เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ได้สนับสนุนทีมวิศวกรจิตอาสาจากสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทยและมูลนิธินายช่างไทยใจอาสา ลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายเพื่อตรวจสอบความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมและดินโคลนถล่มในเขตอำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย พร้อมวางแนวทางฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยมี ศ. ดร.อมร พิมานมาศ นักวิจัยศูนย์เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหว สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และนายกสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย เป็นผู้นำทีม

สำรวจความเสียหายพร้อมวางแผนฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน

ทีมวิศวกรจิตอาสาได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายทั้งในเขตอำเภอเมืองและอำเภอแม่สาย โดยมุ่งเน้นการตรวจสอบระบบโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ถนนและบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนในการซ่อมแซมเพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ พร้อมสนับสนุนการสร้างบ้านใหม่ในพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงการจัดทำรูปแบบและประมาณราคาในการก่อสร้างเพื่อช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่

นายชูเลิศ จิตเจือจุน อุปนายกสมาคมฯ ได้สรุปสถานการณ์ในอำเภอแม่สายว่าความเสียหายยังคงรุนแรง และคาดว่าต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูอย่างน้อย 3 เดือน เนื่องจากการเข้าถึงพื้นที่ประสบปัญหาเป็นไปได้ยาก ต้องใช้เครื่องจักรขนาดเล็กและการขนส่งด้วยเท้า โดยเฉพาะพื้นที่ริมน้ำที่มีดินโคลนจำนวนมาก ซึ่งต้องมีการวางแผนจัดการน้ำอย่างละเอียดอ่อนเนื่องจากแม่สายเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษและมีความเกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางชายแดน

อบจ.เชียงรายร่วมมือวิศวกรวางแผนฟื้นฟูและเสริมความปลอดภัยในพื้นที่

นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.) ได้กล่าวว่า อบจ.เชียงรายจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมกับทีมวิศวกรจิตอาสาและหน่วยงานท้องถิ่น เช่น นายอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสำรวจความเสียหายอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ โดยจุดสำรวจเร่งด่วนได้แก่ บ้านอยู่สุข อ.เวียงแก่น ซึ่งมีบ้านเรือนเสียหายจำนวน 13 หลัง และ บ้านห้วยทรายขาว อ.เวียงป่าเป้า ที่ดินถล่มทำลายบ้านเรือนกว่า 10 หลัง

สำหรับการฟื้นฟูโรงเรียนที่บ้านห้วยหินลาด อ.เวียงป่าเป้า นั้น ทีมวิศวกรได้เสนอแนวทางเสริมโครงสร้างเหล็กพิเศษเพื่อรองรับแรงลมและแรงแผ่นดินไหว หากต้องสร้างโรงเรียนในพื้นที่เดิม ส่วนถนนบริเวณบ้านเมืองงิมที่ได้รับความเสียหายจากแรงดันน้ำจนพนังกั้นน้ำแม่กกแตก ทีมวิศวกรเสนอให้เสริมพนังคอนกรีตและยกคันดินให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันน้ำกัดเซาะในอนาคต

เร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว สร้างโมเดลเชียงรายเมืองอัจฉริยะ

แผนการฟื้นฟูระยะสั้นของ อบจ.เชียงราย คือการเร่งฟื้นฟูพื้นที่ให้กลับมามีสภาพใกล้เคียงปกติอย่างน้อย 80% ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อเตรียมพร้อมรองรับฤดูกาลท่องเที่ยว โดยอบจ.มีแผนจัดงานมหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงรายริมน้ำกก และกิจกรรมการค้าขายในพื้นที่อำเภอแม่สาย ต.โป่งงาม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาติพันธุ์ต่าง ๆ

นอกจากนี้ในระยะยาว ทีมวิศวกรจิตอาสาและ อบจ.เชียงราย ได้เสนอแนวคิด “โมเดลเชียงราย เมืองสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ” เพื่อปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมให้มีความยั่งยืน รวมถึงการวางระบบเตือนภัยที่ครอบคลุมทุกด้าน เช่น แผ่นดินไหว ดินถล่ม น้ำท่วม และฝุ่นควัน PM2.5 โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการเพื่อสร้างความปลอดภัยและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่

การบูรณาการและการทำงานร่วมกันของทุกภาคส่วน

การฟื้นฟูครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงการซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน แต่ยังรวมถึงการจัดทำแผนที่ความเสี่ยงเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติในอนาคตอย่างรอบด้าน โดยมี ศ. ดร.รัฐพล เกติยศ รองคณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย ร่วมเสนอแนวทางในการจัดทำระบบแก้มลิงและการระบายน้ำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถรับมือกับปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ สกสว. ยังสนับสนุนการวิจัยเพื่อประยุกต์ใช้ข้อมูลทางวิชาการและเทคโนโลยีในการจัดการภัยพิบัติ โดยจะร่วมกับคณะกรรมาธิการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในด้านต่าง ๆ และประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment)

โดย ผศ.ดร.รัฐพล เกติยศ รองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา เชียงราย กล่าวว่าการจัดการเมืองที่คำนึงถึง ผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ และการเตรียมตัวเพื่อรับมือเหตุจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม แผ่นดินไหว ลาดดินถล่ม ฝุ่น PM 2.5 ฯลฯ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น การจัดการทรัพยากรน้ำ การดูแลสภาพอากาศ การบริหาร จัดการของเสีย และการเฝ้าระวังภัยพิบัติ ตลอดจนเพิ่ม การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ภายใต้แนวคิดการพัฒนา เมืองน่าอยู่ เมืองทันสมัย ให้ประชาชนในเมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข  อย่างยั่งยืน 

บทสรุป: เชียงราย เมืองอัจฉริยะเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

การฟื้นฟูและการพัฒนาพื้นที่เชียงรายครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ไขปัญหาจากภัยพิบัติ แต่ยังเป็นการวางรากฐานสำหรับการพัฒนาในระยะยาว โดยมีการใช้เทคโนโลยีและการจัดการเมืองอย่างครบวงจร เพื่อให้เชียงรายกลายเป็นเมืองต้นแบบด้านสิ่งแวดล้อมอัจฉริยะและมีความพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในอนาคต

เครดิตภาพและข้อมูลจาก : ทีมข่าวนครเชียงรายนิวส์

 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME