“8 Quick Wins” กับโจทย์ใหญ่ของมหาดไทยภายใน 3 เดือน

  • บริบทความเร่งด่วนมี “ตัวเลข” รองรับ: หนี้ครัวเรือนไทยแตะ ราว 91% ของจีดีพี ในไตรมาส 1/2568—ระดับใกล้จุดสูงสุดและยังเป็นแรงกดทับคุณภาพชีวิตประชาชนและกำลังซื้อฐานราก ขณะที่คดีอาชญากรรมออนไลน์ปี 2567 ก่อความเสียหาย หลายหมื่นล้านบาท สวนกระแสความพยายามกวาดล้างของรัฐ อีกด้าน ปัญหายาเสพติดยังรุนแรงต่อเนื่องตามด่านชายแดนและโครงข่ายข้ามชาติ ซึ่งสอดคล้องกับสัญญาณเตือนจาก UNODC/AP ว่าปริมาณ “ยาเสพติดสังเคราะห์” ในภูมิภาคยังสูง การประกาศ “3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข” จึงวางโจทย์ตรงกลางระหว่าง ความมั่นคงของชุมชน และ คุณภาพชีวิตเศรษฐกิจครัวเรือน ที่ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมเร็ว ๆ นี้
  • กลไกขับเคลื่อน ทุก 15 วัน กับ คณะกรรมการระดับชาติ ที่รัฐมนตรีตั้งขึ้น โดยมีนายอภิชาติ โตดิลกเวชช์เป็นประธาน ถือเป็น “สวิตช์ความเร็ว” ที่จะทดสอบระบบบังคับบัญชาแบบยกกำลัง—จากส่วนกลางลงถึงจังหวัด อำเภอ และหมู่บ้าน พร้อมกำหนดเส้นตาย 3 เดือน เพื่อปิดดีล “Quick Wins” แรกของกระทรวง
  • หากคิกออฟใหญ่ที่ อิมแพ็ค เมืองทองธานี พร้อมผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน เป็นการ “ตั้งธง” ทางการเมือง-นโยบายให้ตรงกันทั้งประเทศ คำประกาศ “มหาดไทยต้องดีกว่าเดิม : มองไกล ใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” คือประโยคตั้งเข็มทิศที่ต้องพิสูจน์ด้วยข้อเท็จจริงในพื้นที่ ไม่ใช่เพียงสโลแกน

 “ภูมิธรรม” ชูโรดแมป “8 Quick Wins” บีบงานเร่งด่วนเห็นผลใน 90 วัน ตั้งคกก.ติดตามทุก 15 วัน เร่ง “ไร้ทุกข์”–ต่อยอด “สร้างสุข” ให้ประชาชน

ประเทศไทย, 23 สิงหาคม 2568 — อิมแพ็ค เมืองทองธานี ผู้ว่าราชการจังหวัดถึงนายอำเภอ จากปลัดอำเภอถึงผู้นำท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานความมั่นคงและภาคีเครือข่าย เมื่อ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ก้าวขึ้นเวทีและประกาศคำมั่น มหาดไทยต้องดีกว่าเดิม มองไกล ใจเป็นหนึ่ง เป็นที่พึ่งประชาชน” ก่อนเปิดแผนเร่งด่วน “8 Quick Wins: 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข” พร้อมเส้นตาย “ให้เห็นผลจริงภายใน 3 เดือน” เพื่อยืนยันว่าคำสัญญาจากส่วนกลางจะไม่หยุดแค่พิธีเปิด แต่จะไปต่อถึงปลายน้ำในทุกตำบล หมู่บ้าน และชุมชนทั่วประเทศ

ทำไม “ตอนนี้” และ “เร็ว” จึงสำคัญ

เบื้องหลังคำว่า “Quick Wins” มีเหตุผลเชิงโครงสร้างรองรับ ในระดับครัวเรือน ตัวเลขหนี้ครัวเรือนไทยในไตรมาส 1/2568 อยู่แถว 91% ของจีดีพี ระดับ “สูงติดอันดับโลก” ทำให้ครัวเรือนจำนวนมากเผชิญต้นทุนดอกเบี้ยสูง กำลังซื้อต่ำ และช่องว่างทางโอกาสที่กว้างขึ้น การแก้หนี้ต้องเดินคู่กับการเพิ่มรายได้และการเข้าถึงบริการรัฐที่สะดวก รวดเร็ว และเป็นธรรม เพื่อคลี่คลายความกดดันเชิงสังคมที่ซ้อนอยู่ใต้พรม.

