฟรี” ให้ชุมชนปลูกส้มโออย่างเป็นระบบ
ภาพใหญ่ของฤดูกาล ผลผลิตกำลัง “พีก” ขณะที่ราคาถูกแรงกดดัน
ฤดูกาลส้มโอเวียงแก่นโดยปกติเริ่มตั้งแต่ มิถุนายน–ตุลาคม ของทุกปี ทำให้ช่วง กรกฎาคม–กันยายน เป็นหน้าระบายผลผลิตที่คึกคักที่สุด ทั้งตลาดภายในและต่างประเทศ ในเชิงพื้นที่ เวียงแก่นถือเป็น “หัวเมืองส้มโอ” ของเชียงราย มีการปลูกกระจายหลายตำบล โดยเฉพาะ พันธุ์ทองดี และ พันธุ์ขาวใหญ่ ซึ่งเป็นพันธุ์หลักของภาคเหนือ ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐระดับจังหวัดเคยชี้ให้เห็นแนวโน้มผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากในช่วงพีก และราคามีโอกาสอ่อนตัว จึงต้องเร่งใช้มาตรการด้านการตลาดเชิงรุกควบคู่กับการคุมคุณภาพผลผลิตให้ได้มาตรฐานส่งออกอย่างต่อเนื่อง
ไม่เพียงเท่านั้น ฐานข้อมูลทางการของจังหวัดและหน่วยงานข่าวภาครัฐยังสะท้อน “น้ำหนัก” ของสินค้าเกษตรตัวนี้ไว้ชัด—เวียงแก่นมีพื้นที่ปลูก หลายพันไร่ และเคยมีการสื่อสารเชิงนโยบายระดับจังหวัดว่าผลผลิตรวม แตะหลักหลายหมื่นตันต่อปี ยืนยันสถานะ “พืชเศรษฐกิจ” ที่ขับเคลื่อนรายได้ครัวเรือนในพื้นที่ชายแดนโขงตอนบน พร้อมกันนั้น จังหวัดยังผลักดัน “งานเทศกาลส้มโอเวียงแก่น” เป็นแม่เหล็กตลาดและการท่องเที่ยวเป็นประจำช่วงปลายสิงหาคมของทุกปี เพื่อเร่งยอดบริโภคสดและช่องทางค้าปลีกในประเทศควบคู่ไปกับตลาดส่งออก
กลไก “ส่งฟรี” ที่ลงมือจริง จากกล่อง DIT ถึง EMS ผลไม้
หัวใจของมาตรการระบายผลผลิตปีนี้คือ “การลดต้นทุนเข้าเส้นเลือด” ให้ชาวสวนขายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่พึ่งพาคนกลางมากเกินไป สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายจึงเร่งส่งมอบ กล่องผลไม้ DIT ที่ออกแบบเพื่อขนส่งผลไม้สดโดยเฉพาะ และจับมือ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดทางให้เกษตรกร ส่ง EMS ผลไม้ฟรี ตามกรอบโครงการที่ประกาศไว้ (มีระยะเวลาสิ้นสุดครอบคลุมถึงปี 2569) ทั้งนี้ เกษตรกรรับกล่องได้ที่พาณิชย์จังหวัด นำผลผลิตที่คัดเกรดแล้วบรรจุและส่งที่ไปรษณีย์ในพื้นที่ ระบบจะคิดค่าส่งตามโครงการ “0 บาท” ช่วยให้ราคาขายหน้าออนไลน์แข่งขันได้มากขึ้น และผู้บริโภคต่างจังหวัดก็เข้าถึง “ส้มโอเวียงแก่นคัดเกรด” ได้ง่ายขึ้นกว่าที่เคย
ในระดับจังหวัด เชียงรายยัง จัดสรรโควตากล่องส่งฟรี ให้ชุมชนเป้าหมาย พร้อมวางแผน “แพ็กเส้นทาง” จากศูนย์รวมผลผลิตของสหกรณ์ไปยังไปรษณีย์ เพื่อให้เคลื่อนสินค้าได้ทันช่วง พีกดีมานด์ โดยเฉพาะสัปดาห์เทศกาล—ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่พฤติกรรมผู้บริโภคต้องการ “ชิมล็อตสดใหม่” และพร้อมเปิดรับดีลออนไลน์สั้น ๆ ที่มีจุดขายชัด เช่น “ส้มโอคัด 1 ลูก 1 กล่อง” หรือ “กล่องครอบครัว 3–5 ลูก” เพื่อเพิ่มโอกาสซ้ำซื้อหลังเทศกาล
