
เชียงราย, 23 สิงหาคม 2568 — เช้าวันฤดูฝนบนถนนสายเดิมที่เคยเป็นเส้นทางส่งหนังสือพิมพ์ “นครเชียงราย” รถส่งพิมพ์สอดประวัติศาสตร์ยังวนลูปผ่านย่านตลาดเก่า กลิ่นหมึกพิมพ์ไม่ต่างจากวันแรก ๆ เมื่อ พ.ศ. 2532 หากวันนี้มีความหมายกว่าทุกวัน เพราะตรงกับ วันคล้ายวันเกิด ของผู้ชายคนหนึ่ง—ผู้บุกเบิกสื่อท้องถิ่นในเชียงราย—นายอัญเชิญ ก.บัวเกษร หรือ “เล็ก นครเชียงราย” ผู้จากไปเมื่อ 22 มกราคม 2565 แต่ทิ้งแนวคิด “สื่อเพื่อชุมชน” ไว้เป็นต้นทุนให้คนข่าวรุ่นต่อ ๆ มา
เรื่องเล่าของเขาเริ่มต้นได้ไกลกว่าห้องข่าว—เริ่มจากบ้านร้านชำเล็ก ๆ ที่อำเภอชายแดน เริ่มจากความขัดแย้งกับพ่อในวัยเยาว์ และเริ่มจากคำประกาศกับตัวเองว่า “จะไม่ถอยหลัง” เรื่องนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากโรยด้วยคราบเหงื่อของการรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ส่งตัวเองเรียน—ก่อนจะกลายเป็นพนักงานฝ่ายตรวจสอบที่ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ และสะสมทุนการศึกษาจนจบ วิทยาลัยกรุงเทพ (มหาวิทยาลัยกรุงเทพปัจจุบัน) ในสาขาสื่อสารมวลชน
“ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้แต่อ่าริษยาไม่ได้ พักได้แต่อย่าหยุด” — คำของพ่อที่เขาหยิบมาเป็นคำสอนประจำชีวิต (อ้างจากบทความ ‘ชีวิตที่เริ่มจากศูนย์ สู่วันแห่งความสำเร็จ’)
เสี้ยววินาทีที่เลือก “กลับบ้าน”
จังหวะเศรษฐกิจที่ผันผวนในห้วงเวลาหนึ่งทำให้ตำแหน่งงานในเมืองหลวงไม่มั่นคงนัก “เล็ก” ในวัยทำงานจึงเลือกกลับเชียงราย—เมืองที่รู้จักทุกซอกซอยและรู้ว่าคนที่นี่ต้องการ “ข่าวสารที่เชื่อถือได้ใกล้ตัว” มากเพียงใด พ.ศ. 2532 ธุรกิจ หนังสือพิมพ์นครเชียงราย ก่อร่างขึ้นด้วยทุนความมุ่งมั่นและเครือข่ายบนดิน: ครู ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และร้านรวงที่พร้อมวางแผงหนังสือ
หากจะให้สรุป “คอนเซ็ปต์” ห้องข่าวของเขาในประโยคเดียว—คงเป็น “ออกแบบสื่อให้เดินถึงบ้าน” ข่าวของนครเชียงรายจึงมักเริ่มต้นจากปัญหาหน้าบ้าน—ตั้งแต่สาธารณูปโภค, ถนนพัง, เวรยามชุมชน, ไปจนถึงการศึกษาท้องถิ่น—แล้วกลับมาคิดว่าคนอ่านในหมู่บ้านจะได้ “ประโยชน์” อะไรเมื่อพับกระดาษแผ่นนี้จบ ในยุคที่สื่อส่วนกลางครอบคลุมประเทศ ข่าวระดับ “ตำบล-อำเภอ” กลับเป็นช่องว่าง—และนั่นคือพื้นที่อาชีพของเขา
36 ปี จากวันนั้นถึงวันนี้ (2532–2568) ชื่อ นครเชียงราย กลายเป็นเสมือน “ที่เก็บความทรงจำของเมือง” ที่มีทั้งข่าวเศร้า ข่าวสุข และข่าวธรรมดา ๆ ที่ทำให้ชุมชนเคลื่อนไหวอย่างมีส่วนร่วม
เสียงจากคลื่นวิทยุ 106.5 MHz และชั่วโมงแห่งความเป็นเพื่อน