ด้านความปลอดภัย สถิติ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ล็อตเตอรี่ปลอม-หลอกลงทุนผ่านแอปยังพุ่งสูง สร้างความเสียหายรวม หลายหมื่นล้านบาท ในปีที่ผ่านมา สะท้อนว่าการป้องกันเชิงรุก-ปราบปรามเชิงซ้อน และการฟื้นฟูผู้เสียหายด้วยกระบวนการยุติธรรมที่เข้าถึงง่าย ยังเป็นจิ๊กซอว์ที่ต้องเชื่อมให้ติด ขณะที่ปัญหา ยาเสพติดสังเคราะห์ ไหลข้ามพรมแดนยังไม่คลายสอดคล้องกับรายงานสถานการณ์ภูมิภาคของ UNODC ที่ชี้ว่าปริมาณและการยึดจับในภาคพื้นเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ยังอยู่ในระดับสูง

บนฉากใหญ่ของภัยพิบัติและสภาพอากาศสุดขั้ว ประเทศไทยเพิ่งเร่งเครื่องวางระบบ Cell Broadcast System (CBS) เพื่อส่งสัญญาณเตือนภัยพิบัติ “ตรงถึงมือถือ” ครอบคลุมเลขหมายกว่า ร้อยล้านเบอร์—อีกขั้นของการคุ้มครองประชาชนในพื้นที่เสี่ยง หากเครื่องมือพร้อมใช้งานจริงได้ทั่วหน้า ย่อมลดความสูญเสียและยกระดับความเชื่อมั่นต่อรัฐในยามวิกฤต

“3 ไร้ทุกข์” ดับปัญหาเรื้อรังให้ถึงราก

แพ็กแรกของ Quick Wins เน้น “ขจัดทุกข์” 3 เรื่องหลักที่แตะชีวิตผู้คนโดยตรง

  1. เร่งกวาดล้างยาเสพติดเชิงรุก — ตั้งแต่ชายแดนถึงชุมชน ผ่านการบูรณาการตำรวจ-ฝ่ายปกครอง-ทหาร-ป.ป.ส.-สาธารณสุข—ครบวงจร ป้องกัน–ค้นหา–บำบัด–ฟื้นฟู เป้าคือ “No Drugs, No Dealers” ให้เห็นในระดับหมู่บ้าน โดยเน้นตัดเส้นเลือดฝอย (ผู้ค้ารายย่อย/เครือข่ายส่งต่อ) ควบคู่กับทำแผนรายบุคคลให้ผู้เสพกลับสู่ครอบครัวและงานได้อย่างยั่งยืน ลดโอกาสการกลับไปพัวพันซ้ำ
  2. จัดระเบียบสังคม–ปราบผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมยุคใหม่ — กวาดล้าง แก๊งคอลเซ็นเตอร์/หลอกลงทุน/ฟอกเงิน โดยใช้ฐานข้อมูลและการสืบสวนดิจิทัล สั่งการเชื่อม ศูนย์ดำรงธรรม–ตำรวจไซเบอร์–ธนาคาร–กสทช. เพื่อ “ตัดตอนเงิน” ให้ทันก่อนไหลออกนอกระบบ กดดันทั้งบนดิน-ออนไลน์ พร้อมยึดทรัพย์สินเครือข่ายผิดกฎหมายเพื่อนำคืนผู้เสียหาย
  3. ทำให้ทุกพื้นที่ “ปลอดภัยสำหรับทุกคน” — เร่งปรับปรุงไฟส่องสว่าง–CCTV จุดเสี่ยงทางกายภาพ ปรับดีไซน์พื้นที่สาธารณะให้รองรับกลุ่มเปราะบาง และทดสอบใช้งาน CBS เตือนภัยพิบัติระดับจังหวัด/อำเภอควบคู่ระบบแจ้งเตือนเดิม ช่วยลดเวลาตอบสนองในเหตุฉุกเฉิน