จากออฟไลน์สู่ดีจิทัล เวียงแก่นมี “ฐาน” ให้ต่อยอด
การขยับสู่ออนไลน์ปีนี้ไม่ใช่จุดเริ่มต้นจากศูนย์ ย้อนดูปี 2565 จังหวัดเคยเปิดตัว “Kick off เปิดตลาดส้มโอเวียงแก่นผ่านระบบออนไลน์” อย่างเป็นทางการแล้ว โดยใช้วิธี “ปล่อยขบวนผลผลิต” ออกจากชุมชนสู่ผู้ซื้อปลายทางผ่านระบบขนส่งพิเศษ แนวทางดังกล่าวช่วยให้ปีนี้สามารถเร่งเครื่องได้ทันที เพราะทั้งกลุ่มสหกรณ์ ร้านค้า และช่องทางโซเชียลของชาวสวนเคยผ่าน “การบ้าน” ขั้นพื้นฐานมาแล้ว จึงเหลือโจทย์การคุมคุณภาพ คัดเกรด และเล่าเรื่องแหล่งผลิตให้สอดรับกับความต้องการของผู้ซื้อยุคอีคอมเมิร์ซเท่านั้น
ในฝั่ง ภาพลักษณ์และมูลค่าเพิ่ม ภาครัฐได้ขับเคลื่อนเชิงนโยบายระยะกลาง–ยาวด้วยการผลักดัน “ส้มโอเวียงแก่น” ขึ้นทะเบียน GI (สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์) ตั้งแต่ปี 2567 เพื่อยกระดับมาตรฐาน ตลาด และการรับรู้ของผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ หากได้ GI เต็มรูปแบบ จะหนุนราคาเฉลี่ยและความสามารถแข่งขันในช่องทางพรีเมียมได้ชัดเจนยิ่งขึ้น เพราะผู้ซื้อสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาและมาตรฐานก่อนตัดสินใจบนแพลตฟอร์มออนไลน์ได้สะดวกขึ้นด้วย
“ส้มโอ” ไม่ใช่แค่ผลไม้คือโครงสร้างรายได้ของชายแดนโขงตอนบน
โครงสร้างชุมชนของเวียงแก่นพึ่งพา เกษตรเชิงภูมิอากาศ เป็นหลัก ส้มโอที่ปลูกบนดอนและพื้นที่ติดสันเขาได้รับแต้มต่อจากสภาพดิน–น้ำ–อากาศ ทำให้ได้ผลที่ “หวาน–อมเปรี้ยว–หอม” และเนื้อแน่น โดยเฉพาะพันธุ์ทองดีและขาวใหญ่ที่ “ติดตลาดส่งออก” มานาน ขณะเดียวกันการรักษามาตรฐาน GAP และระบบคัดแยกหน้าแปลงมีผลต่อ “เปอร์เซ็นต์ได้ราคา” โดยตรง หากชุมชนยกระดับ “การคัดหน้าไร่” ให้เสถียร—การขายออนไลน์แบบ “คละเกรดในกล่องเดียว” จะมีโอกาสคืนกำไรให้ชาวสวนมากขึ้น เพราะผู้บริโภคยอมรับการมีลูกใหญ่–ลูกเล็กในกล่องเดียวกันได้ หากทุกลูก “หวาน กรอบ ฉ่ำ” ตามสเป็กคุณภาพ
นอกจากนี้ ภาคธุรกิจปลายน้ำทั้ง ล้ง และผู้ส่งออกยังได้ประโยชน์ทางอ้อมจากกลไก “ส่งฟรี” เพราะ ตลาดในประเทศ ดูดซับล็อตที่ไม่เข้าเกณฑ์ส่งออกได้เร็วขึ้น ทำให้การจัดการสต็อกปลายสวนมีประสิทธิภาพ และลดแรงกดดันราคาในช่วงพีก การรักษาสมดุล ภายใน–ส่งออก จึงเป็นประเด็นยุทธศาสตร์ของปีนี้
เล่าให้เห็นภาพเส้นทาง “ลูกส้มโอ” จากเวียงแก่นถึงมือผู้ซื้อ
