
เชียงราย, 17 กันยายน 2568 — ห้องประชุมขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงราย เช้าวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อ นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายก อบจ.เชียงราย นำทีมผู้บริหารและกองการท่องเที่ยวฯ เปิดโต๊ะหารือเชิงยุทธศาสตร์กับ นายวิสูตร บัวชุม ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงราย และคณะ เพื่อ “ล็อกเป้า” สองเทศกาลใหญ่ในปีหน้า มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 และ เชียงรายมหาสงกรานต์ 2569 ที่ถูกออกแบบให้เป็นหัวรถจักรดึงนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี พร้อมกระจายรายได้สู่ทุกชั้นของเศรษฐกิจท้องถิ่น
ภาพการประชุมที่ทุกฝ่ายเปิดแผนที่–ไทม์ไลน์–โมเดลรายได้บนโต๊ะเดียวกัน สะท้อน “ทิศทางใหม่” ของเชียงราย จากเมืองท่องเที่ยวตามฤดูกาล สู่ เมืองอีเวนต์ (Event City) ที่ใช้ศิลปวัฒนธรรม–ธรรมชาติ–ไลฟ์สไตล์เป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นระบบ
มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2025 โยงความงามสู่โอกาสทางเศรษฐกิจ
หัวหอกแรกคือการยกระดับ มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย 2025 ให้ “ใหญ่และยาวขึ้น” ทั้งด้านพื้นที่และฤดูกาลจัดงาน โดยคอนเซ็ปต์หลักยังคงใช้ความโดดเด่นของเมืองเหนือสุดของไทย อากาศเย็น ดอกไม้เมืองหนาว และงานภูมิปัญญาแต่เติม “ชั้นเชิงเศรษฐกิจ” ลงไปให้ลึกกว่าเดิม
โครงสร้างพื้นที่ใหม่ 2 โหนดหลัก
นัยยะทางเศรษฐกิจ ของการ “แตกพื้นที่” ไม่ใช่แค่แก้ปัญหาแออัด แต่คือการกระจายศูนย์รายได้และโอกาสลงสู่ตำบล–หมู่บ้าน ตั้งแต่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงไม้ดอก ร้านอุปกรณ์ตกแต่ง–จัดสวน ผู้ให้บริการรถรับส่ง โฮมสเตย์ คาเฟ่ ไปจนถึงงานบริการช่าง–สื่อสร้างสรรค์ในท้องถิ่น
แนวทางบริหารจัดการสมัยใหม่ ถูกวางไว้ครบวงจร
เป้าหมายไม่ใช่เพียง “คนมาเยอะ” แต่คือ ค่าใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้นอย่างมีคุณภาพ ผ่านกิจกรรมมีคุณค่า เวิร์กช็อป–ทัวร์ชุมชน–สินค้าที่มีเรื่องเล่า—ซึ่งช่วยให้ SMEs ท้องถิ่น ขายได้แพงขึ้นอย่างยุติธรรม จากการเพิ่มคุณค่า มากกว่าพึ่งพาการตัดราคา
เชียงรายมหาสงกรานต์ 2569 สงกรานต์ทั้งเมืองปลอดภัย สนุก มีวัฒนธรรม
อีกฟากของปีปฏิทินคือ “เชียงรายมหาสงกรานต์ 2569” ที่ตั้งใจขยายจาก “งานจุดเดียว” ไปสู่ “สงกรานต์ทั้งเมือง” ภายใต้ 3 เสาหลัก—ปลอดภัย–มีวัฒนธรรม–เชื่อมทั้งเมือง
สงกรานต์ที่ “มีดีมากกว่าน้ำ” ยังช่วย ถ่างฤดูกาลท่องเที่ยว ให้ยาวขึ้น เชื่อมต่อไปถึงฤดูร้อนต้นปี 2569 ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรม–ร้านอาหาร–รถนำเที่ยว มีรายได้ประจำมากขึ้น ลดความผันผวนหลังไฮซีซันปลายปี
เศรษฐกิจท้องถิ่นได้อะไร โซ่คุณค่า (Value Chain) ที่หมุนได้จริง
การวางอีเวนต์เป็น “เครื่องยนต์” ไม่ได้หยุดที่การนับหัวผู้เข้าร่วม แต่ต้องมองทั้ง ห่วงโซ่คุณค่า ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ
ผลลัพธ์ที่คาดหวัง จึงไม่ใช่เพียงตัวเลขการจองโรงแรมช่วงงาน แต่คือการเกิด “เครือข่ายรายได้” ที่ไหลผ่านหลายมือในจังหวัด และทิ้ง มรดกโครงสร้างพื้นฐานด้านอีเวนต์ ให้ใช้ต่อได้ (อุปกรณ์ มาตรฐานความปลอดภัย ระบบอาสาสมัคร)
การตลาด–ภาพลักษณ์ จาก “สวย เงียบ” สู่ “งาม คึกคัก แต่ไม่ล้น”
