
เชียงราย, 20 ธันวาคม 2568 – ท่ามกลางกระแสการยกระดับการท่องเที่ยวอาเซียนสู่เวทีโลก แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวอาเซียนฉบับใหม่ พ.ศ. 2569–2573 กำลังจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการในปีหน้า ขณะเดียวกัน จังหวัดเชียงรายกำลังก้าวสู่บทบาท “ห้องทดลองเชิงพื้นที่” ผ่านการจัดงาน “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 โซนอำเภอเวียงชัย” บริเวณหนองหลวง แหล่งน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของจังหวัด ภายใต้แนวคิด “นทีศรัทธา ธ สถิตในใจตราบนิจนิรันดร์” เปลี่ยนพื้นที่ชุมชนริมหนองน้ำให้กลายเป็นเวทีเชื่อมโยงนโยบายระดับภูมิภาคกับเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นรูปธรรม
งานมหกรรมฯ ที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 และจะจัดต่อเนื่องถึงวันที่ 7 มกราคม 2569 ไม่ได้เป็นเพียงเทศกาลชมไม้ดอกเมืองหนาว หากแต่สะท้อน “เชียงรายโมเดล” ที่นำเป้าหมายการท่องเที่ยวอาเซียนมาปรับใช้ในระดับจังหวัด ผ่านการออกแบบภูมิทัศน์ กิจกรรมทางวัฒนธรรม และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนในพื้นที่หนองหลวง ซึ่งครอบคลุม 3 ตำบล ใน 2 อำเภอ และเป็นบ้านของชุมชนจำนวนมากที่พึ่งพาระบบนิเวศแห่งนี้มาหลายชั่วอายุคน
อาเซียนขยับเกมท่องเที่ยว แผนใหม่ 2569–2573 กับเป้าหมาย “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวโลก”
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 กรมการท่องเที่ยว (Department of Tourism) เผยแพร่ข้อมูลสำคัญผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ประเทศไทยในฐานะสมาชิกประชาคมอาเซียนกำลังก้าวเดินตาม “แผนรายสาขาด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ฉบับใหม่ พ.ศ. 2569–2573” ซึ่งจะเป็นกรอบทิศทางร่วมของทั้งภูมิภาคในอีก 5 ปีข้างหน้า
เป้าหมายหลักของแผนฉบับนี้สอดคล้องกับ AEC Goals และวิสัยทัศน์อาเซียน 2588 โดยมุ่งผลักดันให้อาเซียน
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว แผนท่องเที่ยวอาเซียนฉบับใหม่ได้วาง แนวทางการดำเนินงานสำคัญ 5 ด้าน ได้แก่
กรมการท่องเที่ยวระบุว่า แผนฉบับเต็มจะเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทางการของอาเซียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงเดือนมกราคม 2569 เพื่อใช้เป็น “เข็มทิศร่วม” ของทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นในการออกแบบผลิตภัณฑ์และเส้นทางท่องเที่ยวในระยะต่อไป
จากแผนระดับภูมิภาค สู่เวทีจริงที่หนองหลวง เวียงชัย
บนแผนที่ยุทธศาสตร์ของอาเซียน จังหวัดเชียงรายอาจเป็นเพียงหนึ่งในเมืองชายแดนตอนเหนือของไทย แต่ในทางปฏิบัติ จังหวัดแห่งนี้ถูกจับตามองอย่างต่อเนื่องในฐานะ “เมืองท่องเที่ยวศักยภาพสูง” ที่เชื่อมโยงทั้งเศรษฐกิจชายแดน วัฒนธรรมล้านนา และความหลากหลายทางชาติพันธุ์
ในวันศุกร์ที่ 19 ธันวาคม 2568 ภาพของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินเคียงข้างนักท่องเที่ยวและชาวบ้านริมหนองหลวง ในพิธีเปิด “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 โซนอำเภอเวียงชัย” จึงมีความหมายมากกว่าพิธีเชิงสัญลักษณ์ หากแต่แสดงให้เห็นถึงการบูรณาการระหว่างนโยบายเกษตร ทรัพยากรน้ำ และการท่องเที่ยวในพื้นที่เดียวกัน
ภายในงานเปิดมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ
บรรยากาศในวันเปิดงานสะท้อนให้เห็นความคึกคักของผู้คนในพื้นที่ที่มาร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ท่ามกลางทุ่งดอกไม้เมืองหนาวที่ได้รับการจัดแต่งภูมิทัศน์อย่างประณีต ริมผืนน้ำของหนองหลวงที่สะท้อนแสงไฟและการแสดงน้ำพุดนตรีในยามค่ำคืนอย่างงดงาม
“หนองหลวง” จากพื้นที่ชุ่มน้ำสู่แลนด์มาร์กใหม่ของเชียงราย
หัวใจสำคัญของเวทีงานครั้งนี้คือ “หนองหลวง” แหล่งน้ำธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเชียงราย ครอบคลุมพื้นที่ 3 ตำบล ใน 2 อำเภอ เป็นทั้งพื้นที่ชุ่มน้ำสำคัญ แหล่งทำกินของชุมชน และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจของคนในท้องถิ่น
นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) อธิบายถึงทิศทางการพัฒนาอย่างชัดเจนว่า การจัดงานมหกรรมไม้ดอกในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการจัดเทศกาลชั่วคราว หากแต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การฟื้นฟูและพลิกโฉมหนองหลวงให้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรมที่มีศักยภาพในระยะยาว
ที่ผ่านมา อบจ.เชียงรายได้บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งด้านการจัดการน้ำ การฟื้นฟูระบบนิเวศ และการพัฒนาภูมิทัศน์ จนพื้นที่หนองหลวงกลับมามีความอุดมสมบูรณ์มากขึ้น สภาพแวดล้อมเหมาะสมต่อการใช้ประโยชน์ทั้งด้านการเกษตรและการท่องเที่ยว
อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ได้รับความสนใจจากผู้มาเยือน คือ ประติมากรรม “แม่หม้าย” ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม ถ่ายทอดตำนานและเรื่องเล่าท้องถิ่นเกี่ยวกับหนองหลวง เชื่อมโยง “ศรัทธา–ธรรมชาติ–ประวัติศาสตร์” เข้าด้วยกันอย่างมีมิติ ช่วยให้การท่องเที่ยวไม่จำกัดแค่การถ่ายภาพกับดอกไม้ แต่เปิดพื้นที่ให้ผู้คนได้เรียนรู้รากเหง้าและอัตลักษณ์ของชุมชนริมหนองน้ำแห่งนี้ด้วย
ไฮไลต์มหกรรมไม้ดอก ประสบการณ์ท่องเที่ยวที่เชื่อมอารมณ์–เศรษฐกิจ–สิ่งแวดล้อม
งานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 โซนอำเภอเวียงชัย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2568 – 7 มกราคม 2569 รวมระยะเวลายาวกว่า 2 สัปดาห์ เพื่อรองรับทั้งนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลปีใหม่และผู้มาเยือนจากประเทศเพื่อนบ้าน
กิจกรรมสำคัญที่ถูกออกแบบให้ตอบโจทย์ทั้งการท่องเที่ยวเชิงพักผ่อนและการสร้างมูลค่าเพิ่ม ได้แก่
งานทั้งหมดถูกจัดวางให้สอดคล้องกับนโยบาย “เที่ยวได้ทุกสไตล์ เที่ยวเชียงรายได้ทั้งปี มีดีทุกอำเภอ” ของจังหวัดเชียงราย ที่ต้องการกระจายโอกาสทางการท่องเที่ยวจากตัวเมืองไปยังอำเภอต่าง ๆ อย่างทั่วถึง
เชียงรายโมเดล กับการต่อยอดแผนท่องเที่ยวอาเซียนอย่างเป็นรูปธรรม
หากเปรียบแผนท่องเที่ยวอาเซียน พ.ศ. 2569–2573 เป็น “แผนที่ระดับภูมิภาค” การจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 ที่เวียงชัยก็คือ “แผนที่ระดับชุมชน” ที่ถูกขยายจากแผนใหญ่สู่การปฏิบัติจริง
ในมิติของ การท่องเที่ยวเชิงยั่งยืน หนองหลวงเป็นตัวอย่างของการนำพื้นที่ชุ่มน้ำที่เคยประสบปัญหาคุณภาพสิ่งแวดล้อม มาฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ผ่านการจัดการน้ำ การอนุรักษ์พันธุ์ปลา และการจัดภูมิทัศน์ที่เคารพต่อระบบนิเวศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของอาเซียนที่เน้นการท่องเที่ยวไม่ทำลายทรัพยากร
ด้าน การสร้างรายได้และการจ้างงาน งานมหกรรมไม้ดอกฯ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารพื้นเมือง ผู้ให้บริการเรือ ร้านจำหน่ายสินค้า OTOP และงานหัตถกรรมท้องถิ่น ได้มีพื้นที่จำหน่ายสินค้าและบริการในช่วงเวลาที่มีนักท่องเที่ยวหนาแน่น โดยรายได้จะหมุนเวียนอยู่ในชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม
ในมิติของ การยกระดับสินค้าและบริการท่องเที่ยว เชียงรายใช้จุดแข็งด้านวัฒนธรรมและภูมิประเทศ ผสมผสานกับประสบการณ์การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เช่น การชมดอกไม้เมืองหนาวริมหนองน้ำ การล่องเรือชมธรรมชาติยามเย็น และการชมการแสดงน้ำพุดนตรี ซึ่งช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับพื้นที่หนองหลวงมากกว่าการเป็นเพียงพื้นที่สาธารณะธรรมดา
ที่สำคัญ เชียงรายยังมีศักยภาพเชื่อมโยงกับเส้นทางท่องเที่ยวระดับอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและประเทศเพื่อนบ้าน การยกระดับหนองหลวงและอำเภอเวียงชัยให้เป็นหนึ่งในจุดหมายเชื่อมโยงของนักท่องเที่ยวต่างชาติในอนาคต จึงสามารถต่อยอดสู่เป้าหมายของอาเซียนที่ต้องการเป็น “ศูนย์กลางการท่องเที่ยวคุณภาพสูงของโลก” ได้อย่างชัดเจน
ผลกระทบต่อชุมชน จากดอกไม้สู่ความหวังระยะยาว
แม้ยังไม่มีตัวเลขสถิติรายได้จากการจัดงานครั้งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่มองจากจำนวนวันจัดงานกว่า 20 วัน และการกระจายตัวของกิจกรรมภายในหนองหลวงที่เชื่อมโยงกับผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายกลุ่ม เชื่อได้ว่ามหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากในช่วงปลายปีและต้นปีใหม่
ในเชิงสังคม งานลักษณะนี้ยังช่วย “เยียวยาและเชื่อมความสัมพันธ์” ระหว่างคนในพื้นที่กับทรัพยากรธรรมชาติที่พวกเขาอยู่ร่วมกันมานาน การได้เห็นหนองน้ำที่เคยถูกมองข้ามกลับมามีชีวิต มีนักท่องเที่ยวมาเยือน และมีการเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์ผ่านประติมากรรมและการแสดง เป็นปัจจัยสำคัญที่สร้างความภาคภูมิใจและความรู้สึกร่วมของชุมชน
สำหรับระดับนโยบาย การที่จังหวัดเชียงรายเลือกใช้เวทีมหกรรมไม้ดอกฯ เป็นพื้นที่สื่อสารเรื่องการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ การจัดการน้ำ และการท่องเที่ยวคุณภาพสูง สอดคล้องกับทิศทางของแผนท่องเที่ยวอาเซียนชุดใหม่อย่างใกล้ชิด ทำให้เชียงรายกลายเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่น่าจับตาสำหรับจังหวัดอื่น ๆ ที่ต้องการนำแผนระดับภูมิภาคมาปรับใช้ในแบบของตนเอง
เมื่อแผนอาเซียนมาบรรจบกับลมหายใจของชุมชนริมหนองหลวง
แผนท่องเที่ยวอาเซียน พ.ศ. 2569–2573 ตั้งเป้าให้อาเซียนเป็นผู้นำการท่องเที่ยวคุณภาพสูงของโลก เน้นความยั่งยืน ความยืดหยุ่นต่อการเปลี่ยนแปลง และการสร้างงานให้ประชาชนในภูมิภาค ขณะที่ “หนองหลวง–เวียงชัย–เชียงราย” กำลังสาธิตให้เห็นว่า เป้าหมายใหญ่ระดับภูมิภาคจะไม่เป็นเพียงเอกสารหรือสไลด์ประชุม หากแต่สามารถแปลงเป็นประสบการณ์จริงที่จับต้องได้ในระดับชุมชน
จากทุ่งไม้ดอกเมืองหนาว น้ำพุดนตรีริมผืนน้ำ ล่องเรือชมวิถีชีวิต ไปจนถึงตำนาน “แม่หม้ายหนองหลวง” ทุกองค์ประกอบคือการเล่าเรื่องเดียวกันว่า การท่องเที่ยวที่ดีไม่ใช่แค่การเดินทางไป “ดู” สถานที่ใหม่ ๆ เท่านั้น แต่คือการเดินทางไป “เข้าใจ” ผู้คน ธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ของพื้นที่นั้นอย่างลึกซึ้ง
สำหรับผู้ที่กำลังมองหาจุดหมายใหม่ในช่วงปลายปีนี้ การเดินทางไปสัมผัส “มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 โซนอำเภอเวียงชัย” จึงไม่ใช่เพียงการไปชมดอกไม้สวยงาม หากแต่เป็นการไปเห็นด้วยตาตนเองว่า เมืองชายแดนเล็ก ๆ แห่งหนึ่งบนแผนที่ไทย กำลังก้าวเดินเคียงไปกับวิสัยทัศน์ใหญ่ของอาเซียนอย่างสง่างามเพียงใด
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by Nakorn Chiang Rai News Limited Partnership (L.P.). All Rights Reserved.