วิกฤตอุทกภัยใต้ สงขลาสั่งอพยพด่วนทั่วหาดใหญ่ ตัวเลขชี้กระทบกว่า 7 แสนครัวเรือน ขณะที่ “เชียงราย” เปิดภารกิจ HUG หาดใหญ่ ส่งกองหนุนฟื้นฟูหลังน้ำลด

เชียงราย/สงขลา, 24 พฤศจิกายน 2568 – มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่ปกคลุมอ่าวไทยตอนล่างต่อเนื่องหลายวัน ได้ผลักคลื่นฝนหนักซ้ำเติมลุ่มน้ำภาคใต้ จนเช้าวันนี้เวลา 06.00 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สรุปสถานการณ์ว่า มีประชาชนได้รับผลกระทบ 719,858 ครัวเรือน รวม 1,917,521 คน ใน 10 จังหวัด 92 อำเภอ 581 ตำบล 4,146 หมู่บ้าน ขณะที่เมื่อมองในกรอบ 12 จังหวัดภาคใต้ มีผู้ได้รับผลกระทบเพิ่มเป็น 740,405 ครัวเรือน 1,966,843 คน หลายพื้นที่ยังต้องเฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่งและน้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด

จุดวิกฤต  สงขลายกระดับเป็น “ภาวะฉุกเฉิน” หาดใหญ่ประกาศอพยพทั้งเมือง

ในบรรดาจังหวัดที่ถูกกระทบ สงขลา ถูกระบุเป็น “จุดร้อน” ที่สุด ทั้งเชิงปริมาณและความเร่งด่วน โดยมีผู้ได้รับผลกระทบ 243,568 ครัวเรือน ครอบคลุม 16 อำเภอ 115 ตำบล 821 หมู่บ้าน ระดับน้ำในหลายชุมชนสูงกว่าหนึ่งเมตร และยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จังหวัดจึงออกประกาศ “อพยพด่วน” ให้ประชาชนใน เทศบาลนครหาดใหญ่ เคลื่อนย้ายไปยังจุดพักพิงผ่านเส้นทางปลอดภัย ใช้รถสูงหรือเรือหลีกเลี่ยงน้ำเชี่ยว โดยเริ่มจากพื้นที่เสี่ยงและชุมชนที่ระดับน้ำเพิ่มเร็ว

ย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมือง ตั้งแต่ถนนเศรษฐกิจ สถานีขนส่ง ศูนย์การค้า ไปจนถึงชุมชนริมคลอง ทยอยถูกตัดขาดเป็นช่วง ๆ น้ำกัดเซาะฟุตปาธและโครงสร้างเบา ขณะที่หน่วยกู้ภัยและ อปท. ต้องทำงานแข่งกับเวลาในการอพยพผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยติดเตียงออกจากบ้านเรือนที่ถูกล้อมด้วยน้ำ

ตัวเลขที่ต้องรู้  ภาคใต้ตอนล่างรับแรงปะทะหนัก

  • ปัตตานี  กระทบ 58,009 ครัวเรือน (12 อำเภอ 101 ตำบล 485 หมู่บ้าน)
  • ยะลา  กระทบ 13,753 ครัวเรือน (4 อำเภอ 28 ตำบล 104 หมู่บ้าน)
  • นราธิวาส  กระทบ 34,036 ครัวเรือน (7 อำเภอ 29 ตำบล 134 หมู่บ้าน)
    พื้นที่อื่น ๆ อย่าง สุราษฎร์ธานี ตรัง พัทลุง สตูล อยู่ในโหมดเฝ้าระวังสูง หลังมีรายงานน้ำล้นตลิ่งและคลื่นน้ำป่าหลากเข้าเขตชุมชนและเกษตรซ้ำ ๆ