โครงเรื่องง่าย ๆ นี้ทำให้ “ส้มโอ” กลายเป็นสินค้าอีคอมเมิร์ซที่แข่งขันได้ เทียบชั้นผลไม้เมืองร้อนตัวอื่น ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ครองตลาดออนไลน์มานานกว่า
หมายเหตุ: โครงการ กล่อง DIT + EMS ฟรี เป็นความร่วมมือเชิงนโยบายระดับประเทศ เกษตรกรสามารถรับกล่องได้ที่พาณิชย์จังหวัด และส่งที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตามช่วงเวลาที่กำหนดในประกาศของไปรษณีย์ไทย (สิ้นสุดโครงการ 30 เม.ย. 2569)
ทำไม “ออนไลน์ + ส่งฟรี” ถึงจำเป็นในปีนี้
เสียงจากหน่วยงานและแนวทางเดินหน้าช่วงโค้งพีก
หน่วยงานพาณิชย์จังหวัดสื่อสารต่อเนื่องถึง มาตรการ 5 ช่องทาง ที่ใช้ควบคู่กัน ได้แก่ ตลาดชุมชน–อำเภอ, งานแสดงสินค้า, โมเดล “ส้มโอบินได้” สำหรับพรีเมียม, และ “ตลาดออนไลน์ผ่านกล่องกรมการค้าภายใน ส่งผ่านไปรษณีย์ไทยทั่วประเทศ” พร้อมจัดสรรโควตากล่องฟรีให้เกษตรกรอย่างเป็นธรรม ข้อมูลนี้ชี้ให้เห็นว่า “ออนไลน์” ไม่ใช่ทางเลือกเดี่ยว แต่เป็นองค์ประกอบหนึ่งของ แพ็กเกจกระจายผลผลิตทั้งระบบ ซึ่งถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ก่อนฤดูกาลจะเข้าสู่ช่วงพีก
เชิงปฏิบัติ จังหวัดยังใช้ อีเวนต์ฤดูกาล เช่น เทศกาลส้มโอเวียงแก่น เป็นตัวเร่ง “ดึงดีมานด์” ผ่านกิจกรรมชิม–ซื้อ–ส่งต่อทางออนไลน์ สร้างวงจร ออฟไลน์ > ออนไลน์ และ ออนไลน์ > ออฟไลน์ เพื่อรักษาโมเมนตัมยอดขายต่อเนื่องไปถึงปลายฤดูกาล
ชุมชน–สหกรณ์ (ช่วงสัปดาห์ทอง)
เมื่อ “ส่งฟรี” ไม่ใช่แค่โปรโมชัน แต่คือสวัสดิการตลาดของชุมชน
มาตรการ เปิดตลาดส้มโอเวียงแก่นออนไลน์ + ส่งฟรี ของเชียงรายในปีนี้ แสดงให้เห็น “งานเชิงระบบ” ที่จับต้องได้—จากการจัดสรรกล่อง DIT, การทำงานร่วมกับไปรษณีย์ไทย, การตั้งโควตา ระบายล็อตพีกด้วยอีเวนต์ฤดูกาล และการสื่อสารต่อเนื่องของหน่วยงานในพื้นที่ ผลที่เกิดขึ้นไม่เพียงช่วย “รักษาราคาเฉลี่ย” หน้าไร่ แต่ยัง ขยายฐานผู้บริโภคทั่วประเทศ ให้รู้จักแหล่งผลิตชายแดนโขงตอนบนมากขึ้น
ที่สำคัญ การผลักดัน GI “ส้มโอเวียงแก่น” ซึ่งเดินหน้าต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จะเป็นชิ้นส่วนที่ทำให้วงจรคุณภาพ–ตลาด–ราคา “ยั่งยืน” กว่าเดิม เพราะทำให้การเล่าเรื่องแหล่งผลิตบนแพลตฟอร์มออนไลน์น่าเชื่อถือยิ่งขึ้น เมื่อรวมกับ โครง “ส่งฟรี” ที่ลดต้นทุนโลจิสติกส์ “ถึงมือผู้ซื้อ” ได้จริง สมการนี้จึงส่งสัญญาณเชิงบวกต่อ รายได้ชาวสวน และ เศรษฐกิจฐานรากของเชียงราย ในฤดูกาลนี้
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.