“5 สร้างสุข” ต่อท่อคุณภาพชีวิตให้เติบโตยั่งยืน

จาก “ไร้ทุกข์” สู่ “สร้างสุข” กระทรวงวางเป้าสร้างผลบวกเชิงโครงสร้างบน 5 มิติ

  1. แก้หนี้ครัวเรือนอย่างเป็นระบบ — แม้การจัดการหนี้เป็นอำนาจร่วมของหลายหน่วย (ธปท.-คลัง-ยุติธรรม) แต่มหาดไทยจะขับเคลื่อนบทบาท “นายอำเภอ–ท้องถิ่น” เป็น Frontline Broker ทำ คลินิกหนี้ระดับอำเภอ ภายใต้กติกากลาง เชื่อมสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ/พักชำระ/รีไฟแนนซ์ พร้อมเวิร์กช็อป “วินัยการเงิน” ในชุมชน เป้าคือให้ครัวเรือนที่เปราะบางหลุดจากวงจรหนี้นอกระบบและฟื้นศักยภาพรายได้. (ฐานปัญหา: หนี้ครัวเรือนสูงใกล้จุดพีก)
  2. สุขภาวะและการศึกษาชุมชน — ขยายบทบาท อปท.–รพ.สต.–อาสาสมัคร ให้มี “ผู้จัดการดูแลผู้สูงอายุ” ในระดับหมู่บ้าน ส่งเสริม เศรษฐกิจสุขภาพ (อาหารปลอดภัย Farm to Table–อาชีพดูแลผู้สูงวัย) ควบคู่ยกระดับการศึกษาและทักษะอาชีพเยาวชนเชิงพื้นที่ เพื่อ “จับคู่” อุปสงค์–อุปทานแรงงานจริง ลดช่องว่างงานกับความสามารถ.
  3. เมืองคึกคักด้วย Soft Power — หนุน “1 ตำบล 1 Start-up” และกิจกรรมสร้างสรรค์ตามโมเดล 5F (Food–Film–Fashion–Fighting–Festival) ผูกกับอัตลักษณ์ชุมชนและปฏิทินท่องเที่ยวท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้เศรษฐกิจฐานราก (สอดคล้องกรอบนโยบายรัฐบาลด้าน Soft Power)
  4. บริการรัฐสะดวก–รวดเร็ว — เร่งขยายบริการดิจิทัลของกรมการปกครองและหน่วยในสังกัด ให้ประชาชน “ทำธุระกับรัฐ” ออนไลน์ได้มากขึ้น ลดเอกสาร ลดระยะเวลา ขยายจุดบริการเคลื่อนที่—โดยคิกออฟให้ทุกจังหวัดประกาศ “รายการบริการด่วน” ที่จะปรับปรุงภายใน 90 วันแรกตามเป้า Quick Wins
  5. ยกระดับระบบรับเรื่องร้องทุกข์ — ปรับบทบาท “ศูนย์ดำรงธรรม” ให้เป็น One-Stop Mediation & Resolution เชื่อมฐานข้อมูลกลาง–ติดตามผลแบบเรียลไทม์ ตั้ง KPI การปิดเรื่องในเวลาที่กำหนด และวิเคราะห์ปัญหาเชิงพื้นที่จากดาต้า เพื่อป้องกันการร้องเรียนซ้ำซาก ทั้งนี้ ศูนย์ดำรงธรรมเป็นช่องทางรัฐ–ประชาชนที่มีภาระงานสูงมาโดยตลอด และถูกยกระดับบทบาทอย่างต่อเนื่องในช่วงหลัง.

กลไก–ความเร็ว–การลงมือทำ” ตั้งคณะกรรมการกลาง ติดตามทุก 15 วัน

เพื่อให้โรดแมป “จากเวทีสู่พื้นที่” เดินได้จริง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศตั้ง คณะกรรมการขับเคลื่อนและติดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย” มี นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ เป็นประธาน ทำหน้าที่เป็น “พี่เลี้ยง–กำกับ–ติดตาม–รายงานผล” ต่อเนื่อง ทุก 15 วัน โดยมีกลไกจากทุกกรมร่วมเป็นทีมขับเคลื่อนกลาง ขณะเดียวกัน ทุกจังหวัด ต้องตั้งคณะกรรมการลักษณะเดียวกันเป็นมิเรอร์ในระดับพื้นที่ แปลงนโยบายเป็นแผนงาน-โครงการ-ตัวชี้วัดและกรอบเวลาเดียวกันทั้งหมด เพื่อลดปัญหา “แปลนโยบายคนละฉบับ” ที่มักเกิดขึ้นในระบบราชการขนาดใหญ่

“สิ่งที่เราเริ่มวันนี้ ไม่ใช่แค่แผนบนกระดาษ แต่คือพันธสัญญาที่ต้องเห็นผลกับประชาชนในเวลาอันสั้น” — สารจากเวทีคิกออฟซึ่งย้ำ “มหาดไทยต้องดีกว่าเดิม” ว่าต้องวัดได้จริงในชุมชน

ดัชนีวัดผล จะรู้ได้อย่างไรว่าชนะ “เร็วและจริง”

ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายสาธารณะจำนวนมากเห็นพ้องว่า Quick Wins ต้องกำหนด “ตัวชี้วัดที่จับต้องได้” และเปิดเผยต่อสาธารณะอย่างสม่ำเสมอ—เพื่อสร้างแรงกดดันเชิงบวกต่อระบบปฏิบัติการของรัฐ บทเรียนจากคดี อาชญากรรมออนไลน์ ชี้ว่าการ “ตัดตอนช่องทางการเงิน” เร็วขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง อาจลดความเสียหายรวม หลายพันล้านบาทต่อปี ในขณะที่การบูรณาการแก้ ยาเสพติด หากวัดผลที่ “จำนวนผู้ผ่านโปรแกรมบำบัดกลับสู่สังคมได้จริง” และ “จุดเสี่ยงลดลง” (มากกว่าจำนวนจับกุมล้วน ๆ) จะทำให้การลงทุนงบประมาณตอบโจทย์มนุษย์และชุมชนมากขึ้น

ด้านความปลอดภัยสาธารณะ การทดสอบ–ใช้งาน CBS อย่างเป็นระบบ ร่วมกับการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไฟ–กล้อง และการซ้อมรับมือภัยพิบัติระดับอำเภอทุกเดือน สามารถวัดผลได้จาก เวลาเฉลี่ยในการแจ้งเตือน และ สัดส่วนประชาชนที่ได้รับแจ้งเตือนทันเวลา ซึ่งจะสะท้อน “ความพร้อมของรัฐ” ที่ประชาชนสัมผัสได้โดยตรง

ปิดเกม 3 เดือนอย่างไรให้ “ยั่งยืน”

แม้ Quick Wins จะเน้น “เร็ว” แต่การสร้าง ผลลัพธ์ที่ยั่งยืน ต้องประคอง 3 องค์ประกอบพร้อมกัน
หนึ่ง กลไกสั่งการต้อง “บาง เบา เร็ว” โดยคณะกรรมการระดับชาติช่วย “แก้คอขวด” ให้พื้นที่
สอง งบประมาณและบุคลากรต้อง “ตรงจุด” โดยเฉพาะงานไซเบอร์–ข้อมูล–สังคมสงเคราะห์–บำบัดฟื้นฟู
สาม การสื่อสารสาธารณะต้อง “โปร่งใส ตรวจสอบได้” ผ่านแดชบอร์ดจังหวัด/อำเภอที่อัปเดตราย 15 วัน เท่าจังหวะติดตามผลเพื่อให้ประชาชนร่วมรับรู้และ “ดันหลัง” ระบบราชการจากภายนอก

ในภาพใหญ่ หาก หนี้ครัวเรือน ลดระดับความเปราะบางลงอย่างมีนัย และกราฟ คดีไซเบอร์/ความเสียหาย โค้งลงต่อเนื่อง ขณะจุดเสี่ยงความปลอดภัยและความเสี่ยงจากภัยพิบัติลดลงด้วย CBS+โครงสร้างพื้นฐาน ที่ทำงานได้จริง ก็จะเป็นสัญญาณว่ากระทรวงมหาดไทยเดินบนเส้นทางถูกต้องและประโยค “มหาดไทยต้องดีกว่าเดิม” กำลังเปลี่ยนจากคำประกาศสู่ ความจริงในชีวิตประจำวันของคนไทย

สรุปสาระสำคัญ “8 Quick Wins 3 ไร้ทุกข์ 5 สร้างสุข”

  • 3 ไร้ทุกข์: (1) กวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกครบวงจร (2) จัดระเบียบสังคม–ปราบผู้มีอิทธิพลและอาชญากรรมออนไลน์ (3) ทำทุกพื้นที่ให้ปลอดภัยด้วยโครงสร้างพื้นฐานและระบบเตือนภัยสมัยใหม่ (CBS)
  • 5 สร้างสุข: (1) แก้หนี้ครัวเรือนเป็นระบบ (2) เสริมสุขภาวะ–การศึกษาชุมชน (3) เมืองคึกคัก–Soft Power–1 ตำบล 1 Start-up (4) บริการรัฐดิจิทัล สะดวก รวดเร็ว (5) ระบบรับเรื่องร้องทุกข์ยุคใหม่ผ่านศูนย์ดำรงธรรมและดาต้ากลาง.

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • กระทรวงมหาดไทย
  • สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
  • คำกล่าวของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
  • ข่าวจากสื่อมวลชน
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News