แม้ ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ ในชั่วโมงรายงาน แต่ความเสี่ยงต่อชีวิต ทรัพย์สินยังอยู่ในระดับสูงจากปัจจัย 3 ประการ  (1) ฝนต่อเนื่องยาว (2) ระบบระบายน้ำอิ่มตัว และ (3) เส้นทางสัญจรถูกตัดขาดเป็นระยะ ทำให้การลำเลียงเวชภัณฑ์ อาหาร น้ำดื่ม และพลังงานเข้า–ออกพื้นที่ประสบภัยต้องบริหารอย่างรอบคอบ

เสียงจากพื้นที่  จดหมายเปิดผนึก “สงขลาโฟกัส” ถึงผู้ว่าฯ เรียกร้อง 5 มาตรการเร่งด่วน

ท่ามกลางเหตุฉุกเฉิน สื่อท้องถิ่น สงขลาโฟกัส” ได้ออก จดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สะท้อนบทเรียนอุทกภัยใหญ่ในอดีต พ.ศ. 2531, 2543, 2553 และชี้ว่าความเสียหายครั้งนี้ “ยังไม่สายนัก” หากทุกฝ่ายขยับพร้อมกันตาม 5 ประเด็นเร่งด่วน ได้แก่

  1. เปิดจุดโรงครัวอย่างน้อย 10 จุดในเทศบาลนครหาดใหญ่ พร้อมจุดรับบริจาคน้ำดื่ม/ของจำเป็น เพื่อกระจายความช่วยเหลือให้ทั่วถึง
  2. ระดมเทศบาล/อบต. ใกล้เคียงร่วมเปิดพื้นที่สนับสนุนทุกเขต
  3. สำรวจเชิงรุก ผู้ป่วยติดเตียง/ผู้ที่ออกจากบ้านไม่ได้ เพื่อจัดสรรทีมเข้าช่วยเหลือเฉพาะหน้า
  4. ตั้ง ศูนย์บัญชาการกลาง รวบรวมข้อร้องเรียน ความเสียหาย และสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้อง ป้องกันการฉวยโอกาสขึ้นราคา กักตุนสินค้า
  5. เตรียม มาตรการเยียวยาหลังน้ำลดแบบครบวงจร ตั้งแต่การสำรวจ ขนย้ายโคลนตะกอน ล้างบ้าน สถานศึกษา สะพาน ถนน สาธารณูปโภค จัดการเงินเยียวยา/เคลมประกัน สินเชื่อฟื้นฟู เพื่อพาคนสงขลากลับสู่ชีวิตปกติ “เร็วที่สุด”

สาระในจดหมายสะท้อนความคาดหวังสองด้าน การบริหารวิกฤตระยะสั้นที่ต้องเร็วและเข้ม และการฟื้นฟูระยะกลาง ยาวที่ต้องโปร่งใส ตอบโจทย์เศรษฐกิจฐานราก ความเชื่อมั่น การท่องเที่ยวให้กลับมาโดยเร็ว

น้ำใจเหนือ–ใต้  เชียงรายเปิด “HUG หาดใหญ่” ส่งกองหนุนฟื้นฟูหลังน้ำลด

ขณะชั่วโมงวิกฤตกำลังเดินหน้า เชียงราย” ทางภาคเหนือได้ขยับเป็น “กองหนุน” สำคัญ ภายใต้โครงการ HUG หาดใหญ่  น้ำใจชาวเชียงรายช่วยน้ำท่วม โดยมี องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย (อบจ.เชียงราย) นำโดย นางอทิตาธร วันไชยธนวงศ์ เป็นแกนประสานงานร่วมกับ

  • สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย (เชื่อมชุมชน ศิลปวัฒนธรรมช่วยระดมสิ่งของ)
  • ภาคเอกชน เช่น CPALL (โลจิสติกส์ สิ่งของจำเป็น)
  • สื่อท้องถิ่น ทั้ง นครเชียงรายนิวส์ และ สงขลาโฟกัส (ประสานข้อมูลพื้นที่จริง)
  • ไปรษณีย์จังหวัดเชียงราย (สนับสนุนการคัดแยก ขนส่งไปยังพื้นที่พักพิงและจุดฟื้นฟู)

โครงการตั้งเป้าชัดเจน  ไม่ซ้ำซ้อนกับหน่วยกู้ภัยด่านหน้า แต่จะเติม “ด้านหลังบ้าน” เมื่อระดับน้ำเริ่มคลี่คลาย ช่วงที่ครัวเรือนต้องการ อาหารแห้ง น้ำดื่ม ยาสามัญ ผ้าอนามัย/ผ้าอ้อม และอุปกรณ์ล้าง ฟื้นฟูบ้านเรือน เพื่อให้ประชาชน “กลับยืนได้ด้วยตัวเอง” เร็วที่สุด ลดเวลาหยุดชะงักของเศรษฐกิจครัวเรือน

“เราตั้งใจเป็นกองหนุนระยะฟื้นตัว จุดที่มักขาดมากที่สุด แต่สำคัญต่อการพาคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยและมีศักดิ์ศรี”   แนวทางปฏิบัติการของเครือข่ายผู้ประสานงานโครงการ HUG หาดใหญ่ (อ้างอิงตามกรอบข้อมูลที่ได้รับ)

แผนบนโต๊ะ  จากอพยพ พักพิง สู่ฟื้นฟูเมืองและความเชื่อมั่น

เพื่อคลี่คลายปมและลดต้นทุนทางสังคม เศรษฐกิจที่พอกพูน “ชั่วโมงทอง” หลังฝนซา น้ำลด คือช่วงเวลาที่ต้องขับเคลื่อน 4 โหนดหลักอย่างพร้อมเพรียง

  1. ข้อมูล สื่อสารกลาง  ใช้ศูนย์บัญชาการรวมของจังหวัด (EOC) ทำงานร่วมกับ ปภ. อปท. สื่อท้องถิ่น จัดแผนที่น้ำท่วม จุดอพยพ จุดแจกจ่าย เส้นทางปลอดภัยแบบเรียลไทม์ ลดข่าวลือและความตื่นตระหนก จัดสายด่วนเชื่อมผู้ป่วยติดเตียง
  2. ลอจิสติกส์ช่วยเหลือ  บูรณาการคลังสิ่งของ (น้ำดื่ม อาหาร ยา ของใช้จำเป็น) เข้ากับเครือข่ายไปรษณีย์ เอกชน ใช้ระบบคิวอาร์/บาร์โค้ดติดตามการกระจายเพื่อลดซ้ำซ้อนและตกหล่น
  3. ฟื้นฟูสาธารณูปโภค  สำรวจสะพาน ถนน ท่อระบายน้ำ ระบบไฟฟ้า สื่อสาร และระดมทีมล้างโคลน ฉีดล้างฆ่าเชื้อในโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด สถานที่ราชการ เพื่อให้บริการสาธารณะคืนสภาพก่อนเปิดเมือง
  4. เยียวยา ปลุกเศรษฐกิจ  ตั้งเคาน์เตอร์เดียว (one stop) รับคำร้อง ประเมินความเสียหาย เชื่อม เงินเยียวยารัฐ ประกันภัย สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ สำหรับครัวเรือน SMEs พร้อมแผน อีเวนต์ปลุกเมือง เมื่อพร้อม เช่น ถนนคนเดิน เทศกาลชุมชน สร้างทราฟฟิกการค้า ท่องเที่ยวกลับคืน

ทำไม “จุดหลังน้ำลด” จึงชี้ชะตาความเร็วการฟื้นตัว

บทเรียนจากอุทกภัยใหญ่ในอดีต ที่สื่อท้องถิ่นยกปี 2531, 2543, 2553 มาเทียบเคียง ชี้ตรงกันว่า การ “อพยพได้ปลอดภัย” เป็นเพียงครึ่งแรกของเกม อีกครึ่งคือ “การทำให้เมืองกลับมาทำงาน” ให้เร็วที่สุด หากรอนาน ความเสียหายทางเศรษฐกิจฐานรากจะยืดเยื้อ ธุรกิจขนาดเล็ก รายวันขาดสภาพคล่อง หนี้ครัวเรือนพุ่ง และคนย้ายถิ่นชั่วคราวเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่แน่นอนทางสังคม