ต่อมา พ.ศ. 2548 เขาขยาย “สำนักข่าวใจบ้าน” สู่ วิทยุชุมชน FM 106.5 MHz เพื่อให้ข่าวสาร “พูดได้” และ “ปลอบได้” ในยามชุมชนเจอเหตุฉุกเฉิน คลื่นวิทยุของเขาไม่ได้ใหญ่โต หากกลับทำสิ่งเล็ก ๆ ที่จำเป็น: แจ้งเส้นทางเลี่ยงน้ำป่า, ประสานรถพยาบาล, ฝากประกาศตามหาญาติ, เปิดไมค์ให้ช่างซ่อมท่อบอกวิธีเลี่ยงอันตราย—20 ปี ของคลื่นเล็ก ๆ ที่ทำหน้าที่ใหญ่เกินขนาดสถานี
เขายังผลักดันงานกุศลเชิงระบบ—ทั้งในบทบาท รองประธานมูลนิธิสำเร็จร่วมกุศลเชียงราย (ฝ่ายหารายได้) และเครือข่ายภาคประชาสังคมในเมืองเหนือ การระดมผ้าห่ม—ของใช้—อาหารแห้ง ไปจนถึงเครื่องมือแพทย์ในบางวาระ จึงไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะฤดูกาล หากแทรกอยู่ในระบอบชีวิตของห้องข่าวและผู้ฟังคลื่นชุมชน
รากการศึกษา จากอนุชนเหนือสู่มืออาชีพสื่อ
หากถอยหลังกลับไปอีก “เล็ก” โตมากับโรงเรียนในเชียงรายหลายแห่ง—เริ่ม ป.1–ป.3 โรงเรียนดรุณราษฏร์วิทยา (แม่สาย), ต่อ ป.4–ม.2 โรงเรียนเชียงรายวิทยาคม, กลับมา ม.3 ดรุณราษฏร์วิทยา (แม่สาย), ย้าย ม.4 โรงเรียนผดุงปัญญา (ตาก) และ ม.5 โรงเรียนพระนครวิทยาลัย (กทม.) พร้อมสอบเทียบ ม.5 จากกระทรวงศึกษาธิการ ก่อนจบ ปริญญาตรี สื่อสารมวลชน วิทยาลัยกรุงเทพ การเดินทางที่ขรุขระทางภูมิศาสตร์สะท้อนความไม่ยอมแพ้—และในกำแพงมหาวิทยาลัย เขายังอาสาทำกิจกรรมหลากหลาย: ประธานชมรมปาฐกถาและโต้วาที, ประธานฝ่ายประชาสัมพันธ์สโมสรนักศึกษา, สมาชิกค่ายอาสาพัฒนา, เคยมีบทบาท กลุ่มกิจกรรมนักศึกษา (Gruop C/กิจกรรม) และเป็น สมาชิกยุวชนประชาธิปัตย์ ในยุคนั้น—เครือข่ายทางสังคมที่กลายเป็นทรัพยากรสำคัญของนักข่าวท้องถิ่นในภายหลัง
ในเชิงวิชาชีพ เขาผ่านการฝึกงานอย่างเข้มข้น: เดลินิวส์ (พ.ศ. 2520), สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ช่อง 5 (สนามเป้า), สถานีวิทยุ 914 กรป.กลาง อ.แม่จัน, กองบัญชาการทหารสูงสุด (พ.ศ. 2521) และต่อยอดสู่งานจริงในกอง บรรณาธิการไทยรัฐ ก่อนลาออกช่วงปลาย พ.ศ. 2528 เพื่อกลับมาวางฐานอาชีพที่บ้านเกิด ส่งผลให้เมล็ดพันธุ์ความรู้ด้านกองบรรณาธิการ—ด้านภาษา, ระบบตรวจสอบข่าว, วินัยห้องข่าว—ถูกยกมาปลูกลงใน “ดินแดนสื่อชุมชน” ของเชียงรายอย่างเป็นรูปธรรม
ประโยคที่เปลี่ยนชีวิต “กลับบ้าน”
ในบันทึก “ชีวิตที่เริ่มจากศูนย์ สู่วันแห่งความสำเร็จ” เขาเล่าช่วงวิกฤตไว้อย่างซื่อตรงว่าเมื่อความไม่แน่นอนถาโถมเข้ามา “คำของพ่อก็แว้บขึ้นในหัว” และตัดสินใจ กลับบ้าน เพื่อ “เริ่มใหม่” และ ขอโทษพ่อ—ฉากเล็ก ๆ หน้าบ้านที่เขาบอกว่า “น้ำตาไหล” กลายเป็น “รีสตาร์ต” ครั้งสำคัญของชีวิต นับจากวันนั้น เขาเริ่มประกอบกิจการหนังสือพิมพ์ของตัวเอง และค่อย ๆ เติบโตเป็น “คนของสังคม” ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก
“ถ้าเราไม่ถอย ไม่หยุดเดิน สักวันเราจะรู้ว่าความลำบากในวันนี้มันคุ้มค่าเหลือเกิน” — อัญเชิญ ก.บัวเกษร (อ้างจากบันทึกชีวิตฯ)
บทบาท “พี่เลี้ยง” ของเยาวชนคนข่าว
ตลอดเส้นทาง เขามักรับเชิญไปบรรยาย “ประสบการณ์ทำงานจริง” ให้แก่นักเรียน-นักศึกษาหลายสถาบัน ทั้งการเขียนข่าว, จริยธรรมสื่อ, วิธีตรวจข่าว, การตั้งคำถาม และ “การใช้ภาษาให้รับผิดชอบต่อชุมชน” นักศึกษาจำนวนมากบอกตรงกันว่า—มากกว่าทฤษฎีที่ได้จากห้อง—คือความกล้าชนกับปัญหาจริงอย่างตรงไปตรงมา เช่น การตามเอกสารราชการ, การโทรถามหน่วยงานด้วยมารยาท, หรือการขอโทษเมื่อข่าวคลาดเคลื่อน เขาย้ำเสมอว่า “ความน่าเชื่อถือ คือทุนที่สำคัญที่สุดของคนข่าว”
งานอาสา–กุศล สื่อที่ยื่นมือ
ชื่อ “เล็ก นครเชียงราย” ถูกยกมาเมื่อใด มักพ่วงด้วยกิจกรรมระดมสิ่งของเพื่อผู้ประสบภัย—ตั้งแต่ ภัยหนาวบนดอย ถึง เหตุฉุกเฉินในชุมชน บทบาท รองประธานมูลนิธิสำเร็จร่วมกุศลเชียงราย (ฝ่ายหารายได้) ทำให้เขาเป็น “ตัวกลางที่ชุมชนไว้ใจ” การแจ้งข่าวผ่านหนังสือพิมพ์และคลื่นวิทยุช่วยให้การระดมทุนและการส่งมอบความช่วยเหลือ “ไปถึงมือผู้เดือดร้อนจริง”
เส้นเวลา (Timeline) ชีวิตและงาน
ความหมายของ “นครเชียงราย” ในฐานะสื่อ
ในทางวิชาชีพสื่อ “นครเชียงราย” สร้างหมุดหมายที่น่าสนใจไว้หลายประการ
ทั้งหมดนี้อธิบายว่าเหตุใด “วันคล้ายวันเกิด” ของเขาจึงกลายเป็นวาระที่กองบรรณาธิการเลือกหยิบยกขึ้นมา—ไม่ใช่เพื่อโศกเศร้า หากเพื่อ ย้ำความหมายของคำว่า ‘เริ่มจากศูนย์’ ให้ดังพอสำหรับคนทำงานสื่อยุคใหม่ที่ยืนอยู่หน้าคลื่นลูกใหญ่ของเทคโนโลยีและความเปลี่ยนแปลง
มรดกที่ทิ้งไว้ ไม่ใช่ตึก—แต่เป็น “วิธีคิด”
ที่สุดแล้ว มรดกของอัญเชิญ ก.บัวเกษร ไม่ได้มีเพียงเครื่องจักรพิมพ์หรือแฟ้มข่าว หากคือ วิธีคิดแบบลงมือทำ และ ความรับผิดชอบต่อชุมชน เขาแสดงให้เห็นว่า “สื่อท้องถิ่น” ไม่ได้เล็ก—หาก “ใกล้”—และความใกล้นั้นทำให้การรายงานข่าว ช่วยแก้ปัญหาได้จริง ตั้งแต่ท่อรั่วจนถึงการหาทุนเครื่องมือแพทย์ บทสรุปที่เขาทิ้งไว้ในบันทึกชีวิตอาจเป็นคำสั้นที่สุดแต่ไกลที่สุด: “เดินต่อไป”
ในวาระ 23 สิงหาคม 2568 กองบรรณาธิการจึงบันทึกคอลัมน์นี้ไว้ ไม่ได้เพื่อระลึกถึง “บุคคลสำคัญ” เท่านั้น แต่เพื่อระลึกถึง ความหมายของงานสื่อ ที่คนธรรมดาคนหนึ่งใช้ทั้งชีวิตค่อย ๆ ก่อขึ้น—เริ่มจากศูนย์—ด้วยมือเปื้อนหมึกและหัวใจที่ไม่ยอมแพ้
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.