เชียงรายเดินหน้าปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฉก.88 จับมือ 32 หน่วยงาน ใช้มาตรการ “ระเบิดสะพานโจร” หวังเห็นผลใน 3 เดือน

แถลงข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

กรุงเทพฯ, 21 เมษายน 2568 – ที่ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการค้ามนุษย์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน (ฉก.88) เป็นประธานการประชุมสำคัญร่วมกับผู้บัญชาการระดับสูงและตัวแทนจาก 32 หน่วยงาน เพื่อกำหนดทิศทางปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และอาชญากรรมข้ามชาติรูปแบบใหม่

ตั้งคณะทำงานตามนโยบายนายกรัฐมนตรี

การประชุมในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากคำสั่งของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 83/2568 ที่ให้จัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขภัยคุกคามความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน โดยเน้นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อควบคุมอาชญากรรมชายแดนที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะการลักลอบเข้า-ออกประเทศ และการใช้ไทยเป็นฐานปฏิบัติการของแก๊งคอลเซ็นเตอร์

รายงานสถานการณ์ปัจจุบันของอาชญากรรมคอลเซ็นเตอร์

ในการประชุมมีการรายงานสถานการณ์ล่าสุดของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งมีพฤติกรรมเชื่อมโยงกับการค้ามนุษย์ โดยอาศัยช่องว่างชายแดนไทย-เมียนมา และไทย-กัมพูชา เป็นทางผ่าน ผู้ต้องหาส่วนใหญ่อ้างว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดี แต่จากการตรวจสอบเชิงลึกพบว่า กลุ่มบุคคลเหล่านี้มีพฤติกรรมร่วมกระทำความผิดอย่างมีนัยสำคัญ

สถิติการจับกุมล่าสุด

ในการปฏิบัติการฝั่งประเทศกัมพูชา มีการจับกุมผู้เกี่ยวข้องชาวไทยจำนวน 175 คน ซึ่งไม่พบว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์แต่อย่างใด โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในประเทศไทยใน 4 ข้อหาหลัก ได้แก่

  1. สมคบคิดฉ้อโกงประชาชน
  2. ฟอกเงิน
  3. กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์
  4. มีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

นโยบาย “ระเบิดสะพานโจร” สกัดวงจรอาชญากรรม

หนึ่งในมาตรการสำคัญที่ได้รับการกล่าวถึงในที่ประชุมคือ “ระเบิดสะพานโจร” ซึ่งเน้นการตัดวงจรเชื่อมโยงของอาชญากรรมทุกมิติ ประกอบด้วย:

  1. ปราบปรามเทคโนโลยีสนับสนุนอาชญากรรม
  • ดำเนินการตัดสายเคเบิลเถื่อน
  • ทำลายเสาสัญญาณเถื่อน
  • ปิดกั้นซิมผี
  • วิเคราะห์ข้อมูลจาก IP address เพื่อระบุแหล่งต้นตอของแก๊ง
  1. ควบคุมเส้นทางการเงินทั้งระบบธนาคารและคริปโต
  • ตรวจสอบการเปิดบัญชีม้า
  • ติดตามการถอนเงินบริเวณแนวชายแดน
  • ปิดช่องโหว่การขนเงินสดข้ามแดน
  • วิเคราะห์เครือข่ายบัญชีคริปโตเพื่อหาจุดเชื่อมโยงถึงหัวหน้าเครือข่าย
  1. ควบคุมการเดินทางเข้าออกประเทศอย่างเข้มงวด
  • ตรวจสอบบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย
  • ปิดช่องทางธรรมชาติที่ไม่ได้รับอนุญาต
  • สกัดไม่ให้ไทยกลายเป็นทางผ่านของแรงงานผิดกฎหมายและกลุ่มแก๊ง

การวิเคราะห์เชิงนโยบาย

พล.ต.อ.ธัชชัย ระบุว่า ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในยุคปัจจุบันถือเป็นภัยความมั่นคงรูปแบบใหม่หรือ “สงครามไซเบอร์” (Cyber War) ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการของทุกหน่วยงานอย่างแท้จริง ไม่เพียงแค่การใช้กำลังหรือกฎหมาย แต่ต้องควบคู่กับการวิเคราะห์ข้อมูล ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการยกระดับขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีของเจ้าหน้าที่รัฐ

ความหวังในระยะ 3 เดือน

เป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนในการประชุมครั้งนี้คือ การทำให้มาตรการปราบปรามเห็นผลสัมฤทธิ์ภายใน 3 เดือน โดยมีการวางตัวชี้วัด (KPI) ครอบคลุมทั้งด้านการจับกุม ด้านการปราบเทคโนโลยีสนับสนุนอาชญากรรม และด้านการป้องกันล่วงหน้า

บทสรุปและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต้องอาศัยทั้งยุทธศาสตร์ระยะสั้นและระยะยาว โดยต้องเน้นการสร้างฐานข้อมูลกลาง การสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจไม่ร่วมสนับสนุนการกระทำผิด การขยายความร่วมมือระหว่างประเทศ และการใช้เครื่องมือทางไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนการปฏิรูปกระบวนการรับข้อมูลข่าวสารในพื้นที่แนวชายแดนให้รวดเร็วและเท่าทันสถานการณ์

สถิติและแหล่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้อง

  • รายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ปี 2567 มีการแจ้งความเกี่ยวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ทั่วประเทศมากกว่า 13,200 คดี
  • ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมของไทยเผยว่า ปี 2566 มีประชาชนถูกหลอกโอนเงินจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์มากกว่า 1.6 แสนราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 38,000 ล้านบาท
  • รายงานของกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.) ระบุว่า เฉพาะไตรมาสแรกของปี 2568 มีการจับกุมซิมผีและบัญชีม้าแล้วกว่า 6,000 รายการ

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : 

  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  • กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
  • กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
  • ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมประเทศไทย
  • สำนักนายกรัฐมนตรี
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News