ในมุมนี้ การที่เชียงรายประกาศตนเป็นกองหนุนด้าน สิ่งของจำเป็น ชุดฟื้นฟูบ้าน จึงเติมช่องโหว่สำคัญ เพราะบ้านนับหมื่นหลังต้อง “เริ่มใหม่พร้อมกัน” จากกวาดโคลน ตากเฟอร์นิเจอร์ ล้างเครื่องใช้ ฆ่าเชื้อโรคในครัว ห้องน้ำ ไปจนถึงซ่อมสายไฟ ปลั๊กที่เปียกน้ำ การมี “ชุดฟื้นฟูมาตรฐาน” ที่คัดสรรแล้ว ช่วยลดต้นทุนเวลาและการเดินทางของครัวเรือนอย่างมีนัยสำคัญ

ข้อเสนอเชิงนโยบายจากจดหมายเปิดผนึก  ทำอย่างไรให้ความช่วยเหลือ “ไปถึงคนตัวเล็ก”

ข้อเรียกร้อง 5 ประการของ สงขลาโฟกัส ไม่ได้เป็นเพียงแคตตาล็อกความต้องการ แต่สะท้อน “สถาปัตยกรรมการบริหารวิกฤต” ที่ควรจัดวางในสถานการณ์เช่นนี้

  • โรงครัว 10 จุดในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่  กระจายอาหารร้อนสม่ำเสมอ ลดการเดินทางของผู้ประสบภัย
  • เปิดพื้นที่โดยรอบ  เทศบาล/อบต. ข้างเคียงช่วยเสริมคลัง สถานที่พักพิง ลดความแออัด
  • สำรวจผู้ป่วยติดเตียง  ใช้ อสม. ทุนชุมชน เป็นตา หู มือ เข้าประตูบ้านที่ไปไม่ถึง
  • ศูนย์ข้อมูลกลาง  รวมข้อร้องเรียน ความเสียหาย ป้องกันการ ขึ้นราคาสินค้า/กักตุน ซึ่งเป็นความเปราะบางซ้ำเติม
  • แพ็กเกจฟื้นฟู  ทำให้คน “กลับบ้านได้จริง” ตั้งแต่ ล้าง ย้าย ซ่อม เยียวยา สินเชื่อ จนกลับสู่กิจกรรมปกติ

ข้อเสนอนี้สอดคล้องกับสิ่งที่ ปภ. และจังหวัดต่าง ๆ ใช้เป็นแนวทางอยู่แล้ว แต่การเน้น “ความเร็ว ความโปร่งใส การเข้าถึงกลุ่มเปราะบาง” คือรายละเอียดที่ทำให้มาตรการเห็นผลบนดิน

เชื่อมเหนือ ใต้ด้วยข้อมูล ความไว้ใจ  บทบาทสื่อท้องถิ่นสองเมือง

ความร่วมมือระหว่าง นครเชียงรายนิวส์ และ สงขลาโฟกัส ทำให้การสื่อสาร “ปลายทาง ต้นทาง” เชื่อมติดกัน ปลายทางบอกความต้องการจริง ต้นทางจัดหาตรงจุด ลดของล้นประเภทหนึ่ง ขาดประเภทหนึ่ง อีกทั้งยังเพิ่ม ความไว้ใจ ให้ผู้บริจาคเห็นเส้นทางสิ่งของจากคลังภาคเหนือสู่ครัว บ้าน โรงเรียนภาคใต้แบบตรวจสอบได้

ทางสองแพร่งของสงขลา  ระหว่าง “น้ำยังไม่ลด” กับ “ชีวิตต้องเดินต่อ”