เชียงรายเคยถูกนิยามว่า “สวย เงียบ สโลว์ไลฟ์” ซึ่งดึงดูดนักเดินทางสายชิล แต่ในยุคที่การแข่งขันด้านปลายทางท่องเที่ยวรุนแรง เมืองจำเป็นต้องมี “ภาพจำใหม่” ที่ คึกคักแต่ไม่ล้นมือ และยังคงความสุภาพ–ปลอดภัย–ยั่งยืน
แผนการสื่อสารร่วม อบจ.–ททท. ที่หารือกันในวันนี้ วางแกนไว้ 4 ประเด็น
เมื่อภาพลักษณ์เปลี่ยนจาก “แวะแล้วผ่าน” เป็น “ต้องตั้งใจมา” เมืองจะมีอำนาจต่อรองทางราคาเพิ่มขึ้น ผู้ประกอบการขายบริการ–สินค้าที่มีคุณค่าได้ โดยไม่ต้องลดคุณภาพเพื่อแย่งลูกค้า
บริหารความเสี่ยง PM2.5–ฝน–แออัด–ความปลอดภัย
อีเวนต์ขนาดใหญ่ต้องมาพร้อม “ระบบกันสั่น” ที่ดีพอ
KPI ที่วัดผลได้ จากจำนวน “หัว” สู่คุณภาพ “เม็ดเงินและประสบการณ์”
เพื่อให้เงินภาษีท้องถิ่นและทรัพยากรรัฐ คุ้มค่าและโปร่งใส อบจ.–ททท. วางกรอบตัวชี้วัดหลายชั้น
การวัดผลที่ “ชัด–แชร์ได้” จะสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและเอกชนให้ร่วมมือในระยะยาว และเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นใช้เรียนรู้ต่อยอด
เสียงจากโต๊ะหารือ ความพร้อมของ “เมือง–คน–งาน”
แม้การประชุมวันนี้จะเป็นการหารือภายใน แต่สาระสำคัญที่ทุกฝ่ายยืนยันตรงกันคือ ความพร้อมของเมือง—ทั้งศักยภาพพื้นที่จัดงาน ระบบโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคม และ ความพร้อมของคน—ชุมชน–ภาคธุรกิจ–อาสาสมัคร ที่เคยผ่านการจัดงานขนาดใหญ่มาแล้วหลายครั้ง ปัจจัยเหล่านี้ทำให้เชียงรายสามารถ “ก้าวสู่สปีดใหม่” ได้ทันทีเมื่อมีเป้าหมายและแผนร่วมที่ชัดเจน
นอกจากนี้ การทำงานแบบ “หนึ่งทีม เชียงราย” ระหว่าง อบจ. (อำนาจจัดการพื้นที่–งบประมาณท้องถิ่น–เครื่องจักร) กับ ททท. (เครือข่ายตลาด–สื่อสารการตลาดระดับชาติ–ความเชี่ยวชาญด้าน Event Marketing) ช่วยลดความซ้ำซ้อนของภารกิจ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งบ และย่นเวลาการตัดสินใจ
มองไกลกว่างาน แพลตฟอร์มอีเวนต์ถาวร และหลักสูตรทักษะใหม่
แผนสองเทศกาลไม่ได้จบหลังปิดไฟเวที อบจ.–ททท. เห็นพ้องต่อยอดสู่งานโครงสร้างที่ “อยู่กับเมือง”
ในทางเศรษฐศาสตร์เมือง การมี “โครงสร้างกลาง” และ “ทุนมนุษย์” ที่พร้อม จะทำให้เชียงรายเป็น ฮับงานเทศกาลของลุ่มน้ำกก–สามเหลี่ยมทองคำ มีงานกระจายรายเดือน ไม่ต้องพึ่งไฮซีซันเพียงระยะสั้น
จากโต๊ะประชุมสู่เวทีโลก – เชียงรายพร้อมขยับ “จังหวะ”
การจับมือของ อบจ.เชียงราย และ ททท.สำนักงานเชียงราย เพื่อผลักดัน มหกรรมไม้ดอกอาเซียน 2025 และ เชียงรายมหาสงกรานต์ 2569 คือ “สัญญาณ” ว่าเมืองกำลังเปลี่ยนจังหวะจากการรอฤดูกาล มาเป็นการ กำหนดฤดูกาลเอง ผ่านอีเวนต์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย เข้าถึงได้ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
หากแผนงานถูกเดินอย่างมีวินัยเปิดเผยข้อมูล–ฟังเสียงชุมชน–วัดผลได้จริง—เชียงรายจะไม่เพียงต้อนรับนักท่องเที่ยวมากขึ้น แต่จะได้ เศรษฐกิจท้องถิ่นที่แข็งแรงขึ้น อาชีพใหม่ ทักษะใหม่ และความภาคภูมิใจใหม่ของคนเมืองเหนือสุด ที่พร้อมเปิดบ้านสู่สายตาโลกอย่างสง่างาม
สารของวันนี้จึงเรียบง่าย เชียงรายไม่ได้มีดีแค่ภูเขา–หมอก–ดอกไม้ แต่มี “คน–ระบบ–แผน” ที่พร้อมทำให้อีเวนต์ระดับสากลเกิดขึ้นได้จริง และเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างเป็นธรรมทั้งเมือง
Key Facts
เครดิตภาพและข้อมูลจาก :
Copyright © 2023 by G Good Media Co., LTD. & Nakhon Chiang Rai News. All Rights Reserved.