
เชียงราย, 10 สิงหาคม 2568 – วิกฤตราคาผลไม้ในเชียงรายปี 2568 สะท้อนปัญหาซ้ำซากเรื่องผลผลิตล้นตลาดและต้นทุนขนส่งสูง เกษตรกรรายย่อยเผชิญอำนาจต่อรองจำกัด ขณะเดียวกันพฤติกรรมผู้บริโภคหันมาซื้อออนไลน์มากขึ้น โอกาสจึงอยู่ที่ “เข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง” เพื่อลดชั้นกลางและเพิ่มรายได้สุทธิ กิจกรรม “Kick off มอบกล่องไปรษณีย์ช่วยเหลือเกษตรกร” และ 6 มาตรการเชิงรุกของจังหวัด มุ่งปลดล็อกประเด็นคอขวดทั้งฝั่งตลาด การรวบรวมผลผลิต และโลจิสติกส์ จุดแข็งคือความร่วมมือรัฐ–เอกชน และเครื่องมือโลจิสติกส์ที่จับต้องได้ อย่างไรก็ดี ความสำเร็จจะยั่งยืนเมื่อมีการสื่อสารคุณภาพสินค้า การติดตามคำสั่งซื้อ และบริหารอุปทานอย่างสมดุล ทั้งหมดนี้ชี้ว่าประชาชนทั่วไปได้ประโยชน์จากราคาที่เป็นธรรมและการเข้าถึงผลไม้คุณภาพถึงหน้าบ้าน
พาณิชย์เชียงราย “คิกออฟกล่องไปรษณีย์ช่วยเกษตรกร” ดันลำไย–ส้มโอพ้นวิกฤตราคาตก
สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงรายเปิดกิจกรรม “Kick off มอบกล่องไปรษณีย์ช่วยเหลือเกษตรกรจังหวัดเชียงราย” ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัด โดยมี นายนรศักดิ์ สุขสมบูรณ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เป็นประธาน วัตถุประสงค์เพื่อเร่งกระจายผลผลิตจากสวนสู่ผู้บริโภคโดยตรง ท่ามกลางวิกฤตผลผลิตล้นตลาดและราคาตกต่ำ โดยเฉพาะ ลำไย และ ส้มโอ ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของพื้นที่
ฉากหลังวิกฤตเมื่อผลผลิตมากกว่าความต้องการ
8 สิงหาคม 2568 สถานการณ์ราคาผลไม้ในหลายอำเภออ่อนแรงลงจากอุปทานที่พุ่งสูง ขณะที่การรับซื้อของภาคเอกชนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้เกษตรกรแบกรับต้นทุนเก็บเกี่ยว แพ็กกิ้ง และขนส่ง การแทรกแซงเชิงระบบจึงจำเป็น ทั้งในมิติ “ตลาด” และ “โลจิสติกส์ระยะสุดท้าย” เพื่อพยุงราคาและรักษาคุณภาพผลผลิต
6 มาตรการเชิงรุก: จากสวนถึงมือผู้บริโภค
นางณัฐพร มหาไพบูลย์ พาณิชย์จังหวัดเชียงราย เปิดแผนบริหารจัดการผลผลิตลำไยส่วนเกินปี 2568 จำนวน 6 มาตรการ ดังนี้
“กล่องส่งฟรี” หัวใจโลจิสติกส์ระยะสุดท้าย
มาตรการเด่นคือการมอบกล่องผลไม้ขนาด 10 กก. พร้อม จัดส่งฟรี ผ่านบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ช่วยให้เกษตรกรเข้าสู่ตลาดออนไลน์ได้ทันที ลดค่าแพ็กกิ้งและค่าส่ง ซึ่งเป็นต้นทุนใหญ่ในช่วงผลผลิตออกมาก การจัดสรร 35,000 กล่อง ถูกออกแบบให้รองรับคำสั่งซื้อกระจายทั่วประเทศ สร้างเสถียรภาพด้านการระบายสินค้าในเวลาจำกัด
บทสะท้อนจากพื้นที่เมื่อรัฐ–เอกชนจับมือ
ภาพการทำงานร่วมกันระหว่างพาณิชย์จังหวัด หน่วยงานท้องถิ่น ไปรษณีย์ไทย และเครือข่ายสหกรณ์ ทำให้ “การสั่ง–แพ็ก–ส่ง” เดินหน้าอย่างเป็นระบบ เกษตรกรได้ช่องทางขายโดยตรง ผู้บริโภคได้ผลไม้สดใหม่ในราคายุติธรรม จังหวัดได้เครื่องมือระบายผลผลิตอย่างรวดเร็วในฤดูกาลสำคัญ
วิเคราะห์ผลลัพธ์ที่คาดหวัง
ระยะสั้น มาตรการช่วย พยุงราคา และ เร่งระบายของ ลดความเสี่ยงของผลไม้ค้างสต็อก ระยะกลาง การสร้างฐานลูกค้าออนไลน์และช่องทางขนส่งที่คาดการณ์ได้ จะเพิ่ม รายได้สุทธิ ให้เกษตรกร ขณะที่ภาครัฐได้ข้อมูลดีมานด์จริงเพื่อวางแผนผลิตปีต่อไป หากควบคู่ด้วยมาตรฐานคัดเกรด การติดตามพัสดุ และบริการลูกค้า จะยิ่งสร้าง ความเชื่อมั่นซ้ำซื้อ ซึ่งเป็นกุญแจของความยั่งยืน
ประชาชนได้อะไร
ผู้บริโภคเข้าถึงผลไม้คุณภาพใหม่สด ราคาตรงจากสวน ประหยัดค่าขนส่ง และได้รับความสะดวกในการรับสินค้า ทั้งแบบ ส่งถึงบ้าน และ นัดรับวันพฤหัสบดี ที่ศาลากลาง นอกจากนี้ เศรษฐกิจท้องถิ่นหมุนเวียนเร็วขึ้นจากเม็ดเงินกระจายสู่ชุมชน และลดการสูญเสียอาหารจากการตกค้าง
จังหวัดเตรียมสื่อสารอย่างต่อเนื่องเรื่องคุณภาพลำไย–ส้มโอ มาตรฐานแพ็กกิ้ง และเงื่อนไขส่งฟรี พร้อมขยายจุดรับพรีออเดอร์ในอำเภอหลัก ตลอดจนติดตามตัวชี้วัดการขายและระยะเวลาขนส่ง เพื่อปรับแผนสัปดาห์ต่อสัปดาห์ในช่วงพีกผลผลิต
สรุป
กิจกรรม “Kick off มอบกล่องไปรษณีย์ช่วยเหลือเกษตรกร” คือเครื่องมือเชื่อมสวนกับครัวเรือนทั่วประเทศ ผ่านโลจิสติกส์ที่รัฐสนับสนุนและแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้งานง่าย เมื่อทำงานร่วมกับ 6 มาตรการครบวงจร จึงมีศักยภาพพยุงราคา สร้างรายได้ที่เป็นธรรม และทำให้ผู้บริโภคได้ผลไม้คุณภาพในต้นทุนเหมาะสม โมเดลนี้หากเดินหน้าต่อเนื่องและวัดผลอย่างโปร่งใส จะต่อยอดเป็น “ระบบระบายผลผลิตอัจฉริยะ” ของเชียงรายในระยะยาว
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.