ขณะที่ฝนยังไม่หมดภาค ใต้ สงขลาจึงต้องบริหารสองสมการพร้อมกัน

  1. ความปลอดภัยวันนี้  เร่งอพยพ คัดแยกกลุ่มเสี่ยง รักษาโครงข่ายสื่อสาร ไฟฟ้าในพื้นที่สำคัญ
  2. ความหวังพรุ่งนี้  เตรียมแผนฟื้นฟูให้ “พร้อมทำงานทันทีที่น้ำลด” ไม่ต้องเสียเวลาเถียงกันเรื่องข้อมูลหรือขั้นตอน

การที่ภาคเหนือยืนมือมาพร้อม โลจิสติกส์ คลังสิ่งของ เครือข่ายสื่อ ทำให้สมการข้อสองมีทรัพยากรตั้งต้น และนี่คือความงามของ “ความร่วมมือข้ามภูมิภาค” ที่ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะช่วงข่าวใหญ่ แต่สานต่อสู่การพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนได้ หากถูกจัดวางเป็นระบบ

อุทกภัยภาคใต้ครั้งนี้เป็นบททดสอบสำคัญของสมรรถนะการบริหารวิกฤตไทย ทั้งในระดับจังหวัดและความร่วมมือข้ามภูมิภาค ตัวเลข กว่า 7 แสนครัวเรือน ที่ได้รับผลกระทบ (และแตะ เกือบ 7.5 แสนครัวเรือน เมื่อมองทั้ง 12 จังหวัด) ไม่ใช่เพียงสถิติ แต่คือชีวิตจริงที่ต้องการอาหาร น้ำ ยา ความปลอดภัย และความหวังว่าจะกลับบ้านได้ในเร็ววัน

สงขลา เลือก “ตั้งหลักด้วยการอพยพด่วน” และส่งเสียงผ่าน จดหมายเปิดผนึก เพื่อขอ 5 มาตรการเร่งด่วน ขณะที่ เชียงราย ตอบรับด้วยการเป็น “กองหนุนฟื้นฟู” ภายใต้โครงการ HUG หาดใหญ่ เชื่อมข้อมูล สื่อ โลจิสติกส์ ให้ความช่วยเหลือไปถึง “คนตัวเล็ก” อย่างทันเวลา

เมื่อคลื่นฝนผ่านไป สิ่งที่จะนิยามความทรงจำของวิกฤตครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงระดับน้ำที่สูงเพียงใด แต่คือ เราลดเวลาคนกลับบ้านได้เร็วแค่ไหน และ เราสร้างระบบที่เข้มแข็งกว่าเดิมได้หรือไม่ คำตอบของสองประโยคนี้ จะสะท้อนว่าเรายืนอยู่ตรงไหนบนเส้นทางสู่เมืองปลอดภัย ยืดหยุ่น และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

สิ่งของจำเป็นที่โครงการ HUG หาดใหญ่เชิญชวนร่วมบริจาค (ตามกรอบข้อมูลที่ได้รับ)

  • ข้าวสาร
  • บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป / อาหารกระป๋อง
  • น้ำดื่ม
  • ยาสามัญประจำบ้าน (เช่น ยาลดไข้แก้ปวด)
  • ผ้าอนามัย / ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

หมายเหตุ  การจัดส่ง คัดแยกประสานผ่าน อบจ.เชียงราย, ไปรษณีย์จังหวัดเชียงราย และเครือข่ายสื่อพื้นที่

สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์

เครดิตภาพและข้อมูลจาก :

  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย (ปภ.)
  • สำนักข่าวสงขลาโฟกัส
  • สำนักข่าวนครเชียงรายนิวส์ และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย  ข้อมูลความร่วมมือโครงการ “HUG หาดใหญ่  น้ำใจชาวเชียงรายช่วยน้ำท่วม” โครงข่ายประสานงานและรายการสิ่งของจำเป็น
  • หน่วยงานท้องถิ่นจังหวัดสงขลา (เทศบาลนครหาดใหญ่/อปท.พื้นที่)
 
NAKORN CHIANG RAI NEWS TEAM
กองบรรณาธิการ นครเชียงรายนิวส์ – Nakorn Chiang Rai News
MOST POPULAR
FOLLOW ME